ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "พุทธเกษตร" ไม่ใช่ เกษตรเชิงพุทธ | ชาติเกษตร อาณาเกษตร และวิสัยเกษตร  (อ่าน 820 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28454
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


พุทธเกษตร ไม่ใช่ เกษตรเชิงพุทธ | ชาติเกษตร อาณาเกษตร และวิสัยเกษตร

พุทธเกษตร อ่านว่า พุด-ทะ-กะ-เสด ประกอบด้วยคำว่า พุทธ + เกษตร

(๑) “พุทธ”

บาลีเขียน “พุทฺธ” (มีจุดใต้ ทฺ) อ่านว่า พุด-ทะ รากศัพท์มาจาก พุธฺ (ธาตุ = รู้) + ต ปัจจัย, แปลง ธฺ ที่สุดธาตุเป็น ทฺ, แปลง ต เป็น ธฺ (นัยหนึ่งว่า แปลง ธฺ ที่สุดธาตุกับ ต เป็น ทฺธ) : พุธฺ + ต = พุธฺต > พุทฺต > พุทฺธ (พุธฺ + ต = พุธฺต > พุทฺธ) แปลตามศัพท์ว่า “ผู้รู้ทุกอย่างที่ควรรู้”

“พุทฺธ” แปลตามศัพท์ได้เกือบ 20 ความหมาย แต่ที่เข้าใจกันทั่วไปมักแปลว่า
     (1) ผู้รู้ = รู้สรรพสิ่งตามความเป็นจริง
     (2) ผู้ตื่น = ตื่นจากกิเลสนิทรา ความหลับไหลงมงาย
     (3) ผู้เบิกบาน = บริสุทธิ์ผ่องใสเต็มที่

ความหมายที่เข้าใจกันเป็นสามัญ หมายถึง “พระพุทธเจ้า”
บาลี “พุทฺธ” (มีจุดใต้ ทฺ) ภาษาไทยใช้เป็น “พุทธ” (ไม่มีจุดใต้ ทฺ)

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า
“พุทธ, พุทธ-, พุทธะ : (คำนาม) ผู้ตรัสรู้, ผู้ตื่นแล้ว, ผู้เบิกบานแล้ว, ใช้เฉพาะเป็นพระนามของพระบรมศาสดาแห่งพระพุทธศาสนา เรียกเป็นสามัญว่า พระพุทธเจ้า. (ป.).”

(๒) “เกษตร”

บาลีเป็น “เขตฺต” (เขด-ตะ) รากศัพท์มาจาก
     (1) ขิปฺ (ธาตุ = หว่าน, กระจายออก) + ต ปัจจัย, แผลง อิ ที่ ขิ-(ปฺ) เป็น เอ, ลบ ปฺ ที่สุดธาตุ, ซ้อน ต
: ขิปฺ > เขป + ต = เขปต > เขต + ต = เขตฺต แปลตามศัพท์ว่า “ที่เป็นที่หว่านพืช”
     (2) ขิตฺต (เมล็ดพืชที่หว่านไป) + ตา (ธาตุ = รักษา) + อ ปัจจัย, แผลง อิ ที่ ขิ-(ตฺต) เป็น เอ, ลบ ต ที่ (ขิตฺ)-ต (ภาษาไวยากรณ์ว่า “ลบที่สุดบทหน้า”), ลบสระที่สุดธาตุ: ตา > ต : ขิตฺต + ตา = ขิตฺตตา > ขิตฺตต + อ = ขิตฺตต > ขิตฺต > เขตฺต แปลตามศัพท์ว่า “ที่เป็นที่รักษาพืชที่หว่านไว้”

“เขตฺต” ในภาษาบาลีใช้ในความหมายดังนี้
     (1) นา, ที่ดินแปลงหนึ่ง, ที่ดินอันเหมาะสมแก่การเพาะปลูก, ที่ตั้ง (a field, a plot of land, arable land, a site)
     (2) ที่อันเป็นเนื้อนาบุญ, กองแห่งกุศลกรรม (the soil of merit, the deposit of good deeds)
“เขตฺต” ภาษาไทยปัจจุบันใช้เป็น “เขต” (ตัด ต ออกตัวหนึ่ง) อ่านว่า เขด


@@@@@@@

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า
“เขต : (คำนาม) แดนที่กําหนดขีดคั่นไว้ เช่น เขตป่า เขตบ้าน, เวลาที่กําหนดขีดคั่นไว้ เช่น หมดเขตวันที่ ๑๕. (ป. เขตฺต). (โบราณเขียนว่า เขตร).”

บาลี “เขตฺต” สันสกฤตเป็น “เกฺษตฺร”

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า
(สะกดตามต้นฉบับ) “เกฺษตฺร : (คำนาม) ‘เกษตร์,’ ทุ่ง, นา; ตัว, ร่างกาย; ชายา ; บุณยสถานหรือที่ศักดิ์สิทธิ์ (ดุจพาราณสี, ฯลฯ) ; เรขาคณิต ; จิตร์หรือรูปเส้นขอบ, รูปสังเขป, แผนเส้นขอบ ; a field ; the body ; a wife ; a place of pilgrimage or sacred spot (as Benares, &c.) ; geometry ; a diagram, a plan drawn in outline.”

บาลี “เขตฺต” สันสกฤต “เกฺษตฺร” ภาษาไทยที่ใช้เป็น “เกษตร” (กะ-เสด)

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายไว้ว่า
“เกษตร : (คำนาม) ที่ดิน, ทุ่ง, นา, ไร่; (คำโบราณ) แดน เช่น พุทธเกษตร. (ส. เกฺษตฺร; ป. เขตฺต).”

ข้อสังเกต : พจนานุกรมฯ บอกว่า คำโบราณ “เกษตร” หมายถึง “แดน” และยกตัวอย่าง เช่น “พุทธเกษตร”

พจนานุกรมฯ เก็บคำว่า “พุทธ-” ที่มีคำอื่นมาสมาสข้างท้ายไว้หลายคำ แต่ไม่มีคำว่า “พุทธเกษตร” ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุลอันใด

พุทธ + เกษตร = พุทธเกษตร แปลว่า “แดนแห่งพระพุทธเจ้า”
“พุทธเกษตร” แปลงกลับเป็นบาลีเป็น “พุทฺธกฺเขตฺต” (พุด-ทัก-เขด-ตะ)


@@@@@@@

ขยายความ

ในพระไตรปิฎกและอรรถกถามีคำว่า “พุทฺธกฺเขตฺต” ปรากฏอยู่หลายแห่ง ขอนำคำอธิบายว่าด้วย “พุทธเกษตร” ในอรรถกถามาเสนอดังนี้

พุทฺธกฺเขตฺตนฺนาม ติวิธํ โหติ ชาติกฺเขตฺตํ อาณกฺเขตฺตํ วิสยกฺเขตฺตญฺจ ฯ
อันพุทธเกษตรนั้นมี 3 อย่าง คือ ชาติเกษตร อาณาเกษตร และวิสัยเกษตร

ตตฺถ ชาติกฺเขตฺตํ ทสสหสฺสจกฺกวาฬปริยนฺตํ โหติ ยํ ตถาคตสฺส ปฏิสนฺธิอาทีสุ กมฺปติ ฯ
ในพุทธเกษตรทั้ง 3 นั้น ชาติเกษตรมีขอบเขตหมื่นจักรวาล เมื่อมีเหตุอัศจรรย์เป็นต้นว่า องค์พระตถาคตเจ้าทรงถือปฏิสนธิ ชาติเกษตรก็จะหวั่นไหว

อาณกฺเขตฺตํ โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬปริยนฺตํ ยตฺถ รตนปริตฺตํ เมตฺตปริตฺตํ ขนฺธปริตฺตํ ธชคฺคปริตฺตํ อาฏานาฏิยปริตฺตํ โมรปริตฺตนฺติ อิเมสํ ปริตฺตานํ อานุภาโว ปวตฺตติ ฯ
อาณาเกษตรมีขอบเขตแสนโกฏิจักรวาฬ เป็นเขตที่อานุภาพแห่งพระปริตรเหล่านี้แผ่ไป คือ รตนปริตร ขันธปริตร ธชัคคปริตร อาฏานาฏิยปริตร และโมรปริตร

วิสยกฺเขตฺตํ อนนฺตมปริมาณํ ยํ ยาวตา วา ปน อากงฺเขยฺยาติ วุตฺตํ ยตฺถ ยํ ยํ อากงฺขติ ตํ ตํ อนุสฺสรติ ฯ
วิสัยเกษตรไม่มีที่สุด ไม่มีปริมาณ เป็นเขตที่พระตถาคตเจ้าทรงจำนงจะทรงทราบสิ่งใดๆ ก็ย่อมทราบสิ่งนั้นๆ ได้ ดังที่ตรัสไว้ว่า “ก็หรือว่าตถาคตพึงจำนงจะรู้โดยที่เท่าใด (ก็ย่อมรู้ได้โดยที่เท่านั้น)” ดังนี้เป็นต้น

เอวเมเตสุ ตีสุ พุทฺธกฺเขตฺเตสุ เอกํ อาณกฺเขตฺตํ วินสฺสติ ฯ ตสฺมึ ปน วินสฺสนฺเต ชาติกฺเขตฺตํ วินฏฺฐเมว โหติ ฯ วินสฺสนฺตญฺจ เอกโตว วินสฺสติ ฯ สณฺฐหนฺตมฺปิ เอกโต สณฺฐหติ ฯ
ในพุทธเกษตรทั้ง 3 ดังกล่าวมานี้ อาณาเกษตรเป็นเกษตรเดียวที่พินาศไปได้ แต่เมื่ออาณาเกษตรนั้นพินาศไป แม้ชาติเกษตรก็ย่อมเป็นอันพินาศด้วยอยู่เอง อันพุทธเกษตรทั้งสองนั้นเมื่อพินาศย่อมพินาศด้วยกัน เมื่อตั้งขึ้นใหม่เล่าก็ตั้งขึ้นด้วยกัน


__________________________
ที่มา :-
- สมันตปาสาทิกา อรรถกถาพระวินัย ภาค 1 หน้า 212
- สัทธัมมปกาสินี อรรถกถาปฏิสัมภิทามรรค ภาค 1 หน้า 586
- วิสุทธิมรรค ภาค 2 (อภิญญานิทเทส) หน้า 258

ดูก่อนภราดา.! ท่านพร้อมที่รักษาเมืองไทยให้เป็นพุทธเกษตร หรือว่าพร้อมที่จะหาประเทศให้พระพุทธเจ้าอยู่ใหม่



ขอบคุณ : dhamma.serichon.us/2021/04/28/พุทธเกษตร-ไม่ใช่เกษตรเช/
บทความของ : ทองย้อย แสงสินชัย
28 เมษายน 2021 admin
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 30, 2021, 07:01:15 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ