แสดงกระทู้
|
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to. |
Messages - Admax
|
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 24
|
201
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: พิจารณากาย...บรรลุธรรม.!
|
เมื่อ: มิถุนายน 07, 2016, 01:11:15 pm
|
เป็นประโยชน์มากครับ เพราะคนสมัยนี้ไม่ได้กรรมฐานจริงจัง แต่จะสอนกันให้ไปตรึกนึกคิดอนุมานคาดคะเนเอาอารมณ์ความรู้สึกอันเป็นสมมติอยู่ว่าเป็นปรมัตถธรรม ของแท้ สอนกันให้ทำแต่เพียงเท่านี้ไม่ต้องนั่งสมาธิเจริญกรรมฐาน อ่านท่องจำแล้วนึกๆเอาโดยหลงไปว่าเป็นปัญญา แม้จะรู้ทวัตติงสาการ หรือ กายคตาสติ อันเป็นปัญญาแห่งอสุภะในตนนี้ก็ตาม ก็ได้เพียงแค่ท่องจำ สวดมนต์ได้ แต่เข้าไม่ถึงธรรมนั้น
จนลืมไปแล้วว่าทวัตติงสาการนี้คือ ปัญญาที่เนื่องด้วยกาย คือ กายานุปัสสนา ผู้เข้าถึงธรรมนี้ได้มีแต่พระอริยะสงฆ์ คือ พระโสดาบันขึ้นไปเท่านั้นที่จะเห็นแบบนั้นได้จริง พระอรหันต์สายพระป่าท่านได้กรุณาสอนผมว่า..ท่านม้างกายออกจนเห็นชัดว่า เราไม่มีในสิ่งนั้น ในสิ่งนั้นไม่มีเรา สิ่งนั้นไม่มีในเรา เราใช่ไม่สิ่งนั้น สิ่งนั้นไม่เป็นเรา สิ่งนั้นไม่ใช่เรา เราไม่เป็นสิ่งนั้น พิจารณาด้วยปัญญากลับไปกลับมาตรงนี้ จนไม่เห็นมีสิ่งใดนอกจากความไม่มี ความว่าง ของจริงมันไม่มี แต่เพราะสมมติจึงมี จิตแล่นเข้าสู่ผลตัดสังโยชน์ขาดได้ขั้นต่ำก็พระโสดาบัน พระสกิทาคามี
แต่ผมเองก็ไม่ถึงนะครับแต่ตั้งอยู่ในความเพียรให้ถึง หลังจากได้สนทนาเรื่อง อิทธบาท ๔ กับพระอาจารย์ธัมมะวังโสไปแล้ว ผมเห็นสิ่งที่ตนขาดอยู่มาก ก็ตั้งมั่นทำอิทธิบาท ๔ ให้แจ้งอยู่ครับ แม้ในอิทธบาท ๔ ของพระบรมศาสดาก็มีทวัตติงสาการนี้แลเอามาตั้งพิจารณาเป็นต้น
|
|
|
206
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ช่วยแนะวิธี หน่อยครับ
|
เมื่อ: มิถุนายน 01, 2016, 12:02:36 am
|
สาธุ สาธุ สาธุ ท่านพระอาจารย์ ปัญญสโก ภิกขุ และ ท่าน RAPONSAN ตอบไว้ดีแล้ว
- ผมขอเสริมในแบบทางโลกอีกนิดนึงนะครับ
1. อาการที่เส้นตรึงก็ทำให้เกิดเหน็บชาได้ง่ายครับ..ดังนั้นให้ ยืดเส้น ยืดขา ยืดแขน บิดยืดเอว ยิดตัว บ่อยๆ ก่อนกรรมฐาน จะนั่งได้นานขึ้นเพราะเลือดลมมันเดินได้ดีขึ้น หลังจากนั่งก็บิดยืดเส้น โดยท่านนั่งขัดสมาธิบิดเอื้ยวยืดตัวไปด้านข้างหรือหลัง คลายขาออกยืดขาเขาปลายนืิ้วแต่ปลายเท้า สลับข้างทำทุกครั้งหลังภาวนาเสร็จ เวลาลุกขึ้นจะไม่เหน็บกินไม่หน้ามืด
2. ท่าที่นั่ง เรานั่งขัดกันให้เกิดความเจ็บปวดง่ายการขัดกันของเส้นนเอ็นเส้นเลือดทำให้เลือดลมสูบฉีดลำบากก็ก่อให้เกิดเหน็บชาได้
3. จิตตั้งมั่นเมื่อไหร่ มันก็เป็นอารมณ์เดียวไม่ยึดจับเอาความเจ็บปวดแล้ว กล่าวคือ ถ้าเราถึงสมาธิในขณะที่ทรงสมาธิได้นั้นมันจะไม่จับเวทนานั่นเอง ซี่งโดยนัยยะที่ท่านผู้รู้หรือพระปฏิบัติทั้งหลายท่านจะสอนว่า..กายมันแค่ธาตุดินมันเจ็บปวดไม่เป็น แต่เพราะเอาใจเข้ายึดครองมันเวทนาจึงมี มันจึงเจ็บเป็นปวดเป็น โดยส่วนตัวผมแล้วถ้าภายใน 10 นาทีที่กรรมฐาน จะพึงตั้งว่า จิตรู้สิ่งใดสิ่งนั้นล้วนสมมติ ของจริงแท้คือ พุทโธ คือ ลมหายใจนี้ เอาจิตมารู้ของจริงคือพุทโธปักหลักไว้ที่ปลายจมูกดูลมเข้าออกไป เมื่อจิตตั้งมั่นขึ้นมาหน่อยมันจะไม่จับอาการที่เจ็บปวดแล้ว มันจะมีแต่ลมและนิมิตรงหน้าเท่านั้น
ผมไม่ใช่ผู้ถึงธรรม ไม่ใช่ผู้รู้ และก็ไม่รู้ธรรมอะไรนะครับ..แค่จดจำมา ไม่มีศีล ทาน ภาวนาดีงาม ตอบไปแบบบ้านๆที่คิดว่าน่าจะเป้นประโยชชน์ได้ในระดับปุถุชนจะพอตรึกนึกคิดเพื่อการปฏิบัติได้ก็เท่านั้น ก็แบ่งปันกันไปเท่าที่มีครับ หากไม่ช่วยอะไรก็ขออภัยไว้ด้วยครับ
|
|
|
225
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: น่าเสียดาย คำภาม-ตอบ ขั้นสูง ไม่ได้มีการเผยแผ่ ทางเว็บทั่วไป
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2016, 10:35:35 am
|
โดยส่วนตัวผมนั้นเห็นว่า กรรมฐานสายนี้ ยังไม่หมดลงไปง่ายๆหรอกครับ
แต่ในเรื่องเบื้องลึกอาจจะมีผู้รู้น้อย หรือบางท่านอาจจะถึงเบื้องลึกนั้นแล้วแต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเบื้องลึกของกรรมฐานสายนี้ ด้วยเพราะประเพณีที่ถือตามๆกันมาแต่โบราณ แต่ผมเชื่อมั่นว่า หากเมื่อถึงเวลาอันควร..ก็คงมีพระอริยะสงฆ์ผู้รู้ครบเจนจบดีแล้ว ท่านมาเผยแพร่อีกครั้งเองโดยในข้อกรรมฐานนั้นมีเผยแพร่ให้ทั้ง เบื้องต้น ท่ามกลาง และ เบื้องลึก ด้วยปารถนาให้กรรมฐานสายนี้คงอยู่ และ เพื่อให้คนทั้งปวงเข้าถึงและหลุดพ้นจากกองทุกข์ด้วยกรรมฐานสายนี้เองครับ
|
|
|
|