ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: รู้จัก "ทิศ 6" มีอะไรบ้าง พร้อมแนวทางปฏิบัติตนต่อผู้อื่นในสังคม  (อ่าน 380 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



รู้จัก "ทิศ 6" มีอะไรบ้าง พร้อมแนวทางปฏิบัติตนต่อผู้อื่นในสังคม

ทิศ 6 คือ บุคคลประเภทต่างๆ มีทั้งหมด 6 ส่วน ซึ่งอยู่รอบตัวเรา และเป็นส่วนหนึ่งในสังคม เรื่องทิศ 6 เป็นธรรมเทศนาในพระไตรปิฎก ที่ปรากฏอยู่ในพระสูตรที่ชื่อว่า "สิงคาลกสูตร" ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงกล่าวถึงวิธีการปฏิบัติตนต่อผู้อื่น ทั้งในทางโลกและทางธรรม โดยให้ความสำคัญกับบุคคลต่างๆ ที่เปรียบเสมือนทิศทั้ง 6 รอบตัวของเรา   

ทิศ 6 มีอะไรบ้าง แต่ละทิศมีความหมายว่าอย่างไร และหมายถึงใครบ้าง.?

แม้ว่าครอบครัวจะเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดในสังคม ที่มีส่วนในการปลูกฝังค่านิยม ถ่ายทอดวัฒนธรรม และแนวคิดต่างๆ แต่จริงๆ แล้วตามหลักพระพุทธศาสนายังมีคำสอนว่าด้วยเรื่องทิศ 6 ที่อธิบายถึงความสัมพันธ์ 6 ประการ ที่เราพึงมีต่อผู้อื่น สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันได้




ทิศ 6 ประกอบ ด้วยบุคคล 6 ส่วน ซึ่งแบ่งเป็นทิศต่างๆ รอบตัว ดังนี้

1. ปุรัตถิมทิศ หมายถึง ทิศเบื้องหน้า ได้แก่ บิดา และมารดา
      - ข้อปฏิบัติ : บิดา และมารดา เป็นผู้ให้กำเนิด และให้ความอุปการะเราตั้งแต่แรกเกิด จึงควรให้ท่านอยู่ในทิศเบื้องหน้า ปฏิบัติต่อท่านด้วยการเลี้ยงดูแล ช่วยการงาน ประพฤติตนเป็นทายาทที่เหมาะสม เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้

2. ทักขิณทิศ หมายถึง ทิศเบื้องขวา ได้แก่ ครู อาจารย์
     - ข้อปฏิบัติ : ครูบาอาจารย์ ถือเป็นบุคคลที่สำคัญในการประสาทวิชาความรู้ อบรมสั่งสอน ให้เรามีความสามารถในการประกอบอาชีพ ต้องยกย่องท่านเป็นผู้แก่การกราบไหว้ ควรศึกษาความรู้จากท่านด้วยความเคารพ ระลึกคุณ เยี่ยมเยียนตามเหมาะสม

3. ปัจฉิมทิศ หมายถึง ทิศเบื้องหลัง ได้แก่ สามี ภรรยา
     - ข้อปฏิบัติ : สามี และภรรยา มีบทบาทในการสนับสนุน เกื้อหนุน และให้กำลังใจแก่กัน หากมีบุตรก็เป็นกำลังเสริมให้แก่กัน สามีควรยกย่องภรรยา ไม่กล่าวดูหมิ่น หรือนอกใจ ส่วนภรรยาก็มิควรนอกใจ ดูแลการงานในบ้านให้เรียบร้อย และช่วยรักษาสมบัติของสามี




4. อุตตรทิศ หมายถึง ทิศเบื้องซ้าย ได้แก่ มิตรสหาย
    - ข้อปฏิบัติ : มิตร คือผู้ที่ให้ความช่วยเหลือแก่เรา ให้ผ่านพ้นอุปสรรค และความยากลำบาก หากมีมิตรดีก็จะช่วยให้ประสบความสำเร็จได้ จึงควรซื่อสัตย์จริงใจต่อกัน มีน้ำใจ ไม่ละทิ้งในยามตกทุกข์ได้ยาก และให้ความนับถือในครอบครัวของอีกฝ่าย

5. เหฏฐิมทิศ หมายถึง ทิศเบื้องล่าง ได้แก่ ลูกจ้าง กับนายจ้าง
    - ข้อปฏิบัติ : ลูกน้องเป็นผู้ที่ช่วยเบากำลังเราในการปฏิบัติงานต่างๆ และเป็นที่มาของการช่วยสร้างทรัพย์สินเงินทอง จึงควรบำรุงด้วยเงินค่าจ้างตามกำลังความสามารถ จัดสวัสดิการ และวันหยุดพักผ่อนให้ ในขณะที่ลูกจ้างเองก็ต้องปฏิบัติงานให้เรียบร้อย นำความเมตตา และความดีของนายจ้างไปบอกเผยแพร่ได้

6. อุปริมทิศ หมายถึง ทิศเบื้องบน ได้แก่ พระสงฆ์ สมณพราหมณ์
    - ข้อปฏิบัติ : สาวกและตัวแทนของพระพุทธเจ้า เป็นผู้นำทางสว่างทางจิตใจ ชี้ทิศที่ถูกต้อง สั่งสอนศีลธรรมให้ยึดถือปฏิบัติตาม จึงเป็นผู้ที่ควรอุปถัมภ์ คิดดี พูดดี และปฏิบัติดีต่อท่าน ให้การต้อนรับด้วยความเต็มใจ




เรื่องทิศ 6 ยังปรากฏอยู่ในหนังสือนวโกวาท ชุดเรียนนักธรรมตรี รวมถึงทิศ 6 พุทธวจน ซึ่งถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่ควรรู้ บางครั้งผู้ที่ศึกษาก็อาจจดจำในลักษณะของรูป หรือแผนผังทิศ 6 เพื่อให้เห็นความสำคัญของบุคคลทั้ง 6 ส่วน นำไปสู่การปฏิบัติตน และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างถูกต้องเหมาะสมนั่นเอง





Thank to : https://www.thairath.co.th/horoscope/belief/2085560
7 พ.ค. 2564 09:42 น. | ดวง > ความเชื่อ > ไทยรัฐออนไลน์
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.

ขอบคุณภาพจาก https://สื่อการสอน.com/?p=867


ทิศ ๖ (ที่ควรนอบน้อม)
ฉทิสาปฏิจฉาทนกัณฑ์ ว่าด้วยการปิดป้องทิศ ๖


:25: :25: :25:

ทิศ 6 (บุคคลประเภทต่างๆ ที่เราต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์ทางสังคม ดุจทิศที่อยู่รอบตัว - directions ; quarters)

1. ปุรัตถิมทิศ (ทิศเบื้องหน้า คือ ทิศตะวันออก ได้แก่ มารดาบิดา เพราะเป็นผู้มีอุปการะแก่เรามาก่อน - parents as the east or the direction in front)

  ก. บุตรธิดาพึงบำรุงมารดาบิดา ผู้เป็นทิศเบื้องหน้า ดังนี้
      1) ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ
      2) ช่วยทำการงานของท่าน
      3) ดำรงวงศ์สกุล
      4) ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นทายาท
      5) เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน

  In five ways a child should minister to his parents as the eastern quarter (saying to himself) :-
      a) Having been supported by them I will support them in my turn.
      b) I will do their work for them.
      c) I will keep up the honor and the traditions of my family.
      d) I will make myself worthy of my heritage.
      c) I will make offerings, dedicating merit to them after their death. (แปลอีกอย่างว่า I will grant donations for them.)

  ข. บิดามารดาย่อมอนุเคราะห์บุตรธิดา ดังนี้
      1) ห้ามปรามจากความชั่ว
      2) ให้ตั้งอยู่ในความดี
      3) ให้ศึกษาศิลปวิทยา
      4) หาคู่ครองที่สมควรให้
      5) มอบทรัพย์สมบัติให้ในโอกาสอันสมควร

  In five ways his parents, thus served as the eastern quarter, show their love for him :-
      a) They keep him back form evil.
      b) they train him in virtue.
      c) They have him taught arts and sciences.
      d) They arrange for his marriage to a suitable wife.
      c) They hand over his inheritance to him in due time.

2. ทักขิณทิศ (ทิศเบื้องขวา คือ ทิศใต้ ได้แก่ ครูอาจารย์ เพราะเป็นทักขิไณยบุคคล ควรแก่การบูชาคุณ - teachers as the south or the dierction in the right)

  ก. ศิษย์พึงบำรุงครูอาจารย์ ผู้เป็นทิศเบื้องขวา ดังนี้
      1) ลุกต้อนรับ
      2) เข้าไปหา (เพื่อบำรุง คอยรับใช้ ปรึกษา และรับคำแนะนำ เป็นต้น) (อุปฏฺฐาน)
      3) ใฝ่ใจเรียน (คือ มีใจรัก เรียนด้วยศรัทธา และรู้จักฟังให้เกิดปัญญา) (สุสฺสูสา = ฟังด้วยดี)
      4) ปรนนิบัติ ช่วยบริการ
      5) เรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ (คือ เอาจริงเอาจัง ถือเป็นกิจสำคัญ)

  In five ways a pupil should minister to gis teachers as the southern quarter :-
      a) by rising to receive them.
      b) by waiting upon them.
      c) by eagerness to learn.
      d) by personal service.
      c) by attentively learning the and sciences.

  ข. ครูอาจารย์ย่อมอนุเคราะห์ศิษย์ ดังนี้
      1) ฝึกฝนแนะนำให้เป็นคนดี
      2) สอนให้เข้าใจแจ่มแจ้ง
      3) สอนศิลปวิทยาให้สิ้นเชิง
      4) ยกย่องให้ปรากฏในหมู่คณะ
      5) สร้างเครื่องคุ้มภัยในสารทิศ (สอนฝึกให้รู้จักเลี้ยงตัวรักษาตนในอันที่จะดำเนินชีวิตต่อไปด้วยดี)

  In five ways his teachers, thus served as the southern quarter, show their love for him:
      a) They train him so that he is well-trained.
      b) They teach him in such a way that he understands and remembers well what he has been taught.
      c) They thoroughly instruct him in the lore of every art.
      d) They introduce him to his friends and companions.
      e) They provide for his safety and security in every quarter.


3. ปัจฉิมทิศ (ทิศเบื้องหลัง ทิศตะวันตก ได้แก่ บุตรภรรยา เพราะติดตามเป็นกำลังสนับสนุนอยู่ข้างหลัง - wife and children as the west or the direction behind)

  ก. สามีบำรุงภรรยา ผู้เป็นทิศเบื้องหลัง ดังนี้
      1) ยกย่องให้เกียรติสมกับฐานะที่เป็นภรรยา
      2) ไม่ดูหมิ่น
      3) ไม่นอกใจ
      4) มอบความเป็นใหญ่ในงานบ้านให้
      5) หาเครื่องประดับมาให้เป็นของขวัญตามโอกาส

  In five ways a husband should serve his wife as the western quarter :-
      a) by honoring her.
      b) by being courteous to her.
      c) by being faithful to her.
      d) by handing over authority to her.
      e) by providing her with ornaments.

  ข. ภรรยาย่อมอนุเคราะห์สามี ดังนี้
      1) จัดงานบ้านให้เรียบร้อย
      2) สงเคราะห์ญาติมิตรทั้งสองฝ่ายด้วยดี
      3) ไม่นอกใจ
      4) รักษาทรัพย์สมบัติที่หามาได้
      5) ขยันไม่เกียจคร้านในงานทั้งปวง

  In five ways his wife, thus served as the western quarter, shows her love for him:
      a) The household affairs are to be well managed.
      b) She should be hospitable and helpful to friends and relations of both hers and his.
      c) She should be faithful to him.
      d) She should take care of the goods he brings home.
      e) She should be skilful and industrious in all her duties.



ขอบคุณภาพจาก http://www.anantasook.com/buddhist-directions/


4. อุตตรทิศ (ทิศเบื้องซ้าย ทิศเหนือ ได้แก่ มิตรสหาย เพราะเป็นผู้ช่วยให้ข้ามพ้นอุปสรรคภัยอันตราย และเป็นกำลังสนับสนุน ให้บรรลุความสำเร็จ - friends and companions as the north or the direction in left)

  ก. บุคคลพึงบำรุงมิตรสหาย ผู้เป็นทิศเบื้องซ้าย ดังนี้
      1) เผื่อแผ่แบ่งปัน
      2) พูดจามีน้ำใจ
      3) ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
      4) มีตนเสมอ ร่วมสุขร่วมทุกข์กัน
      5) ซื่อสัตย์จริงใจต่อกัน

  In five ways a clansman should serve his friends and associates as the northern quarter :-
      a) by generosity
      b) by kind words.
      c) by gelping them and acting for their welfare.
      d) by putting them on equal terms.
      c) by being sincere to them.

  ข. มิตรสหายย่อมอนุเคราะห์ตอบ ดังนี้
      1) เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาป้องกัน
      2) เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาทรัพย์สมบัติของเพื่อน
      3) ในคราวมีภัย เป็นที่พึ่งได้
      4) ไม่ละทิ้งในยามทุกข์ยาก
      5) นับถือตลอดถึงวงศ์ญาติของมิตร

  In five ways his friends and associates, thus served as the northern quarter, show their love for him :-
      a) They protect him when he is careless.
      b) They guard his property when he is careless.
      c) They are a refuge for him when he is in danger.
      d) They do not leave him in his troubles.
      e) They show due respect to other members of his family.


5. เหฏฐิมทิศ (ทิศเบื้องล่าง ได้แก่ คนรับใช้และคนงาน เพราะเป็นผู้ช่วยทำการงานต่างๆ เป็นฐานกำลังให้ - servants and workmen as the nadir)

  ก. นายพึงบำรุงคนรับใช้และคนงาน ผู้เป็นทิศเบื้องล่าง ดังนี้
      1) จัดการงานให้ทำตามความเหมาะสมกับกำลังความสามารถ
      2) ให้ค่าจ้างรางวัลสมควรแก่งานและความเป็นอยู่
      3) จัดสวัสดิการดี มีช่วยรักษาพยาบาลให้ยามเจ็บไข้ เป็นต้น
      4) ได้ของแปลกๆ พิเศษมา ก็แบ่งปันให้
      5) ให้มีวันหยุดและพักผ่อนหย่อนใจตามโอกาสอันควร

  In five ways a master should serve his servants and workmen as the lower quarter :-
      a) by assigning them work according to their strength.
      b) by giving them due food and wages.
      c) by caring for them in sickness.
      d) by sharing with them unusual luxuries.
      c) by giving them holidays and leave at suitable times.

  ข. คนรับใช้และคนงานย่อมอนุเคราะห์นาย ดังนี้
      1) เริ่มทำการงานก่อนนาย
      2) เลิกงานทีหลังนาย
      3) ถือเอาแต่ของที่นายให้
      4) ทำการงานให้เรียบร้อยและดียิ่งขึ้น
      5) นำเกียรติคุณของนายไปเผยแพร่

  In five ways his servants and workmen, thus served as the lower quarter, show their love for him :-
      a) They get up to work before him.
      b) They go to rest after him.
      c) They take only what is given to them.
      d) They do their work well.
      e) They spread about his praise and good name.

6. อุปริมทิศ (ทิศเบื้องบน ได้แก่ สมณพราหมณ์ คือ พระสงฆ์ เพราะเป็นผู้สูงด้วยคุณธรรม และเป็นผู้นำทางจิตใจ - monks as the zenith)

  ก. คฤหัสถ์ย่อมบำรุงพระสงฆ์ ผู้เป็นทิศเบื้องบน ดังนี้
      1) จะทำสิ่งใด ก็ทำด้วยเมตตา
      2) จะพูดสิ่งใด ก็พูดด้วยเมตตา
      3) จะคิดสิ่งใด ก็คิดด้วยเมตตา
      4) ต้อนรับด้วยความเต็มใจ
      5) อุปถัมภ์ด้วยปัจจัย 4

  In five ways a clansman should serve monks and Brahmins as the upper quarter:
      a) by kindly acts.
      b) by kindly words.
      c) by kindly thoughts.
      d) by keeping open house to them.
      e) by supplying them with their material needs.

  ข. พระสงฆ์ย่อมอนุเคราะห์คฤหัสถ์ ดังนี้
      1) ห้ามปรามจากความชั่ว
      2) ให้ตั้งอยู่ในความดี
      3) อนุเคราะห์ด้วยความปรารถนาดี
      4) ให้ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง
      5) ทำสิ่งที่เคยฟังแล้วให้แจ่มแจ้ง
      6) บอกทางสวรรค์ คือทางชีวิตที่มีความสุขความเจริญให้

  In six ways the monks, thus served as the upper quarter, show their love for him:
      a) They keep him back from evil.
      b) They encourage him to do good.
      c) They feel for him with kindly thoughts.
      d) They teach him what he has not heard before.
      e) They correct and clarity what he has learnt.
      f) They show him the way to heaven.


ผู้ปฏิบัติดังกล่าวนี้ชื่อว่า ปกปักรักษาทั่วทุกทิศให้เป็นแดนเกษมสุขปลอดภัย

D.III.189. 192 , ที.ปา. 11/198-204/202-206.





ขอขอบคุณ :-
ที่มา : พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
website : https://84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=265
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 27, 2023, 09:29:43 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.

ขอบคุณภาพจาก https://www.moogampaeng.com/167


ฉทิสาปฏิจฉาทนกัณฑ์ ว่าด้วยการปิดป้องทิศ ๖

[๒๖๖] อริยสาวกเป็นผู้ปิดป้องทิศ ๖ เป็นอย่างไร

        คหบดีบุตร เธอพึงทราบทิศ ๖ นี้ คือ
        พึงทราบว่า มารดาบิดาเป็นทิศเบื้องหน้า
        พึงทราบว่า อาจารย์เป็นทิศเบื้องขวา
        พึงทราบว่า บุตรและภรรยาเป็นทิศเบื้องหลัง
        พึงทราบว่า มิตรสหายเป็นทิศเบื้องซ้าย
        พึงทราบว่า ทาสและกรรมกรเป็นทิศเบื้องล่าง
        พึงทราบว่า สมณพราหมณ์เป็นทิศเบื้องบน


@@@@@@@

[๒๖๗] คหบดีบุตร บุตรพึงบำรุงมารดาบิดาผู้เป็นทิศเบื้องหน้าโดยหน้าที่ ๕ ประการ คือ
         ๑. ท่านเลี้ยงเรามา เราจักเลี้ยงท่านตอบ
         ๒. จักทำกิจของท่าน
         ๓. จักดำรงวงศ์ตระกูล
         ๔. จักประพฤติตนให้เหมาะสมที่จะเป็นทายาท
         ๕. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน
       
มารดาบิดาผู้เป็นทิศเบื้องหน้า บุตรบำรุงโดยหน้าที่ ๕ ประการนี้แล ย่อมอนุเคราะห์บุตรโดยหน้าที่ ๕ ประการ คือ
         ๑. ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว
         ๒. ให้ตั้งอยู่ในความดี
         ๓. ให้ศึกษาศิลปวิทยา
         ๔. หาภรรยา(สามี) ที่สมควรให้
         ๕. มอบทรัพย์สมบัติให้ในเวลาอันสมควร

คหบดีบุตร มารดาบิดาผู้เป็นทิศเบื้องหน้า บุตรบำรุงโดยหน้าที่ ๕ ประการนี้แล ย่อมอนุเคราะห์บุตรด้วยหน้าที่ ๕ ประการนี้ ทิศเบื้องหน้านั้นเป็นอันชื่อว่า กุลบุตรได้ปิดป้อง ทำให้เกษมปลอดภัยแล้ว ด้วยประการฉะนี้

[๒๖๘] คหบดีบุตร ศิษย์พึงบำรุงอาจารย์ผู้เป็นทิศเบื้องขวา โดยหน้าที่ ๕ ประการ คือ
         ๑. ลุกขึ้นยืนรับ
         ๒. เข้าไปคอยรับใช้
         ๓. เชื่อฟัง
         ๔. ดูแลปรนนิบัติ
         ๕. เรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ

อาจารย์ผู้เป็นทิศเบื้องขวา ศิษย์บำรุงด้วยหน้าที่ ๕ ประการนี้แล ย่อมอนุเคราะห์ศิษย์ด้วยหน้าที่ ๕ ประการ คือ
         ๑. แนะนำให้เป็นคนดี
         ๒. ให้เรียนดี
         ๓. บอกความรู้ในศิลปวิทยาทุกอย่างด้วยดี
         ๔. ยกย่องให้ปรากฏในมิตรสหาย
         ๕. ทำความป้องกันในทิศทั้งหลาย

คหบดีบุตร อาจารย์ผู้เป็นทิศเบื้องขวา ศิษย์บำรุงด้วยหน้าที่ ๕ ประการนี้แล ย่อมอนุเคราะห์ศิษย์ด้วยหน้าที่ ๕ ประการนี้ ทิศเบื้องขวานั้นเป็นอันชื่อว่า ศิษย์ได้ปิดป้อง ทำให้เกษมปลอดภัยแล้ว ด้วยประการฉะนี้

@@@@@@@

[๒๖๙] คหบดีบุตร สามีพึงบำรุงภรรยาผู้เป็นทิศเบื้องหลังโดยหน้าที่ ๕ ประการ คือ
         ๑. ให้เกียรติยกย่อง
         ๒. ไม่ดูหมิ่น
         ๓. ไม่ประพฤตินอกใจ
         ๔. มอบความเป็นใหญ่ให้
         ๕. ให้เครื่องแต่งตัว

ภรรยาผู้เป็นทิศเบื้องหลัง สามีบำรุงด้วยหน้าที่ ๕ ประการนี้แล ย่อมอนุเคราะห์สามีด้วยหน้าที่ ๕ ประการ คือ
         ๑. จัดการงานดี
         ๒. สงเคราะห์คนข้างเคียงดี
         ๓. ไม่ประพฤตินอกใจ
         ๔. รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้
         ๕. ขยันไม่เกียจคร้านในกิจทั้งปวง

คหบดีบุตร ภรรยาผู้เป็นทิศเบื้องหลัง สามีบำรุงด้วยหน้าที่ ๕ ประการนี้แล ย่อมอนุเคราะห์สามีด้วยหน้าที่ ๕ ประการนี้ ทิศเบื้องหลังนั้นเป็นอันชื่อว่า สามีได้ปิดป้อง ทำให้เกษมปลอดภัยแล้ว ด้วยประการฉะนี้

[๒๗๐] คหบดีบุตร กุลบุตรพึงบำรุงมิตรสหายผู้เป็นทิศเบื้องซ้ายโดยหน้าที่ ๕ ประการ คือ
         ๑. การให้ (การแบ่งปันสิ่งของให้)
         ๒. กล่าววาจาเป็นที่รัก
         ๓. ประพฤติตนให้เป็นประโยชน์
         ๔. วางตนสม่ำเสมอ
         ๕. ไม่พูดจาหลอกลวงกัน

มิตรสหายผู้เป็นทิศเบื้องซ้าย กุลบุตรบำรุงโดยหน้าที่ ๕ ประการนี้แล ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรด้วยหน้าที่ ๕ ประการ คือ
         ๑. ป้องกันมิตรผู้ประมาทแล้ว
         ๒. ป้องกันทรัพย์ของมิตรผู้ประมาทแล้ว
         ๓. เมื่อมีภัยก็เป็นที่พึ่งพำนักได้
         ๔. ไม่ละทิ้งในยามอันตราย
         ๕. นับถือตลอดถึงวงศ์ตระกูลของมิตร

คหบดีบุตร มิตรผู้เป็นทิศเบื้องซ้าย กุลบุตรบำรุงด้วยหน้าที่ ๕ ประการนี้แล ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรด้วยหน้าที่ ๕ ประการนี้ ทิศเบื้องซ้ายนั้นเป็นอันชื่อว่า กุลบุตรได้ปิดป้อง ทำให้เกษมปลอดภัยแล้ว ด้วยประการฉะนี้



ขอบคุณภาพจาก https://www.pangpond.com/ทิศ-6


[๒๗๑] คหบดีบุตร นายพึงบำรุงทาสกรรมกร ผู้เป็นทิศเบื้องต่ำโดยหน้าที่ ๕ ประการ คือ
         ๑. จัดการงานให้ทำตามสมควรแก่กำลัง
         ๒. ให้อาหารและค่าจ้าง
         ๓. ดูแลรักษายามเจ็บป่วย
         ๔. ให้อาหารมีรสแปลก
         ๕. ให้หยุดงานตามโอกาส

ทาสกรรมกรผู้เป็นทิศเบื้องต่ำ นายบำรุงด้วยหน้าที่ ๕ ประการนี้แล ย่อมอนุเคราะห์นายด้วยหน้าที่ ๕ ประการ คือ
         ๑. ตื่นขึ้นทำงานก่อนนาย
         ๒. เลิกงานเข้านอนทีหลังนาย
         ๓. ถือเอาแต่ของที่นายให้
         ๔. ทำงานให้ดีขึ้น
         ๕. นำคุณของนายไปสรรเสริญ

คหบดีบุตร ทาสกรรมกรผู้เป็นทิศเบื้องต่ำ นายบำรุงด้วยหน้าที่ ๕ ประการนี้แล ย่อมอนุเคราะห์นายโดยหน้าที่ ๕ ประการนี้ ทิศเบื้องต่ำนั้นเป็นอันชื่อว่า นายได้ปิดป้อง ทำให้เกษมปลอดภัยแล้ว ด้วยประการฉะนี้

[๒๗๒] คหบดีบุตร กุลบุตรพึงบำรุงสมณพราหมณ์ผู้เป็นทิศเบื้องบน โดยหน้าที่ ๕ ประการ คือ
         ๑. จะทำสิ่งใด ก็ทำด้วยเมตตา
         ๒. จะพูดสิ่งใด ก็พูดด้วยเมตตา
         ๓. จะคิดสิ่งใด ก็คิดด้วยเมตตา
         ๔. เปิดประตูต้อนรับ
         ๕. ถวายปัจจัยเครื่องยังชีพ

สมณพราหมณ์ผู้เป็นทิศเบื้องบน กุลบุตรบำรุงโดยหน้าที่ ๕ ประการนี้แล ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรด้วยหน้าที่ ๖ ประการ คือ
         ๑. ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว
         ๒. ให้ตั้งอยู่ในความดี
         ๓. อนุเคราะห์ด้วยน้ำใจอันดีงาม
         ๔. ให้ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง
         ๕. อธิบายสิ่งที่เคยฟังแล้วให้เข้าใจแจ่มแจ้ง
         ๖. บอกทางสวรรค์ให้

คหบดีบุตร สมณพราหมณ์ผู้เป็นทิศเบื้องบน กุลบุตรบำรุงโดยหน้าที่ ๕ ประการนี้แล ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรโดยหน้าที่ ๖ ประการนี้ ทิศเบื้องบนนั้น เป็นอันชื่อว่า กุลบุตรได้ปิดป้อง ทำให้เกษมปลอดภัยแล้ว ด้วยประการฉะนี้”

@@@@@@@

[๒๗๓] พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสเวยยากรณภาษิตนี้แล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า

   “มารดาบิดาเป็นทิศเบื้องหน้า
    อาจารย์เป็นทิศเบื้องขวา
    บุตรภรรยาเป็นทิศเบื้องหลัง
    มิตรสหายเป็นทิศเบื้องซ้าย
    ทาสกรรมกรเป็นทิศเบื้องล่าง
    สมณพราหมณ์เป็นทิศเบื้องบน
    คฤหัสถ์ในตระกูลผู้มีความสามารถ(๑-) พึงไหว้ทิศเหล่านี้

    บัณฑิตผู้สมบูรณ์ด้วยศีล เป็นคนละเอียดและมีไหวพริบ(๒-) มีความประพฤติเจียมตน ไม่แข็งกระด้าง เช่นนั้น ย่อมได้ยศ
    คนขยัน ไม่เกียจคร้าน ย่อมไม่หวั่นไหวในอันตรายทั้งหลาย
    คนมีความประพฤติไม่ขาดตอน(๓-) มีปัญญาเช่นนั้น ย่อมได้ยศ
    คนชอบสงเคราะห์ ชอบสร้างไมตรี รู้เรื่องที่เขาบอก(๔-) ปราศจากความตระหนี่ เป็นผู้ชอบแนะนำ ชี้แจงแสดงเหตุผล เช่นนั้น ย่อมได้ยศ

    ทาน(การให้), เปยยวัชชะ(วาจาเป็นที่รัก), อัตถจริยา(การประพฤติประโยชน์)ในโลกนี้ และสมานัตตตา(การวางตนสม่ำเสมอ) ในธรรมนั้นๆ ตามสมควร
    สังคหธรรมเหล่านี้แล ช่วยอุ้มชูโลก เหมือนลิ่มสลักเพลาคุมรถที่แล่นไปไว้ได้ ฉะนั้น
    ถ้าไม่มีสังคหธรรมเหล่านี้ มารดาหรือบิดาก็ไม่พึงได้การนับถือ หรือการบูชาเพราะบุตรเป็นเหตุ แต่เพราะบัณฑิตเล็งเห็นความสำคัญของสังคหธรรมเหล่านี้ ฉะนั้น บัณฑิตเหล่านี้จึงถึงความเป็นใหญ่และเป็นผู้น่าสรรเสริญ”


[๒๗๔] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว สิงคาลกะ คหบดีบุตร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า

   “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระภาษิตของพระผู้มีพระภาค ชัดเจนไพเราะยิ่งนัก ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระภาษิตของพระผู้มีพระภาคชัดเจน ไพเราะยิ่งนัก พระผู้มีพระภาคทรงประกาศธรรมแจ่มแจ้งโดยประการต่างๆ เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่ผู้หลงทาง หรือตามประทีปในที่มืดด้วยตั้งใจว่า ‘คนมีตาดีจักเห็นรูปได้’ ข้าพระองค์นี้ขอถึงพระผู้มีพระภาค พร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอพระผู้มีพระภาคจงทรงจำข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนตลอดชีวิต”

                                 สิงคาลกสูตรที่ ๘ จบ





เชิงอรรถ :-

(๑-) ผู้มีความสามารถ ในที่นี้หมายถึงผู้มีความสามารถที่จะครองเรือน คือเลี้ยงดูบุตรและภรรยาให้เป็นสุขได้ (ที.ปา.อ. ๒๗๓/๑๕๐)
(๒-) มีไหวพริบ ในที่นี้หมายถึงมีความเฉลียวฉลาดในการไหว้ทิศ คือเข้าใจความหมายของการไหว้อย่างถูกต้อง (ที.ปา.อ. ๒๗๓/๑๕๐)
(๓-) ประพฤติไม่ขาดตอน ในที่นี้หมายถึงประพฤติต่อเนื่องกันไปไม่ขาดสาย (ที.ปา.อ. ๒๗๓/๑๕๐)
(๔-) รู้เรื่องที่เขาบอก ในที่นี้หมายถึงรู้เรื่องที่บุพการีสั่งไว้ แล้วปฏิบัติตามนั้น (ที.ปา.อ. ๒๗๓/๑๕๐)




ขอขอบคุณ
ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๑๑ หน้า : ๒๑๒-๒๑๘}
ข้อธรรม : ฉทิสาปฏิจฉาทนกัณฑ์ ว่าด้วยการปิดป้องทิศ ๖ , สิงคาลกสูตร ว่าด้วยสิงคาลกมาณพ , พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๓ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
website : https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=11&siri=8
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 27, 2023, 10:29:07 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ