ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สมเด็จโต กับฝรั่ง เมื่อถูกถามว่า แกนโลกอยู่ตรงไหน สำนวนเล่า  (อ่าน 3601 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

เฉินหลง

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 153
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
   สมเด็จโต กับฝรั่ง

(เป็นเรื่องเค้าโครงความจริง ที่เคยเกิดขึ้นจริงจากบันทึกเก่า ๆ  แต่ผมเอามาเล่าดัดแปลงสำนวนเล็กน้อย น่ะขอรับ คงไม่ว่ากัน)

    ที่ต้องวงเล็บระบุเป็นเหลี่ยมเพชร ก็เพราะว่าคำว่าเหลี่ยมคม บางสถานการณ์อาจจะไม่เหมาะกับพระภิกษุสงฆ์ แต่ในที่นี้ผมอยากจะให้เห็นว่า เหลี่ยมมุมต่าง ๆ ของเพชรนั้น ไม่อันตราย ไม่บาดเนื้อหนังใคร มีแต่จะส่องแสง แห่งสีสรร ที่สวยงาม และทรงคุณค่าในตัว

                                   ............................................................

   ครั้งหนึ่ง ฝรั่งที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยในยุคเดียวกับที่หลวงปู่โต หรือสมเด็จโต ยังมีชีวิตอยู่นั้น   ได้ข่าวว่าสมเด็จโตนั้น มีปัญญามาก มีไหวพริบปฏิภาณ จึงอยากจะไปตั้งคำถามลองภูมิ เพื่อให้หลวงปู่จนด้วยคำถาม จึงไปหาหลวงปู่ เห็นท่าน กำลังยืนดูแลพระเณรกวาดลานวัดอยู่พอดี

   ถามอยู่หลาย ๆ คำถาม หลวงปู่ก็ตอบได้หมด จนฝรั่งคิดว่า เอาล่ะ ไอจะลองถามเรื่องวิทยาศาสตร์ดีกว่า พระไม่มีความรู้แน่ ๆ จึงยิงคำถามถวายไปว่า..

  "ท่านหลวงพ่อรู้ทุกสิ่ง แล้วหลวงพ่อรู้ไหมว่า ใจกลางของโลก หรือจุดศูนย์กลางของโลก อยู่ที่ประเทศไหน?"

  หลวงปู่ ยิ้มน้อย ๆ ก่อนที่เอาปลายไม้เท้าชี้ลงไปที่พื้นดิน ที่ท่านยืนอยู่นั้น แล้วบอกฝรั่งว่า "อยู่ตรงนี้  อยู่ตรงนี้"

   ระฆังทำวัตรเย็นดังขึ้น หลวงปู่ต้องไปไหว้พระสวดมนต์ ท่านให้พร ทั้งฝรั่งทั้งคนที่พามา แล้วเดินจากไปทำกิจวัตรของสงฆ์ ตามปกติที่เคยทำเป็นนิตย์

    เล่นเอาฝรั่งยืนงง อยู่ตั้งนาน    ยืนมอง นั่งมอง ที่รอยไม้เท้า สักพัก ก็เอียงหน้าขึ้นมามองเพื่อนคนไทยที่พามา   เพื่อนคนไทยก็ แบมือแบไม้ แบะ แบะ ประมาณว่า "ตูไม่รู้เฟ้ย เรื่องแบบนี้ ยูไม่ต้องมาพึ่งพาอาศัยเลยนะ"  ฝรั่งก็เอามือจิ้ม ๆ ที่รอยไม้เท้า แล้วบ่นคร่ำครวญเบา ๆ ประมาณว่า..

 " Impossible  impossible ไอว่า มานเป็นไปม่ายด๋ายนะ ศูนย์กลางโลก จามาอยู๋ที่นี๋ ในวัดนี๋ ได้ยางงาย impossible "

  ทั้งฝรั่งทั้งเพื่อนคนไทย ก็งุนงง เดินทางกลับไป คนไทยคงไม่เท่าไหร่ แต่ทราบมาว่า ฝรั่งถึงกับนอนไม่หลับทั้งคืน รุ่งเช้าโน่นแหล่ะ ถึงเจอ เพื่อนฝรั่งอีกคน ที่มารับราชการเป็นอาจารยสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ให้แก่ลูกหลานบุคคลชั้นสูงในสมัยนั้น

  ก็เลย เล่าเรื่องที่ยังสงสัยหาคำตอบไม่ได้ ให้อาจารย์วิทยาศาสตร์ท่านนั้น ที่เป็นเพื่อนคุ้นเคยกันฟัง

     อาจารย์ฝรั่ง ได้ยินแล้ว ถึงกับ... ฮ่า ฮ่า ฮ่า หัวเราะเป็นภาษาฝรั่งก่อน จากนั้นก็หัวเราะก๊าก ๆๆๆ เป็นภาษาไทย   เอามือกุมท้องจนเห็นว่าพอควรแก่การขำได้แล้ว เพราะเห็นว่า เพื่อนฝรั่งยิ่งทำหน้างงหนักเข้าไปอีก อาจารย์ฝรั่งก็ เอามือตบไหล่เพื่อนพร้อมทั้ง พูดแบบคุ้นเคยว่า...

  "ยู สติวปิ๊ด...พระหลวงพ่อพูดถูกแล้ว ถูกที่สุดเลย ...แอบโซลูทลี่ ไรท์ .. หากยูไม่เชื่อพระหลวงพ่อ ยูก็ลองสั่งเครื่องจักร เครื่องมือจากประเทศของพวกเรา แล้ว ลองขุดลงไปดูสิ ขุดจนมันทะลุโลกไปอีกด้าน แล้วยูก็เอา ไม้ไผ่มาต่อ ๆๆ กัน เสียบเข้าไป ให้ทะลุโลกไปโผล่ด้านโน้นของโลก  จากนั้น ไอก็จะช่วยสงเคราะห์ หาช้างมาเตะยู แบบว่าเตะอย่างแรง ๆ นะ เพื่อที่จะส่งยู ออกไปนอกอวกาศ ยูก็จะมองลงมาเห็นว่า ไม้ไผ่น่ะเสียบอยู่ตรงกลาง ของโลก ลูกกลม ๆ ใบนี้พอดีเลยแหล่ะ  มายเดียเฟรนด์ เพื่อนรัก ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า กร๊าก ๆๆๆ เอิ๊กส์ เอื๊ก เอิ๊กสสสส์....หลวงพ่ออยู่วัดไหนล่ะเพื่อน ท่านรู้จริง ๆ นะ"

    ฝรั่งอาจารย์ พูดจบ ก็รีบตาลีตาเหลือกวิ่งออกไป ไม่วายหันมาบอกเพื่อนว่า

"ไอ สายแล้ว ไอสายแล้วเพื่อน  เดี๋ยวเข้าไปแลกเช่อร์ไม่ทัน ไปล่ะ  อย่าลืมขุดลงไปดูนะเพื่อน บาย"

ทิ้งให้เพื่อนยืนกึ่ง งง กึ่งว่าจะเริ่มเก๊ต และคราครวญกับตัวเองว่า...

  "...เออ..จริงของหลวงพ่อแฮะ  ก็โลกใบนี้มันกลม นี่หว่า ไม่ว่าขุดตรงไหนของลูกกลม ๆ  หากตั้งองศาชี้ไปตรง ๆ มันก็เป็นจุดศูนย์กลางของลูกกลม ๆ อยู่ดีนั่นแหล่ะ .......Opsss... สงสัยว่า ไอจะสติวปิด จริง ๆ นะนี่"

  ฝรั่งเดินช้า ๆ ยกมือขึ้นมากุมคาง กรีดนิ้วขยับสลับไปมาครุ่นคิด จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้นมา กุมหน้าผากและปล่อยมือลงมา ในท่าที่ดูแล้วเหมือนกับปัดออกไปไกลตัว ในลักษณะทิ้งมือลง (ลักษณะที่เห็นกันอย่างคุ้นเคย ที่ฝรั่ง รู้สึกว่าเหมือนกับว่า ช่างเหอะ ๆๆๆ แล้วมักทำท่าอย่างนี้)  แล้วเดินลับไปในซอยซอยหนึ่ง ในเมืองบางกอกยุคต้น ๆ ของความศิวิไลซ์ ยุคนั้น
บันทึกการเข้า