ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: นิพพิทาญาณ ใน วิปัสสนาญาณ มีความหมายอย่างไร?  (อ่าน 8507 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ban

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 117
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
0
ผมเองก็อยากรู้เรื่องนี้ เพราะได้ยินผู้ภาวนาพูดคำนี้บ่อยมาก
ขออนุญาต คุณ ฟ้าใส นะครับตัดหน้าก่อน
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28452
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
คุณฟ้าใสอยู่ไหนครับ....มาตอบเรื่องนิพพิทาญาณ ให้หน่อย

ผมขอรบกวนคุณฟ้าใส(fasai) มาอธิบายความหมายของ นิพพิทาญาณ ให้หน่อย
ขัดข้องประการ ช่วยแจ้งสักนิดนะครับ

บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

fasai

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 540
  • ทางสายกลาง
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: นิพพิทาญาณ ใน วิปัสสนาญาณ มีความหมายอย่างไร?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2009, 09:38:10 pm »
0
 ;D ออกตัวว่า ฟ้าใสไม่ค่อยชำนาญเรื่องพระไตรปิฏก จึงขอหยิบยกเอาตามพระอาจารย์ว่าไว้ก่อนให้อาจารย์ออกหน้า ;D

ในห้องที่ 4 ของพระอานาปานสติ ประกอบด้วย 16 รูปวัตถุ ญาณ 200
ในญาณ 200 มีส่วนของนิพพิทา อยู่ดังนี้ขอตอบในแนวปฏิบัติกรรมฐาน ห้องที่ 4

นิพพิทาญาณ 8
        นิพพิทาญาณ ๘ เป็นไฉน ญาณชื่อว่านิพพิทาญาณ เพราะอรรถว่าเป็นเครื่องให้บุคคล
ผู้พิจารณาหายใจออก โดยความเป็นของไม่เที่ยง รู้เห็นตามความเป็นจริงเพราะอรรถว่าเป็นเครื่อให้บุคคลผู้พิจารณาลมหายใจเข้า โดยความเป็นของไม่เที่ยงรู้เห็นตามความเป็นจริง ฯลฯ ญาณชื่อว่านิพพิทาญาณ เพราะอรรถว่าเป็นเครื่องให้บุคคลพิจารณาความสละคืนลมหายใจออก รู้เห็นตามความเป็นจริง เพราะอรรถว่าเป็นเครื่องให้บุคคลผู้พิจารณาความสละคืนลมหายใจเข้า รู้เห็นตามความเป็นจริงนิพพิทาญาณ ๘

นิพพิทานุโลมญาณ 8
        นิพพิทานุโลมญาณ ๘ เป็นไฉน ปัญญาในความเป็นผู้พิจารณาลมหายใจ ออกโดย
ความเป็นไม่เที่ยง ปรากฏโดยความเป็นของน่ากลัว เป็นนิพพิทานุโลมญาณ ปัญญาในความ
เป็นผู้พิจารณาลมหายใจเข้าโดยความเป็นของไม่เที่ยง ปรากฏโดยความเป็นของน่ากลัว เป็น
นิพพิทานุโลมญาณ ฯลฯ ปัญญาในความเป็นผู้พิจารณาความสละคืนลมหายใจออกปรากฏ โดยความเป็นของน่ากลัว เป็นนิพพิทานุโลมญาณ ปัญญาในความเป็นผู้พิจารณาความสละคืนลมหายใจเข้าปรากฏโดยความเป็นของน่ากลัว เป็นนิพพิทานุโลมญาณ นิพพิทานุโลมญาณ ๘

นิพพิทาปฏิปัสสัทธิญาณ 8
          นิพพิทาปฏิปัสสัทธิญาณ ๘ เป็นไฉน ปัญญาในความเป็นผู้พิจารณาลมหายใจออก
โดยความเป็นของไม่เที่ยง พิจารณาหาทางวางเฉยอยู่ เป็นนิพพิทาปฏิปัสสัทธิญาณ ปัญญาในความเป็นผู้พิจารณาลมหายใจเข้าโดยความเป็นของไม่เที่ยง พิจารณาหาทางวางเฉยอยู่ เป็นนิพพิทาปฏิปัสสัทธิญาณ ฯลฯ นิพพิทาปฏิปัสสัทธิญาณ ๘

 ;D ;D แค่นี้ก่อนนะ


บันทึกการเข้า
ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นไปตามกรรม
ใครสร้างกรรมอย่างไร ก็รับผลกรรมอย่างนั้น

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28452
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ญาณใจน้อย กับ ญาณม้วนเสื่อ เป็นอย่างไงหนอ ???
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2009, 01:57:50 pm »
0
ญาณใจน้อย กับ ญาณม้วนเสื่อ เป็นอย่างไงหนอ ???

   ขออนุญาตช่วยคุณฟ้าใสสักเล็กน้อย
   ขอนำคำเทศนาเรื่อง “ลำดับโสฬสญาณ” ของพระธรรมธีรราชมหามุนี(โชดก  ญาณสิทธิ)
มาให้อ่าน  น้อยท่านนัก ที่จะทราบว่า  ท่านเป็นพระอาจารย์สอนกรรมฐาน ให้กับสมเด็จย่า  ขอบอกก่อนว่าสำนวนโวหารที่ใช้ เป็นภาษาพูดพื้นๆ และได้ถอดเทปมาพิมพ์ 
   ตัวผมเองได้ทำการคัดลอกมาจากหนังสือ “ลำดับโสฬสญาณ”มาอีกทีหนึ่ง
   ท่านเทศน์สนุก  ขอเชิญทุกท่านหาความสำราญได้ ณ บัดนี้


ทีนี้ญาณที่ ๘ นิพพิทาญาณ ญาณนี้ไม่อยากเอาแล้วเบื่อ อาหารก็น้อย  นอนก็นอนหลับๆตื่นๆ เมื่อก่อนโน้นแต่งเนื่อแต่งตัว พอมาถึงญาณนี้เฉยๆ ปล่อยตามบุญตามกรรมเถอะ ก็แล้วแต่จิตใจ รู้สึกบอกบุญไม่รับแล้ว เคยเห็นคนที่รักก็ไม่ค่อยอยากพูดอยากจา อยากจะอยู่คนเดียวซึมๆ หน้าตาเหี่ยวแห้งบอกบุญไม่รับ

   สมเด็จพระราชชนนี  แม่ในหลวง เคยปฏิบัติกับอาตมา พอถึงญาณนี้ท่านคล้ายๆไม่อยากแต่งเนื้อแต่งตัว ใตรเห็นก็แปลกใจว่า ทำไมสมเด็จเป็นอย่างนี้ ที่จริงเป็นญาณนี้ เบื่อจริงๆ ข้าวปลาอาหารก็ทานน้อยอิ่มตื้อๆ เห็นคนที่เคยพูดเคยจาดี ก็ไม่อยากพูด อยากจะนั่งคนเดียว ใครขัดคอก็ไม่ค่อยได้  โกรธง่าย  เขาโขลกน้ำพริก แต่ก่อนอยู่ได้ พอวันนี้หนวกหู ไม่อยากฟังแล้ว พูดไม่ดี   บางทีแฟนไปเข้ากรรมฐาน  ผัวส่งข้าวเลยเวลาก็โกรธ หาว่าไม่ค่อยเอาใจใส่อะไรต่างๆ

   ญาณนี้ต้องรู้ใจกัน เขาเรียกว่า ญาณใจน้อย พอถึงญาณนี้ อาหารน้อย นอนน้อย พูดน้อย โกรธง่าย หงุดหงิด ใจคอไม่ดี เบื่อๆ  เขาเรียกนิพพิทาญาณ โกรธก็ง่าย นอนก็ไม่ค่อยหลับ แต่ก็ยังปฏิบัติอยู่นะ ทำก็ไม่ค่อยดีแต่ก็ทำ  อันนี้ไม่นาน จากญาณสี่จะมาชัดตรงนี้  อันเดิมนี่แหละ แต่ว่าแก่หรืออ่อนกว่ากันเท่านั้น อยู่ในเกณฑ์เดียวกัน ถึงได้พวกเดียวกัน แต่แก่กว่ากันนิดหน่อย  เมื่อเบื่อแล้วก็เห็นว่า  แล้วมันจะได้อะไรหนอ ประโยชน์อะไรหนอ

   ญาณที่ ๙  มุญจิตุกัมยตาญาณ  อยากออก อยากหนี อยากพ้น คัน กระวนกระวาย เกาแล้วเกาอีก อะไรก็ไม่รู้ บางทีเหมือนเอาบุ้ง ตัวหนอนตัวใหญ่ๆ เข้าไปในเสื้อเรา บางทีก็ไม่มี บางทีก็คันเหมือนหมามุ่ย เหมือนตำแย เอ้...ใครเอาหมามุ่ยเอาตำแย มาคัน เณรน้อยมักบ่นอาจารย์ว่ามีอะไร  เอามุ้งไปตากก็ยังคันอยู่ เอาสบงจีวรไปฟอกก็ยังคันอยู่ อาจารย์นั่งหัวเราะ  เณรน้อยมาถึงญาณนี้ ญาณที่ ๙ กระวนกระวายใจ

   ถึงญาณนี้แหละ ใจไม่เอาแล้ว บางคนจะม้วนเสื่อม้วนหมอนจะกลับ มีโยมคนหนึ่ง(พูดว่า) “ท่านเจ้าคุณฉันจะกลับบ้าน”    เป็นไงโยมนั่งไม่ค่อยดี มันกระวนกระวายใจ เลยนึกว่าดิฉันหมดบุญวาสนาบารมีแล้ว คงทำไม่ได้หรอก กลับไปอยู่กับลูกหลาน  โยมอันนี้ต้องบอก  นี่ถึงญาณม้วนเสื่อแล้ว จวนแล้ว  ดีแล้วนะ  นี่แหละญาณม้วนเสื่อ ญาณที่ ๙ จวนแล้ว อย่ากลับ เอาเสื่อกลับไปคลี่ปฏิบัติต่อไปอีก

   มีฝรั่งคนหนึ่งมาปฏิบัติ อาตมาไปชลบุรีคืนหนึ่งกลับมา หอบเสื่อหอบหมอนไปนอนโรงแรมเอราวัณ ระหว่างนั่งคุยกันบอกว่า คุณวันดีถึงญาณม้วนเสื่อแล้ว  ให้รับกลับมาปฏิบัติต่อ  เวลาฟังเทศน์บันทึกไว้หมด  เลยหัวเราะชอบใจ เพราะตรงกันกับของแก่

   ไปอยู่อังกฤษก็มีผู้หญิงผู้ชายคนหนึ่งปฏิบัติถึงญาณนี้ อาตมาไปอบรมที่ประเทศลอนดอน แกเปิดหนีกลับบ้าน ต้องให้เจ้าคุณโสภณตามไปสอน ได้เอาบ้านเป็นที่ปฏิบัติกรรมฐานด้วย   คนนี้ดี

   บางทีก็เกิดสงสัย เอ้จะดีหรือเปล่า  ถูกหรือไม่ถูกหนอ  จิตมันก็คิดไปเรื่อย  นี่เขาเรียกว่าอวิชชา เป็นเหตุให้สร้างสังขารนี่แหละ ปฏิจจสมุปบาทเกิดชัด  มันเกิดอย่างนี้ แต่ผู้นั้นจะไม่รู้นะ

   พอถึงญาณนี้อาจารย์บอก   ไม่เปิดหนีแล้ว  ญาณนี้ดีแล้วต้องเพียรแล้ว   พอบอกกำลังใจมันก็เกิดขึ้น  กำลังใจเกิดขึ้นมันก็นึกว่าดี   แต่ก่อนนึก  ว่าไม่ดี   อาจารย์ชอบใจถ้าเป็นอย่างนี้   แต่ลูกศิยษ์ไม่ค่อยพอใจเพราะคิดว่าไม่ดี




ขอคอมเม้นต์เป็นพิธี

   ท่านหญิงที่ต้องการลดความอ้วน   ขอให้เร่งปฏิบัติให้ถึง นิพพิทาญาณ เร็วๆนะครับ
   
        ใครที่ชอบเที่ยว  อย่าได้อ้างญาณที่ ๙ เพื่อหนีเที่ยวนะครับ

         ผมไตร่ตรองอย่างรอบครอบ แล้วสรุปเอาเอง(อีกแล้ว) ว่า

        “นักโทษที่อยู่ในคุก มีญาณม้วนเสื่อ ด้วยกันทุกคน”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 27, 2009, 02:00:03 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

lastman

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +10/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 158
  • สระบุรี มีอรอยพระพุทธบาทมากที่สุด.................
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
นิพพิทาญาณ กับ ญาณม้วนเสื่อ ( ควรอ่าน )
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2010, 05:08:14 am »
0
พึ่งจะได้มีโอกาสนั่งอ่าน วันนี้เพราะกระทู้ ที่นี่เริ่มเยอะมากขึ้น

ผมเข้ามาที กระทู้ไปเป็น 50 กระทู้แล้ว

อ่านแล้วได้คุณค่าในใจ อนุโมทนากุศล ด้วยครับ


 :25:
บันทึกการเข้า
อนันตริยกรรม ๖ พึงงดเว้น
มีเพื่อนบอกว่าคุณจะเลวอย่างไรก็ได้ แต่อย่าทำผิดศีล ๕

ทิด...คนหนึ่งที่นับถืออาจารย์