ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พบพระนอนขนาดใหญ่ อายุ 600 ปี ถูกทิ้งร้างกลางป่ากรุงเก่า เศียรยังงดงาม  (อ่าน 1465 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


พบพระนอนขนาดใหญ่ อายุ 600 ปี ถูกทิ้งร้างกลางป่ากรุงเก่า เศียรยังงดงาม

    วันที่ 13 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบพระนอนขนาดใหญ่ถูกทิ้งร้างอยู่กลางป่า ชาวบ้านเรียกกันว่า โคกพระนอน ในเขตติดต่อ ต.คลองสวนพลู กับ ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางไปตรวจสอบ

    พบว่า การเดินทางเข้าไปเป็นไปด้วยความยากลำบาก มีน้ำท่วมขังและป่าหญ้าปกคลุมหนาแน่นต้องใช้เรือพายเข้าไป เมื่อเข้าไปถึงพบว่ามีสภาพรกร้างมีต้นหญ้าขึ้นปกคลุมองค์พระนอน
    เมื่อถางหญ้าออกพบว่าที่บริเวณปลายเท้าแตกหัก ช่วงเอวหักขาดออกจากัน ท่อนแขนหัก
    เป็นลักษณะปูนปั้น ส่วนเศียรพระนอนหักกองอยู่กับพื้น มีขนาดกว้างประมาณ 1.50 เมตร
    ยังคงความสวยสดงดงามมีสันจมูกดวงตา ส่วนปากแตกหัก ใกล้กันพบเกศพระขององค์พระนอนอยู่ในสภาพชำรุด ความยาวทั้งองค์พระนอนประมาณ 10-15 เมตร ส่วนบริเวณโดยรอบขององค์พระนอน มีฐานพระพุทธรูปเรียงรายโดยรอบ


    นายจุก ดีมาก อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านอยู่บริเวณใกล้เคียงกับโคกพระนอน เล่าให้ฟังว่า ตนเองจะเข้ามาพักอาศัยหลบแดดเวลาที่ออกมาหาปลา พบเห็นพระนอนองค์นี้ถูกทิ้งร้างมานาน ตนจะเข้ามาถากถางหญ้าที่องค์พระอยู่เป็นประจำ เป็นพระพุทธรูปที่สวยงามมากมีขนาดใหญ่กว่าพระนอนที่วัดใหญ่ชัยมงคล เพราะตนเองเคยเป็นช่างปั้นแต่งบูรณะพระนอนที่วัดใหญ่ชัยมงคล

     อยากให้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรเข้ามาบูรณะพระนอน ให้มีความสมบูรณ์เพื่อเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ และประชาชนได้เข้ามาสักการะบูชา เนื่องจากบริเวณโดยรอบนี้ยังมีวัดเก่าแก่อีกหลายวัด หากปล่อยทิ้งไว้กลัวว่าตัวองค์พระนอนจะพังทลายลงมาอีก เห็นแล้วรู้สึกเวทนา
     เคยมีคนเข้ามาลักลอบขุดหาของเก่าแล้วต้องรีบเอาของกลับมาคืนเนื่องจากเจออาถรรพ์ต่างๆนาๆ
     ส่วนนัยน์ตาขององค์พระนอนถูกคนควักเอาไปน่าจะทำด้วยพลอยหรือนิล


     ด้านนายเอนก สีหามาตย์ รองอธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า วัดพระนอนแห่งนี้เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินกลางทุ่งนาอยู่ทางทิศตะวันออกในกลุ่มโบราณสถานอโยธยา ซึ่งกลุ่มจะมีวัดใหญ่ชัยมงคล วัดสามปลื้ม วัดอโยธยา รวมทั้งวัดพระนอนแห่งนี้ อายุกว่า 600 ปี มีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่
     สร้างในสมัยอยุธยาตอนกลาง ช่วงพ.ศ.1900 ถึง พ.ศ.2000 ต่อเนื่องหลายสมัยอยู่ในช่วงสมเด็จพระนเรศวรกับสมเด็จพระเอกาทศรถ ยังไม่ชัดเจนว่าว่าพระองค์ใดเป็นผู้สร้าง


     ภายในวัดจะมีวิหารขนาดใหญ่ คลุมองค์พระนอนองค์ใหญ่
     ลักษณะปูนปั้น มีความยาวประมาณ 8 เมตร
     เป็นพระนอนที่มีความสวยสดงดงามองค์หนึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา
     มีลักษณะคล้ายกับพระนอนวัดธรรมิกราช จ.พระนครศรีอยุธยา พระนอนภายในวัดพระนอนจักรศรี จ.สิงห์บุรี และพระนอนในวัดขุนอินทรประมูล จ.อ่างทอง


     ปัจจุบันวัดพระนอนแห่งนี้ ซึ่งชาวบ้านจะเรียกกันว่า โคกพระนอน ถูกปล่อยให้ต้นหญ้าขึ้นรกร้างคลอบคลุมจนไม่สามารถมองเห็นได้ประกอบกับเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมาน้ำท่วมเนินพระนอน โบราณสถานหลายแห่งถูกน้ำท่วมและมีการสำรวจจนพบองค์พระนอน ซึ่งทราบว่าสำนักงานศิลปากรที่ 3 ได้ทำแผนปรับปรุงบูรณะ โดยทางกรมศิลปากร จะเร่งเข้าไปตรวจสอบเพื่อทำการบูรณะ เชื่อว่าเมื่อบูรณะเสร็จจะเห็นรูปองค์พระนอนที่สวยงามและเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่ง


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMU1qYzROalEyTUE9PQ==&subcatid=
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ