ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - Sitti
หน้า: 1 [2] 3
41  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อยา่คิดว่า การปฏิบัติธรรม เป็นของง่าย...โปรดระลึกไว้ว่า... เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2011, 06:29:25 pm
เป็นคำเตือน ที่ดี ๆ มาก ๆ ครับ จะได้ไม่ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท
มีแนวทางแก่นสาร

 สมัยนี้ พอปฏิบัติธรรม เราไปเถียงที่มาที่ไป ของ ประวัติศาสตร์ กันยาว มากเกินไปนะครับ
เพราะแท้ที่จริงอยู่ที่เราภาวนา แล้ว เป็นอย่างไร ผมว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผมสนใจมากที่สุด
ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ หรือ ตำนาน แต่สนใจเรื่อง ภาวนาเฉพาะหน้า แก้อารมณ์ สภาวะในขณะนั้น

 ใครเห็นด้วยกับผม โปรดยกมือ ครับ

 :08:
42  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: รวมพลคนจิตอาสา ฟื้นฟู พื้นที่น้ำท่วม ที่สระุบุรี เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2011, 09:24:37 pm

วัดสวนกล้วย หนองแค่ สระบุรี
43  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: รวมพลคนจิตอาสา ฟื้นฟู พื้นที่น้ำท่วม ที่สระุบุรี เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2011, 09:22:50 pm
44  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ทำนายไทยเจอภัยธรรมชาติหนัก 3 รอบ! ถึงขั้น 'เลือดชโลมดิน' เมื่อ: ตุลาคม 17, 2011, 06:09:27 pm
อ้างถึง
นาย โมฮัมหมัดแสละ อาจสามารถ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 3 ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ซึ่งเป็นคนดีศรีเมืองลุงปี 2553 ในฐานะนักดาราศาสตร์

 อีกอย่าง นาย โอฮัมหมัด นี้ ไม่ใช่ nostradamus นะครับ อีกอย่างลุงแก่ ก็ไม่ได้มีตาทิพย์

 อย่างไร ฟัง พวก ปภ. ไว้บ้างครับ เดี๋ยวจะตื่นตระหนก กันทำอะไรไม่ถูกอีก จะกลายเป็นข่าว

 ย้ำความช้ำให้คนที่ทุกข์ เพิ่มเข้าไปอีก ....

   เชืื่อเถอะครับ อะไร จะเกิด มันก็ต้องเกิด ครับ
 
    :character0029: :character0029: :character0029:


 
45  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: ชมภาพกิจนิมนต์ "ทำบุญบ้านคุณจรินทร์ทิพย์ คีรี" สระบุรี เมื่อ: ตุลาคม 10, 2011, 07:37:08 pm
ไหนว่า พระอาจารย์ ปลีกวิเวก ในช่วงเข้าพรรษา ครับ
แล้วทำไมจึงมีรับกิจนิมนต์ อยู่ครับ

   :smiley_confused1:
46  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การกําหนดอิริยาบท ไม่ทิ้งกายหลงกาย เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 06:39:17 pm
อ่านแล้ว แสดงว่า คุณพี่ suchin_tum เป็นศิษย์ทีมั่นคงต่อกรรมฐาน และครูอาจารย์มากครับ

อนุโมทนาด้วยครับ

  :25:
47  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: มาปฏิบัติธรรมในงาน กันดีกว่า อย่ามัวนั่งหลับหู หลับตากันเลย เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 06:37:41 pm
ผมว่า ศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นอย่าสนใจวิธีการนี้เลยครับ
เพราะชื่อหัวข้อก็บอกอยู่แล้วว่า ผู้โพสต์ บอกว่าการหลับหู หลับตา นั่งกรรมฐานนั้น ไม่ใช่การภาวนา
การภาวนา ที่ถูกคือ ต้องทำงาน กับชีิวิตประจำวัน

  ในความคิดส่วนตัวผมเห็นว่า การใช้ชีิวิตประจำวัน ก็คือการอยู่ในโลก เรียกว่า โลกียะธรรม
การมีความสุขกับการทำงาน ก็ใช่ว่า จะเป็นโลกุตตรธรรมได้ นะครับ

  ดังนั้นการหลับหู หลับตา ( ใช้คำผิด ) เพราะต้องกล่าวว่้า การปิดหู ปิดตา ไม่รับอายตนะในขณะภาวนานั้น
เป็นเรื่องมีความจำเป็น สำหรับผู้ภาวนา นะครับ

  เช่น มีภาพโป๊ เกิดอยู่ตรงหน้า สติไม่เข้มแข็งพอ ก็จะ จ้องเอา จ้องเอา วิธีการเจริญสติผิดเลย เพราะจิต
ยังไม่เข้มแข็ง ก็จะไม่สามารถ ชนะกิเลสเบื้องหน้านั้นได้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุด ก็คือ ปิดตา ไม่รับอายตนะ
 
  เช่นกัน เวลารับเสียงที่ไม่่พึงปรารถนา เช่นภาวนาอยู่ พวกทะเลาะกันอยู่ข้างบ้าน หรือ กินเหล้าเฮฮาปาร์ตี้ กัน
ดังลั่น ถ้าจะให้เจริญสติ ก็ต้องนั่งแผ่เมตตา เผลอ ๆ สติหลุดกลายเป็นพยาบาทไปได้

   ดังนั้น ในกรรมฐาน จึงต้องเข้าสะกดกรรมฐาน เข้าวัด ออกวัด เข้าคืบ เข้าสับ เดินอนุโลม ปฏิโลม เพื่อสะกด
สรรพเสียง อันเป็นเสี้ยนหนามของสมาธิ จึงจะชนะเสียงนั้นได้

   ดังนั้น ศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ขึ้นกรรมฐานแล้ว ก็อย่ามาเปลี่ยนใจลอง ผิด ลองถูก ในกรรมฐาน
กันอยู่เลยครับ มันจะบานปลายเสียเวลา กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มีขึ้นตอนที่ชัดเจนแล้วครับ เทียบเคียง
กับพระไตรปิฏก ได้ มีตำรา มีครูอาจารย์ ที่น่าเชือถือ ซึ่งแม้แต่พระมหากษัตริย์ ก็เชื่อถือ มีพระสังฆราชสืบ
กรรมฐาน ก็ตั้งหลายพระองค์ ครูอาจารย์ที่ปฏิบัติภาวนาได้ดี ( สำเร็จหรือ ไม่ อันนี้ไม่ทราบ ) แต่ก็เป็นที่นับถือ
ของชาวเรากรรมฐาน เช่น หลวงพ่อโต หลวงปู่สุข เป็นต้น

    :34: :34: :bedtime2: :bedtime2:
48  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นั่งสมาธิ ได้ไม่เกิน 20 นาที เอาดีทางนี้ไม่ได้ เลยเปลี่ยนเป็นทำบุญอย่างอื่นแทน เมื่อ: ตุลาคม 03, 2011, 05:47:59 pm
ถ้าคุณต้องการทำอย่างนั้น หรือ คิดว่าทำได้แค่นั้น ก็ทำเพียงเฉพาะคุณไปก่อน แต่อย่าไปชักชวนคนอื่นล้มเลิกตามแบบเรา นะครับ เพราะจะมีวิบากกรรม อุปสรรคเพิ่มขึ้นนะครับ
 
  เรื่องอย่างนี้อยู่ที่การสั่งสมบารมีส่วนหนึ่งครับ

  :25:
49  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: องค์บริกรรม เมื่อ: กันยายน 30, 2011, 04:22:00 pm
เรียนถาม คุณ saieaw ครับเรื่อง

  user นี่มีระดับ ด้วยหรือ ครับ ผมพึ่งรู้ ครับ

  แบ่งระดับกันอย่างไร ครับ

  :a102: :smiley_confused1:
50  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เห็นดีนำมาฝาก คะ เครดิต คุณไก่แดง ผู้โพสตด้วยคะ เมื่อ: กันยายน 29, 2011, 08:23:54 pm
จริง ๆ ผมว่า วิจารณ์เหมือนจิตส่งออก จริง ๆ นะครับ + ความเป็น กวี ด้วย

 :25:
51  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ล็อกเณรแสบ ลวงเด็ก 13 ขยี้กามคากุฏิวัดดังกลางกรุง โทษของพระเณร ทีมัวแต่เล่นเน็ต เมื่อ: กันยายน 29, 2011, 08:22:55 pm
อยู่ที่เราชาวพุทธ ต้องเป็นหู เป็นตาให้กับ พระพุทธศาสนากันด้วย
ที่สำคัญ การเลี้ยงลูก และให้ความเข้าใจ ศึกษา ความถูกต้องด้วยครับ

 :014: :014: :014:
52  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: เมื่อความทุกข์ ลำบากเข้ามาถึง ทุกคนต่างก็ไม่ยอมกัน เพราะ... เมื่อ: กันยายน 21, 2011, 05:59:56 pm
เหตุลำบากนี้ ล่าสุด ชาวอินทร์บุรี ต้องใช้วัดอัมพวัน เป็นที่ตกลงกัน

ชาวบ้านปากบาง

   :s_hi:
53  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ฟรี! บ้านพักพิงสำหรับญาติผู้ป่วยที่ต้องเดินทางจากต่างจังหวัด มารักษาตัวที่ กทม. เมื่อ: กันยายน 21, 2011, 05:58:39 pm
อันนี้ ต้องช่วยกันบอกต่่อ ส่งเมล บอกต่อกันไปนะคะ

ส่วนตัวก็เคยได้รับความลำบากเช่นนี้มาเหมือนกันคะ

  ดังนั้น เรื่องนี้เป็นไปได้ ช่วยกันส่งเมล ลิงก์บอกต่อกันเลยนะคะ

 อนุโมทนา ด้วยคะ

  :25: :25: :25: :25:


เห็นด้วย ช่วย กันกระจายข่าว ทางเมล และ ลิงก์กลับมาที่กระทู้กัด้วย
54  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ตอนนี้มีปรากฏการณ์ สัญญาณ ภัยธรรมชาติ มากขึ้น เมื่อ: สิงหาคม 30, 2011, 02:31:01 pm
ดูเหมือนว่า ภัยพิบัติ จะเพิ่มความรุนแรง เพิ่มขึ้น ตอนนี้ เส้นทางการเดินของน้ำอุ่น น้ำเย็น ได้เปลี่ยนทิศทาง

ซึ่งจะมีผลกับ ความเย็นทั่วโลกด้วยครับ
การไหลเวียนของน้ำในมหาสมุทร

น้ำในมหาสมุทรของโลกไหลอยู่ตลอดเวลา โดยแปรเปลี่ยนไปตามกระแสน้ำขึ้นน้ำลงและคลื่น และไหลเวียนไปทั่วโลกอย่างช้าๆ โดยมีพลังขับเคลื่อน คือ สายพานอันยิ่งใหญ่แห่งมหาสมุทร (หรือที่เรียกว่า thermohaline circulation) สายพานนี้ได้รับกำลังจากอุณหภูมิและความเค็มของน้ำที่แตกต่างกัน กระแสน้ำที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุด ได้แก่ กระแสน้ำอุ่นกัฟ สตรีม (Gulf Stream) ซึ่งเป็นกระแสน้ำที่ทำให้ยุโรปมีอากาศที่ไม่รุนแรงน้ำในมหาสมุทรไหลเวียน อย่างไร

น้ำที่อุ่นและเค็มในกระแสน้ำอุ่นกัฟ สตรีมจะเย็นลงเมื่อไหลไปถึงมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ โดยมีมวลหนาแน่นขึ้นและจมลึกลงสู่มหาสมุทรชั้นล่างๆ จากนั้นจึง "ปั๊ม" น้ำเย็นที่ไหลมาจากทางใต้ลงสู่ทะเลลึก แล้วไหลผ่านแอฟริกาไปยังมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ นอกจากนี้ความเค็มที่ถูกแยกออกไปในขณะที่น้ำแข็งในทะเลก่อตัว จะทำให้มวลของน้ำหนาแน่นขึ้น ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหนึ่งของกระบวนการไหลเวียนของน้ำในมหาสมุทร

น้ำที่มีมวลหนาแน่นและเย็นลงกลายเป็นส่วนหนึ่งของสายพานแห่งมหาสมุทร และในที่สุดกระแสน้ำนี้ไหลกลับสู่พื้นผิวมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิค ส่วนกระแสน้ำอุ่นที่กำลังไหลคืนสู่มหาสมุทรแอตแลนติกนั้น ได้เคลื่อนที่ไปสู่ขั้วโลกเหนือเช่นเดียวกับกระแสน้ำอุ่นกัฟ สตรีมในแอตแลนติกและกระแสน้ำแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Drift) ซึ่งทำให้ยุโรปทางตะวันตกเฉียงเหนืออุ่นขึ้นอย่างมาก

นอกจากสายพานแห่งมหาสมุทรจะทำให้ยุโรปอบอุ่น และมีบทบาทสำคัญในสภาพภูมิอากาศของโลกแล้ว ยังทำให้สารอาหารที่ก้นมหาสมุทรไหลทะลักขึ้นไปทางเหนือ และเพิ่มการดูดซับคาร์บอนไดออกไซต์ในมหาสมุทร กระแสน้ำอุ่นกัฟ สตรีมทำให้สภาพภูมิอากาศของยุโรปอยู่ในสภาพพอเหมาะ กระบวนการทั้งหมดนี้เรียกว่าสายพานอันยิ่งใหญ่ สายพานอันยิ่งใหญ่แห่งมหาสมุทร หรือชื่อที่นิยมใช้อื่นๆ สำหรับระบบการไหลเวียนของอุณหภูมิและความเค็ม

จะเกิดสิ่งเลวร้ายอะไรขึ้นอย่างมาก

การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้เป็นเครื่องเตือนว่าการไหลเวียนของสายพานแห่งมหาสมุทรไปตามแนวการไหลใน ทะเลลึกระหว่างสก็อตแลนด์และกรีนแลนด์ได้ไหลช้าลง และถึงแม้ว่าสายพานดังกล่าวจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในหลายพันปีที่ผ่านมา แต่ผลการทดสอบแกนน้ำแข็งจากเกาะกรีนแลนด์และทวีปแอนตาร์กติกาได้แสดงให้เห็น ว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป ในอดีตเมื่อนานมานี้ การเปลี่ยนแปลงของการไหลเวียนของสายพานเกี่ยวเนื่องกับกับภาวะโลกร้อนที่ เกิดขึ้นฉับพลัน

กล่าวโดยย่อก็คือ ความเค็มในมหาสมุทรที่เจือจางเนื่องจากน้ำแข็งในทวีปอาร์กติกละลาย (เช่น พืดน้ำแข็งกรีนแลนด์) และ/หรือ ปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้สายพานนี้หยุดทำงาน ไหลช้าลง หรือ เบี่ยงเบนเส้นทางได้ อุณหภูมิของน้ำที่เย็นลงอย่างมหาศาลนี้จะทำให้เกษตรกรรมและสภาพภูมิอากาศของ ยุโรปเสียหายรุนแรง และส่งผลกระทบต่อกระแสน้ำและอุณหภูมิของน้ำทะเลทั่วโลก

ข้อมูลเพิ่มเติม

ภาวะโลกร้อนฉับพลัน โดย สถาบันมหาสมุทรศาสตร์วู้ดส์ โฮล

ที่มา
http://www.greenpeace.org/seasia/th/campaigns/climate-and-energy/impacts/ocean-circulation/


55  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: กิจกรรมพบกลุ่มภาวนากรรมฐาน ประจำเืดือน ก.ย.2554 ไม่มีแล้วหรือคะ เมื่อ: สิงหาคม 26, 2011, 08:43:57 pm
ลองดูที่ ปฏิทินกิจกรรม ผมเห็นวันที่ 27 ส.ค.54 ด้วยนะครับ
แต่ไม่ระบุสถานที่ น่าจะเป็นศิษย์ภายใน นะครับ

อยู่ที่น่าแรก นะครับ ต้องสังเกตดูครับ

แล้วถ้ามองให้ดี จะเห็นวันที่ 4 ก.ย. ด้วยนะครับ

สังเกตติดตามนะครับ

 :s_hi:

ถ้านึกไม่ออก นี่เป็นลิงก์ ครับ
http://www.madchima.org/madchima/index2.php?name=calendar
56  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: แจ้งการใช้งานเว็บ ไม่ได้ คะ เมื่อ: สิงหาคม 26, 2011, 08:41:29 pm
น่าจะเป็นบางช่วง ที่คุณ กบ ระดมคนเข้ามามาก นะครับ
เท่าที่ดู ตอนนี้ ก็ใช้งานได้ ปกติ แล้วครับ

 :s_hi:
57  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: มาดูพญานาค กันเุถอะ เมื่อ: สิงหาคม 18, 2011, 10:05:45 am
น่าสนใจครับ สำหรับ การพักผ่อน ถ้ามีโอกาสก็จะไปเยี่ยมถ้ำนี้สักครั้งเหมือนกันครับ

ขอบคุณ จขกท ที่แนะนำเรื่องราวเกี่ยวกับพญานาค ด้วยนะครับ

 :25:
58  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ถ้าลูกน้องเรา มาขอเงิน ไปซื้อเหล้า ควรจะทำอย่างไรดีครับ เมื่อ: สิงหาคม 17, 2011, 10:26:31 am
คือว่า ทำงานบริษัท ก็มีลูกน้องหลายคน เมื่อก่อน เวลาเลิกงานก็สังสรรค์กันเป็นปกติ

แต่พอเริ่มเรียนธรรมะ สนใจเรื่องกรรมฐานแล้ว รู้สึกจะสวนทางกันครับ

 ล่าสุด เมื่อเช้านี้ ลูกน้อง เดินมาบอกว่า ลูกพี่ขอเงินซื้อ  เรด ด้วยครับ

ปกติเป็นเมื่อก่อน ก็จะให้นะครับ แต่ช่วงหลายเดือนมานี้ผมรักษาศีล ศึกษาธรรมะ แล้วรู้สึกฝืนใจ

อย่างไรก็ไม่รู้ ถ้าให้ไปเท่ากับส่งเสริม ผิด ศีล แต่ถ้าไม่ให้ ความร่วมมือในงาน จะมีปัญหาแน่ ๆ

  ใครมีประสพการณ์ ตรงนี้แนะนำด้วยครับ

  :c017: :smiley_confused1:
59  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / คนภาวนา หรือ ปฏิบัติธรรม คือคนที่ไม่ยุ่ง ไม่เอา อะไรกับสังคมใช่หรือไม่ครับ เมื่อ: สิงหาคม 17, 2011, 10:21:59 am
คนภาวนา หรือ ปฏิบัติธรรม คือคนที่ไม่ยุ่ง ไม่เอา อะไรกับสังคมใช่หรือไม่ครับ

คือ โดนเพื่อนแซว และ ต่อว่า ครับว่าเดี๋ยวนี้ไม่เอาอะไรกับใครเลยนะ ไม่สังสรรค์ แบบเมื่อก่อน

ไม่ช่วย ไม่ยุ่ง ไม่เอางาน เอาการเพื่อนเลยนะ ประมาณนี้นะครับ อันที่จริงผมก็ไปช่วยงานเขาทุกงานะครับ

เพียงแต่ว่าตอนนี้งดเด็ดขาด เรื่องการเสวนาในวงเหล้า ไม่เอาครับ ไม่เห็นประโยชน์.....

  แต่ชีวิตเรา ก็ยังต้องอยู่ในสังคมที่ต้องทำงาน กับคนเหล่านี้อยู่ ต้องพึ่งเขาอยุ่ เพราะการที่ผมลดการเสวนา

ในวงเหล้าลง ทำให้ผมมีความลำบากในงานมากขึ้น เพราะเพื่อน ๆ จะไม่ค่อยให้ หรือ ไม่ให้ความร่วมมือกัน

ในระบบทำงานแบบเมื่อก่อน

  ไม่ทราบว่าเพื่อนสมาชิก มีวิธีการแก้ไข กันอย่างไรครับ หรือว่าเราต้องไปคลุกคลีในวงเหล้าด้วยเหมือนเดิม

ดีครับ

  ขอคำแนะนำด้วยครับ

  :41: :25: :c017:
60  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / วิธีแก้ง่วงในการภาวนา ครับ เมื่อ: สิงหาคม 14, 2011, 05:14:12 pm
พระมหาโมคคัลลานะ เมื่ออุปสมบทได้ 7 วัน ได้ไปทำความเพียรอยู่ที่ป่าใกล้บ้านกัลป์ลาวาลมุตตาคาม แขวงมคธ ถูกถีนมิทธารมณ์ คือ ความง่วงเหงาเข้าครอบงำ ไม่สามารถจะทำความเพียรได้ ขณะนั้น พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ ณ สวนเภสกลาวัน ซึ่งเป็นสถานที่ให้เหยื่อแก่เนื้อ ใกล้เมืองสุงสุมารคิรี อันเป็นเมืองหลวงของแคว้นภัคคะ ทรงทราบด้วยพระญาณว่าพระโมคคัลลานะ โงกง่วงอยู่ จึงทรงทำปาฏิหาริย์ให้เห็นปรากฏ ประหนึ่งว่าเสด็จประทับอยู่ตรงหน้า ทรงแสดงอุบายสำหรับระงับความง่วงแก่เธอตามลำดับ ดังนี้

1.โมคคัลลานะ เมื่อเธอมีสัญญาอย่างใดแล้ว เกิดความง่วงขึ้น เธอจงทำไว้ในใจซึ่งสัญญาอย่างนั้นให้มาก จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

2.ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรตรึกตรองถึงธรรมที่ได้เรียนมาแล้ว ได้ฟังมาแล้วให้มาก จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

3.ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรสาธยายธรรมที่ได้เรียนได้ฟังมาแล้วให้มากจะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

4.ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรยอนช่วงหูทั้งสองข้าง และลูบตัวด้วยฝ่ายมือจะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

5.ถ้ายังละไม่ได้ เธอจงลุกขึ้นแล้วลูบนัยน์ตา ลูบหน้าด้วยน้ำเหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาว จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

6.ถ้า ยังละไม่ได้ เธอควรทำไว้ในใจถึงอาโลกสัญญา ถือ กำหนดความสว่างไว้ในใจเหมือนกัน ทั้งกลางวันและกลางคืน ทำใจให้เปิด ให้สว่าง จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

7.ถ้ายังละไม่ได้ เธอควรเดินจงกรมสำรวมอินทรีย์ มีจิตใจไม่คิดไปภายนอก จะเป็นเหตุให้ละความง่วงได้

8.ถ้า ยังละไม่ได้ เธอควรสำเร็จสีหไสยาสน์ นอนตะแคงขวา ซ้อนเท้าให้เลื่อมกัน มีสติสัมปชัญญะ หมายใจว่าจะลุกขึ้นเป็นนิตย์ เมื่อตื่นแล้วควรรีบลุกขึ้นด้วยตั้งใจว่า เราจะไม่ประกอบความสุขในการนอนและการเคลิ้มหลับอีกจะเป็นเหตุให้ละความง่วง ได้ พระพุทธองค์ ตรัสสอนอุบายเพื่อ
บรรเทาความง่วงโดยลำดับจนที่สุดถ้ายังไม่หายง่วงก็ให้นอน แต่ให้นอนอย่างมีสติ

นายธรรมะ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก เว็บบอร์ดพลังจิตด้วยครับ


จากคุณ    : artinfinit


61  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: สมถะกรรมฐาน ให้ผล เพียง พรหมโลก เท่านั้นหรือ ? เมื่อ: สิงหาคม 14, 2011, 05:08:31 pm
และคห.ท่านอื่นในกระทู้นั้นก็น่าสนใจครับ

ถ้ายังคิดว่ายากอยู่อีก   ก็แนะนำการปฏิบัติธรรมง่ายๆแต่ได้ผลไว และชัดเจนเช่นกัน คือ

ปฏิบัติธรรม>>>>  ดูกิเลสในจิต   ให้เห็นชัดๆว่ามันพาให้เราทุกข์อย่างไร

เมื่อเห็นแล้วรีบกำจัดมันออกไปจากจิตของเรา  ถ้ายังไม่เก่งปานนั้น เอาหินทับไว้ก่อน(กดข่มไว้ด้วยใจ)

ทำให้มันอ่อนแรงแล้วรีบหาวิธีกำจัดมันออกไปโดยเร็ว

กิเลส คือความชั่วความไม่ดีในจิต มันจะพาให้กาย วาจา ทำผิดทำชั่วไปด้วย เช่น

       =  ความโกรธ ไม่พอใจ  อยากฆ่าอยากทำร้าย อยากด่า อยากบ่นว่าิ  กลั่นแกล้ง
       =  ความโลภ  อยากได้มาเป็นของตน  อยากโขมย โกง  หลอกลวง  เบียดเบียน
       =  ความหลงคิดว่าการเสพกามรส  เพราะหู  ดูงาม  หอมกลิ่น  สัมผัสนุ่ม อร่อยลิ้น ฯลฯเป็นสิ่งดี
       =  พูดจาไม่ระวัง หยาบคาย ส่อเสียด เพ้อเจ้อ และ โกหก มุสา
       =  หลงใหลในอบายมุขต่างๆ กินเหล้า  เล่นการพนัน เจ้าชู้ คบมิตรชั่ว  เที่ยวๆ  ขี้เกียจ

ทำได้แค่นี้(ระดับศีล ๕) ก็เป็นคนดี ได้แล้ว  หรืออยากเพิ่มระดับ ก็ทำอีก สามข้อได้คือ
       =  จู้จักประมาน ในการกินการใช้ ทั้งอาหาร เสื้อผ้า ที่อาศัย ให้พอเหมาะพอดี
       =  ระวังกาย วาจา ใจ ไม่ให้เพลิดเพลิน ไปกับกามคุณ ๕ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส
          คอยสังวรลดละอยู่เสมอๆ อย่าให้เกิดกิเลส
       =  ระวังตัวตนไม่ให้มีอัตตาใหญ่โต ที่ต้องใหญ่ หรู เลิศ ยอด เยี่ยม เบ่งข่มคนอื่น
          พยายามลด ให้น้อยลงๆให้ได้  ให้กลัมมาสู่ธรรมดาสามัญ

ถ้าอยากเก่งก็ทำข้อนี้ให้ได้ 
       =  คือใช้ชีวิตอยู่ให้ได้โดยไม่สะสมเงินทอง ขยันขันแข็ง กินน้อย  ใช้น้อย  มีเหลือสละออกสู่สังคม

ถ้าอยากบรรลุธรรมชั้นสูงขึ้นไป ก็ทำในแต่ละข้อให้บริสุทธิ์ บริบูรณ์ 
ท่านว่า  ศีลพาให้ถึงนิพพาน ( สีเลน นิพฺพุตึ ยนฺติ )

ใน กิมัตถิยสูตร อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ข้อ ๑ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทรงแสดงอานิสงส์ของศีลที่เป็นกุศล คือ กุศลศีล ที่มีกุศลจิตเป็นสมุฏฐาน แก่ท่านพระอานนท์ไว้ ๑๐
ประการ คือ
๑. ศีลที่เป็นกุศลมีอวิปปฏิสาร คือความไม่เดือดร้อนใจเป็นผล เป็นอานิสงส์
๒. ความไม่เดือดร้อนใจมีความปราโมทย์เป็นผล เป็นอานิสงส์
๓. ความปราโมทย์มีปีติเป็นผล เป็นอานิสงส์
๔. ปีติมีปัสสัทธิ คือความสงบใจเป็นผล เป็นอานิสงส์
๕. ปัสสัทธิ มีสุข คือความสุขใจเป็นผล เป็นอานิสงส์
๖. สุขมีสมาธิเป็นผล เป็นอานิสงส์
๗. สมาธิมียถาภูตญาณทัสสนะ คือความเห็นด้วยญาณตามความเป็นจริงเป็นผล เป็นอานิสงส์
๘. ยถาภูตญาณทัสสนะ มีนิพพิทาวิราคะ คือความหน่ายความคลายเป็นผล เป็นอานิสงส์
๙. นิพพิทาวิราคะ มีวิมุตติญาณทัสสนะ คือความเห็นด้วยญาณเป็นเครื่องหลุดพ้นเป็นผล
เป็นอานิสงส์
๑๐. ศีลที่เป็นกุศลย่อมถึงอรหันต์โดยลำดับ ด้วยประการฉะนี้

ในมหาปรินิพพานสูตรทีฆนิกาย มหาวรรค ว่า
ผู้มีศีลย่อมได้รับอานิสงส์ ๕ ประการ คือ
๑. ย่อมได้รับโภคทรัพย์ใหญ่ เพราะความไม่ประมาทเป็นเหตุ ( ดังที่พระท่านแสดง
อานิสงส์ของศีลในเวลาให้ศีลว่า สีเลน โภคสมปทา )
๒. เกียรติศัพท์อันงามของผู้มีศีล ย่อมฟุ้งขจรไปไกล
๓. ผู้มีศีลเข้าไปสู่สมาคมใดๆ ย่อมเข้าไปอย่างองอาจไม่เก้อเขิน
๔. ผู้มีศีลย่อมไม่หลงทำกาละ ( คือไม่หลงในเวลาตาย )
๕. ผู้มีศีล ตายแล้วย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ( สีเลน สุคตึ ยนฺติ )

จากคุณ    : P2wichai
62  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: สดุดี มหาราชินี เนื่องด้วยในวันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค.2554 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2011, 08:57:56 pm
ขอจงทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน

 :25: :25: :25:
63  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หลังจากนั่งกรรมฐาน แล้ว เกิดโรคอย่างหนึ่งแก่ดิฉันคะ.... เมื่อ: สิงหาคม 04, 2011, 05:17:32 pm
9 วิธี แก้โรคนอนไม่หลับ

          อ่อนเพลียเนื่องจากนอนไม่หลับในตอนกลางคืน และตื่นขึ้นด้วยอาการอิดโรยในตอนเช้า ต่อไปนี้คือวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยกำจัดความทุกข์ตอนนอนให้หายไป แล้วคืนนี้จะได้นอนหลับสบาย

          1. งดเครื่องดื่มกาแฟ เป็นที่ทราบกันว่าคาเฟอีนมีสารกระตุ้นที่ทำให้นอนไม่หลับ แต่รู้ไหมว่าสารดังกล่าวยังตกค้างอยู่ในร่างกายอีกด้วย?  ดัง นั้นทางที่ดี คือ กำจัดมันออกไปจากอาหารที่คุณกินหรืองดดื่มคาเฟอีนตั้งแต่มื้อเที่ยงเป็นต้น ไป อย่าลืมคาเฟอีนที่ซ่อนอยู่ในน้ำอัดลม และของว่างต่าง ๆ เช่น โค้ก ช็อกโกแลต เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นอนไม่หลับ อ่านฉลากข้างกระป๋อง และข้างถุงผลิตภัณฑ์ให้ละเอียด ดื่มชาสมุนไพร เช่น ชาคาโมมาย์ล หรือชาดอกมะนาว ที่ช่วยให้จิตใจผ่อนคลายแทนชาหรือกาแฟ เนื่องจากในชาทั้งสองชนิดนี้มีสารที่ช่วยให้จิตใจสงบเยือกเย็น และปลอดคาเฟอีน


          2. อาบน้ำก่อนนอน การแช่ตัวในน้ำอุ่นก่อนนอน จะช่วยให้จิตใจผ่อนคลายจากความเครียดทั้งปวง แต่อย่าแช่น้ำนานเกินไป เพราะแทนที่จะหายเครียดกลับเครียดหนักขึ้น เนื่องจากการแช่ตัวในน้ำร้อนนานเกิน จะทำให้ผิวสูบเสียความชุ่มชื่น ดูไม่มีชีวิตชีวา เพื่อช่วยให้หลับสบาย อย่าลืมหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ 2-3 หยด ลงในน้ำที่อาบ หรือจะใช้น้ำนมอาบน้ำ

 

          3. จัดห้องให้น่านอน แปลงโฉมห้องนอนให้เป็นที่ที่คุณอยากใช้เวลาอยู่นานๆ จัดข้าวของที่ระเกะระกะให้เข้าที่ ทำห้องให้มีกลิ่นหอมด้วยการวางถุงกลิ่นลาเวนเดอร์ และแจกันดอกไม้สด จัดห้องนอนให้มีแสงสลัว ๆ โปร่ง และอากาศถ่ายเทได้ดี หาอะไรปิดส่วนที่เรืองแสงของนาฬิกาปลุก ซึ่งนอกจากจะให้แสงสว่างเป็นพิเศษแล้ว ยังทำให้เราหันความสนใจไปที่นาฬิกาตลอดทั้งคืน ตั้งเครื่องปรับอากาศที่อุณหภูมิพอเหมาะ ประมาณ 25 องศาเซลเซียส ซึ่งทำให้ห้องเย็นสบายกำลังดี

 

          4. สมุนไพรพึ่งได้  มี สมุนไพรหลายตัว โดยเฉพาะสมุนไพรจีนช่วยคลายเครียด ทำให้นอนหลับได้ดี เช่น ถั่งเฉ้า มีลักษณะเป็นแท่งยาว ๆ มีสีเหลืองเป็นมันเงา ประกอบด้วยวิตามินบี 12 โปรตีน กรดไขมัน ทั้งอิ่มตัว และไม่อิ่มตัว มีสรรพคุณช่วยระงับประสาท ทำให้นอนหลับสนิท พุทราจีน เป็นผลไม้บำรุงสุขภาพที่ดีของคนจีน สามารถกินได้ทั้งสดและแห้ง แก้อาการนอนไม่หลับ เนื้อในเมล็ดช่วยผ่อนคลายประสาท ทำให้นอนหลับสบาย โสม จัดเป็นสมุนไพรจีนที่ใช้รักษาโรคมากกว่า 2,000 ปี สารไบโอแอคทีฟ (bioactive) ใน โสมช่วยแก้โรคนอนไม่หลับ และรักษาโรคความจำเสื่อม ลดความเครียด ดอกไม้จีนหรือจำฉ่ายเป็นพืชล้มลุกตระกูลเดียวกับลิลลี่ เกสรดอกไม้จีนมีสรรพคุณช่วยบำรุงประสาท ช่วยให้ผ่อนคลาย ทำให้สดชื่น และมีฤทธิ์เป็นยานอนหลับอ่อน ๆ จึงช่วยให้หลับสบาย   

          5. ยืดเส้นยืดสาย คนที่เคลื่อนไหวร่างกายขณะทำงานในระหว่างวัน จะมีปัญหาในการนอนน้อยกว่าคนที่นั่งปักหลักอยู่กับโต๊ะทำงาน การออกกำลังกายแค่วันละ 15 นาที จะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจน ทำให้ผ่อนคลาย และนอนหลับง่ายขึ้น ระหว่างวันควรออกไปเดินเล่นในสวน หรือเดินยืดเส้นยืดสายหลังอาหารเย็น หลังเดินออกกำลังแล้ว ให้พักประมาณครึ่งชั่วโมง จึงค่อยเข้านอน ทั้งนี้เพื่อให้อัตราการเต้นหัวใจและร่างกายทำงานช้าลงก่อนถึงจะสามารถเข้า นอนได้

 

          6. กินอย่างถูกต้อง การเข้านอนขณะท้องหิว หรืออิ่มแปล้จะไปรบกวนการนอน ซึ่งรวมถึงการกินอาหารก่อนนอนด้วย ไม่ควรกินอาหารเย็นหลัง 2 ทุ่ม และถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเหลี่ยงโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เพราะจะเป็นเหมือนยาชูกำลังที่ไปกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมน ที่ทำให้ร่างกายเกิดความคึกคัก กินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตจำพวกแป้ง อาหารเย็นควรเป็นข้าว มันฝรั่ง พาสต้า ผัก ที่มีรากเป็นลำต้นใต้ดิน ถั่วต่าง ๆ อาหารเหล่านี้ทำให้ร่างกายผลิตเซโรโตนิน ที่ช่วยในการนอนหลับ

 

          7. เอนตัวลง และทำจิตใจให้ผ่อนคลาย เปิดเพลงทำนองเบาๆ ฟังสบายๆ ขณะนอน หรือจะเปิดเทปบันทึกเสียงธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกสงบ เยือกเย็น เช่น เสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง ปิดไฟในห้องนอน นอนซุกตัวใต้ผ้าห่ม ปล่อยให้เสียงนั้นขับกล่อมคุณ จากนั้นหายใจลึกๆ ช้าๆ เพ่งสมาธิไปที่แขนขาแต่ละข้าง โดยเริ่มจากที่เท้า จินตนาการว่าแขนขานั้นจมหายลงไปในเตียง ควรใช้เครื่องเล่นเทป หรือซีดีที่ปิดเองอัตโนมัติ เพราะจะได้ไม่ต้องลุกขึ้นมาปิดเวลาเคลิ้มๆ ใกล้จะหลับ
 

          8. ลุกขึ้นเดิน หากตื่นขึ้นกลางดึก และไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ภายใน 30 นาที จงลุกขึ้น อย่านอนกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมา รอเวลาจนเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น เพราะนั่นจะทำให้รู้สึกหงุดหงิด อย่าเปิดทีวี อ่านหนังสือ หรือนั่งบนเตียงคิดเรื่องที่ยังติดค้างอยู่ในสมอง แม้นั่นจะเป็นวิธีฆ่าเวลายามนอนไม่หลับ แต่ไม่ควรทำ คุณจำเป็นต้องฝึกให้ร่างกายรับรู้ว่าเตียงนอนใช้เป็นที่สำหรับนอน แม้ว่าสิ่งที่คุณทำบนเตียงจะเป็นกิจกรรมสบายๆ ประเภทดูหรือฟังก็ตาม เพราะนั่นสามารถเข้าไปกระตุ้น หรือรบกวนจิตใจได้ หากตื่นขึ้นกลางดึก ให้ลุกจากเตียงไปเอนหลังบนโซฟา หรือเก้าอี้ตัวโปรดที่นั่งสบายๆ หลับตาลง ทำจิตใจให้สบายจนรู้สึกง่วงแล้วจึงค่อยลับไปนอนที่เตียง

 

          9. มหัศจรรย์แห่งนม ตอนเด็กๆ แม่จะให้เราดื่มนมอุ่นๆ ก่อนนอน เพราะในนมมีกรดอะมิโนที่เรียกว่า ทรัยป์โตฟาน ช่วยให้นอนหลับสบาย และยังมีแคลเซียมสูง ช่วยผ่อนคลายประสาท ทำให้จิตใจสบาย บางคนบอกว่าการดื่มนมอุ่นๆ ช่วยคลายเครียด และหายอ่อนเพลีย จากการศึกษาวิจัยพบว่า เมลาโทนิน (melatonin) ช่วยให้นอนหลับ โดยเฉพาะนมที่รีดจากแม่วัวตอนเช้ามืด เพราะเป็นช่วงเวลาที่นมวัวมีเมลาโทนินสูงสุด

 

ข้อมูลจาก : HealthPlus
ที่มา http://board.palungjit.com/showthread.php?t=142311




ไม่รู้ดึงหัวข้อจากการภาวนาหรือ ป่าวไม่ทราบนะครับ แต่ เกี่ยวกับการนอนไม่หลับกับ กรรมฐาน นี้วิธีทั้ง 9 นี้จะเกี่ยวข้องหรือไม่ นั้นไม่ทราบนะครับ


ขอให้คุณ เมตตา หลับได้ง่าย ๆ  นะครับ


64  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: คิดว่าสามีถูก เสน่ห์คุณไสยคะ จึงไปอยู่แต่ที่บ้านเมียน้อย มีวิธีแก้คุณไสย หรือไม่ เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2011, 08:28:00 pm
เป็นเรื่องที่น่าคิด นะครับ

เรื่องนี้เป็นเรื่อง ละเอียดอ่อน บางครั้งอาจจะเป็น เพราะคุณไสย หรือ อาจจะเป็น เพราะ คุณไส

ต้องพิจารณากันอีกที ครับ

 :13:
65  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ทำอย่างไร จะมีบุตรได้ครับ เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2011, 09:01:55 pm
เมื่อวันหนึ่ง เพื่อนหญิงที่ ซี้ปึ้กมาปรึกษา กับหมอว่า
============================================================
ติดตามรักษามานานแล้ว คะ ดิฉันก็มีปัญหาเรื่องมีบุตร เหมือนกันคะ สามี และ ดิฉันแต่งงานกัน 5 ปีแล้ว
ยังไม่มีบุตร ฐานะ หน้าที่การงาน ก็ไม่ได้อัตคัตคะ มีเงินเดือนทั้งคู่ ฐานะปานกลาง คะ

แต่อยากมีบุตร ก็ไม่ได้เสียที ทำท่าจะได้ ก็ต้องชวดอีก ....

ใครมีวิธี ที่ดี ๆ แนะนำให้หน่อยนะคะ

ว่ากำลังจะหายามาทาน ( เกี่ยวกันหรือไม่ )

 แต่เคยถามพระ ท่านบอกว่า เป็นเพราะหาคนมีบุญกุศลร่วมกันยังไม่ได้

================================
ที่มาจากเมลเพื่อนที่ปรึกษาเรื่องนี้ครับ

  :03: :03: :03:
66  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: ปรับปรุง ระบบ RDN เครื่องเปิด สัญญาณวิทยุ เมื่อ: มิถุนายน 27, 2011, 08:14:21 pm
รับทราบครับ พระอาจารย์ทำเองหรือครับ
ไม่มีใครทำให้หรือครับ

 :13:
67  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ชาวพุทธทุกท่าน มีความเห็นอย่างไร กับการเสี่ยงเซียมซี ครับ เมื่อ: มิถุนายน 07, 2011, 05:35:03 pm
คือ ไปวัดทำบุญทีไร จะต้องเห็นตู้ เซียมซี และ คนเขย่า เซียมซี ทุกครั้ง จึงเห็นว่าเป็นประเพณีที่เราชาวพุทธต้องทำกันด้วยหรือไม่ครับ กับการเสี่ยงเซียมซี


ขอบคุณภาพจาก http://www.bloggang.com/data/abird/
68  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: มุมอับแสง เมื่อ: มิถุนายน 04, 2011, 12:59:20 pm
อ้างถึง
แต่ว่าไปเป็นอะไรกับ คุณ kobyamkala หรือป่าว ไอพี เดียวกันเลย

ก็น่าจะใช่ครับ เพราะเน็ตแฟลตเดียวกัน ทั้งทีมที่มาสมัครก็เกือบ 30 คนแล้วครับ
แต่ไม่ใช่ว่าจะมาเชียร์ กันนะครับ พูดไปตามความจริงครับ

 :49:
69  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: มุมอับแสง เมื่อ: มิถุนายน 04, 2011, 12:39:08 pm
เห็นด้วยครับ

   คุณฆ่าเขา เขาฆ่าเรา สลับหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป อย่างนี้อันเรืยกว่า วัฏจักรของโลก
   แต่ถ้าเราจะหยุด อีกฝ่ายยังไม่หยุด หรือ ทำให้หยุดได้ทั้งสองฝ่าย อันนี้คือ ศาสนา
   
   ความเป็นจริง และ จริง ของจริง
   คือ เราไม่สามารถ ที่จะบังคับให้คนไม่มาเบียดเบียน เราได้จริง ( อันนี้คือข้อบกพร่องของคำถาม ที่ไม่กล่าวถึง )
      แต่ เราสามารถบังคับตัวเรา ให้ไม่ไปเบียดเบียนคนอื่นได้ ( เห้นด้วยกับ คุณ kobyamkala )

    ดังนั้น คน ที่ไม่ฆ่า ก็มีอยู่ คนที่ ฆ่า ก็มี อยู่

           สัตว์ ที่กินเนื้อและฆ่า ก็มีอยู่ และ สัตว์ ที่ไม่กินเนื้อ และ ฆ่า ก็มีอยู่ 
           
        (   อันนี้คือความจริงที่ คุณ waterman นำเสนอไว้ และ เป็นความจริงที่คุณนิรปัญญาพยายามจะไม่กล่าว เพื่อให้เกิดประเด็นตามความคิด )

        กฏแห่งกรรม ยอมรับ หรือ ไม่ยอมรับ ก็ไม่ได้ทำให้เราออกจากวัฏจักร ครับ
        ถึงคุณจะรู้ว่า วันนี้เขามาฆ่าคุณ เ้พราะ คุณไปฆ่าเขา รู้อย่างนี้ก็ยังไม่ทำให้คุณพ้นจากวัฏจักรนี้ไปได้

        พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสสอนให้ พุทธบริษัท ออกจากวังวนนี้ไปได้ครับ
   
        ดังนั้นถึงคุณจะกินเจ 20 ปี 30 ปี 40 ปี 50 ปี 60 ปี ตลอดชีวิต ที่เรียกว่า ศีล แต่ถ้าคุณไม่เจริญ
รอยตามองค์มรรค ก็ไม่มีทางออกจากวัฏจักรนี้ไปได้ครับ

     :bedtime2:
70  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / วิธีเลิกเล่นการพนันอย่างถาวร เมื่อ: มิถุนายน 02, 2011, 07:09:39 pm
มีคนเคยบอกว่า โจรปล้นสักกี่ครั้งยังไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว แต่ไฟไหม้สักกี่ครั้งยังไม่เท่ากับนิสัยติดการพนัน ก็คงไม่เกินความจริง ไฟไหม้อย่างไรก็ยังเหลือที่ดิน แต่ติดการพนัน จะไม่เหลือแม้แต่ที่ดิน เรียกว่า มีทองขายทอง มีบ้านขายบ้าน เป็นหนี้บัตรเครดิตแล้วไม่มีจะใช้คืน มีอะไรจำนำหมด ยืมเงินเขาไปทั่ว มีเพื่อนยืมเพื่อน มีพี่น้องก็ยืมพี่น้อง มีญาติก็ยืมญาติ ติดหนี้จนไม่มีใครอยากเข้าใกล้ แก้วแหวนเงินทอง รถยนต์ บ้าน เครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า นาฬิกา เพชร ทอง ไม่จำนำก็ขาย จำนำก็ไม่มีเงินไปไถ่จนปล่อยหลุด เรียกว่า ผันทรัพย์สินไปเป็นทุนจนหมด เพื่อความหวังอย่างเดียวว่าจะกลับมารวยหรือได้คืน  ยิ่งอยากได้คืนก็ยิ่งถลำลึกจนถอนตัวไม่ขึ้น การงานก็ตกต่ำ ผลสุดท้ายต้องออกจากงาน เพราะเจ้าหนี้จะไปตามทวงหรือเอากรมบังคับคดีมายึดเงินเดือน เสียชื่อเสียเสียงจนไม่มีใครรับเข้าทำงาน

ดังนั้นโทษของการพนันจึง ไม่ได้ด้อยกว่าการติดสุราเลยซ้ำร้ายยังหนักกว่าเสียอีกบางคนบอกว่าเดี๋ยวหมด ตัวก็เลิกเอง มันก็ไม่เลิกเพียงแต่จะเล่นตามเงินที่มี หรือหาได้หรือยืมได้ ในทางธรรมแล้วการติดการพนัน ไม่ใช่พึ่งจะเกิดชาตินี้ เคยเกิดมาเช่นนี้ ชาติแล้วชาติเล่าวนอยู่อย่างนี้ เคยทำมาค้าขึ้นมีเงินมีทอง แล้วก็หลงติดพนันจนหมดตัว การค้าเจ๊งล่มสลาย เป็นเช่นนี้ ครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วก็ไม่ใช่ชาติสองชาติด้วยอาจเป็นสิบๆร้อย นับไม่ถ้วน

ดังนั้นจะเห็นว่าคนที่ติดการพนันจะมีความคุ้นเคย พอเล่นปั๊บไม่นานก็ติดเพราะว่าจิตมีความคุ้นเคยกับการสนุกสนานเพลิน กับการเล่น ได้บ้างเสียบ้าง นานๆไปก็หมด หมด แล้วก็หมด ดังนั้นการจะทำให้คนนั้นเลิกได้ ต้องขุดรากถอนโคนเลย แต่ต้องอาศัยจุดเริ่มก่อนก็คือ เห็นโทษ แล้วอยากจะเลิก มีนักพนันจำนวนมากที่อยากจะเลิกแต่เลิกไม่ได้ เรายังไม่พูดถึงคนที่ไม่อยากจะเลิกเลยก็ต้องปล่อยเขาไป เอาคนที่อยากจะเลิกแต่เลิกไม่ได้ อย่างน้อยคนพวกนี้ มีความคิดว่าการพนันทำให้ตัวเองลำบาก ครอบครัว ญาติพี่น้องลำบาก อยากจะเลิกแต่ยังเลิกไม่ได้  ขอแนะนำให้ทำดังนี้

1.บวชพระหรือบวชชีเลย ก็เป็นวิธีที่ได้ผลชงัดทันที แต่ก็อีกนั่นแหละ บางครั้งก็ยังแอบเล่นหวยก็ยังมีให้เห็นทั่วไป หรือว่าสึกมาแล้วก็ยังหันกลับมาเล่นอีก
2.การที่เราอยากจะเล่นเริ่มมาจากกิเลศด้านในใจก็คือความโลภนั่นเอง ความโลภจะเป็นตัวกระตุ้นให้เราอยากได้เงินมากๆเร็วๆ โดยไม่ต้องไปเหนื่อยยาก แทงแป็บเดียวเดื๋ยวก็ได้เงินมา ดังนั้นการแก้ที่จิตมีความโลภคงไม่พ้น การเจริญสติ การฝึกจิต ให้ญาติ หรือพี่น้องพาคนที่เล่นการพนันนี้ ไปอบรมวิธีการเจริญสติวิปัสสนากรรมฐาน ประเภทที่มีการอบรมกันอย่างจริงจังที่ไปกินนอนที่วัดอย่างน้อยก็ สามถึงเจ็ดวันติดต่อกัน ได้ยิ่งดี หรือไปเช้าเย็นกลับก็ได้ พอเข้าใจเรื่องการเจริญกรรมฐานแล้วจึงให้มาทำต่อที่บ้าน ทุกวันก่อนเข้านอนหรือช่วงเช้า ส่วนใครที่มีพื้นฐานอยู่แล้วก็เริ่มทำต่อไปได้เลย

แต่ยังนะยังไม่ สามารถเลิกได้ถาวร พวกนี้ถ้ามีโอกาสก็จะกลับไปอีก เพราะว่ายังมีเจ้ากรรมนายเวรอีกเยอะที่จะมาดลใจให้ไห้เล่นอีก เพราะการเล่นมีได้มีเสียบางครั้งเราได้เขามาก็ก่อเวรไม่รู้จักจบ เช่นเราถูกหวย หรือเล่นบ่อนการพนัน หรือแทงบอลได้มา หรือเล่นม้าได้มา เรารู้มั้ยว่าเราได้เงินจากผู้ที่เสียจำนวนไม่รู้กี่คนแต่ละคนก็อยากได้คืน เขาเหล่านั้นก็จะเป็นนายเวรของเรา พอเราเสีย เราก็เป็นนายเวรเขา ได้ๆเสียๆไม่รู้กี่รอบ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้กี่ครั้ง กี่หน กี่ชาติกี่คนวนเวียน อยู่อย่างนี้ เข้าตำรา ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้เสียอยากได้คืนก็พยาบาท พอเรามีเงินหน่อยพวกนี้ก็จะมาคอยดลใจให้เราเกิดความโลภอยากได้มากอีกเพื่อจะ เล่นจนเสียเพื่อให้ไปเสวยกรรมชดใช้ให้แก่ผู้ที่ได้จากเขามา วงจรพวกนี้จึงวนเวียนไม่รู้จักจบจักสิ้น ทำให้คนติดการพนันจึงเลิกยากเพราะเจ้ากรรมนายเวรมีมากมายที่จะคอยจ้องจะให้ เราชดใช้ให้แก่เขา ดังนั้นการจะเลิกได้ถาวรจึงต้องมีการอุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมเหล่านั้น อีกมากมาย โดยการกล่าวอุทิศดังนี้

ข้าพเจ้าขออำนาจคุณพระพุทธพระ ธรรมพระสงฆ์ช่วยดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าที่ทำมาในอดีตชาติทุกภพทุกชาติมา จนถึงชาติปัจจุบัน เพื่ออุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าที่มาทำให้ข้าพเจ้าต้องติดการ พนัน ข้าพเจ้าสำนึกผิดแล้ว ขอให้ท่านโปรดรับบุญนี้และอโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้าด้วยเทอญ

                ให้กล่าวอุทิศบ่อยๆ เท่าที่มีเวลาว่าง ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนจิตคุ้นเคยกับการอุทิศผลบุญ ทำบ่อยๆเรื่อยๆ จนจิตเริ่มสงบ สติจะดีขึ้นตามลำดับ แต่อย่าพึ่งวางใจ กิเลศจะมาหลายรูปแบบที่จะทำให้เรากลับไปเล่นอีก การอุทิศบุญบ่อยๆ ให้เผื่อแผ่ กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายไปเรื่อยๆ จิตที่มีแต่ให้ ให้ ให้ มันจะต่างกับจิตที่อยาก อยากและก็อยาก มันเสมือนเราสร้างความดี จากการเจริญภาวนาในปัจจุบันกาล ติดต่อกันเรื่อยๆ อำนาจบุญจึงมีสูง จิตจะเริ่มคุ้น และเริ่มสงบได้ จิตจะได้พักจากการคิดอยากจะได้ อยากจะรวย  ปรับสภาพจิตให้คุ้นเคยกับการภาวนาอุทิศ อุทิศและก็อุทิศ ให้ตลอด จิตจะค่อยดีตามลำดับ

เมื่อสติเริ่มมา คนเราจะเริ่มคิดได้เอง ว่าทำไมเราถึงหลงผิดไปได้ ไม่ได้ใครร่ำรวยจากการพนันได้เลย ถ้าเรายังเล่นอยู่ก็จะประสบกับความทุกข์อยู่เรื่อยไปลูกเมียครอบครัวต้องมา เดือดร้อนเพราะเรา เงินที่ได้จากการพนันก็เป็นเงินที่ก่อเวรก่อกรรมย่อมเป็นเงินร้อนได้มาก็ ต้องเสียไปในที่สุด สู้การทำมาหากินตามปกติไม่ได้ค่อยเก็บหอมรอมริบก็มีเงินได้เช่นเดียวกัน ความ สุขอื่นใดเท่าความสงบไม่มี ถ้าใครทำได้ ก็ขออนุโมทนาด้วยนะ ส่วนใครที่มีวิธีที่ดีกว่าช่วยชี้แนะเพิ่มเติมหรือมีประสบการณ์การเลิกเล่น ได้ขอช่วยแนะเพิ่มเติมเพื่อเป็นบุญแก่ผู้ที่ต้องการจะเลิกเล่นการพนันให้ เด็ดขาดถาวร ขออนุโมทนาทุกท่านที่สละเวลาในการอ่านหรือช่วยแนะเพิ่มเติมด้วยเทอญ


โดย Mr.Millionaire
http://www.zone-it.com/191528
71  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / วาทะเตือนใจ ตามประสาคนเพ้อ ( fwd ) เมื่อ: มิถุนายน 02, 2011, 07:06:59 pm

ขอบคุณภาพจาก http://www.sanookholiday.com

รู้จักสงบนิ่งบ้าง....

แล้วจะเห็น..ความเคลื่อนไหว...ภายในใจ

 

อย่าใส่ใจ...กับคำพูด...ที่ไร้สาระ

ของคนที่พูดอะไรโดยไม่คิด..แบบโง่ ๆ..

 

มีปากเอาไว้กินข้าว..

ดีกว่าพูด..กล่าวร้าย..นินทาผู้อื่น..

ทำให้เราเจ็บปวดหัวใจ...

สู้ยอมทำตนเป็นใบ้...ดีกว่า..ทำร้ายจิตใจผู้อื่น...

 

คนโง่..ก็พูดโง่ ๆ ไร้สาระ..ไม่เกิดประโยชน์...

คนฉลาด..เขาจะรู้จักเงียบ..คิดทบทวน..ก่อนพูด..

 

กวีบทเดียว...สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนเราได้ทั้งชีวิต

แต่คำพูด คำเดียว..สามารถทำให้คนเป็นอาชญากรทำผิดได้..ชั่วชีวิต

 

ไม่มีอะไรที่จะบั่นทอน..ความตั้งใจ...ได้ดี

เท่ากับ..คำพูดของคนโง่...

บัณฑิตอย่าพึงใส่ใจ..ของคำพูดชั่ว ๆ ของคนพาล

 

ไม่รู้หรือว่า...

เขาเดือนร้อน..เพราะตัวเรา..(อย่าทำเป็นอันขาด)

 

จงคิดเสมอว่า...

คนที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน...ขออย่าเป็นเรา..
72  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ท่านคิดอย่างไรกับการไหว้พระราหู คะ เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2011, 03:01:09 pm
พะหุง เว สะระณัง ยันติ ปัพพะตานิ วะนานิ จะ,
อารามะรุกขะเจต๎ยานิ มะนุสสา ภะยะตัชชิตา

มนุษย์เป็นอันมาก, เมื่อเกิดมีภัยคุกคามแล้ว ก็ถือเอาภูเขาบ้าง,
ป่าไม้บ้าง, อารามและรุกขเจดีย์บ้างเป็นสรณะ

เนตัง โข สะระณัง เขมัง, เนตัง สะระณะมุตตะมัง,
เนตัง สะระณะมาคัมมะ สัพพะ ทุกขา ปะมุจจะติ

นั่น มิใช่สรณะอันเกษมเลย, นั่นมิใช่สรณะอันสูงสุด,
เขาอาศัยสรณะนั่นแล้ว, ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้

โย จะ พุทธัญจะ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ สะระณัง คะโต,
จัตตาริ อะริยะสัจจานิ สัมมัปปัญญายะ ปัสสะติ

ส่วนผู้ใดถือเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะแล้ว,
เห็นอริยสัจคือความจริงอันประเสริฐสี่ด้วยปัญญาอันชอบ

ทุกขัง ทุกขะสะมุปปาทัง ทุกขัสสะ จะ อะติกกะมัง,
อะริยัญจัฏฐังคิกัง มัคคัง ทุกขูปะสะมะคามินัง

คือเห็นความทุกข,์ เหตุให้เกิดทุกข์, ความก้าวล่วงพ้นทุกข์เสียได้,
และหนทางมีองค์แปดอันประเสริฐเครื่องถึงความระงับทุกข์

เอตัง โข สะระณัง เขมัง เอตัง สะระณะมุตตะมัง,
เอตัง สะระณะมาคัมมะ สัพพะทุกขา ปะมุจจะติ

นั่นแหละเป็นสรณะอันเกษม, นั่นเป็นสรณะอันสูงสุด,
เขาอาศัยสรณะนั่นแล้ว, ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้

73  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ท่านคิดอย่างไรกับการไหว้พระราหู คะ เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2011, 02:58:24 pm
ศรัทธา แบบนี้ยังมีอยู่มาก วัดที่สร้างสำเร็จแบบนี้ก็มีมาก



แต่อย่างที่พระอาจารย์บอกว่า อาจจะเหมาะกับบุคคลอีกระดับหนึ่ง

 :13:
74  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / Re: สำรวจเส้นทาง ธรรมสัญจร ลพบุรี วันที่ 7 พ.ค.2554 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2011, 03:31:04 pm
สำหรับวัดเขาสนามแจงผมเคยค้นข้อมูลไปครั้งหนึ่งแล้วครับ ว่าจะเดินทางไปเก็บอารมณ์ภาวนาสักครั้ง
พอเห็นภาพที่โพสต์แล้วรู้สึก เพิ่มความอยากไป ( เป็นกิเลสมาก ) ขึ้นทันทีครับ นั่งรถตู้จากอนุสาวรีย์ ลงที่บ้านหมี่
ไม่ทราบใครพอจะอธิบาย วิธีเดินทางไปที่่วัดจากบ้านหมี่ให้ได้บ้างครับ
 :25: :c017:
75  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / Re: เส้นทาง ธรรมสัญจร ลพบุรี เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2011, 08:37:35 pm

วัดเขาสมอคอน ลพบุรี ครับ

ขอบคุณเว็บ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=roadstory&month=11-2008&date=21&group=2&gblog=10

วัดเขาสมอคอน อยู่บนเทือกเขาสมอคอน จังหวัดลพบุรี เป็นวัดเก่าแก่มาก มีหลักฐานมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา (จะสังเกตุเห็นว่ามีซากกองอิฐเก่าๆ อยู่มาก) โบราณสถานของวัดนี้ ได้แก่ มีเจดีย์ทรงลังกาย่อมุมไม้สิบสองที่ทำบัวกลุ่มรองรับองค์ระฆัง  เป็นเจดีย์แบบนิยมของสมัยอยุธยามาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่บนยอดเขาเหนือถ้ำพระนอนขึ้นไป มีโบสถ์และมณฑปที่สวยงาม

บริเวณ วัดเขาสมอคอนจะมีถ้ำต่างๆ อยู่มากมาย เช่น ถ้ำพระนอน เมื่อลงไปในถ้ำแล้วจะเห็นปล่องถ้ำทะลุถึงยอดเขา ภายในถ้ำมีพระพุทธไสยาสน์องค์หนึ่ง ยาวราว 10 เมตร ก่อด้วยอิฐขนาดใหญ่
เข้าใจว่าสร้างในสมัยอยุธยา นอกจากนั้นก็มีถ้ำพราหมณี ถ้ำชิงช้า ถ้ำน้ำ ถ้ำไฟฉาย ถ้ำไก่แจ้ ฯลฯ
76  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / Re: เส้นทาง ธรรมสัญจร ลพบุรี เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2011, 08:34:53 pm
http://clip.vcharkarn.com/clip/science/25.flv


unseen ค้างคาวบินออกจากถ้ำที่วัดตระกร้าทอง ครับ
ตามไปดูต่อนะครับ

ขอบคุณ http://clip.vcharkarn.com/scienceclip?task=show&sci_id=22
77  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / Re: เส้นทาง ธรรมสัญจร ลพบุรี เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2011, 08:31:04 pm
หลวงพ่อบุญเหลือ วัดเขาตะกร้าทอง ลพบุรี
วัดสุวรรณคีรีปิฏก (วัดเขาตะกร้า)

วัดเขาตะกร้าทอง หรือ วัดสุวรรณคีรีปิฎก เป็นวัดที่สร้างอยู่บนภูเขาใกล้กับบริเวณอ่างซับเหล็ก จังหวัดลพบุรีโดยพระสุปฏิปัณโณผู้ก่อสร้างวัดนี้ขึ้นมาคือ หลวงปู่บุญเหลือ และหลวงปู่ขาว ซึ่งในขณะนั้นได้เดินธุดงค์ผ่านมายังสถานที่แห่งนี้กล่าวกันว่า บริเวณยอดเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดนี้มีลักษณะเป็นแอ่งคล้ายกับตะกร้าเมื่อ ยามต้องแสงแดดนั้นบริเวณแอ่งนี้จะมีแสงระยิบระยับคล้ายกับทองจึงเป็นที่มา ของชื่อวัดเขาตะกร้าทองดังกล่าวหลวงปู่บุญเหลือท่านได้มรณภาพไปตั้งแต่ปี 2516 ยังเหลืออยู่แต่หลวงปู่ขาวซึ่งตอนนี้ได้ไปสร้างวัดอยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษ พวกเราเลยไม่มีโอกาสได้กราบนมัสการท่านภายในวัดจะมีถ้ำผู้ก่อกำเนิด ประดิษฐานพระพุทธรูปและรูปปั้นหลวงปู่บุญเหลือ และปู่ฤาษี ห้องถัดมา คือถ้ำมหาโชคซึ่งอยู่ในถ้ำ มีค้างคาวน้อยใหญ่อาศัยอยู่ข้างในเป็นห้องโถงประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่
สิ่งมหัศจรรย์ที่เราได้พบคือห้องโถงประดิษฐานพระพุทธรูป กับจุดที่ค้างคาวอาศัยนั้นห่างกันไม่เกินสิบก้าว แต่บริเวณที่ประดิษฐานพระพุทธรูป จะไม่มีค้างคาวมาเกาะด้านบนและไม่มีมูลค้างคาวให้เห็นเลยแม้แต่น้อย ... หลวงพี่เล่าว่าพอตกเย็นบรรดาค้างคาวน้อยใหญ่ก็จะบินออกจากถ้ำไปหากิน เห็นเป็นขบวน สวยงามมากบริเวณชั้นบนสุดจะเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อใหญ่และเจ้าแม่กวนอิม หลวงพี่บอกว่า ไม่ค่อยมีใครรู้จักวัดนี้มากนัก เนื่องจากเป็นวัดที่เน้นสายกรรมฐาน จึงมิได้ทำการประกาศออกไปแต่ถ้าหากญาติโยมสนใจอยากที่จะมาปฏิบัติธรรม ทางวัดก็ยินดีต้อนรับแม้ว่าอาจจะไม่ได้รับความสะดวกสบายมากนัก เนื่องทางวัดมีพระอยู่น้อยโดยขณะนี้มีพระจำวัดเหลืออยู่เพียง 4 รูปเท่านั้น แต่สิ่งที่ได้มาก็คือความสงบทั้งทางกายและทางใจเมื่อได้มาสัมผัสจึงคิดว่า หากมีโอกาสก็อยากให้พวกเราที่สนใจช่วยเผยแพร่วัดให้เป็นที่รู้จักกันแพร่ หลายต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.thai-tour.com/thai-tour/Central/lopburi/data/place/wat-suwon-keeree.html

ีunseen
78  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ปรึกษา เพื่อน ๆ อีกเรื่องครับ เกี่ยวกับที่ดินครับ เมื่อ: เมษายน 27, 2011, 12:37:47 pm
กำลังหาวิธีการที่นุ่มนวล อยู่เหมือนกันครับ เพราะถ้าใช้วิธีรุนแรงไป ก็จะมีปัญหากันระว่างเพื่อนบ้าน กันได้ครับ

ขอบคุณความคิดเห็นครับ โปดแนะนำข้อกฏหมายเพิ่มเติมได้หรือไม่ครับ

 :c017: :17:
79  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ถามปัญหา การตัดสินใจ ของเพื่อนสมาชิกหน่อยครับ เมื่อ: เมษายน 27, 2011, 12:36:13 pm
ขอบคุณทุกความเห็นครับ และ ก็อยากได้ความเห็นเพิ่มอีกครับ

 :c017:
80  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ปรึกษา เพื่อน ๆ อีกเรื่องครับ เกี่ยวกับที่ดินครับ เมื่อ: เมษายน 26, 2011, 08:01:45 pm
ผมปลูกบ้านมา 20 ปีแล้วครับ บ้านผมได้สร้างเป็นบ้านเดียว อยู่ในเขตเทศบาลครับ
อยู่กันมา 20 ปี ไม่มีตังค์ล้อมรั้วครับ เพราะเหลือพื้นที่รอบบ้าน ด้านละเมตรกว่า ๆ ครับ
ปรากฏชาวบ้านใกล้  ๆ ได้มาสร้างห้องน้ำติดตัวบ้านผม ซึ่งรุกที่ผมเข้ามา เมตรกว่า ๆ โดยไม่ได้บอกผม
เพราะเข้าใจว่า ไม่ใช่พื้นที่ของผม ๆ ได้ชี้แจงและให้ดูโฉนดพร้อมหลักหิน เขาก็รับทราบบอกผมว่า
บ้านเขาเดือดร้อนไม่มีพี้นที่สร้างห้องน้ำ ต้องสร้างห้องน้ำนอกบ้าน ( บ้านเขาเช้าที่ดินอยู่ครับ มีพื้นที่ 2 เท่าของบ้านผม ) และบอกว่า สร้างไปแล้วอย่าให้รื้อเลย ขอใช้ไปก่อนนะ ซึ่งผมก็สงสารเลยให้ใช้ไปก่อนผ่านไป 5 ปีตอนนี้คนที่มาเจรจากับผมได้ตายลงไป ลูกหลาน ไม่ทราบเรื่องก็เลยสร้างแบบถาวร และ ใช้สิทธิ์กันอย่างเต็มที่ในพื้นที่ของผม 6 ตารางเมตร

  อยากทราบว่า ถ้าเป็นเพื่อนสมาชิกธรรม จะทำอย่างไรดีครับ ควรไล่กันเลยดีหรือไม่ครับ
  หรือจะเมตตา ยกที่ดินให้เขาดี
  หรือว่าควรทำอย่างไรครับ เพราะผมได้ยินมาว่า ถ้าปล่อยเขาใช้ถึง 10 ปีเขามีสิทธิ์ในที่ดินตรงนั้นจริงหรือไม่ครับ ใครรู้กฏหมายส่วนนี้ แนะนำกันหน่อยครับ

  :41: :'(
หน้า: 1 [2] 3