พิมพ์

[raponsan]

ชาวบ้านที่อุดรฯ โร่แจ้งความหลังศพตายโหงโดนขโมย "หัว"
หายไปจากป่าช้า - เชื่อเอาไปทำคุณไสย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 เมษายน  ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.ท.จำลอง ปัญจนะ สว.สส.สภ.ประจักษ์ศิลปาคม  จ.อุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน ได้เดินทางไปยังป่าช้าสาธารณะ บ้านโนนสา ม.14 ต.นาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี เพื่อทำการตรวจสอบและทำการสืบสวน หลังจากที่ได้มีนางบัวลี ชูเรียง อายุ 63 ปี ชาวบ้านโนนสวา ต.นาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม และนางอนงค์ หีบแก้ว อายุ 65 ปี ได้พากันแจ้งความว่า ได้มีคนร้ายเข้ามาขโมยศพ ของนางศิริรัตน์ อัครราช อายุ 36 ปี ลูกสาวของนางบัวลี ที่เสียชีวิตพร้อมกับลูกที่อยู่ในท้องอายุประมาณ 5 เดือน และนายนพรัตน์ หีบแก้ว อายุ 33 ปี ลูกชายของนางอนงค์ หีบแก้ว ที่ถูกทำร้ายเสียชีวิต ซึ่งศพทั้ง 2 ฝังอยู่ที่ป่าช้าดังกล่าว
 
นางอนงค์ เปิดเผยว่าเมื่อเช้าวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากนายวิเชียร บุญพา  ผญบ. หมู่ 14 ว่ามีชาวบ้านที่เดินเข้าไปหาของป่า ผักหวานป่า ในบริเวณป่าช้าสาธารณะบ้านโนนสา พบหลุมฝังศพของนายนพรัตน์ ลูกชาย ถูกคนร้ายขโมยขุด กระจุย กระจาย นอกจากนั้นยังพบว่า ที่หลุมศพโบกซีเมนต์ซึ่งเป็นที่เก็บศพของนางศิริรัตน์ ลูกสาวของนางบัวลี ที่ฝังอยู่ไม่ไกลกันก็ถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบที่เบ้าเป็นรู แล้วคนร้ายได้เอาศีรษะ นางศิริรัตน์ไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้ง 2 นั้น ได้สร้างความตกใจ ให้กับชาวบ้าน บ้านโนนสา และ หมู่บ้านใกล้เคียงเป็นอย่างมาก เนื่องจากป่าช้าที่สาธารณะประโยชน์แห่งนี้ ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อนเลย
 
 

นางอนงค์ กล่าวว่า ถึงความรู้สึกว่าเสียใจกับการที่คนร้ายมาขโมยขุดเอาศพลูกชายของตนไป คิดว่าคนที่มาขโมยเอาศพลูกชายไปครั้งนี้ ไม่น่าที่จะนำเอาไปทำในทางที่ดี น่าที่จะเอาไปทำสิ่งเลวร้าย และสิ่งที่ไม่ดี ไม่ถูก ไม่ต้อง  เป็นการกระทำที่ซ้ำเติมแก่แม่และลูกชายของตน ที่ถูกทำร้ายร่างกายจนตายมาแล้ว  จึงขอให้สิ่งที่เลวร้ายทั้งหลาย ไปสู่คนที่ทำสิ่งไม่ดีดังกล่าว ขอให้สิ่งที่ดีๆมาสู่แม่ และลูกชายของแม่  ตอนสงกรานต์ตนคิดว่าจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ลูก แต่แล้วไม่มีกระดูกของลูกเลย ก็ขอสาปแช่งคนที่มาขโมยศพลูกชายไป
 
ส่วนนางบัวลี  ซึ่งเป็นแม่ของนางศิริรัตน์  กล่าวว่า คนร้ายทำไมต้องตัดเอาศีรษะของลูกสาวไปด้วย ตนอยากจะได้ศีรษะของลูกสาวคืน เพื่อที่จะได้นำเอาไปเผาพร้อมๆ กับตัวศพที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งจะต้องรอไปอีกประมาณ 2 ปี จึงจะสามารถนำเอาศพของลูกสาวมาเผาได้ เพราะประเพณีของคนอีสานแถวนี้ จะต้องให้ครบกำหนด 3 ปี เสียก่อนถึงจะนำมาเผาได้
 
 

พ.ต.ท.จำลอง กล่าวว่า ได้สอบพยานชาวบ้านไปหลายปาก พอที่จะได้แนวทางทางว่า เมื่อประมาณหลายเดือนที่ผ่านมาได้มีพระภิกษุอายุประมาณ 60-65 ปี รูปหนึ่งอ้างว่ามาจากบุรีรัมย์ เข้ามาหลอกชาวบ้านที่ชอบเล่นหวย ให้พาไปหาศพที่ตายโหงใหม่ๆ แล้วพาพระภิกษุรูปดังกล่าว ทำการขูดเอาตัวเลขหรือหวย  จากนั้นก็ได้ย้อนกลับมาขโมยศพไป พร้อมกับพระภิกษุรูปดังกล่าว ก็หายไปด้วย นอกจากนี้เมื่อเดือนที่ผ่านมา ศพเด็กชาย 2 ศพซึ่งเป็นพี่น้องกัน อายุ 8 ขวบ และอายุ  9 ขวบ จมน้ำตาย นำมาฝังก็ถูกขโมยศีรษะที่ป่าช้าบ้านเชียงแหว ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี  จ.อุดรฯ ซึ่งคาดว่า จะเป็นพระภิกษุ รายนี้เช่นเดียวกัน ที่ไปก่อเหตุขโมยศีรษะเด็กทั้งสองศพการกระทำเช่นนี้คาดว่าจะไปทำไสยศาสตร์ เครื่องรางของขลัง หรือพวกคุณไสย ซึ่งคาดว่าจะทำเป็นขบวนการเพราะดูแล้วไม่ใช่ว่ามีแต่พระภิกษุรูปเดียวดังกล่าว

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1429184254