หัวข้อ: ฝากให้คุณที่ชอบปรามาส เพราะเป็นผู้ด้อยปัญญา จะได้ฉลาดขึ้น เริ่มหัวข้อโดย: Admax ที่ เมษายน 22, 2014, 06:32:02 pm ผมโพสท์กระทูนี้ด้วยมีจิตสงเคราะห์ให้เป็นทานแก่ "คนที่ชอบปรามาส" เพื่อให้คนที่ชอบปรามาสละบาปกรรมอันจะเกิดแก่ตนเอง พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูก หลาน อย่างหาประมาณมิได้ดังนี้
"การบริภาษพระภิกษุผู้ทรงศีลเป็นกรรมอันหนัก" โดย ittipol.k จากเวบขอนแก่นลิงค์ เมื่อ 21 เม.ย., 2014 20:4 (https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/t1.0-9/s403x403/1920521_221730101364448_901950380_n.jpg) "การบริภาษพระภิกษุผู้ทรงศีลเป็นกรรมอันหนัก" ผู้บุกเบิกให้เกิดพัฒนาการใหม่ๆ ในช่วงแรกมักจะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่เห็นด้วย เพราะขัดกับความคุ้นเคยเดิม แม้ในวงการพระพุทธศาสนาก็เช่นกัน พระมหาเถระผู้มีคุณูปการต่อพระพุทธศาสนาจำนวนมาก ต่างก็ประสบกับการวิพากษ์โจมตีอย่างหนักมาแล้ว เพราะคนเรา พอไม่เข้าใจก็ไม่ชอบ จึงหาเรื่องจับผิด ด่าว่า ใส่ร้ายป้ายสี อาทิ - พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ผู้เดินธุดงค์ตั้งใจปฏิบัติธรรม บุกเบิกสร้างพระป่าสายอีสาน ก็เคยถูกครหาว่าอวดอุตริมนุสสธรรม ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยเขียนวิจารณ์ว่าสอนผิดจากพระไตรปิฎก ที่บอกว่าไปสนทนาธรรมกับพระอรหันต์ที่นิพพานแล้วได้ - ครูบาศรีวิชัย ผู้นำศิษยานุศิษย์สร้างทางขึ้นพระธาตุดอยสุเทพสำเร็จในเวลาเพียง 3 เดือน และบุกเบิกเผยแผ่ธรรมะอย่างกว้างขวางในแดนล้านนา ก็เคยถูกใส่ร้ายป้ายสี จนถูกจับขังถึง 3 ครั้ง ปลดจากเจ้าอาวาส ถูกคุมตัวเข้ากรุงเทพฯ - สมเด็จพุฒาจารย์ (อาจ อาสโภ) ผู้วางรากฐานให้ มจร. เติบใหญ่เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์หลักในปัจจุบัน ส่งพระไทยไปเรียนกรรมฐานกับพระพม่า กลับมาบุกเบิกสร้างสายธรรมปฏิบัติยุบหนอพองหนอในไทย ก็เคยถูกข้อกล่าวหาจากสังฆนายกในยุคนั้นว่าปาราชิก และสมเด็จพระสังฆราชมีพระบัญชาให้สึก ถึงขนาดถูกจับสึกเปลื้องผ้าเหลืองออก ต้องนุ่งขาวห่มขาวอยู่ที่สันติบาล 4 ปี แต่สุดท้ายศาลก็พิพากษาว่าท่านไม่ผิดจึงกลับมาครองผ้าเหลืองใหม่ ก่อนมรณภาพได้เป็นถึงผู้รักษาการแทนสมเด็จพระสังฆราช - หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ผู้บุกเบิกการปฏิบัติแบบมโนมยิทธิ ก็เคยถูกกล่าวหาว่าปาราชิกเพราะอวดอุตริมนุสสธรรม อวดอ้างว่าไปสวรรค์ ไปนิพพานได้ - หลวงพ่อพุทธทาส ก็เคยถูกกล่าวหาว่าเป็นพระบ้า เพราะเทศน์ปากเปล่าโดยไม่ถือใบลาน ซึ่งคนยุคนั้นไม่คุ้น ถูกกล่าวหาว่าเป็นพระมหายาน พระนอกรีต เพราะชอบสอนเรื่องสุญญตา อิงคำสอนของท่านนาคารชุน ชอบแนวคิดแบบเซ็น แต่ท่านก็สามารถดึงปัญญาชนจำนวนมากให้หันมาสนใจศึกษาพระพุทธศาสนา - หลวงพ่อธัมมชโย ก็ถูกกล่าวหาว่าอวดอุตริมนุสสธรรม และยักยอกที่ดินวัด แต่ท่านก็สามารถชักชวนประชาชนเข้าวัดปฏิบัติธรรมทำความดีมากมาย และเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก ข้อกล่าวหาเรื่องปาราชิกก็ถูกลบล้างไป โดยมหาเถรสมาคมได้กลั่นกรองนำเสนอ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ จากคุณูปการที่ท่านมีต่อพระพุทธศาสนาและสังคมไทย - หลวงตามหาบัว ก็เคยถูกกล่าวหาอวดอุตริมนุสสธรรม อวดอ้างว่าตนเป็นพระอรหันต์แล้ว แต่พูดจาหยาบคาย จับเงินจับทองผิดพระวินัย ระดมผ้าป่าช่วยชาติซึ่งไม่ใช่กิจของสงฆ์ หวังจะขึ้นเป็นใหญ่ในวงการสงฆ์ทางลัด แต่ท่านก็สามารถสร้างศรัทธาในหมู่ชาวพุทธได้มากมาย > > น่าคิดว่า ผู้ที่เคยบริภาษด่าว่าพระมหาเถระเหล่านี้ จะต้องแบกบาปมากเพียงใด ตอนกำลังด่าว่าท่าน ทุกกรณีจะมีลักษณะคล้ายกัน คือ แต่ละคนก็คิดว่าท่านไม่ดีไม่ใช่พระแล้ว ด่าแล้วไม่บาป ได้บุญด้วย ปลุกระดมกันและกันด้วยโทสวาท (hate speech) ให้เกิดความเกลียดชังอย่างมากๆเหมือนท่านไม่ใช่คน แต่พระมหาเถระเหล่านี้ แต่ละรูปก็ได้พิสูจน์ด้วยการอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาจนตลอดชีวิตของท่าน สิ่งที่แต่ละรูปได้สร้างไว้นั้นต้องทำด้วยชีวิต ผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ใจจะทำอย่างนั้นไม่ได้ น่าคิดว่าผู้ที่ด่าว่าท่านพระอาจารย์มั่น ครูบาศรีวิชัย สมเด็จพระพุฒาจารย์(อาจ) ฯลฯ คนเหล่านี้ต้องรับกรรมหนักเพียงใด ส่วนพระที่มีเจตนาไม่สุจริตนั้น มักอยู่ได้ไม่นานก็มีเหตุให้ต้องออกไปเอง สมตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าพระธรรมวินัยนี้เหมือนทะเลที่จะซัดซากศพขึ้นฝั่งในที่สุด ดังมีตัวอย่างให้เราเห็นอยู่มากราย โดยเราไม่ต้องไปผสมโรงด่า ให้เสี่ยงต่อบาปกรรมเลย < < ตัวอย่างวิบากกรรมของผู้บริภาษพระภิกษุผู้ทรงศีล @ ในครั้งพุทธกาลที่เมืองสาวัตถีมีชาวประมงจับได้ปลาใหญ่ตัวหนึ่ง มีสีเหมือนทองคำแต่ปากเหม็นมาก จึงเอาไปถวายพระราชา พระราชารับสั่งให้นำไปเฝ้าพระพุทธเจ้า พอปลาอ้าปากเท่านั้น กลิ่นเหม็นก็คลุ้งตลบทั้งเชตวันมหาวิหาร พระราชาถามพระศาสดาว่า ทำไมปลามีสีเหมือนทองคำ แต่ปากเหม็น พระศาสดาตรัสตอบว่า ปลานี้ภพในอดีตเป็นภิกษุชื่อกปิละ มีความรู้มาก ทะนงในความรู้ของตน เที่ยวด่าบริภาษพระภิกษุที่ไม่เชื่อคำของตน น้องสาวกับแม่ก็ด่าว่าพระภิกษุตามพระกปิละเพราะคิดว่าท่านรู้มาก พระกปิละตายแล้วจึงไปเกิดในอเวจีมหานรก ไหม้ในมหานรกสิ้นพุทธันดรหนึ่ง แล้วมาเกิดเป็นปลาด้วยเศษแห่งวิบาก เนื่องจากเคยท่องบ่นคัมภีร์ สรรเสริญคุณพระพุทธเจ้า จึงได้อัตตภาพมีสีเหมือนทองคำ แต่เพราะเป็นผู้ด่าบริภาษพระภิกษุทั้งหลาย กลิ่นเหม็นจึงฟุ้งออกจากปากของเธอ จากนั้นพระพุทธเจ้าทำให้ปลาพูดได้ด้วยพุทธานุภาพ พระศาสดาตรัสถามปลาว่า__ เจ้าชื่อกปิละหรือ? ปลาตอบ__ พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ชื่อกปิละ พระศาสดาถาม__ เจ้ามาจากไหน? ปลาตอบ__ มาจากอเวจีมหานรก พระเจ้าข้า พระศาสดา __ แม่ของเจ้าไปไหน? ปลาตอบ __เกิดในนรก พระเจ้าข้า พระศาสดา __น้องสาวของเจ้า ไปไหน? ปลาตอบ __เกิดในมหานรก พระเจ้าข้า พระศาสดา__ บัดนี้เจ้าจักไปที่ไหน? ปลาชื่อกปิละกราบทูลว่า__ “จักไปสู่อเวจีมหานรกดังเดิม พระเจ้าข้า” ดังนี้แล้ว คิดถึงบาปกรรมที่ตนเคยทำ เศร้าเสียใจมากจึงเอาศีรษะฟาดเรือตายในทันทีนั่นเอง กลับไปเกิดในนรกแล้ว มหาชนเห็นเรื่องราวทั้งหมด ได้สลดใจมีขนลุกชูชันแล้ว > การบริภาษด่าว่าพระภิกษุผู้ทรงศีลเป็นกรรมหนักมาก พวกเราอย่าไปทำเด็ดขาด บางคนแค่ฟังเขาว่าต่อๆ กันมาก็หลงเชื่อ ผสมโรงด่าว่าท่านด้วยความคึกคะนอง กรรมนี้น่ากลัวนัก ยิ่งในโลกปัจจุบันที่การสื่อสารออนไลน์ เป็นไปอย่างรวดเร็วกว้างขวาง ยิ่งต้องระมัดระวัง มีสติ ไม่ไปตามแห่ทำบาปกับใคร การตัดต่อภาพใส่ร้ายป้ายสีพระภิกษุ ยิ่งผิดทั้งศีล ผิดทั้งธรรม จะหาเหตุผลมาอ้างว่าทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะคิดว่าท่านไม่ดี เหตุผลนี้เมื่อตายแล้วตกนรก จะเอาไปใช้อ้างกับยมบาลเขาก็ไม่รับฟังเลย แนวปฏิบัติที่ถูกต้องคือ เราอย่าไปบริภาษด่าว่าพระภิกษุสงฆ์ เพราะเรายังรู้จักท่านไม่จริง แต่เอาเวลาไปประพฤติปฏิบัติธรรม กับพระภิกษุรูปใดก็ได้ที่เราถูกอัธยาศัย มีความศรัทธาเลื่อมใสในตัวท่านดีกว่า ทำอย่างนี้เราจะไม่มีวิบากกรรม จะมีแต่ความสุขความเจริญตลอดไป ทั้งภพนี้และภพหน้า < ที่มา https://www.facebook.com/BuddhaSamakkee?hc_location=timeline (https://www.facebook.com/BuddhaSamakkee?hc_location=timeline) หัวข้อ: Re: ฝากให้คุณมดตะนอยผู้ด้อยปัญญา จะได้ฉลาดขึ้น เริ่มหัวข้อโดย: fasai ที่ เมษายน 22, 2014, 06:53:18 pm ในสายกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ
เรียกว่า การปรามาส ผลของการปรามาส เคยคุยกันไปครั้งหนึ่งแล้ว รู้สึกว่า ก็จะเริ่มด้วยคุณ modtanoy นี่แหละ นานแล้ว :s_good: :34: :bedtime2: หัวข้อ: Re: ฝากให้คุณมดตะนอยผู้ด้อยปัญญา จะได้ฉลาดขึ้น เริ่มหัวข้อโดย: komol ที่ เมษายน 23, 2014, 05:35:43 am :49:
ดีนะครับ ที่มี สหธรรม กัลยาณมิตร คอยชี้ช่อง ตักเตือนซึ่งกันและกัน :014: :014: :014: หัวข้อ: Re: ฝากให้คุณมดตะนอยผู้ด้อยปัญญา จะได้ฉลาดขึ้น เริ่มหัวข้อโดย: rainmain ที่ เมษายน 23, 2014, 09:35:37 am st11 st12 thk56
พลั้งปากปรามาสแล้วขอขมา ยังไม่พ้นกรรม http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7284.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7284.0) ปรามาสภิกษุ กรรมที่ต้องระมัดระวัง http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1666.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1666.0) เพื่อนฟุ้งซ่าน หมิ่นครูอาจารย์ ควรทำอย่างไรดีคะ http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5945.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5945.0) ความหายนะ ของผู้ ปรามาสพระรัตนตรัย http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5396.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5396.0) ผู้ใดกล่าวตู่ใส่ร้ายพระรัตนตรัยมีโทษ ๑๐ ประการ จากพระไตรปิฏก http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=204.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=204.0) พระสนธยา ธัมมะวังโส มีอะไร ดี ในการนำทางธรรม กรรมฐาน อยากรู้ และตรง ๆ กับ เรื่องนี้ http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=10234.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=10234.0) หัวข้อ: Re: ฝากให้คุณมดตะนอยผู้ด้อยปัญญา จะได้ฉลาดขึ้น เริ่มหัวข้อโดย: Dotahon ที่ เมษายน 23, 2014, 12:39:25 pm :49: :c017:
หัวข้อ: Re: ฝากให้คุณมดตะนอยผู้ด้อยปัญญา จะได้ฉลาดขึ้น เริ่มหัวข้อโดย: sakol ที่ เมษายน 23, 2014, 04:05:41 pm ไม่น่าออก ชื่อ นะ ครับ เพราะดูเหมือนเจาะจง
:s_hi: :49: หัวข้อ: Re: ฝากให้คุณมดตะนอยผู้ด้อยปัญญา จะได้ฉลาดขึ้น เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 23, 2014, 09:42:23 pm (http://www.bloggang.com/data/t/travelaround/picture/1247495805.jpg) พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๖ อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต พยสนสูตร [๘๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายกล่าวโทษพระอริยะ ภิกษุนั้นจะไม่พึงถึงความฉิบหาย ๑๐ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่งข้อนี้มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส ความฉิบหาย ๑๐ อย่างเป็นไฉน คือ ภิกษุนั้นไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ ๑ เสื่อมจากธรรมที่บรรลุแล้ว ๑ สัทธรรมของภิกษุนั้นย่อมไม่ผ่องแผ้ว ๑ เป็นผู้เข้าใจว่าตนได้บรรลุในสัทธรรมทั้งหลาย ๑ เป็นผู้ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ ๑ ต้องอาบัติเศร้าหมองอย่างใดอย่างหนึ่ง ๑ ย่อมถูกโรคอย่างหนัก ๑ ถึงความเป็นบ้า มีจิตฟุ้งซ่าน ๑ เป็นผู้หลงใหลกระทำกาละ ๑ เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย กล่าวโทษพระอริยะ ภิกษุนั้นจะไม่พึงถึงความฉิบหาย ๑๐ อย่างนี้ อย่างใดอย่างหนึ่ง ข้อนี้มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส ฯ จบสูตรที่ ๘ อ้างอิง เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔ บรรทัดที่ ๓๙๐๔ - ๓๙๑๕. หน้าที่ ๑๖๘ - ๑๖๙. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=24&A=3904&Z=3915&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=24&A=3904&Z=3915&pagebreak=0) ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=24&i=88 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=24&i=88) ขอบคุณภาพจาก http://www.bloggang.com/ (http://www.bloggang.com/) หัวข้อ: สำหรับท่านที่ชอบ ปรามาส ครูอาจารย์ ควรอ่าน เริ่มหัวข้อโดย: komol ที่ เมษายน 24, 2014, 05:19:42 am :25: :25: :25:
หัวข้อ: สมควรจะอ่าน นะคะ สำหรับท่านที่ชอบใช้วาจา ทุภาษิต เริ่มหัวข้อโดย: fasai ที่ เมษายน 24, 2014, 08:03:26 am :25: :25: :25:
หัวข้อ: สติมา ปัญญาเกิด เริ่มหัวข้อโดย: KIDSADA ที่ เมษายน 24, 2014, 09:42:36 am :s_good: :s_good: :s_good:
หัวข้อ: Re: ฝากให้คุณที่ชอบปรามาส เพราะเป็นผู้ด้อยปัญญา จะได้ฉลาดขึ้น เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ เมษายน 27, 2014, 12:58:15 pm การผูกเวร เป็นสิ่งที่ไม่ดี ย่อมเป็นอุปสรรค ต่อการบรรลุธรรม
ดังนั้นขอให้ท่านทั้งหลาย จงแนะนำธรรม เพื่อธรรม ไม่ใช่เพื่อใคร จงใช้ธรรมะ เพื่อ สันติสุข แห่งโลก และ ประโยชน์ แห่งการไม่กลับมาเกิด อีกต่อไป เจริญธรรม / เจริญพร หัวข้อ: Re: ฝากให้คุณที่ชอบปรามาส เพราะเป็นผู้ด้อยปัญญา จะได้ฉลาดขึ้น เริ่มหัวข้อโดย: ปัญญสโก ภิกขุ ที่ เมษายน 27, 2014, 01:58:27 pm :25: :25: :25: st12
หัวข้อ: Re: ฝากให้คุณที่ชอบปรามาส เพราะเป็นผู้ด้อยปัญญา จะได้ฉลาดขึ้น เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 15, 2015, 08:52:54 am ทุติยโกกาลิกสูตรที่ ๑๐ [๖๐๕] พระผู้มีพระภาคผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า "ชนพาลเมื่อกล่าวคำเป็นทุพภาษิตชื่อว่า ย่อมตัดตนด้วยศัสตราใด ก็ศัสตรานั้นย่อมเกิดในปากของบุรุษผู้เกิดแล้ว" "ผู้ใดสรรเสริญผู้ที่ควรถูกติ หรือติผู้ที่ควรได้รับความสรรเสริญผู้นั้นชื่อว่า สั่งสมโทษด้วยปาก เพราะโทษนั้น เขาย่อมไม่ประสบความสุข" "ความปราชัยด้วยทรัพย์ในเพราะการพนันทั้งหลาย พร้อมด้วยสิ่งของๆ ตนทั้งหมดก็ดี พร้อมด้วยตนก็ดี ก็เป็นโทษเพียงเล็กน้อยๆ ฯ บุคคลใดทำใจให้ประทุษร้ายในท่านผู้ปฏิบัติดีทั้งหลาย ความประทุษร้ายแห่งใจของบุคคลนั้นเป็นโทษใหญ่กว่า" "บุคคลตั้งวาจาและใจอันลามกไว้ เป็นผู้มักติเตียนพระอริยเจ้าย่อมเข้าถึงนรก ซึ่งมีปริมาณแห่งอายุถึงแสนสามสิบหกนิรัพพุทกับห้าอัพพุทะ" ที่มา http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=15&A=4844&Z=4945 (http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=15&A=4844&Z=4945) หัวข้อ: Re: ฝากให้คุณที่ชอบปรามาส เพราะเป็นผู้ด้อยปัญญา จะได้ฉลาดขึ้น เริ่มหัวข้อโดย: rynwaike ที่ สิงหาคม 16, 2015, 05:38:38 am อนิจจา
|