ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ภุมมะเทวดา รุกขเทวดา เป็นเทวดา อยู่ในเมืองมนุษย์ ใช่หรือไม่คะ  (อ่าน 10458 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ask1

 ภุมมะเทวดา รุกขเทวดา เป็นเทวดา อยู่ในเมืองมนุษย์ ใช่หรือไม่คะ
กล่าวว่า ภุมมะเทวดา รุกชเทวดา อยู่อาศัยในพระพุทธรูป จริง ๆ ใช่หรือไม่คะ


 thk56

 
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




  เทวดาชั้นจาตุมหาราชิกานี้ มีอยู่ตั้งแต่กลางเขาสิเนรุจนกระทั่งถึงพื้นดินที่มนุษย์อยู่ มีชื่อเรียกตามที่อยู่ที่อาศัย ดังนี้
     ๑. อยู่บนพื้นดิน  เรียกว่า  ภุมมัฏฐะเทวดา
     ๒. อยู่บนต้นไม้  เรียกว่า  รุกขะเทวดา
     ๓. อยู่ในอากาศ (มีวิมานอยู่)  เรียกว่า  อากาสัฏฐะเทวดา

           
    ๑. ภุมมัฏฐเทวดา
     ได้แก่ เทวดาที่อาศัยอยู่ตามสถานที่ต่างๆ เช่น ภูเขา แม่น้ำ มหาสมุทร ใต้พื้นดิน ตามบ้านเรือน ซุ้มประตู เจดีย์ ศาลา เป็นต้น ท้าวมหาราชทั้ง ๔ จะอยู่ตอนกลางรอบเขาสิเนรุ มีปราสาทเป็นวิมานของตนเอง สำหรับ เทวดาอื่นที่ไม่มีวิมาน ก็ต้องไปอาศัยอยู่ตามสถานที่ดังกล่าวข้างต้น โดยถือเอาสถานที่นั้นเป็นวิมานของตน


     ๒. รุกขเทวดา
     ได้แก่ เทวดาที่อาศัยอยู่ตามต้นไม้ มีอยู่ ๒ จำพวก คือ พวกที่มีวิมานอยู่บนต้นไม้ กับพวกที่ไม่มีวิมาน รุกขเทวดาที่มีวิมานนั้น จะเอา วิมานตั้งอยู่บนยอดไม้ ส่วนเทวดาที่ไม่มีวิมานของตนเอง ก็จะอาศัยอยู่บนคบไม้ หรือ กิ่งก้านของต้นไม้


      ๓. อากาสัฏฐเทวดา
      ได้แก่ เทวดาที่มีวิมานของตนเองในอากาศ ตั้งอยู่ในอากาศ ภายใน และภายนอกของวิมาน จะประกอบด้วยรัตนะ ๗ อย่าง ซึ่งเกิดขึ้นด้วยอำนาจ ของกุศลกรรม คือ แก้วมรกต แก้วมุกดา แก้วประพาฬ แก้วมณี แก้ว เชียร เงิน และทอง บางวิมานก็มี ๒ รัตนะ บางวิมานก็มี ๓, ๔, ๕, ๖ รัตนะ ขึ้นอยู่กับบุญกุศลที่ตนได้สร้างไว้ วิมานเหล่านี้ จะลอยหมุนเวียนไปในอากาศรอบ ๆ เขาสิเนรุ 


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://buddhism-online.org/Section06B_04.htm
http://www.bloggang.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


พระพุทธรูปทุกองค์จะมีเทวดารักษาอยู่ประจำ

ถาม : พระพุทธรูปแต่ละองค์นี่ พระพุทธเจ้าแต่ละองค์ท่านคุมอยู่หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ไม่ พระพุทธรูปนี่จะมีเทวดารักษา แล้วเทวดาแต่ละองค์อานุภาพท่านไม่เท่ากัน องค์ไหนที่บารมีมากก็สามารถสงเคราห์คนได้มาก คนก็จะนับถือมาก อย่างบ้านเราเมืองเราพระพุทธรูปมีเป็นแสนเป็นล้านแล้วทำไมมีที่ชาวบ้านเขาเลื่อมใสจริงๆ อยู่นับองค์ได้

ถาม : แล้วก็ต้องพุทธาภิเษกก่อนซิครับ ?
ตอบ : ถึงไม่พุทธาภิเษก เทวดาท่านก็รักษาอยู่แล้ว ถ้าเป็นพระพุทธรูป แต่ว่าการพุทธาภิเษกจะเป็นลักษณะว่า จับตัววางตาย ว่าองค์ไหนมีหน้าที่รักษา เพราะว่าถึงเวลาพุทธาภิเษกพระท่านมาก็จะให้ ท้าวสหัมบดีพรหม กับพระอินทร์รับผิดชอบว่าจะจัดเทวดาองค์ไหนรักษา แต่ถ้าหากว่าท้าวสหัมบดีหรหมหรือพระอินทร์ท่านมาเองท่านก็จัดการเอง

ถาม : แล้วของที่อยู่ในพิธีด้วยเหรอครับ ?
ตอบ : เหมือนกัน ลักษณะเดียวกัน ถึงเวลาแล้วก็จะมีการเจาะจงว่าคุณรักษาชิ้นนี้ ของคุณรักษาชิ้นนี้ ไม่ต้องห่วงหรอกต่อให้ทำมา ๑๐ ล้านชิ้นเทวดายังได้ไม่ถึงครึ่งชั้นเลย

ถาม : แล้วพระพุทธรูปนี่มีทุกองค์เลยเหรอคะ เทวดาน่ะ ?
ตอบ : ถ้าเป็นพระพุทธรูปเทดวาเขารักษาอยู่แล้ว ถ้าหากว่าเป็นพวกพระเครื่องพวกอะไรติดตัวนี่ต้องทำพิธีต่างหาก เพราะว่าพระพุทธรูปถ้าหากว่าบูชาไว้อยู่กับบ้าน อานุภาพของการคุ้มครองปกปักรักษาจะอยู่เฉพาะแค่นั้น แต่ถ้าหากว่าเรื่องของพระเครื่องติดตัวนี่จะเป็นการตัดเคราะห์กรรมให้ด้วย เพราะจากเคราะห์หนักก็จะเป็นเบา จากเคราะห์เบา ก็จะหายมันต้องมีพิธีกรรมต่างหากออกไป

ถาม : ถ้าหากว่ามีเทวดารักษาแล้วทำไมผมถึงโดนตัด.....(ไม่ชัด)....ล่ะครับ ?
ตอบ : เทวดาเขามีหน้าที่รักษาพระนี่หว่า ไม่ได้มีหน้าที่ห้ามไม่ให้คนตัด คือถ้าหากว่ามันไม่เกินวิสัยจริงๆ ท่านก็จะช่วย

ถาม : ที่จริงก็น่าจะสงเคราะห์นะครับ ?
ตอบ : ก็ขอไม่ถูกนี่ ขอไม่ถูกจะไปให้ทำไมเล่า

ถาม : แต่ว่าคนเขาเดือดร้อนอยู่ไม่ใช่เหรอครับ ?
ตอบ : การสงเคราะห์มันก็มีการจำกัดเขตเหมือนกัน อย่างเช่นว่าถ้าหากว่าบุคคลที่มีบารมีอยู่ มีการหนุนเสริมกันอะไรกัน ก็พอจะช่วยลดกระแสกรรมของเขา เพิ่มความสุขของเขาได้ คราวนี้บุคคลที่ประกอบไปด้วยบารมีอย่างหลวงพ่ออกไปจากสถานที่นั้นซะแล้ว ก็เป็นอันว่าเลิกช่วย



ถาม : งั้นหมายถึงว่าในการที่เราขอบารมีพระท่านช่วยสงเคราะห์ นี่จริงๆ แล้วบุคคลที่ขอต้องมี...?
ตอบ : ต้องมีทุนเดิมอยู่พอดี เพราะว่าอย่างนี้เปรียบเทียบให้ฟังเมื่อครู่นี้ว่า ถ้าหากว่ามีน้ำอยู่แค่นี้ช่วยไม่ไหวแล้ว แต่ถ้าขาดอยู่แค่นี้เติมนิดเดียวเต็มพอก็ช่วยสงเคราะห์กันได้

เป็นพระเป็นเจ้ามันลำบากลูก ไม่ใช่รับของอะไรส่งเดชไปอย่างเดียวมันต้องให้แน่นอนก่อน บางคนเขาเอาของไปทิ้งไว้ในกุฏิมันก็กองอยู่ตรงนั้นแหละ เพราะว่าเขาไม่ได้บอกว่าให้ ต้องมาไล่หาว่าคนไหนเป็นเจ้าของ แล้วไปถามเขาว่าเอามากองไว้ทำไม มันไปหยิบของเขาส่งเดชก็ไม่ได้ถ้าเกิดเขาไม่ได้ให้ เราตั้งใจเอาก็ซวยเลยน่ะซิ

ถาม : วิสาสะก็ไม่ได้เหรอครับ ?
ตอบ : เขามีไว้ว่า
        ๑. ต้องรู้จักกันมา
        ๒. เคยเห็นกันมา
        ๓. เคยพูดกันมา
        ๔. หนักหน่อย รู้ว่าถ้าเราเอาแล้วเขาไม่ว่าอะไร ข้อสุดท้ายนี่แหละที่จะพาเราขาดความเป็นพระหรือเปล่า ? แต่ว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงไม่ให้วิสาสะ ท่านบอกทำอย่างนั้นเลวเกินไปโอกาสพลาดมันมี ไปวิสาสะเอาของที่เขาไม่เต็มใจให้ก็เรียบร้อยแล้ว ขาดความเป็นพระไปเลย


ถาม : แต่ถ้าเราอนุญาตให้แล้วแต่ว่าจะเอาอันไหนยังไงนี่ได้ใช่มั้ยคะ ?
ตอบ : ได้จ้ะได้ แต่ยังไงก็ควรจะให้บอกกันต้องดูตัวอย่างสมเด็จพระวันรัตน์วัดเทพศิรินทร์ สมัยท่านเป็นเจ้าคุณพระศาสนโสภณ มารับสังฆทานแต่ละที พอโยมประเคนเสร็จให้แน่นะ ? (หัวเราะ) แน่เจ้าค่ะ ไม่เอาคืนนะ ? ไม่ล่ะเจ้าค่ะ ให้แล้วจริงๆ ใช่มั้ย ? ใช่เจ้าค่ะ เออ....แล้วค่อยเอา ท่านต้องย้ำแล้วย้ำอีกเพื่อความมั่นใจ เพราะถ้าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ ท่านพร้อมที่จะคืนนั่นแหละ น่ารักมากเลยองค์นั้นน่ะ แต่ว่าใครไปอยู่ใกล้ชิดอะไรเอาให้ดีๆ นะ ถ้าคิดผิดจังหวะนี่ท่านใส่หงายท้องเลย คิดอะไรรู้หมดท่านรู้จริงนะองค์นั้นน่ะ ตอนนี้อายุมากแล้วไม่ค่อยสบายอยู่เรื่อย

ในจำนวนพระสมเด็จพระราชาคณะที่เป็นธรรมยุติ สมัยก่อนก็จะสนิทสนมกับหลวงพ่อสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชผาติการาม เคยอยู่ใกล้รับใช้ท่านบ้าง แล้วก็มาสนิทกับท่านเจ้าคุณพระศาสนโสภณ ตอนนี้ขึ้นเป็นสมเด็จพระวันรัตน์ บางทีก็บอกกับคนบอกว่า สมเด็จ ๘ องค์ ถ้าเว้นสมเด็จพระสังฆราชนี่นิมนต์ได้ ๕ องค์ คนเขายังงงๆ ว่าสมเด็จจะมีฝ่ายละ ๔ องค์ เราเป็นมหานิกายน่าจะนิมนต์ได้เฉพาะพระมหานิกายใช่มั้ย ? แต่เปล่าหรอกอาศัยความสนิทสนมส่วนตัวนี่นิมนต์ได้ ๕ องค์ คือเกินไปอีก ๑ คือที่สนิทชิดเชื้อกับท่านนี่ท่านเป็นธรรมยุติ


สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนมีนาคม ๒๕๔๕
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
board.palungjit.com/f61/พระพุทธรูปทุกองค์จะมีเทวดารักษาอยู่ประจำ-145140.html
http://www.oknation.net/ , http://www.dhammathai.org/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ask1

 ภุมมะเทวดา รุกขเทวดา เป็นเทวดา อยู่ในเมืองมนุษย์ ใช่หรือไม่คะ
กล่าวว่า ภุมมะเทวดา รุกชเทวดา อยู่อาศัยในพระพุทธรูป จริง ๆ ใช่หรือไม่คะ


 thk56

 


 ans1 ans1 ans1

  ถามว่า ภุมมะเทวดา รุกขเทวดา เป็นเทวดา อยู่ในเมืองมนุษย์ ใช่หรือไม่คะ
  ตอบว่า ใช่ครับ


  ถามว่า ภุมมะเทวดา รุกชเทวดา อยู่อาศัยในพระพุทธรูป จริง ๆ ใช่หรือไม่คะ
  ตอบว่า จริงๆแล้ว ผมไม่แน่ใจ แต่ขอเดาว่า น่าจะเป็นภุมมัฏฐเทวดามากกว่า
  เพราะรุกขเทวดาต้องอาศัยต้นไม้ แต่ภุมมัฏฐเทวดาอาศัยอยู่ตามสถานที่ต่างๆ
  เช่น ภูเขา แม่น้ำ มหาสมุทร ใต้พื้นดิน ตามบ้านเรือน ซุ้มประตู เจดีย์ ศาลา เป็นต้น
  ดังนั้น ความเป็นไปได้ก็คือ เทวดาที่สถิตย์อยู่ในพระพุทธรูปน่าจะเป็นภุมมัฏฐเทวดา


  หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี กล่าวว่า
  "หลวงพ่อพระพุทธโสธรนั้น คนกราบไหว้บูชากันมากเลยมีเทวดามารักษา ๑๖ องค์ ทำให้เกิดอภินิหารนานาประการ พระพุทธรูปสำคัญๆ ก็มีเทวดารักษาทั้งนั้นแหละ"

   :25: :25: :25:
 
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ