ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: MV ชวนกลับบ้านวันปีใหม่ จดหมายถึงพ่อ-เขียนฝันไว้ข้างฝา  (อ่าน 2247 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ภาพ "THE PLAIN AT AUVERS" วาดโดย "วินเซนต์ แวน โก๊ะ" (Vincent van Gogh)


MV ชวนกลับบ้านวันปีใหม่ จดหมายถึงพ่อ-เขียนฝันไว้ข้างฝา
คอลัมน์ “หนังช่างคิด” OLDBOY บางคูวัด sompratana08@yahoo.com
 
ผ่านเข้าสู่ครึ่งหลังของเดือนธันวาคม กลิ่นอายของการเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ รวมถึงบรรยากาศอันครึกครื้นรื่นเริง ก็ปกคลุมไปทุกหัวระแหง ไม่ว่าจะเป็นคอนเวนชั่นฮออล์สำหรับจัดงานเลี้ยงสุดหรู ภัตาคารลอยน้ำ ไปจนถึง ร้านหมูกระทะ ร้านลาบหน้าปั๊ม ริม 2 ข้างทางถนน (ส่วนสุดท้ายเห็นเขาว่าจะห้ามกินดื่มฉลองด้วยแอลกอฮอล์เสียแล้ว)

อย่าได้แปลกใจที่ประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน ลูกจ้างจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดในเมื่อ จิตใจล่องลอยไปถึงความสุขที่กำลังเกิดขึ้นกับการเลี้ยงฉลอง  และวันหยุดยาว ธรรมเนียมฝรั่งทางตะวันตก เทศกาลคริสต์มาส คือช่วงเวลาสำหรับครอบครัวที่ได้หยุดงาน กลับไปเจอคนที่บ้าน ญาติมิตรให้พร้อมหน้าพร้อมตากันปีละครั้ง

เทศกาลปีใหม่ไทยร่วมสมัยก็ไม่แตกต่างกันนัก นอกจากจะเป็นเวลาที่ควรพักสมอง หยุดเถียงเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ หยุดเกี่ยงกันว่าจะขึ้นค่าแรง 300 บาทยังไงดีแล้ว นี่คือช่วงเวลาที่ “คนไกลบ้าน” ทั้งหลายวาดหวังเอาไว้ว่าจะได้กลับไปสังสรรค์ รื่นเริง กับ พ่อ-แม่-พี่-น้อง ที่บ้านเกิดในจังหวัดต่างๆ หลังจากที่ตลอดทั้งปี ต้องเดินทางมาหากิน ค้าขาย เป็นนักรบแรงงาน ในต่างบ้านต่างถิ่น ตามหัวเมืองใหญ่
   
คอลัมน์ส่งท้ายปีเลยอยากเชิญชวน “กลับบ้าน” ไปใช้ช่วงเวลาดีๆ กันอย่างมีความสุข และสวัสดิภาพ ผ่าน ภาพและเพลง จาก 2 ศิลปิน ที่ผมเชื่อว่าเปิดชมเปิดฟังครั้งใด “คนไกลบ้าน” ก็อาจแอบสะอื้น (อาจมีอีกหลายเพลงที่เป็นตัวแทนหรือทำหน้าที่ในทำนองนี้ แต่บังเอิญผู้เขียนอินกับ 2 เพลงนี้มากที่สุด)

เพลงแรกคือ “จดหมายถึงพ่อ” ของ อี๊ด ฟุตบาท เพลงเก่าที่เนื้อหามีกลิ่นอายบ้านทุ่ง เรือนน้อยนอกเขตเมือง กับท่วงทำนองกึ่งหวานกึ่งสนุก กระชับ กระฉับกระเฉง แต่ไม่รู้ทำไมเมื่อฟัง “ความ” ที่สะท้อนวิถีชีวิตคนไทย ถ่ายทอดปัญหาแรงงานอพยพ ตลอดจนประเด็นที่ตัดแบ่งแย้งกันระหว่าง “จะมีบ้านโตมีรถโก้สง่า” กับ “จะเอาขี่หลังของพ่อคนเดียว” แล้ว ผมรู้สึกว่ามันทั้งใช่และชอบ ประทับใจ ได้อารมณ์ร่วมดีเหลือเกิน

ไม่ว่า “พ่อ” ในนิยามของเพลงจะหมายถึง นักรบแรงงาน นักแสวงโชคผู้อยากขยับสถานะหนีไปจากคำนำหน้าว่า “คนจน” หรือ “รากหญ้า” ไปจนถึงเจ้าหน้าที่ผู้จากบ้านทิ้งครอบครัวในแดนไกลไปไปแขวนชีวิตเอาไว้กับพื้นที่ต่างถิ่น
   
เพลงที่สอง“เขียนฝันไว้ข้างฝา”ของรัชนก ศรีโลพันธุ์เพลงลูกทุ่งที่ฉายภาพอันแสนจะสามัญสำหรับเด็กสาวนับแสนนับล้านคนที่ต่างก็มีฝันและตะเกียกตะกายในเมืองใหญ่เพื่อจะไปให้ถึงฝันนั้น มีมากมายที่สะดุดล้ม หรือหลุดกระเด็นออกไปนอกเส้นทาง จมอยู่กับสภาวะที่ “เลือกไม่ได้” แต่ก็มีไม่น้อยเช่นกันที่ยังพร้อมจะดิ้นรน ไขว่คว้าทุกโอกาสที่ผ่านเข้ามา พร้อมที่จะลองสู้
   
หลายคนใช้เวลานานปีหลังจากวันที่ “จากบ้านวันฟ้ามัว มาขึ้นรถทัวร์ที่อำเภอ” กว่าที่จะเอื้อมเข้าไปใกล้ “ความสำเร็จ” และกลับไปบ้านอีกครั้งอย่างภาคภูมิใจ เพื่อไปเปลี่ยนภาพฝันให้กลายเป็นจริง
   
   ชมภาพจาก มิวสิค วิดีโอ พร้อมฟังเสียง เนื้อความจับใจจากทั้ง 2 เพลงนี้แล้ว
   “คนไกลบ้าน” น่าจะยิ่งเห็นคุณค่า-ความหมายในการเดินทางระหว่างวันหยุดยาวฉลองปีใหม่ 2556
   ขอให้ความความสุขกับช่วงเวลาดีๆ พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวและคนรอบข้างที่รักเรานะครับ




อัปโหลดเมื่อ 3 ก.ย. 2009 โดย Banthit Kp

จดหมายถึงพ่อ   
อี๊ด ฟุตบาท & ครอบครัว
           
อ่านคำบรรยาย จดหมายถึงพ่อ
หนูยังรอวันพ่อกลับมาบ้าน
กล้ามะละกอที่พ่อนั่งหว่าน.
ยังปลูกไม่นานลูกโตน่าดู.
กระถินริมรั้วสูงขึ้นเลยบ่า
พุ่มกระดังงาเลื้อยซุ้มประตู.
ทานตะวันชูคอชูช่อรออยู่
คงชะเง้อดูคอยพ่อกลับมา


แม่อธิบายที่พ่อไปทำงาน
เพื่อเงินเพื่อบ้าน และเพื่อลูกยา.
จะมีบ้านโตมีรถโก้สง่า
มีหน้ามีตาเหมือนดังใครๆ.
พ่อไปคราวนี้แม้จะยาวนาน
พวกเราทางบ้านเป็นกำลังใจ.
แต่บางคืนแม่สะอื้นร้องไห้
หนูแกล้งหลับไปสงสารแม่จัง.

ส่วนน้องหญิงยิ่งยามเย็นย่ำ
อ้อนประจำเหตุผลไม่ฟัง.
ไม่เอาบ้านโตไม่เอาทุกอย่าง
จะเอาขี่หลังของพ่อคนเดียว.


กระถินริมรั้วสูงขึ้นเลยบ่า
พุ่มกระดังงาเลื้อยซุ้มประตู
ทานตะวันชูคอชูช่อรออยู่
คงชะเง้อดูคอยพ่อกลับมา

สุดท้ายนี้ขออวยพรให้
พ่ออยู่แดนไกลมีใจเด็ดเดี่ยว.
ขอพระคุ้มครองยามใจห่อเหี่ยว
ปกป้องแลเหลียวร่ำรวยกลับมา.


กระถินริมรั้วสูงขึ้นเลยบ่า
พุ่ม กระดังงาเลื้อยซุ้มประตู
ทานตะวันชูคอ ชูช่อรออยู่
คงชะเง้อดูคอยพ่อกลับมา.
กระถินริมรั้วสูงขึ้นเลยบ่า
พุ่ม กระดังงาเลื้อยซุ้มประตู
ทานตะวันชูคอ ชูช่อรออยู่
คงชะเง้อดูคอยพ่อกลับมา……………#



อัปโหลดเมื่อ 2 มี.ค. 2009 โดย beereena

เขียนไว้ข้างฝา
รัชนก  ศรีโลพันธุ์

เขียนติดฝาห้องว่าต้องสู้ไหว
ลูกต้องทำให้ได้ เคยบอกแม่ไว้จำได้เสมอ
จากบ้านวันฟ้ามัว มาขึ้นรถทัวร์ที่อำเภอ
หอบฝันเปื้อนน้ำตาเอ่อ...เข้าเมืองเสี่ยงดวงเดียวดาย


งานแลกรายได้ที่ใจเสาะหา
ไม่ตรงที่เรียนมาก็ต้องรีบคว้ารอท่าไม่ไหว
เช่าห้องโทรมซุกนอนเพื่อลดทอนรายจ่าย
จะเก็บเงินพันซักใบต้องใช้เวลาหลายเดือน

หลังคาเรือนรูรั่วข้างหัวเตียงแม่
จักรยานอีแก่ที่พ่อปั่นยี่ห้อลบเลือน
น้องอ้อนวอนขออยากมีเสื้อใหม่เหมือนเพื่อน
ภาพหวังค้างจ่ายย้ำเตือนฝันไม่เลือนแต่คงต้องรอ


*เขียนคำห้ามท้อไว้เตือนใจฝัน
สายเลือดความมุ่งมั่น...จากแม่นั้นยังมีมากพอ
ลูกแม่ยังสู้ไหว...แม้เมืองไกลใจร้ายต่อ
ความฝันที่เราเฝ้ารอ...ลูกขอทยอยส่งคืน..................#

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1355929077&grpid=01&catid=&subcatid=
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

เสกสรรค์

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 419
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
บรรยากาศ ปีใหม่ ก็จะเป็นเช่นนี้ เมื่อถึงวันสิ้นปี ทุกคนก็จะกลับบ้านกันไปร่วมฉลองความสุข ภายใต้ความอบอุ่นแห่งครอบครัว พี่น้อง พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ลุงป้า น้าอา ลูกหลาน ญาติมิตร

  และเป็นโอกาสมอบรางวัลแก่ชีวิต ที่เหน็ดเหนื่อยตรากตรำทำงานกันมา ทั้งปี ก็เพียงเพื่อ ความสุขเล็ก ๆ นี้เอง

   :c017: :25:
บันทึกการเข้า