ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อุกกาบาต..ที่ 'ตลาดท่าพระจันทร์'  (อ่าน 3807 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
อุกกาบาต..ที่ 'ตลาดท่าพระจันทร์'
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2013, 09:08:46 pm »
0


อุกกาบาตที่'ตลาดท่าพระจันทร์' : เรื่อง/ภาพโดยไตรเทพ ไกรงู

อุกกาบาต คือ วัตถุขนาดเล็กในอวกาศที่ผ่านบรรยากาศลงมาถึงพื้นโลก ขณะอยู่ในอวกาศเรียกว่า "สะเก็ดดาว" ขณะเข้าสู่บรรยากาศเรียกว่า "ดาวตก" เราสามารถพบอุกกาบาตได้บนดาวเคราะห์ดวงอื่น เช่น ดาวอังคาร อุกกาบาตประกอบไปด้วยธาตุคาร์บอน ปะปนอยู่ในอุกกาบาตบางชนิดเท่านั้น ซึ่งจะเป็นชนิดเหล็กและนิกเกิล

     โดยอุกกาบาตมีอยู่ ๓-๔ ชนิดใหญ่ ๆ คือ อุกกาบาตหิน, อุกกาบาตเหล็ก, อุกกาบาตหินปนเหล็ก และ จุลอุกกาบาต ซึ่งเป็นฝุ่นคอสมิกขนาดเล็กกว่า ๐.๑ มิลลิเมตร มีมวลน้อยกว่า ๑ ไมโครกรัม เมื่อพุ่งเข้าชั้นบรรยากาศโลกจึงไม่ถึงกับทำให้เกิดปรากฏการณ์ให้ชาวโลกได้เห็น

     อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ได้เกิดเหตุอุกกาบาตหนัก ๑๐ตัน ร่วงจากท้องฟ้าราวกับห่าฝนด้วยความเร็ว ๕๔,๐๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตกในพื้นที่เขตเชเลียบินสค์ และสเวอร์ลอฟ แถบเทือกเขาอูราล ของประเทศรัสเซีย ทำให้มีผู้บาดเจ็บพันกว่าคน พร้อมกับสถานที่ อาคารหลายแห่งได้รับความเสียหาย  แต่ก็มีคนอยู่กลุ่มหนึ่ง ที่เริ่มเก็บเอาสะเก็ดชิ้นส่วนอุกกาบาตจากนอกโลก ออกประกาศขายทางเว็บไซต์

    “ที่ร้านมีหินทุกชนิดขายที่คนนิยมเล่นหา ทั้งจากใต้ทะเล ใต้แม่น้ำ ในถ้ำ รวมทั้งสะเก็ดดาวที่มาจากนอกโลก”  นี่เป็นคำ บอกเล่าของ น.ส.ประพา ตันเจริญ หรือ  แอ๊ว หินสี เจ้าของร้านศิรประพา บริเวณตลาดพระท่าพระจันทร์ ซึ่งเปิดขายหินนานาชนิดมากกว่า ๑๐ ปี แล้ว



    แอ๊ว หินสี บอกว่า สะเก็ดดาว อุกมณี หรือ คดปลวก  ซึ่งพบมากในจังหวัดชัยภูมิ เชื่อว่ามีเทพคุ้มครองจึงไม่แนะนำให้นำไปแกะสลักโดยไม่เชิญดวงวิญญาณออกก่อน เมื่อแกะสลักแล้วจึงค่อยเชิญดวงวิญญาณเข้าไปใหม่ เชื่อกันว่ามีสรรคุณน้องๆเหล็กไหล

      แต่หาคนใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ได้น้อย เด่นทางด้านโชคลาภ ค้าขายจึงเรียกว่า แก้วข้าว ในทางเหนือนิยมเก็บไว้ที่ยุ้งฉางจะทำให้พืชพันธ์ให้ผลผลิตสูง เป็นนายแห่งอัญญมณีทั้งปวงช่วยขจัดพลังอัญมณีให้โทษ และเสริมฤทธิ์อัญมณีมีคุณทั้งปวง

      เป็นหินศักดิ์สิทธิ์ที่คนโบราณนิยมเสาะแสวงหามาไว้ครอบครองกันเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าคดปลวกนั้นมีอานุภาพสูง สามารถป้องกันคุณไสย ทำให้เกิดความคงกระพันชาตรี ป้องกันภูตผีปีศาจ อีกทั้งยังถือว่าเป็นของมงคลหายากที่ช่วยเสริมดวงชะตาให้ผู้ครอบครองประสบโชคดีอีกด้วย

      ตามความเชื่อ อุกมณี  เป็นแร่ชนิดหนึ่ง มาจากนอกโลกหรือต่างพิภพ บางท่านเชื่อว่ามาจากดวงจันทร์ รูปลักษณ์สัณฐาน ไม่แน่นอน อาจเป็นก้อนกลวงรูปไข่ยาวแบน แต่ที่แน่ ๆ คือที่ผิวของสะเก็ดดาวจะเป็นหลุมเล็ก ๆ โดยรอบ ทั้งนี้เนื่องจากซิลิกา (Silica) หลอมละลายเป็นแก้วเมื่อเสียดสีกับบรรยากาศ มีขนาดความกว้าง ไม่เกิน ๒ นิ้ว
      ที่พบเสมอ ๆ คือขนาดประมาณ ๑ นิ้ว สีดำ น้ำตาล หรือสีเขียว คุณสมบัติอย่างหนึ่ง คือ ไม่มีคุณสมบัติเป็นโลหะจึงไม่ดูดแม่เหล็ก ขนาดใหญ่สุดไม่เกินกำปั้น ส่วนมากจะมีขนาดเท่าหัวแม่มือ ซึ่งก่อนหน้านี้ซื้อขายกันในราคากิโลกรัมละหลักร้อยบาทเท่านั้น แต่ถ้าขายเป็นชิ้นจะไม่อยู่ประมาณ ๑๐๐ - ๕๐๐ บาทเท่านั้น

 
     "หินชนิดนี้ตามตำนานก็ถูกกล่าวขานว่ามีคุณสมบัติเช่นเดียวกับนิลหรืออ็อบซีเดียน เพราะเป็นหินสีดำเช่นเดียวกัน คนส่วนใหญ่จะเชื่อถือในแนวทางของการเป็นเครื่องราง ของขลังที่พกติดตัว นับถือในเรื่องของการปกป้องคุ้มครองเราจากอำนาจในด้านมืดหรือคุณไสยต่าง ๆ บางคนเชื่อว่าหินชนิดนี้จะเป็นตัวประสานเชื่อมต่อความสัมพันธ์ ระหว่างสวรรค์และผืนดิน" แอ็ว หินสี กล่าว



    ส่วนกรณีพระของวัดแห่งหนึ่งย่านบางกอกใหญ่ นำหินนออกมาโชว์โดยระบุว่า เป็น สะเด็ดดาวที่มาจากนอกโลกนั้น แอ๊ว หินสี บอกว่า หินดังกล่าวไม่มีการตั้งชื่อเรียกกันในวงกว้าง จึงตั้งชื่อว่า “อกธรณี” ซึ่งที่ผ่านมาเคยขายหินดังกล่าวน้ำหนักเกือบ ๑ ตัน ให้กับลูกค้าชาวต่างชาติ และที่บ้านยังมีอยู่อยู่หลายก้อนวางอยู่หน้าบ้าน โดยแต่ละก่อนมีน้ำหนักประมาณ ๕๐๐ - ๖๐๐ กิโลกรัม

     นอกจากนี้แล้วที่ร้านยังมีหินพระธาตุ ซึ่งมีแหล่งกำเนิดอยู่ในบริเวณเทือกเขาที่ซับซ้อน ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีลักษณะเป็นเม็ดหินสัณฐานกลมเป็นปริมณฑล มีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเท่ากำปั้น ไข่ไก่ จนกระทั่งขนาดเท่า ไข่จิ้งจกและไข่ปลาดุก สีที่พบส่วนมากเป็นสีขาวคล้ายไข่จิ้งจก ส่วนสีอื่นก็มี สีแดงคล้ายดินเผา ออกใสคล้ายสีน้ำผึ้งก็มี หินดังกล่าวจะซ่อนตัวโดยการฝังอยู่ในแท่งหิน แท่งหินเหล่านี้จะทำหน้าที่คล้ายฝักและมีหินพระธาตุเหล่านี้อยู่ภายใน บางคนอาจเรียกหินพระธาตุดังกล่าวอีกชื่อหนึ่งว่า พระธาตุไข่ในหิน

      "หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด เป็นหินศักดิ์สิทธ์ที่นิยมในหมู่ผู้ชอบสะสมของแปลกและพวกเครื่องรางของขลัง มานานกว่า ๔๐ ปีแล้ว มีการขอสัมปทานขุดหินเขาสามร้อยยอดออกมาขาย โดยจำหย่ายในรูปแบบต่างๆ เช่น หินดิบที่มีพระธาตุฝังอยู่ นำมาแกะเป็นพระ เจียร์เป็นเครื่องประดับต่างๆ ก็มาก   
      มีครูบาอาจารย์ทั้งหลายจาก ทุกภาคของประเทศ นิยมมาอัญเชิญพระธาตุไปประดิษฐาน ณ บ้านเมืองตน ที่เขาสามร้อยยอดนี้ยังเต็มไปด้วยพระธาตุสาวกหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น พระองคุลีมาล พระอัญญาโกณฑัญญะ พระโมคคัลลา พระสารีบุตร และพระสีวลี ทั้งนี้ยังปรากฏผงพระธาตุสีต่างๆ อีกด้วย หรือมี่เรียกกันว่า ผงพระเจ้า เท่าที่ทราบผงพระธาตุที่พบมีสีขาวบริสุทธิ์คล้ายแป้ง"
แอ๊ว หินสี กล่าว

      สำหรับคติความเชื่อเกี่ยวกับหินนั้น แอ๊ว หินสี พูดไว้อย่างน่าคิดว่า “หินก็คือหิน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมนุษย์มีความเชื่อว่าหินสีต่างชนิดมีพลังต่างกัน โดยมีความเชื่อว่าหินสามารถทำให้ชีวิตดีขึ้น จึงกลายเป็นมาของชื่อว่า หินนำโชค ทำให้หินธรรมดา กลายเป็นหินที่มีราคาขึ้นมา”



หนัง-ละครกระตุ้นตลาดหิน

    “ตอนนี้ มณีใต้น้ำ หรือ เพชรพญานาค เป็นหินสีจากแม่น้ำโขงขายดีที่สุด โดยมีมากถึง ๙ สี หรือ ที่เรียกว่าสีนพเก้า โดยมีอยู่ ๒ สี ขายดีและมีราคาสูงที่สุด คือ สีฟ้า สีเขียว และ” นี่เป็นผลพวงมากจากละครเรื่อง “มณีสวาท” จากคำบอกเล่าของ แอ๊ว หินสี

    ทั้งนี้ผู้ซื้อมีคติความเชื่อว่า ผู้ที่จะครอบครองต้องเป็นผู้มีบุญบารมี ขณะเดียวกันเมื่อครอบครองแล้วจะทำให้ชีวิต หน้าที่การงานดีขึ้น

    อย่างไรก็ตาก่อนหน้านี้มีภาพยนตร์และละครเรื่อง “เหล็กไหล” ทำให้หินประเภทเหล็กไหลขายดีมาก  ซึ่งมีมากมายหลายชนิดแต่ที่เชื่อกันแพร่หลายที่สุดนั้นจะฝังตัวอยู่ในถ้ำมีลักษณะสีดำคล้ายนิล  โดยมีคติความด้วยว่า คนธรรมดานั้นไม่สามารถตัดเหล็กไหลเองได้เนื่องจากมีเทพเจ้า เจ้าป่า เจ้าเขา พญานาคหรือยักษ์รักษาอยู่และพร้อมจะเข้าทำร้ายผู้เข้าไปเอาได้ถ้าผู้นั้นไม่ใช่คนดีมีบุญ เหล็กไหลที่ได้นี้กล่าวกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากมักฝังไว้ตามตัวผู้ที่ครอบครองกล่าวกันว่าจะไม่มีอะไรที่ทำร้ายผู้ที่ครอบครองตัวเหล็กไหลได้ทั้งมีด ปืน หรือแม้กระทั่งระเบิด ดินปืนทุกชนิดไม่สามารถจุดติดได้ในอาณาเขตที่มีเหล็กไหลอยู่

     “เหล็กที่ร้านขายอยู่นั้น เป็นหินแร่จากเขาอึมครึม. ต.หนองรี อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ที่ร้านขายชิ้นละ ๑๐๐ -๒๐๐ บาทเท่านั้น” แอ๊ว หินสีกล่าว


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20130226/152669/อุกกาบาตที่ตลาดท่าพระจันทร์.html#.US9iJDd6W85
http://board.postjung.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ