[อยากทราบเหตุผล เวลาภาวนาในฐานเริ่มต้น ไม่ให้กำกับลมหายใจเข้าออกคะ ได้ลองฝึกปฏิบัติดูแล้ว รู้สึกว่าฝืนความรู้สึกมากคะ คือฝึกมาตั้งแต่เรียน ก็คือ หายใจเข้า พุท หายใจออก โธ แต่พอมาเริ่มภาวนากรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับแล้วไม่ให้ภาวนากำกับ กับลมหายใจเข้าออก รู้สึกขัด ๆ มากคะตอนภาวนาทำไม่ได้คะ สุดท้ายก็กลับไปกำหนดกับลมหายใจเข้า และ ออก เหมือนเดิมคะ เพราะกำหนดแบบไม่มีลมหายใจเข้าออก แล้วรู้สึกเครียด มากคะ ต้องคอยจูงอยู่ ถ้าเราภาวนาผูกกับลมหายใจเข้าออก ทำได้หรือไม่คะ]

อยากทราบเหตุผล เวลาภาวนาในฐานเริ่มต้น ไม่ให้กำกับลมหายใจเข้าออกคะ

 ได้ลองฝึกปฏิบัติดูแล้ว รู้สึกว่าฝืนความรู้สึกมากคะ คือฝึกมาตั้งแต่เรียน ก็คือ หายใจเข้า พุท หายใจออก โธ
แต่พอมาเริ่มภาวนากรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับแล้วไม่ให้ภาวนากำกับ กับลมหายใจเข้าออก รู้สึกขัด ๆ มากคะตอนภาวนาทำไม่ได้คะ สุดท้ายก็กลับไปกำหนดกับลมหายใจเข้า และ ออก เหมือนเดิมคะ เพราะกำหนดแบบไม่มีลมหายใจเข้าออก แล้วรู้สึกเครียด มากคะ ต้องคอยจูงอยู่

  ถ้าเราภาวนาผูกกับลมหายใจเข้าออก ทำได้หรือไม่คะ

   :'(

เคยฟังในรายการ RDN ช่วงค่ำนะคะ ก็มีการเจริญภาวนา ( ปฏิบัติ ) ไปตามลำดับนะคะ ถ้าไม่ไปตามลำดับก็จะหลุดจากฐาน จากนิมิต ทั้ง 3 ประการหมดเลยนะคะ

 ดังนั้นคิดว่า และเห็นตามพระสูตร คะ ว่าภาวนาเป็น ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ เป็นไปตามลำดับ ดังพระดำรัสตาม โลโก้เว็บนะคะ

 

ถ้าเริ่มต้นฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ก็ต้องสนใจเรื่องปีติ เป็นเรื่องแรกคะ

 

คือกำลังจะไปทำบุญ คะ แต่เกิดมีสองกลุ่มในบ้าน ก็คือ กลุ่มหนึ่ง อยากถวายเทียนพรรษา เล่ม ใหญ่ อีกกลุ่ม อยากถวายเป็น อุปกรณ์ไฟฟ้า มีหลอดไฟเป็นต้น งบประมาณ 5000 กว่าบาท

   คือ ทำกันมาทุกปี แต่ปีนี้ มีการแย้งกันเรื่องนี้ ขึ้นมาว่า
     1.ถวายเทียน ราคา 5000 บาท

   
    ภาพประกอบ นะคะ เทียนคล้ายในภาพ มีแกะสลักลวดลาย แต่ถวายมาหลายปี ทราบว่า เทียนนี้พระไม่เคยนำมาใช้ แต่กลับถูกขายออกไป จากวัด เวลามีคนมารับซ์้อกัน ซึ่งวัดในเมืองส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนี้ ก็เลยมีการแย้งว่า น่าจะไม่ได้บุญ เต็มกำลัง เพราะพระท่านไม่ได้ใช้


    กลุ่มที่สอง ก็เลยเสนอเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า มีหลอดไฟรุ่นใหม่

    เพราะคิดว่า พระท่านน่าจะนำไปใช้มากกว่า เทียน ราคาโดยรวมพอกัน

    ก็เลยกลุ่มที่สามขึ้นมา ว่า ถวายทั้งสองแบบ อันนี้ ทำให้งบเพิ่ม แต่ก็ไม่ขัดกัน เพราะต่างคนต่างยืนยันว่า ได้บุญเราจึงไม่ได้ลดกำลังบุญลง กับเพิ่มกำลังบุญเข้าไป เลยกลายเป็นถวายกันสามกลุ่มในเครือญาตกัน

    ที่จะถามนี้ไม่ได้เกี่ยว กับจำนวนราคา
    อยากทราบอานิสงค์ คะ ว่า ถวายเทียน กับ ถวายหลอดไฟ มีอานิสงค์ ต่างกันอย่างไร เพราะฟังแล้วก็ปวดหัว บางท่านกล่าวว่า ถวายเทียนมีอานิสงค์ชัดเจน แต่ถวายหลอดไฟ ไม่มีอานิสงค์ และถ้าไม่กล่าวคำถวาย เพราะคำถวายเป็นคำถวายเทียน

    ช่วยเหลือหน่อยนะคะ

   

   

ชาวกรรมฐาน ผู้ภาวนา ควรใส่ใจ เรื่อวลึกลับ อย่างไร หรือ รับมืออย่างไร :

 เหตุการณ์ที่ 1 คะ

   วันก่อนไปวัดปฏิบัติธรรม มีผู้หญิงคนหนึ่ง นั่งกรรมฐาน อยู่ก็ล้มตัวลงกลิ้ง กรีดร้องอยู่เราควรทำอย่างไร ดีคะในขณะที่เรานั่งอยู่ตรงนั้นด้วย ควรที่จะต้องเข้าไปอนุเคราะห์ช่วยเหลือดูเขา หรือ ว่าควรทำอย่างไรดีคะ มีคนตะโกนบอกว่า ผีเข้าช่วยกันจับไว้ ในขณะนั้นรู้สึกกลัวเหมือนกันคะ แต่ทำใจดีสู้เสือคะ เพราะไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ถ้าคนถูกผีเข้า เป็นอย่างไร

 เหตุการณ์ที่ 2

   ระหว่างที่นั่งกรรมฐาน อยู่นั้น มีตะขาบเลื้อยเข้ามากลางวง คะ แต่ละคนก็ลุกหลบกัน แสดงว่ากลัว หรือระมัดระวัง พร้อมมีคนตะโกนบอกว่า ตะขาบ ตะขาบ ตะขาบ ตัวใหญ่มาก เราเองก็นั่งภาวนาอยู่จิตก็ยังไม่เป็นสมาธิ แต่ก็ข่มใจไม่ลุกขึ้น แต่ก็ลืมตามองคนข้างเคียง จะทำอย่างไรกันคะ แลหางตามองด้านข้าง เพื่อนคนหนึ่งลุกขึ้นยืนมอง อีกคนหนึ่งยังหลับตานิ่งเหมือนเดิม เสียงข้างหลัง ลุกบ้างนั่งบ้าง ตัวเราก็เลยยอมนั่งอยู่อย่างนั้นไม่ลุก

   ที่เล่ามานี้ อยากทราบความเห็นของเพื่อน ๆ ที่ภาวนากันถ้าท่านอยู่เหตุการณ์อย่างนี้ ควรทำอย่างไร การลุกขึ้นผิดหรือไม่ การนั่งอยู่ผิดหรือไม่

   ( สรุปตะขาบก็มีคนเอาหนังสือกดทับไว้ แล้ว มีคนจับออกไปปล่อยคะ )

   

มีเพื่อนเป็นอยู่คนหนึ่ง เช่นกัน คะ แต่แก้ด้วยการเดินจงกรมกันก่อนแล้วกลับมานั่งคะ ทำตามที่พระอาจารย์แนะนำคะ ตอนนี้เขาไม่เป็นแล้วคะ นั่งกรรมฐานเก่งขึ้นคะ

 

เห็นด้วย คะ หายากจริง ๆ คะ
คิดว่าตอนนี้ เว็บที่ถ่ายทอดกรรมฐาน จริง ๆ น่าจะเป็น เว็บศูนย์กลาง และ ก็เว็บที่นี่นะคะ ที่กล่าวถึง หลวงปู่สุก เชิดชู ให้ความเคารพกันเป็นอย่างมาก คะ

   

แล้วจะมีสรุป ทัศนะคติการทำงานของ ฝรั่ง ในมุมมองคนไทยบ้างหรือไม่คะ ฝรั่งก็เตรียมหนาวนะคะ
มาว่าเขาส่วนเดียวอย่างนี้ได้อย่างไร ?


 
1.ลืมง่าย
2.เข้ากับคนอื่นง่าย  มีความรู้สึกเป็นพวกเดียวกันสูง
3.เก่งด้านศิลปะ
4.ไม่ขี้โอ่
5.ทำงานเดี่ยวแบบ Hero ดีกว่าต่างชาติ
6.ตามน้ำเก่ง...ไหลได้ทุกสถานการณ์
7. ยิ้มง่าย
8. ชอบให้อภัยเสมอ
9.ชอบเล่นคนอื่นเป็นทีมเสมอ
10.ขี้เกรงใจ
11. ยิ้มแย้ม แจ่มใส อารมณ์ดี
12. คนไทย ใจดี มีน้ำใจ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
13.คนไทย อ่อนโยน อ่อนหวาน
14.คนไทย สวย
15.คนไทยสนุกสนานมองเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็กได้
16.คนไทยอยู่ง่าย กินง่าย สบาย ๆ
17.คนไทยรักในหลวง
18.คนไทยรักชาติ
19.คนไทยมีความยืดหยุ่นสูงมาก
20.คนไทยประนีประนอม
21.คนไทยกตัญญู
22. คนไทยรักสงบ  อ่อนน้อม นับถือผู้ใหญ่
23.คนไทยรักพวกพ้อง
24.คนไทยชอบพลิกแพลง คิดนอกกรอบ
25.คนไทยมีศาสนาประจำชาติที่ดี
26.คนไทยอ่อนน้อมถ่อมตัว
27.คนไทยมีสติปัญญาแลไหวพริบดีมาก
28.คนไทยส่วนมากจริงใจ รักครอบครัว
29.คนไทยอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยแต่โบราณ
30.คนไทยที่สร้างสรร แล้วชักชวนกันมองในด้านดี
31.คนไทยเชื่อว่าศาสนาทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี
32.คนไทยมีคำขวัญประจำจังหวัดทุกจังหวัด
33.คนไทยทำคลิปโฆษณาได้น่าสนใจไม่แพ้ใครในโลก
34.คนไทยทำอาหารได้อร่อยไม่แพ้ใครในโลก
35.คนไทยมีภาษาประจำชาติและปีพุทธศักราชของเราเอง
36.คนไทยมีความเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ
37.คนไทยมีบุคลากรทางการแพทย์ที่เก่งระดับโลก
38.คนไทยมีภาษา วัฒนธรรม และมาตราชั่งตวงวัดเป็นของตัวเอง
39.คนไทยมีความรักและความภูมิใจในชาติที่ไม่เปลี่ยนแปลง
40.คนไทยมีพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตรจากเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินที่ไม่เหมือนใครในโลก
41.คนไทยมีโรงงานผลิตน้ำตาลทราย ที่มีลูกบใหญ่ที่สุดในโลก (อันนี้แปลกๆหน่อย)
42.คนไทยมีกาพย์โคลงกลอนที่เพราะที่สุดในโลก
43.คนไทยประท้วงกันเรียบร้อยที่สุดในโลก
44.คนไทยมีสนามบินที่สร้างนานที่สุดในโลก
45.คนไทย Creativity, simplicity
46.คนไทยชอบทำอะไรให้ใหญ่ๆโตๆครับ
47.คนไทยเก่งเรื่องโชว์
48.คนไทย ไม่มีความคิดที่เอาแต่จะระรานคนอื่น อยู่ในสันดาน
49.คนไทยสามารถไว้ใจได้ ทั้งๆที่คบกันได้ไม่กี่วัน
50. คนไทยชอบให้ความช่วยเหลือ  ไม่เคยมองข้ามความเดือนร้อนคนอื่น
51.คนไทยมีนิสัยชอบบริการ
52.คนไทยไม่ค่อยมีปัญหาแบ่งแยกเชื้อชาติ
53.คนไทยเอาตัวรอดเก่ง
54.คนไทยรู้จักวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของคนไทยได้เป็นประจำทุกสัปดาห์
55.คนไทยสามารถวิเคราะห์วิจารณ์ได้ตลอดปีตลอดชาติ
56. คนไทยไม่คิดมาก ไม่เครียด
57.คนไทยไม่ถือสา มีนอก มีใน
58.คนไทยประยุกต์เก่ง
59.คนไทยแบ่งปัน ใครมีของดี ใครมีของเด็ด ก็แบ่งๆ กันไป
60.สิ่งเดียวที่คนไทยมี และแผ่นดินอื่นในโลกไม่มี คือ "คนไทยรักในหลวง"

เห็นด้วยโหวต
คิดอะไรออกนอกจากนี้ก็ส่งความเห็นเข้ามาด้วยนะ


เครดิต pantip.com

 
นำมาอีกนะคะ เพราะหาดูได้ยาก เวลา ค้นหาด้วย อากู๋ ก็มักจะหาไม่เจอคะ

 

สรุปด้วยสไตล์ ภาษาคนรุ่นใหม่ นะคะ
 

ตอนนี้เหมือนกับกำลังติดตามพระธรรม อยู่นะคะ ในบอร์ดกรรมฐาน กำลังกล่าวถึงเรื่องการกำหนดทุกข์ คะ ส่วนตัวเองไม่เคยกำหนดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมา พอได้มาอ่าน 1 อาทิตย์ที่ผ่านมาก็มักตั้งคำถามกับตัวเองอยู่คะ ว่าทุกข์ อะไร ทุกข์ เรื่องอะไร ถ้าไม่ทุกข์ แล้วไปปฏิบัติธรรมภาวนาทำไม ? ก็สงสัย ว่าเราบ้าหรือไม่คะ ไม่ทุกข์แล้วไปภาวนา หรือจะเห่อไปตามเขา แรก ๆ ก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจคะ แต่วันที่สองก็ลองกำหนดทุกข์ ตามเพิ่มขึ้น รู้สึกได้เลยว่า ไม่เคยมองทุกข์ของตนเองจริง ๆ คะ เพราะเวลาทุกข์ใจก็ไปดูหนัง ดูละคร ออกไปเที่ยว หาเพื่อนคุย ระบายอารมณ์ ไปซะนั่น จึงไม่เคยโยงเรื่องทุกข์มาในเรื่องการภาวนาเลย คะ

   ดังนั้นวิธีที่สุด อีกวิธีตอนนี้ต้องตามอ่านนะคะ กับการกำหนดทุกข์ คะ

   

มาดพระคุณเจ้า เท่ห์มากคะ ถ้าเป็นพระสงฆ์ไทย รูปคงว่อนเน็ตไปแล้วนะคะภาพนี้

 โลกาภิวัฒน์ เพราะเราเองก็ยังใช้สื่อ ติดตามธรรมด้วยโลกาภิวัฒน์ อยู่ถ้าไม่มีสื่อนี้รับรองได้เลยว่า ได้คุยกับครูอาจารย์ที่หาได้ยากอยู่แล้ว ยากไปใหญ่

  จั่วเรื่อง น่าสนใจมากคะ ท่าน จขกท. ขยันนะคะ ติดตามอ่านมาโดยตลอดและมีน้ำใจช่วยตอบหาเนื้อหามาให้รู้ดีมากคะ อนุโมนา คะ

 

ชอบใจตรงที่หลวงพ่อท่านเห็น ความสำคัญของศรัทธาคน คะเปิดให้เช่าบูชา แบบรักษาน้ำใจ 200 บาทแต่ปู่ย่าตายายเราที่บรรจุไว้ก็เพื่อประโยชน์พระศาสนา การทำนุบำรุงศาสนวัตถุ ก็มีความสำคัญมากนะคะ เพราะเป็นที่พึ่งพาได้เมื่อถึงเวลา ปัจจุบันก็มีพระสงฆ์ที่ร่วมกันกับฆราวาส นำสิ่งเหล่านี้มาให้เช่าบูชากัน ราคาหลักแสน ๆ จนพระกลายเป็นเศรษฐีที่ดิน ราชาที่ดินไปก็มีนะคะ อันนี้พึ่งทราบมาที่ พะเยาว์นั่นแหละคะ เลยไม่รู้ว่าปัจจุบันคนเราไปพึ่งพาอะไรกันแล้ว ก็เป็นอาชีพไป สรณะ แห่งพระพุทธคุณ มรดกที่ปู่ย่าตายาย ได้สร้างกลายมาเป็น ความมั่งคั่งให้แก่ผู้อาศัยศาสนาหากินไป นี่แหละหนอ ถึงได้มีกลุ่มชาวพุทธ กลุ่มหนึ่ง และ หลาย ๆ กลุ่มจึงออกมาต่อต้านเรื่อง วัตถุ เหล่านี้ โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีพอประมาณไม่มากเกิน หรือ น้อยไป แต่ก็อยากให้ช่วยกันส่งเสริมหลักธรรม กันด้วยคะ เชื่อหรือไม่คะ คนปัจจุบันไม่ค่อยสนใจกรรมฐาน พระธรรมกัน แต่ก็มักจะบ่นกับความเดือดร้อนที่มีอยู่เพราะขาดพระธรรม อีกอย่าง กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นี้นะคะ เพื่อน ๆ ดิฉันไม่มีใครรู้จักเลยจะชวนไปขึ้นกรรมฐาน ก็ไม่มีใครไปด้วยเลย หาครูยากนะคะ

    อนุโมทนาสาธุ กับหลวงพ่อ ที่ไม่นำพระกรุมาเป็นเครื่องจัดจำหน่ายในราคาที่มากเกินไป คะ

   

นี่เป็นอีกเรื่องของการศึกษาของสงฆ์ ยุคปัจจุบัน ที่ต้องทำตัวปรับเข้าให้กับ ยุคโลกาภิวัฒน์ ถามทำไมพระมหานิกาย ต้องทำสวน ทำไร่ ไถนา ปลูกข้าว ค้าขายกันเอง ร่วมกับขอบริจาค ก็เพราะแนวคิดนี้แหละคะ คนอื่นอาจจะมองว่า พระท่านได้ฝึกมีความรู้ แต่บางทีไม่ใช่แค่มีความรู้แต่พระต้องทำกันเองแล้วนะคะ ทั้ง ๆ ที่พระวินัยก็มีระบุไว้ชัดเจน ห้ามพรากของเขียว ห้ามทำกสิกรรม อะไรทั้งหมดนี้ ต่อไปสิ่งเหล่านี้จะเรียกว่า สัทธรรมปฏฺรูป นะคะพึงระวังไว้นะคะ เพราะต้องปรับตัวให้เป็น เข้ากับโลก

   คนอื่นอาจจะมองชื่นชม นะคะ แต่สำหรับเรามองว่า ไม่ใช่กิจของสงฆ์ คะ หน้าที่ของสงฆ์ คือการภาวนา ตามที่สัญญาไว้ก่อนรับการอุปสมบถว่า นิพพานะ สัจฉิกระณัตถายะ ข้าพเจ้าจะกระทำพระนิพพานให้แจ้ง

   ยุคนี้กลายเป็นว่ากล่าวสรรเสริญการกระทำเยี่ยงนี้เป็นเรื่องดี แต่พระสงฆ์ที่มุ่งปฏิบัติธรรม ตั้งกายตรง ดำรงสติมั่น หายใจเข้าออกรู้ตามพระสุคตกลายเป็นพระบ้าไป

   แต่ก็อนุโมทนา กับ จขกท. ที่นำเรื่องนี้มาให้รับทราบเป็นการเปิดโลกทรรศน์ทราบข่าวการเคลื่อนไหวของพระสงฆ์ในปัจจุบันนะคะ

 

จินตนาการของคนทำก็ทำกันไปเรื่อย นะคะ พอทำกันไปมาก ๆ เดี๋ยวก็กลายเป็น โชฟา เบาะรองนั่ง หัวบันได เสารั้ว แป้นหน้าห้องน้ำ กันอีก  อันที่จริงปางพระพุทธรูปก็เห็นมีมากแล้ว ไม่น่าจะต้องนำพระพุทธเจ้ามาทำเป็นปางใด ๆ เพิ่มกันไปอีก น่าจะเอาหลวงปู่ หลวงพ่อ หลวงพี่ในยุคนี้ ปั้นเป็นปางต่าง จะเข้าท่ามากกว่า

  ขออภัยนะคะ ความเห็นส่วนตัว เพราะมองเห็นช่วงนี้คนทำที่เรียกว่าช่างปั้น ช่างศิลป์ ต่างๆ ล้วนแล้วทำพระพุทธเจ้า เป็นพระพุทธรูปกันอย่างเป็นของเล่นไปแล้ว จึงเป็นเหตุให้พวก Anty พระพุทธรูปได้่ช่อง รวมทั้งศาสนาอื่น เข้าโจมตีว่า ชาวพุทธปัจจุบันเป็นพวกวัตถุนิยม 90 เปอร์เซ็น

  ขอบคุณ จขกท. ที่นำเรื่องนี้มาให้ทราบกันนะคะ

 

ตอนแรกที่ตั้งคำถาม ก็ยังไม่ค่อยจะเชื่อคะ แต่ด้วยความเคารพหลวงพ่อจรัญคะ
ต้องฟังหูไว้หู แล้วนะคะ เพราะเรื่องเหล่านี้เิกินความสามารถของเราที่จะเข้าไปรู้แล้วคะ
 

ขอบคุณทุกท่านที่ตอบและแสดงความเห็น กันคะ

 

ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยตอบและแสดงความเห็น กันคะ

 

ผู้ให้สิ่งที่ดี ย่อมได้รับสิ่งที่ดี คะ ผู้ให้สิ่งที่ไม่ดี ย่อมได้รับสิ่งที่ไม่ดีคะ นำมาจากคุณส้มคะ

  นึกขึ้นได้เลยเจ้าภาพท่านมอบของดีท่านก็จะได้อานิสงค์ของดีด้วยคะ ตอนแรกก็ปรึกษาเพื่อนๆ กันว่าจะนำ notebook เก่าที่บ้านไปให้เหมือนกันคะ แต่สมัยนี้เรียกว่าตกรุ่นแล้วนะครับ p4 คะเราเองยังไม่ใช้เลยแล้วนำไปให้พระอาจารย์จะทำให้สะดวกขึ้น หรือ ลำบากขึ้นก็นั่งคิดกันอยู่ว่า น่าจะหาทุนชวนกันซื้อเครื่องใหม่ถวายดีกว่านะคะแต่ชักชวนกันไป ก็ล้มอีกเพราะตอบไม่ได้ว่า ได้อานิสงค์อย่างไร บางคนก็กล่าวว่าไม่ได้บุญหรอก เพราะพระไม่ควรใช้ก็เลยมีทุนทรัพย์ไม่พอ นี่เรียกว่าโดนขัด ทั้งจากกำลังทรัพย์ด้วย

   แต่พอได้เห็นคุณพี่ ท่านนี้ได้ทำ ได้ตัดสินใจทำแสดงว่า คุณพี่ ท่านนี้ พร้อมด้วยคุณสมบัติ ศรัทธากำลัง นับว่าควรแก่การอนุโมทนาด้วยคะ ที่ไม่ต้องตอบโจทย์อะไรมาก แสดงว่าต้องมีความเคารพในพระอาจารย์อย่างมาก

   สาธุ สาธุ สาธุ

   

อยากทราบประวัติของ พระอรหันต์ ที่ได้รับอะไรเป็นอันดับแรกเสมอคะ

  พอดีไปได้อ่านประโยคโดนใจของคุณส้มคะ ว่า

  ผู้ให้สิ่งที่ดี ย่อมได้รับสิ่งที่ดี ผู้ให้สิ่งที่ไม่ดี ย่อมได้รับสิ่งที่ไม่ดี

  ทำให้นึกถึงพระอรหันต์รูปหนึ่ง คะที่ท่านจะเป็นผู้แรกที่ได้อันดับหนึ่งเสมอคะ แต่นึกไม่ออกว่ารูปไหน คะ เพื่อน ๆ ช่วยสงเคราะห์ำนำประวัติมาให้อ่านด้วยนะคะ

ขอถามชาวธรรม ที่มีความรู้ทางพระไตรปิฏกนะคะ กับเรื่อง มักรีผล นี้มีหรือไม่คะ
คือได้ยินมาว่า บางคน บางท่านบอกว่า ในพระไตรปิฏก มีการกล่าวแสดงเรื่อง มักรีผล หรือไม่คะ
บางท่านบอกว่า มีในชาดก ธรรมบท แต่ก็พยายามหาอยู่แล้วก็ไม่เจอ ไม่พบคะ

 ขอความกรุณาช่วยตอบคำถามให้ด้วยะนะคะ

 อยากทราบ แก่นเรื่อง มักรีผล คะ

 สมมุติ ถ้ามักกรีผล มีจริง เ้กิดจากรรมอะไรถึงได้ไปเป็น มักรีผล คะ
 
 และ การประหาร ทำร้าย มักรีผล เป้นบาปหรือไม่คะ

     คือ บางท่าน กล่าวว่า มักรีผล ก็คือ หุ่มโพยม ประเภทหนึ่ง คะ

   

เพื่อน ๆ มีความเห็นกับการระลึกชาต กันอย่างไร ?

   คือเรื่องการระลึกชาติ ได้นี้ บางท่านบอกว่า ไม่มีจริง บางท่านบอกว่า มีจริง แล้วเราเป็นชาวพุทธควรเชื่อเรื่องการระลึกชาต กันแบบไหนกันดีคะ ถึงจะถูกต้อง

   รู้สึกกังวลเหมือนกัน คะ ถ้าไม่ได้คุยเรื่องนี้กับเพื่อน ๆ ให้เข้าใจคะ ช่วยกันแสดงความเห็นหน่อยนะคะ

   

คือไม่ทราบว่าจำผิดหรือไม่ ? ว่าพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงอดอาหาร แล้ว เห็นว่าไม่ใช่ทางสายกลาง พระองค์จึงกลับมาเสวยพระกระยาหาร ก่อน กาารตรัสรู้ ซึ่งิวิธีการอย่างนี้จัดเป็น อัตตกิลมถานุโยค คือการทรมานตนซึ่งไม่ใช่ทางสายกลางในการปฏิบัติ แต่ทำไมเดี่ยวนี้ทางพระและสำนักต่าง ๆ จึงกล่าวสรรเสริญวิธีการปฏิบัติอย่างนี้เป้นการปฏิบัติธรรม ภาวนาที่ควรนำเป็นตัวอย่าง เป็นผู้ปฏิบัติอย่างแท้จริง

    โดยเฉพาะ ที่ดิฉันได้เจอ ถึงกับมีคำกล่าวว่า พระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ นั้นต้องเป็นพระผอม ๆ ส่วนพระที่ อ้วน ๆ นั้นเป็นพระที่ปฏิบัติ อะไรไม่ได้ ซึ่งการพูดอย่างนี้ ถูกหรือไม่คะ

     

คือได้ฟัง เรื่อง ตายแล้วฟื้น หลาย ๆ เรื่อง ล้วนแล้วแต่จะสรุปว่า

   ยมฑูต ปฏิบัติหน้าที่ ผิดพลาด คือ รับคนผิดไป ด้วยชื่อบ้าง ลักษณะบ้าง จึงต้องนำตัวกลับมาส่ง

  แสดงว่า ยมฑูต ปฏิบัติงานผิดพลาดได้ใช่หรือไม่คะ

    ถ้าอย่างนั้นการให้ได้รับผลกรรม จะมีความผิดพลาด หรือไม่คะ คือ มาคิดว่า คนทำดี ทำไมตกต่ำ ตายอย่างน่าสมเพท ส่วนคนทำชั่ว เป้นอยู่สุขสบาย มีคนนับถือกันทั่วประเทศ อย่างนี้เกิดจากข้อผิดพลาดทางผลของกรรมหรือไม่ คะ


     

เราสามารถ แบ่งอายุ ให้ กับคนอื่น ได้หรือไม่ ?

  หากบุญกรรม เป็นของเฉพาะ ตัว เฉพาะบุคคล

  แต่อยากแบ่งอายุ ของเราให้คนอื่น เป็นไปได้หรือไม่คะ

   

ขอบคุณ ทุกท่านที่ให้คำตอบ กับ เรา นะจ๊ะ อ่านแล้วได้ความรู้ขึ้นมากเลยคะ
ที่ถามอย่างนี้ไม่ถามในห้องกรรมฐาน โดยตรง ก็เพราะว่า จะได้กลับเข้าไปอ่านในห้องนั้นได้เข้าใจคะ เพราะช่วงหลัง ๆ มานี่เข้าไปอ่านไม่ค่อยจะเข้าใจ คะ

    ยังไม่สรุปนะคะ ว่า กรรมฐาน เกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุ หรือไม่คะ
    แต่ คุณ Nathaponson ช่วยยืนยันแล้วว่าไม่เกี่ยว อันนี้คำอธิบายก็คล้อยตามหลายส่วนแล้วคะ

    แต่ คุณ Mr.งังจัง บอกว่า เกี่ยว ก็อยากฟังว่าเกี่ยวอย่างไรบ้างนะคะ ช่วยแจกความรู้ด้วยนะคะ

   

อนุโมทนา สาธุ คะ
สามเณร เก่ง ๆ มีมากหรือไม่คะ ที่สำเร็จพระอรหันต์ ในครั้งพุทธกาล หรือในปัจจุบัน อย่างนี้ คะ

 

อยากทราบว่า การเล่นแร่แปรธาตุ เกี่ยวข้องกันกับ กรรมฐาน หรือไม่คะ
ตามหัวข้อเลยนะคะ เพราะเห็นกล่าวเรื่องธาตุ กันบ่อย ๆ ในห้องกรรมฐาน คิดว่านำมาถามห้องนี้น่าจะได้คำตอบที่เข้าใจง่ายกว่า ห้องนั้นคะ ( ห้องนั้นรู้สึกยิ่งอ่าน ยิ่งไม่ค่อยจะรู้ คะ )
 

 อาจจะเป็นเพราะเป็นผู้ติดตามธรรม อย่างฉาบฉวยกระมังคะ จึงยังไม่แจ่มแจ้งเข้าใจคะ

 ขอบคุณทุกท่านที่ตอบนะคะ

   

จริงหรือไม่ คะ ที่คนที่ตายเพราะความเป็นห่วง จะไม่ได้ไปเกิด เรื่องนี้มีการกล่าวแสดงไว้ในครั้งพุทธกาลอย่างไร คะ

 ขอบคุณมากคะ

 

ดิฉันเองก็ฝึกกำหนดหนอ ๆๆๆๆ อยู่ที่ คณะ 5 วัดมหาธาตุคะ ยังไม่ได้เปลี่ยนวิธีการ นะคะไม่ทราบวิธีการกำหนด หนอ ๆ นี้มีอุปสรรคใดๆ คะ ครูอาจารย์แนะนำว่า ให้ฝึกแบบนี้ไปเรื่อย ๆ คะ อย่าได้เปลี่ยนคะเพราะมาถูกทางแล้วคะ ก็เชื่ออยู่นะคะจึงยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับตามคะ

  คิดว่า ถ้าฝึกสองอย่างแล้วน่าจะเป็นอุปสรรคมากกว่า นะคะ

   

คิดว่า คุณ นินนินนิน ก็อ่านเอาในบอร์ดเลยก็ได้นะคะ หากไม่ต้องการกัลยาณมิตร บุคคลเพราะดูจากหัวข้อธรรมสื่อ เสียง วีดีโอ รายการวิทยุ ที่นี่ไม่เห็นมีห้ามเลยว่า คุณไม่ใช่ศิษย์ฟังไม่ได้ อ่านไม่ได้ ภาวนาไม่ได้ แม้คนที่ถามปัญหากันมากมาย จะมีการถามแบบเกรงใจ และไม่เกรงใจ เท่าที่สังเกต ก็ไม่ใช่ศิษย์ รวมทั้งเราด้วย แวะมาหาความรู้ทางกรรมฐาน และทางธรรม เพื่อทำใจให้ผ่องใส เป็นกุศล คิดว่า

  ที่นี่ ครูอาจารย์ จะไม่ผูกพันลูกศิษย์เท่าใด นะคะ ปล่อยให้ศิษย์ปฏิบัติไปตามอัธยาศัยกัน นับว่าเป็นข้อดีคะอยู่นะคะอย่างน้อยก็ปราศจากเงื่อนไขการมาเป็นศิษย์ ยกเว้นแต่ศิษย์ที่ขึ้นกรรมฐานด้วย ซึ่งอันนี้เราก็ไม่รู้ว่าศิษย์ปฏิบัติดูแลครูอาจารย์กันอย่างไร

  คิดว่า สื่อธรรมที่นี่มีเพียงพอให้คุณ นินนินนิน ปฏิบัติภาวนาได้คะ

   

อันนี้จะให้ พระอาจารย์ มาฟันธงกรรมฐาน ใช่หรือไม่คะ

 

 

คิดว่าน่าจะได้นะคะ เพราะสมัยครั้งพุทธกาล การสำเร็จเป็นพระอริยะบุคคลก็ไม่ได้ไปนั่งกรรมฐาน หรือ เดินจงกรมกันก่อนคะ แต่สมัยก่อนพระพุทธเจ้ารับรองไว้นะคะ สมัยนี้ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว รับรองไม่ได้ ไม่มีใครเชื่อหรอกคะ คงต้องเก็บไว้ในใจ คะ ดังนั้นสมัยก่อนเวลาฟังพระธรรมจบก็สำเร็จเป็นพระอริยะบุุคคลชั้นต่าง ๆ กันไป

  เชื่อว่าน่าจะเป็นไปได้นะคะ

   

ถ้าจะว่า All in one หมายความว่า 1 อย่าง มี ทุกอย่าง ก็มี กรรมฐานเดียวคะ อริยมรรค คะ
 

พระอนุพุทธะ ก็คือ พระสงฆ์ ใช่หรือไม่คะ

 

 

สำหรับ ชาวพุทธอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องเหลวไหล แต่ เราก็ไปมาหลายที่ ๆ เป็นวัดก็เห็นมีพราหณ์ บ้าง เจ้าพ่อร่างทรง เจ้าแม่ร่างทรงบ้าง มาเพื่อทำพิธิ บวงสรวง แล้ว ก็เลยเกิดความสงสัยว่า

   เราจะบวงสรวง เทวดาทำไม ?
   ทำเวลาไหน ?

   เครื่องบวงสรวง ที่เทวดาไม่ชอบ จะมีโทษแก่เราหรือไม่ ?

   คือทราบว่า เทวดา มีกายเป็นทิพย์ จะมาบริโภคอาหารหยาบ หรือ ? ความเข้าใจส่วนนี้ ทำอย่างไร จึงจะถูกต้อง กันคะ

เคยได้ยินว่า ธรรมแนว ลมปราณ
              ธรรมแนว สมาธิ

    ไม่ทราบว่าทั้งสองประการนี้ เกี่ยวข้องกันอย่างไร ในวิชากรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับเป็นแบบไหนคะ
และแนวลมปราณ กับ แนวสมาธิ ช่วยในการ บรรลุธรรมอย่างไรคะ

ขอบคุณมากคะ

 

ตามอ่านคะ คิดว่าไม่ใช่เรื่องที่เรา จะเข้าใจได้ง่าย ๆ เลยคะเพราะสังเกตุจากหัวข้อและบทเฉลย แล้วอ่านก็ยังไม่เข้าใจ คือไม่เข้าใจคำศัพท์ด้วยคะ

  จะติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ

   

 

ขอบคุณมากคะ ได้ความรู้และเชื่อแล้วว่า ในส่วนนี้มีในพระไตรปิฏก มิได้เป็นเรื่องเหลวไหลที่แต่งกันมาอย่าง ในตำราอื่น ๆ เพราะม่กล่าวไว้ชัดเจนในเรื่องนี้

 สาธุ 

ได้ความรู้เรื่อง อุเบกขา เลยคะพึ่งเข้ามาอ่าน ไม่ใช่ อุเบกขาจะมีคุณเสมอไป