ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อะไรเป็นแก่นสาร ของการภาวนา ครับ ..... ( ไม่ใช่แค่เพียงแค่อยากรู้ )  (อ่าน 3491 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

translate

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 105
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 

อะไรเป็นแก่นสาร ของการภาวนา ครับ ..... ( ไม่ใช่แค่เพียงแค่อยากรู้ )

แต่อยากรู้ ว่าที่ท่านทั้งหลาย และ้เพื่อน ๆ ชาวธรรมมามุ่งการภาวนา หรือ สร้างกุศล ในขณะนี้ แท้ที่จริงอะไรเป็นแก่นสาร สาระที่ท่านทั้งหลาย ใช้ยึดเหนี่ยวกันในขณะนี้ ครับ

 ที่ผมถามอย่างนี้ เพราะรู้สึกว่าตนเอง กำลังไร้จุดหมาย เหมือนกับกำลังหมดไฟ ในการภาวนาครับ...

 มีวิธี ชาจ์ทพลัง ธรรมกันอย่างไร (เวลาที่จิตตกกันครับ )
บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
- รู้ทุกข์ เห็นเหตุแห่งทุกข์ที่ควรละ เห็นทางพ้นทุกข์ที่ควรทำ ถึงความดับไปหมดซึ่งความทุกข์ ตามที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนไว้ดีแล้ว // นี่คือข้อหลัก

อีก 2 ช้อช้างล่าง คือ สิ่งที่ควรทำเมื่อรู้จริงตามข้อแรกแล้ว(ส่วนมากมันเป็นหน้าที่ที่เกิดเองโดยอัตโนมัติ) มีดังนี้คือ

- ช่วยเหลือคนที่ทุกข์อยู่ให้รู้เห็นทางดับทุกข์ตาม เพื่อให้เขาออกพ้นจากทุกข์เช่นที่เราทำ (อันนี้ทำโดยไม่คิดตังค์นะครับ)

- ประกาศธรรมอันประเสริฐแห่งพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้เองโดยชอบนี้แล้วนั้น ให้ผู้อื่นได้รู้ศรัทธา ปฏบัติ รู้เห็นตามความเป็นจริง เห็นสัจธรรม เห็นทางพ้นทุกข์ ประกาศพระพุทธศาสนาให้ขจรไกล เพื่อให้คนหมู่มากได้รู้ทางแห่งการดับทุกข์นั้นขอ งพระพุทธเจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 28, 2012, 01:32:04 pm โดย Admax »
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

waterman

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 302
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คำถามนี้ ผมว่า ท่าน arlogo และ ธัมมะวังโส พยายามตอบมาหลาย ๆ ครั้งแล้วนะครับ แม้กระทู้วันนี้ก็ยังได้กล่าวเรื่องเป้าหมายของผู้ที่ปฏิบัติภาวนา เพื่อที่จะละอาสวะ


 ธรรมะสาระวันนี้ "การภาวนาฝึกฝนปฏิบัติธรรม คือ การปิดกั้นอาสวะ"
 http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7757

 

 ธรรมะสาระวันนี้ "มรรคกถา หนทางสู่ความพ้นสังสารวัฏ "
 http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7294.0
บันทึกการเข้า

saiphone

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 134
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา กับทุกท่านคะ มีเนื้อหาและคำตอบที่อ่านแล้ว รู้สึกได้ถึงแนวทาง... ที่ควรภาวนาคะ

  :c017: :c017: :c017:

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
พระธรรม นำให้ ส่วางไสว ในดวงจิต

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

  แก่นของพุทธศาสนา คือ หมดจดจากกิเลสทั้งปวง หรือ นิพพานนั่นเอง
  เป้าหมายของสาวกภูมิ คือ โสดาบันในชาตินี้ และเข้าถึงนิพพานให้เร็วที่สุด
  เป้าหมายของพุทธภูมิึ คือ สร้าังปรมัตถ์บารมี ๓๐ ทัศ ให้เต็มเร็วที่สุด

  แล้วคุณtranslate วางเป้าหมายไว้แล้วหรือยัง?
  การวางเป้าหมายต้องใช้อธิษฐานบารมี
  คุณtranslate ได้สร้างอธิษฐานบารมีแล้วหรือยัง

  จิตตกเกิดจากถูก "นิวรณ์ครอบงำ" การจะสลัดนิวรณ์ออกได้ จำเป็นต้องปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง
  เคล็ดลับมีอยู่คำเดียวครับ คือ "อดทนพากเพียร"
  หากถามว่า ทำอย่างไรจะอดทนพากเพียรได้
  ขอตอบว่า ต้องใช้อธิษฐานบารมี..ขอรับ


  วิธีการชาร์ตแบตให้ตัวเองนั้น การหาความสุขทางโลกยังจำเป็นอยู่
  ในส่วนการภาวนา คุณต้องทำความเพียรให้ได้ "ปิติ" ก่อน ปิตินั้นจะเติมพลังให้คุณได้
  ขอคุยเป็นเพื่อนเท่านี้ครับ

   :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ