ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - paisalee
หน้า: 1 [2] 3 4 5
41  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / 11 ม.ค.55 ตัดหวายลูกนิมิต วัดบ้านเก่าบ่อ ตำบลหนองแก้ว อำนาจเจริญ เมื่อ: มกราคม 10, 2012, 05:23:46 pm


11 ม.ค.55 ตัดหวายลูกนิมิต วัดบ้านเก่าบ่อ ตำบลหนองแก้ว  อำนาจเจริญ
42  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญเข้าร่วมคอร์สปฏิบัติธรรมเจริญสติแบบเคลื่อนไหว 21-28 ม.ค.55 วัดป่ามหาปัญโญ เมื่อ: มกราคม 10, 2012, 05:16:12 pm


ขอเชิญเข้าร่วมคอร์สปฏิบัติธรรมเจริญสติแบบเคลื่อนไหว
ตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

วันที่ ๒๑-๒๘ มกราคม ๒๕๕๕

ณ วัดป่ามหาปัญโญ บ้านเมืองก๊ะ ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

นำปฏิบัติโดย พระอาจารย์สุริยา มหาปัญโญ

(หลวงตาวัดป่าโสมพนัส จ.สกลนคร)

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

โทร: ๐๘๙-๔๓๒๐๒๗๒ (บุญรินทร์), ๐๘๑-๕๓๐๒๓๕๖ (ปิยะ)

อีเมลล์: pakeryaw@hotmail.com, edu2554@gmail.com

แผนที่การเดินทาง: http://www.watmahapanyo.co.cc
43  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.3pidok.com/main.php เว็บจำหน่ายพระไตรปิฏชุดเล็ก เมื่อ: มกราคม 09, 2012, 07:35:00 am

http://www.3pidok.com/main.php
เว็บจำหน่ายพระไตรปิฏชุดเล็ก
44  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / 20-31 มกราคม 2555 ปิดทองฝังลูกนิมิตวัดห้วยตะโก นครปฐม เมื่อ: มกราคม 09, 2012, 07:31:36 am
เชิญร่วมงานบุญ ต.พะเนียด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
ระหว่างวันที่ 20-31 มกราคม 2555
โทร.082-2420220

45  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / การปฏิบัติธรรมเป็นอาจาริยบูชาแด่องค์พ่อแม่ชา ระหว่างวันที่ 12-17 มกราคม ของทุกปี เมื่อ: มกราคม 09, 2012, 07:27:38 am
ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรมเป็นอาจาริยบูชาองค์พ่อแม่ชา สุภัทโท ณ วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี 12-17 มกราคม 2555


เนื่องจากองค์พ่อแม่ชาได้ละสังขารไปเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2535 ทางวัดหนองป่าพงจึงได้กำหนดสัปดาห์แห่งการปฏิบัติธรรมเป็นอาจาริยบูชาแด่องค์พ่อแม่ชา ระหว่างวันที่ 12-17 มกราคม ของทุกปี

ในโอกาศครบรอบ 20 ปี การละสังขารขององค์พ่อแม่ชา จึงขอเชิญชวนศิษยานุศิษย์และผู้สนใจร่วมปฏิบัติธรรม เป็ฯอาจาริยบูชาแด่องค์พ่อแม่ชา ณ วัดหนองป่าพง บ.พงสว่าง ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี สามารถดูกำหนดการณ์ได้ตามลิงค์นี้ครับ

http://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3630

ปล.กราบขออภัยที่ไม่สามารถให้ความกระจ่างได้ครบถ้วน และกราบขออภัยผู้ที่ได้ลงบทความข้างต้นเอาไว้ในเว็บวัดป่ากรรมฐาน
    ลูกขอร่วมเผยแพร่บารมีแห่งองค์พ่อแม่ชา สุภัทโท ที่ลูกเคารพเหนือเศียรเกล้า ด้วยประสงค์ที่บริสุทธิ์ทุกประการ

 

46  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / 29 ม.ค.55 เชิญร่วมเสวนาธรรม ที่ มช. ฟรีทุกอย่าง คะ เมื่อ: มกราคม 09, 2012, 07:19:53 am


ธรรมะเปลี่ยนชีวิต ครั้งที่ 6

"กรรมเปลี่ยนชีวิต..ชีวิตเป็นธรรมะ..ธรรมะเป็นอนัตตา"

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ ชมรมสารธรรมล้านนา

ขอเชิญชวนชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง มาร่วมฟังการบรรยาย และปฏิบัติธรรม

วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2555 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เวลา 7.00 น.-17.00น. ...ฟรี!..ทุกอย่างค่ะ

ในงานมีการแจกหนังสือธรรมะ-ซีดีธรรมะ

โรงทานเปิดตั้งแต่ 06.00น. "มีอาหารและเครื่องดื่มฟรีตลอดงาน"

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม  =>http://www.saratamlanna.net/index.php?option=com_content&view=article&id=277:tamma6&catid=53:slidesAeva Debug: 0.0004 seconds.
47  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / อยากทราบว่า ถ้าจะฝึกสมาธิ ใต้น้ำต้องฝึกกรรมฐาน อะไรครับ เมื่อ: ธันวาคม 11, 2011, 09:51:00 pm
อยากทราบว่า ถ้าจะฝึกสมาธิ ใต้น้ำต้องฝึกกรรมฐาน อะไรครับ

ทราบว่าพระเกจิอาจารย์ ที่สามารถลงไปอยู่ใต้น้ำนาน ๆ ได้เป็น ชม. มีหลายรูป ที่สระบุรีก็เห็นมี

หลวงปู่ย้อย วัดอัมพวัน  หลวงปู่แผ้ว วัดแ่ก่นขนุน เป็นต้น

  ถ้าจะสามารถอยู่ในน้ำได้นาน ๆ ต้องฝึกกรรมฐาน อะไรครับ จึงจะอยู่ใต้น้ำได้นาน ๆ ครับ

   :c017:
48  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญพระคุณเจ้า นักปฏิบัติธรรม ร่วมงานปริวาสกรรม วัดแก่งขนุน 11-20 ม.ค.55 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 03:01:05 pm
ขอนิมนต์ พระคุณเจ้า ที่ต้องการประพฤติ วัตรวุฏฐานวิธี อยู่ปริวาสกรรมเข้าร่วมปฏิบัติวัตร

ตั้งแต่วันที่   11 - 20 มกราคม 2555


และขอเชิญท่านผู้มีใจบุญกุศลทั้งหลาย ร่วมเป็นเจ้าภาพ ถวายน้ำปานะ ค่าพาหนะ ของพระคุณเจ้า

และร่วมปฏิบัติธรรมกันในทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ที่ สวนป่าปฏิบัติธรรม วัดแก่งขนุน

มีการทำบุญใส่บาตร ที่ลาน หน้าอุโบสถ ทุกวันตั้งแต่เวลา 07.30 น.

และมีการบรรยาย ธรรม โดยพระคุณเจ้า หลังจากใส่บาตร ทุกวัน




ลานธรรม ดวงอุทัย ที่ได้ปรับปรุงสถานที่ มาจนถึงปัจจุบันนี้ครับ





ลานธรรม ดวงอุทัย พร้อมรับนักปฏิบัติธรรม ทุกวัน



ทางเข้า กว้างขวาง



49  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญร่วมพิธีสมโภชสมณศักดิ์พระครูฐานานุกรม พระครูปลัดมงคล สิริธัมโม 9 ธ.ค.54 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2011, 08:45:01 am


   
ขอเชิญร่วมพิธีสมโภชสมณศักดิ์พระครูฐานานุกรม
ในโอกาสที่ พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติเวที
วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร
แต่งตั้งให้ พระอธิการมงคล สิริธัมโม เจ้าอาวาสวัดอมรญาติสมาคม
ดำรงตำแหน่งพระครูฐานานุกรมในพระราชาคณะชั้นเทพ ที่
... " พระครูปลัดมงคล สิริธัมโม "
ณ อุโบสถวัดอมรญาติสมาคม ต.ท่านัด อ.ดำเินินสะดวก จ.ราชบุรี
วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2554 เวลา 15.39 น.
จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่านแสดงมุิทิตาสักการะโดยพร้อมเพรียงกัน


จากเมล FB
50  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ทำบุญวันออกพรรษา วัดแก่งขนุน วันที่ 12 ต.ค.54 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2011, 06:54:31 pm
ผมได้รับใบปลิว การทำบุญออกพรรษา จากวัดแก่งขนุน ขอนำมาประกาศให้สมาชิกทราบด้วยครับ

 ขอเชิญร่วมทำบุญวันออกพรรษา ตักบาตรเทโว และบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
 
  ณ วัดแก่งขนุน ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี

  วันพุธที่ 12 ต.ค.2554

  เวลา 7.00 น. พระสงฆ์ปวารณาออกพรรษา และ ออกรับบิณฑบาตข้าวสาร อาหารแห้ง

  รายละเอียด สอบถามได้ที่

 086-0100883
 081-7599433
 081-2930056


 :25: :25: :25:

51  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ยังมัวหาหนวดเต่า กันอยู่หรือไม่ครับ ? เมื่อ: กันยายน 28, 2011, 09:29:03 am

   เมื่อเกิดมา เข้าใจธรรม ที่สำคัญ   จะผลัดวัน ประกันพรุ่ง ไปถึงไหน
ได้พบธรรม ที่รุ่งเรือง ดั่งอำไพ      ยังร่ำไร เที่ยวแสวง แฝงมัวเมา

   เดินขึ้นเหนือ ไปลงใต้ ไม่สิ้นสุด   ไม่รู้หยุด สะดุดใจ ไขความเขลา
เที่ยวแสวง แฝงกาย ห่างตัวเรา       เหมือนกบเฝ้า รั้งรอ ใต้กอบัว

   ยามพระบาท พระุุพุทธเจ้า ปรากฏอยู่  ให้เร่งรู้ ใจตน รีบขวนขวาย
ก่อนสัทธรรม อันแท้แท้ จักมลาย      รีบขวนขวาย กันเถิด ผองพวกเรา

   อย่ามัวเที่ยว แสวง อยู่ภายนอก  อย่ากลิ้งกลอก หลอกใจ เป็นมุสา
รีบฉวยหลัก พระสัทธรรม อย่าลีลา     รีบภาวนา ลาจาก พุทธภูมิ

   ครูอาจารย์ นานมา ปรากฏยาก   อย่าประมาท จักพลาดพลั้ง ในสงสาร
รีบน้อมนำ ปฏิบัติ  ในหลักการ      อย่าได้คร้าน รีรอ มัวลองดู

                                                  ไพศาลี 28 ก.ย.54


    กลอนนี้ขอมอบไว้ ให้กับเพื่อน ๆ ครับ เพราะบางครั้งเรามัวแต่คิดว่า ครูอาจารย์จักอยู่กับเราสอนเราไปได้ตลอดนะครับ บางครั้งได้พบครูอาจารย์แล้ว เราก็ยังเที่ยวแสวงหาไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งครูอาจารย์ก็ล้มหายตายจากกันไปหลายท่าน ในที่สุดเราก็ยังวิ่งวนอยู่กับที่ไม่ไปไหน ทั้งๆ ที่โอกาสก็มีมาแล้ว ผมสูญเสียครูอาจารย์ที่สำคัญไปหลายรูปแล้วครับ แต่ขณะเดียวกันคุณธรรมที่ทำให้ผมมั่นใจว่าจะพ้นจากสังสารวัฏ นั้นยังไม่ปรากฏเลย เป็นเพราะความประมาทของตัวเอง และคิดว่ายังไม่ถึงเวลา

    ดังนั้น ท่านที่มีโอกาส ก็รีบนำโอกาสมาใช้ให้เป็นประโยชน์ เถอะครับ

    หรือท่านทั้งหลาย ยังหาหนวดเต่ากันอยู่ เช่นผม ครับ ?

 :13:


   
52  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / รวม งานบุญ ทอดกฐิน ปี 2554 เมื่อ: กันยายน 24, 2011, 08:36:30 am
 กำหนดการทอด กฐินสามัคคี วัดป่าอรัญญวิเวก

         วันอาทิตย์ ที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

                                                          แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๑
                                 

     วันอาทิตย์ ที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๔

          ๗.๐๐ น.  ใส่บาตร ณ บริเวณลานพระมหาธาตุเจดีย์ ๙ มงคลเหนือสุดสยาม
         
     ๙.๓๐ น.  ทำพิธีทอดกฐิน



(หมายเหตุ)

วันเสาร์ ที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๔

  ๑๙.๐๐ น. ทำวัตรเย็น ณ ลานพระมหาธาตุเจดีย์
                   
               แสดงพระธรรมเทศนา


(...กินเจ 27 กันยายน 2554 ถึง วันที่ 5 ตุลาคม 2554..).





 หลักการ

   ๑. ไม่มีมหรสพสมโภชน์

  ๒. ไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น




 ติดต่อ บัญชา  ทิพย์อักษร (ผู้ประสานงาน)  089 - 280 9741   ;  Fax.  02 - 968 3961

    e - mail  :  ban.char@hotmail.com

    1. ท่านที่ต้องการตั้งกองกฐินเพื่อนำไปร่วม  จะพิมพ์ซอง + ใบฎีกา และจัดส่งให้ ฟรี

       (แจ้งชื่อ ประธาน และ กรรมการ อย่างช้า ไม่ควรเกิน 1 ต.ค. 54)

    2. ต้องการซองไปช่วยแจก  สามารถแจ้งความประสงค์ได้   กรุณาแจ้ง  จำนวนซอง ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์
   
    3. โอนเงินเข้า  ชื่อบัญชีหลวงพ่อทวี  จิตฺตคุตฺโต  (หมายเลขโทรศัพท์หลวงพ่อทวี  089 - 999 3644)

    ธนาคาร กสิกรไทย สาขาพลโยธิน เชียงราย  หมายเลข  369 - 2 - 24697 - 6

    (โอนเงินเข้าบัญชีของหลวงพ่อ  เป็นทางที่ดีที่สุด  สะดวกแก่กันและกันทุกฝ่าย  หลวงพ่อสะดวกในการไปจ่ายเงินซื้อวัสดุ

และ หลวงพ่อไม่ต้องลำบากนำเงินไปเข้าธนาคารด้วยครับ  วันทอด เพียงนำสลิปไปแจ้ง  หรือแจ้งด้วยวาจา หรือโทรศัพท์แจ้งยอดก็ได้เช่นกันครับ)

    4. ท่านที่ต้องการตั้งโรงทาน  กรุณาแจ้งด้วย  เพื่อจะจัดสถานที่ให้

ชมภาพเกี่ยวข้องได้ที่นี่นะครับ
https://skydrive.live.com/?cid=fb8dd597ad011386&sc=photos&ct=photos&sa=156539147#cid=FB8DD597AD011386&id=FB8DD597AD011386!175&sc=photos


ข่าวอื่น ๆ จะตามมาเรื่อย ๆ นะครับ
53  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / สาเหตุการเวียนว่าย ตาย เกิด ของสัตว์โลก เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 08:21:04 am
      พระสุตตันตปิฏก  ทีฆนิกาย  มหาวรรค  [๑.  มหาปทานสูตร]
                    พระโพธิสัตว์ตรัสรู้



   [๕๘]    จากนั้น    ทรงพระดำริว่า    ‘วิญญาณนี้ย่อมหมุนกลับมาจากนามรูป
เท่านั้น    ไม่เลยไปกว่านั้น    เพราะความหมุนกลับเพียงแค่นี้    สัตว์โลกจึงเกิดบ้าง
แก่บ้าง    ตายบ้าง    จุติบ้าง    อุบัติบ้าง    ความเป็นไปนั้น    คือ
                            เพราะนามรูปเป็นปัจจัย                     
วิญญาณจึงมี
                            เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย
นามรูปจึงมี
                            เพราะนามรูปเป็นปัจจัย
สฬายตนะจึงมี
                            เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย
ผัสสะจึงมี
                            เพราะผัสสะเป็นปัจจัย
เวทนาจึงมี
                            เพราะเวทนาเป็นปัจจัย
ตัณหาจึงมี
                            เพราะตัณหาเป็นปัจจัย
อุปาทานจึงมี
                            เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย
ภพจึงมี
                            เพราะภพเป็นปัจจัย
ชาติจึงมี
                            เพราะชาติเป็นปัจจัย
ชรา    มรณะ    โสกะ(ความโศก)    ปริเทวะ
                                                   
(ความคร่ำครวญ)    ทุกข์(ความทุกข์กาย)
                                                   
โทมนัส(ความทุกข์ใจ)    และอุปายาส
                                                   
(ความคับแค้นใจ)    จึงมี
            ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้มีได้    ด้วยประการฉะนี้’




ขอบคุณภาพประกอบจาก http://picdb.thaimisc.com



ขอบคุณภาพประกอบจาก http://file.siam2web.com
54  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ว่่าด้วยธรรม โดยย่อ ( ที่ควรทราบในหลักการพระพุทธศาสนา ) เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 08:38:40 am
   พระสุตตันตปิฎก  สังยุตตนิกาย  สฬายตนวรรค  [๑.  สฬายตนสังยุต]
        ๒.  ทติยปัณณาสก์  ๔.  ฉันนวรรค  ๓.  สังขิตตธัมมสูตร



               ๓. สังขิตตธัมมสูตร
               ว่าด้วยธรรมโดยย่อ
            [๘๖]    ท่านพระอานนท์นั่ง    ณ    ที่สมควร    แล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ    ขอประทานวโรกาส    ขอพระผู้มีพระภาคโปรดแสดงธรรมแก่ข้าพระองค์โดยย่อ    ซึ่งข้พระองค์ได้ฟังแล้ว    จะพึงหลีกออกไปอยู่คนเดียว    ไม่ประมาท    มีความเพียร    อุทิศกายและใจอยู่เถิด”
            พระผู้มีพระภาคตรัสว่า    “อานนท์    เธอเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร    จักขุเที่ยงหรือไม่เที่ยง”
            “ไม่เที่ยง    พระพุทธเจ้าข้า”
           “ก็สิ่งใดไม่เที่ยง    สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุข”
            “เป็นทุกข์    พระพุทธเจ้าข้า”
            “ก็สิ่งใดไม่เที่ยง    เป็นทุกข์    มีความแปรผันเป็นธรรมดา    ควรหรือที่จะพิจารณาเห็นสิ่งนั้นว่า    ‘นั่นของเรา    เราเป็นนั่น    นั่นเป็นอัตตาของเรา”
            “ข้อนั้นไม่ควรเลย    พระพุทธเจ้าข้า”
            “รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง”
            “ไม่เที่ยง    พระพุทธเจ้าข้า”
            “จักขุวิญญาณ    ฯลฯ    จักขุสัมผัส    ฯลฯ    แม้ความเสวยอารมณ์ที่เป็นสุขหรือทุกข์หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์ที่เกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย    เที่ยงหรือไม่เที่ยง”
            “ไม่เที่ยง    พระพุทธเจ้าข้า”
            “ก็สิ่งใดไม่เที่ยง    สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุข”
            “เป็นทุกข์    พระพุทธเจ้าข้า”
            “ก็สิ่งใดไม่เที่ยง    เป็นทุกข์    มีความแปรผันเป็นธรรมดา    ควรหรือที่จะพิจารณาเห็นสิ่งนั้นว่า    ‘นั่นของเรา    เราเป็นนั่น    นั่นเป็นอัตตาของเรา”
            “ข้อนั้นไม่ควรเลย    พระพุทธเจ้าข้า”    ฯลฯ
            “ชิวหาเที่ยงหรือไม่เที่ยง”
            “ไม่เที่ยง    พระพุทธเจ้าข้า”    ฯลฯ
            “ชิวหาวิญญาณ    ฯลฯ    ชิวหาสัมผัส    ฯลฯ    แม้ความเสวยอารมณ์ที่เป็นสุขหรือทุกข์หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย    เที่ยงหรือไม่เที่ยง”
            “ไม่เที่ยง    พระพุทธเจ้าข้า”
            “ก็สิ่งใดไม่เที่ยง    สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุข”
            “เป็นทุกข์    พระพุทธเจ้าข้า”
             “ก็สิ่งใดไม่เที่ยง    เป็นทุกข์    มีความแปรผันเป็นธรรมดา    ควรหรือที่จะพิจารณาเห็นสิ่งนั้นว่า    ‘นั่นของเรา    เราเป็นนั่น    นั่นเป็นอัตตาของเรา”
            “ข้อนั้นไม่ควรเลย    พระพุทธเจ้าข้า”
            “อานนท์    อริยสาวกผู้ได้สดับเห็นอยู่อย่างนี้    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในจักขุ    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในรูป    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในจักขุวิญญาณ    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในจักขุสัมผัส    ฯลฯ    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในความเสวยอารมณ์ที่เป็นสุขหรือทุกข์หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย    เมื่อเบื่อหน่ายย่อมคลายกำหนัดเพราะคลายกำหนัด    จิตย่อมหลุดพ้น    เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว    ก็รู้ว่า    ‘หลุดพ้นแล้ว’รู้ชัดว่า    ‘ชาติสิ้นแล้ว    อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว    ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว    ไม่มีกิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้อีกต่อไป”
               สังขิตตธัมมสูตรที่ ๓ จบ



ขอบคุณภาพจาก http://www.bloggang.com
55  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / สติปัฏฐานกถา เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 08:29:16 am
พระอภิธรรมปิฎก  กถาวัตถุ  [๑.  มหาวรรค]  ๘.  สติปัฏฐานกถา
เล่มที่ ๓๗ หน้าที่ ๒๓๖ - ๒๔๑



๑ ปร.  หมายถึงภิกษุในนิกายอันธกะ  (อภิ.ปญฺจ.อ.  ๓๐๑/๑๗๙)
๒ เพราะมุ่งถึงธรรมที่เป็นอารมณ์ของสติปัฏฐาน  (อภิ.ปญฺจ.อ.  ๓๐๑/๑๗๙)


             ว่าด้วยสติปัฏฐาน
            [๓๐๑]    สก.    สภาวธรรมทั้งปวงเป็นสติปัฏฐานใช่ไหม
            ปร.ใช่
            สก.    สภาวธรรมทั้งปวงเป็นสติ    เป็นสตินทรีย์    เป็นสติพละ    เป็นสัมมาสติเป็นสติสัมโพชฌงค์    เป็นทางเดียว    เป็นเหตุให้ถึงความสิ้นกิเลส    ให้ถึงความตรัสรู้ให้ถึงนิพพาน    ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ    ไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์    ไม่เป็นอารมณ์ของคันถะ    ไม่เป็นอารมณ์ของโอฆะ    ไม่เป็นอารมณ์ของโยคะ    ไม่เป็นอารมณของนิวรณ์    ไม่เป็นอารมณ์ของปรามาส    ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน    ไม่เป็น
อารมณ์ของกิเลส    สภาวธรรมทั้งปวงเป็นพุทธานุสสติ    ธัมมานุสสติ    สังฆานุสสติสีลานุสสติ    จาคานุสสติ    เทวตานุสสติ    อานาปานสติ    มรณานุสสติ    กายคตาสติอุปสมานุสสติใช่ไหม
            ปร.    ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น๑    ฯลฯ
            สก.    สภาวธรรมทั้งปวงเป็นสติปัฏฐานใช่ไหม
            ปร.    ใช่
            สก.    จักขายตนะเป็นสติปัฏฐานใช่ไหม
            ปร.    ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น    ฯลฯ
            สก.    จักขายตนะเป็นสติปัฏฐานใช่ไหม
            ปร.    ใช่
            สก.    จักขายตนะเป็นสติ    เป็นสตินทรีย์    เป็นสติพละ    เป็นสัมมาสติ    เป็นสติสัมโชฌงค์    เป็นทางเดียว    เป็นเหตุให้ถึงความสิ้นกิเลส    ให้ถึงความตรัสรู้    ให้ถึงนิพพาน  ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ    ไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ ฯลฯ ไม่เป็นอารมณ์ของสังกิเลส    จักขายตนะ  เป็นพุทธานุสสติ    ธัมมานุสสติ    สังฆานุสสติสีลานุสสติ    จาคานุสสติ    เทวตานุสสติ    อานาปานสติ    มรณานุสสติ    กายคตาสติอุปสมานุสสติใช่ไหม
            ปร.    ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น    ฯลฯ
            สก.    โสตายตนะ    ฯลฯ    ฆานายตนะ    ฯลฯ    ชิวหายตนะ    ฯลฯ    กายายตนะฯลฯ    รูปายตนะ    ฯลฯ    สัททายตนะ    ฯลฯ    คันธายตนะ    ฯลฯ    รสายตนะ    ฯลฯโผฏฐัพพายตนะ    ฯลฯ    ราคะ    ฯลฯ    โทสะ    ฯลฯ    โมหะ    ฯลฯ    มานะ    ฯลฯ    ทิฏฐิฯลฯ    วิจิกิจฉา    ฯลฯ    ถีนะ    ฯลฯ    อุทธัจจะ    ฯลฯ    อหิริกะ    ฯลฯ    อโนตตัปปะเป็นสติปัฏฐานใช่ไหม
            ปร.    ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น    ฯลฯ
            สก.    อโนตตัปปะเป็นสติปัฏฐานใช่ไหม
            ปร.    ใช่
            สก.    อโนตตัปปะเป็นสติ    เป็นสตินทรีย์    เป็นสติพละ    เป็นสัมมาสติ    ฯลฯ
เป็นกายคตาสติ    เป็นอุปสมานุสสติใช่ไหม
            ปร.    ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น    ฯลฯ
            สก.    สติเป็นสติปัฏฐาน    และสติที่เป็นสติปัฏฐานนั้นเป็นสติใช่ไหม
            ปร.    ใช่
            สก.    จักขายตนะเป็นสติปัฏฐาน    และจักขายตนะที่เป็นสติปัฏฐานนั้นเป็นสติ
ใช่ไหม
            ปร.    ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น    ฯลฯ
            สก.    สติเป็นสติปัฏฐาน    และสติที่เป็นสติปัฏฐานนั้นเป็นสติใช่ไหม
            ปร.    ใช่
            สก.    โสตายตนะ    ฯลฯ    กายายตนะ    ฯลฯ    รูปายตนะ    ฯลฯ    โผฏฐัพพายตนะฯลฯ    ราคะ    ฯลฯ    โทสะ    ฯลฯ    โมหะ    ฯลฯ    มานะ    ฯลฯ    อโนตตัปปะเป็นสติปัฏฐานและอโนตตัปปะที่เป็นสติปัฏฐานนั้นเป็นสติใช่ไหม
            ปร.    ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น    ฯลฯ
            สก.    จักขายตนะเป็นสติปัฏฐาน    แต่จักขายตนะที่เป็นสติปัฏฐานนั้นไม่เป็นสติ
ใช่ไหม
            ปร.    ใช่
            สก.    สติเป็นสติปัฏฐาน    แต่สติที่เป็นสติปัฏฐานนั้นไม่เป็นสติใช่ไหม
            ปร.    ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น    ฯลฯ
            สก.    โสตายตนะ    ฯลฯ    กายายตนะ    ฯลฯ    รูปายตนะ    ฯลฯ    โผฏฐัพพายตนะฯลฯ    ราคะ    ฯลฯ    โทสะ    ฯลฯ    โมหะ    ฯลฯ    อโนตตัปปะเป็นสติปัฏฐาน    แต่อโนตตัปปะที่เป็นสติปัฏฐานนั้นไม่เป็นสติใช่ไหม
            ปร.    ใช่
            สก.    สติเป็นสติปัฏฐาน    แต่สติที่เป็นสติปัฏฐานนั้นไม่เป็นสติใช่ไหม
            ปร.    ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น    ฯลฯ
            [๓๐๒]    ปร.    ท่านไม่ยอมรับว่า    “สภาวธรรมทั้งปวงเป็นสติปัฏฐาน”    ใช่ไหม
            สก.    ใช่
            ปร.    สติปรารภสภาวธรรมทั้งปวงจึงตั้งมั่นได้มิใช่หรือ
            สก.    ใช่
            ปร.    หากสติปรารภสภาวธรรมทั้งปวงจึงตั้งมั่นได้    ดังนั้น    ท่านจึงควรยอมรับว่า    “สภาวธรรมทั้งปวงเป็นสติปัฏฐาน”
            สก.    สติปรารภสภาวธรรมทั้งปวงจึงตั้งมั่นได้    ดังนั้น    สภาวธรรมทั้งปวงจึงเป็นสติปัฏฐานใช่ไหม
            ปร.    ใช่
            สก.    ผัสสะปรารภสภาวธรรมทั้งปวงจึงตั้งมั่นได้    ดังนั้น    สภาวธรรมทั้งปวงจึงเป็นผัสสปัฏฐานใช่ไหม
            ปร.    ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น    ฯลฯ
            สก.    สติปรารภสภาวธรรมทั้งปวงจึงตั้งมั่นได้    ดังนั้น    สภาวธรรมทั้งปวงจึงเป็นสติปัฏฐานใช่ไหม
            ปร.    ใช่
            สก.    เวทนาปรารภสภาวธรรมทั้งปวงจึงตั้งมั่นได้    ฯลฯ    สัญญา    ฯลฯ    เจตนาฯลฯ    จิตปรารภสภาวธรรมทั้งปวงจึงตั้งมั่นได้    เพราะเหตุนั้น    สภาวธรรมทั้งปวงจึงเป็นจิตตปัฏฐานใช่ไหม
            ปร.    ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น    ฯลฯ
            สก.    สภาวธรรมทั้งปวงเป็นสติปัฏฐานใช่ไหม
            ปร.    ใช่
            สก.    สัตว์ทั้งปวงมีสติตั้งมั่น    ประกอบด้วยสติ    มั่นคงด้วยสติ สติปรากฏแก่สัตว์ทั้งปวงใช่ไหม
            ปร.    ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น    ฯลฯ
 [๓๐๓]    สก.    สภาวธรรมทั้งปวงเป็นสติปัฏฐานใช่ไหม
            ปร.    ใช่
            สก.    พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า    “ภิกษุทั้งหลาย    ชนเหล่าใดไม่เจริญกายคตาสติ   ชนเหล่านั้นชื่อว่าไม่บรรลุอมตธรรม    ชนเหล่าใดเจริญกายคตาสติชนเหล่านั้นชื่อว่าบรรลุอมตธรรม”        มีอยู่จริงมิใช่หรือ
            ปร.    ใช่
            สก.    สัตว์ทั้งปวงเจริญ    ได้เฉพาะ    ซ่องเสพ    เจริญ    ทำให้มากซึ่งกายคตาสติใช่ไหม
            ปร.    ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น    ฯลฯ
            สก.    สภาวธรรมทั้งปวงเป็นสติปัฏฐานใช่ไหม
            ปร.    ใช่
            สก.    พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า    “ภิกษุทั้งหลาย    ทางนี้เป็นทางเดียว เพื่อความบริสุทธ์ของเหล่าสัตว์    เพื่อล่วงโสกะและปริเทวะ    เพื่อดับทุกข์และโทมนัสเพื่อบรรลุญายธรรม   เพื่อทำให้แจ้งนิพพาน    ทางนี้คือสติปัฏฐาน   ๔  ”   มีอยู่จริงมิใช่หรือ
            ปร.    ใช่
            สก.    สภาวธรรมทั้งปวงเป็นทางสายเดียวใช่ไหม
            ปร.    ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น    ฯลฯ


๑ ดูเทียบ  องฺ.เอกก.  (แปล)  ๒๐/๖๐๐/๕๔
๒ ทาง  หมายถึงทางดำเนินไปสู่นิพพานหรือทางที่ผู้ต้องการนิพพานควรดำเนินไป  (ที.ม.อ.  ๒/๓๗๑/๓๖๑)
๓ ทางเดียว  มีความหมาย  ๔  นัย  คือ  (๑)  ทางที่บุคคลผู้ละการเกี่ยวข้องกับหมู่คณะไปประพฤติธรรมอยู่
   แต่ผู้เดียว  (๒)  ทางสายเดียวที่พระพุทธเจ้าทรงทำให้เกิดขึ้น  เป็นทางของบุคคลผู้เดียวคือพระผู้มีพระภาค
   (๓)  ข้อปฏิบัติในศาสนาเดียวคือพระพุทธศาสนา  (๔)  ทางดำเนินไปสู่จุดหมายเดียวคือนิพพาน  (ที.ม.อ.
   ๒/๓๗๓/๓๕๙,  ม.มู.อ.  ๑/๑๐๖/๒๔๔)
๔ ญายธรรม  หมายถึงอริยมรรค  (ที.ม.อ.  ๒/๒๑๔/๑๙๗,  ม.มู.อ.  ๑/๑๐๖/๒๕๑)
๕ ดูเทียบ  ที.ม.  (แปล)  ๑๐/๓๗๓/๓๐๑,  ม.มู.  (แปล)  ๑๒/๑๐๖/๑๐๑,  สํ.ม.  (แปล)  ๑๙/๓๖๗/๒๑๐


            สก.    สภาวธรรมทั้งปวงเป็นสติปัฏฐานใช่ไหม
            ปร.    ใช่
            สก.    พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า    “ภิกษุทั้งหลาย    เพราะพระเจ้าจักรพรรดิปรากฏ    แก้ว    ๗    ประการจึงปรากฏ    แก้ว    ๗    ประการ    อะไรบ้าง    คือ(๑)    จักรแก้ว    (๒)    ช้างแก้ว    (๓)    ม้าแก้ว    (๔)    มณีแก้ว    (๕)    นางแก้ว    (๖)    คหบดีแก้ว(๗)    ปริณายกแก้ว    เพราะพระเจ้าจักรพรรดิปรากฏ    แก้ว    ๗    ประการนี้จึงปรากฏ
            ภิกษุทั้งหลาย    เพราะตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าปรากฏ    แก้วคือโพชฌงค์๗    ประการจึงปรากฏ    แก้ว    ๗    ประการ    อะไรบ้าง    คือ    (๑)    แก้วคือสติสัมโพชฌงค์(๒)    แก้วคือธัมมวิจยสัมโพชฌงค์    (๓)    แก้วคือวิริยสัมโพชฌงค์    (๔)    แก้วคือปีติ-สัมโพชฌงค์    (๕)    แก้วคือปัสสัทธิสัมโพชฌงค์    (๖)    แก้วคือสมาธิสัมโพชฌงค์(๗)    แก้วคืออุเบกขาสัมโพชฌงค์    เพราะตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าปรากฏแก้วคือโพชฌงค์    ๗    ประการนี้จึงปรากฏ”    ๑    มีอยู่จริงมิใช่หรือ
            ปร.    ใช่
            สก.    เพราะตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าปรากฏ    สภาวธรรมทั้งปวงที่เป็นแก้วคือสติสัมโพชฌงค์จึงปรากฏใช่ไหม
            ปร.    ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น    ฯลฯ
            สก.    สภาวธรรมทั้งปวงเป็นสติปัฏฐานใช่ไหม
            ปร.    ใช่
            สก.    สภาวธรรมทั้งปวงเป็นสัมมัปปธาน    ฯลฯ    เป็นอิทธิบาท    ฯลฯ    เป็นอินทรีย์    ฯลฯ    เป็นพละ    ฯลฯ    เป็นโพชฌงค์ใช่ไหม
            ปร.    ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น    ฯลฯ
 
                  สติปัฏฐานกถา จบ



56  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / พึงสดับ อะไรบ่อย เพื่อการแทงตลอด เมื่อ: กันยายน 08, 2011, 07:52:57 am
พระสุตตันตปิฎก  อังคุตตรนิกาย  จตุกกนิบาต  [๔.จตุตถปัณณาสก์]
๔.โยธาชีววรรค  ๗.วัสสการสูตร เล่มที่ ๒๑ หน้า ๒๖๘

 

            พระผู้มีพระภาคตรัสต่อไปอีกว่า    “ภิกษุในธรรมวินัยนี้ได้สดับว่า    ‘นี้ทุกข์    นี้ทุกขสมุทัย    (เหตุเกิดทุกข์)    นี้ทุกขนิโรธ    (ความดับทุกข์)    นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา(ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์)    และเห็นแจ้งแทงตลอดเนื้อความแห่งคำที่สดับนั้นด้วยปัญญา    บุคคลผู้สดับ    มีปัญญาชำแรกกิเลส    เป็นอย่างนี้แล”
57  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / บุคคลผู้กลัว และ สะดุ้งกลัว ต่อ ความตาย ( มรณานุสสติ ยามเช้า ) เมื่อ: กันยายน 08, 2011, 07:41:39 am
พระสุตตันตปิฎก  อังคุตตรนิกาย  จตุกกนิบาต  [๔.จตุตถปัณณาสก์]
 ๔.โยธาชีววรรค  ๔.อภยสูตร เล่มที่ ๒๓ หน้าที่ ๒๖๑



        พระผู้มีพระภาคตรัสว่า    “พราหมณ์    บุคคลผู้มีความตายเป็นธรรมดากลัวถึงความสะดุ้งต่อความตายมีอยู่    และบุคคลผู้มีความตายเป็นธรรมดา    ไม่กลัว    ไม่ถึงความสะดุ้งต่อความตายก็มีอยู่

       บุคคลผู้มีความตายเป็นธรรมดากลัว    ถึงความสะดุ้งต่อความตาย    เป็นอย่างไรคือ    บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ยังไม่ปราศจากความกำหนัด    ไม่ปราศจากความพอใจ    ไม่ปราศจากความรัก    ไม่ปราศจากความกระหาย    ไม่ปราศจากความเร่าร้อน    ไม่ปราศจากความอยากในกามทั้งหลาย    โรคหนักบางอย่างกระทบเขาเข้าเมื่อเขาถูกโรคหนักบางอย่างกระทบเข้าจึงมีความคิดอย่างนี้ว่า    ‘กามอันเป็นที่รักจักละเราไปหนอ    และเราก็จักละกามอันเป็นที่รักไป’    เขาย่อมเศร้าโศก    ลำบากใจ    ร่ำไรทุบอกคร่ำครวญ    ถึงความเลอะเลือน    นี้แลคือบุคคลผู้มีความตายเป็นธรรมดากลัว    ถึงความสะดุ้งต่อความตาย

      ยังมีอีก    บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ยังไม่ปราศจากความกำหนัด    ไม่ปราศจากความพอใจ    ไม่ปราศจากความรัก    ไม่ปราศจากความกระหาย    ไม่ปราศจากความเร่าร้อน    ไม่ปราศจากความอยากในกามทั้งหลาย    โรคหนักบางอย่างกระทบเขาเข้าเมื่อเขาถูกโรคหนักบางอย่างกระทบเข้าจึงมีความคิดอย่างนี้ว่า    ‘กายอันเป็นที่รักจักละเราไปหนอ    และเราก็จักละกายอันเป็นที่รักไป’    เขาย่อมเศร้าโศก    ลำบากใจ    ร่ำไรทุบอกคร่ำครวญ    ถึงความเลอะเลือน    นี้แลคือบุคคลผู้มีความตายเป็นธรรมดากลัวถึงความสะดุ้งต่อความตาย


       ยังมีอีก    บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ยังไม่ได้ทำความดีไว้    ยังไม่ได้สร้างกุศลไว้ไม่ได้ทำที่ป้องกันสิ่งน่ากลัว    ทำแต่ความชั่ว    ทำแต่กรรมหยาบช้า    และทำแต่กรรมเศร้าหมอง    โรคหนักบางอย่างกระทบเขาเข้า    เมื่อเขาถูกโรคหนักบางอย่างกระทบเข้าจึงมีความคิดอย่างนี้ว่า    ‘เรายังไม่ได้ทำความดีไว้หนอ    ยังไม่ได้ทำกุศลไว้    ไม่ได้ทำที่ป้องกันสิ่งน่ากลัวไว้    ทำแต่ความชั่ว    ทำแต่กรรมหยาบช้า    ทำแต่กรรมเศร้าหมองเราตายแล้วจะไปสู่คติของผู้ไม่ได้ทำความดีไว้    ไม่ได้ทำกุศลไว้    ไม่ได้ทำที่ป้องกันสิ่งน่ากลัว    ทำแต่ความชั่ว    ทำแต่กรรมหยาบช้า    ทำแต่กรรมเศร้าหมองนั้น’    เขาย่อมเศร้าโศก    ลำบากใจ    ร่ำไร    ทุบอกคร่ำครวญ    ถึงความเลอะเลือน    นี้แลคือบุคคลผู้มีความตายเป็นธรรมดากลัว    ถึงความสะดุ้งต่อความตาย

       ยังมีอีก    บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีความสงสัย เคลือบแคลงใจ    ไม่ถึงความตกลงใจใสัทธรรม   โรคหนักบางอย่างกระทบเขาเข้า    เมื่อเขาถูกโรคหนักบางอย่างกระทบเข้าจึงมีความคิดอย่างนี้ว่า    ‘เรามีความสงสัยเคลือบแคลงใจ    ไม่ถึงความตกลง    ใจในสัทธรรมหนอ’    เขาย่อมเศร้าโศก    ลำบากใจ    ร่ำไร    ทุบอกคร่ำครวญถึงความเลอะเลือน    นี้แลคือบุคคลผู้มีความตายเป็นธรรมดากลัว    ถึงความสะดุ้งต่อ
ความตาย


       พราหมณ์  บุคคลผู้มีความตายเป็นธรรมดา  ๔  จำพวกนี้แลกลัว  ถึงความสะดุ้งต่อความตาย



58  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / พระปิงคิยะ ผู้ภาวนา พุทธานุสสติกรรมฐาน คาถาที่ 1 เมื่อ: กันยายน 07, 2011, 07:59:52 am
พระสุตตันตปิฎก  ขุททกนิกาย  จูฬนิทเทส  [ปารายนวรรค]
 ๗.  ปารายนานุคีติคาถานิทเทส




ขอบคุณภาพจาก http://www.bloggang.com

 
            [๑๑๓] (พระปิงคิยเถระกล่าวว่า)
   ท่านพราหมณ์    อาตมภาพไม่ประมาท
ทั้งกลางคืนและกลางวัน    ย่อมเห็นพระโคดมพุทธเจ้า
พระองค์นั้นด้วยใจ    เหมือนเห็นด้วยตา
  อาตมภาพนอบน้อมพระองค์อยู่ตลอดราตรี
อาตมภาพเข้าใจความไม่อยู่ปราศจากพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น


            คำว่า    อาตมภาพ...ย่อมเห็นพระโคดมพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยใจ    เหมือนเห็นด้วยตา    อธิบายว่า    อาตมภาพย่อมเห็น    คือ    แลเห็น    มองดู    เพ่งพินิจ    พิจารณาเห็นพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า    เหมือนคนตาดี    พึงมองเห็น    คือ    แลเห็น    มองดูพิจารณาเห็นรูปทั้งหลายในที่แจ้ง    ฉะนั้น    รวมความว่า    อาตมภาพ...ย่อมเห็นพระโคดมพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยใจ    เหมือนเห็นด้วยตา
            คำว่า    ท่านพราหมณ์    ...ไม่ประมาททั้งกลางคืนและกลางวัน    อธิบายว่าอาตมภาพเจริญพุทธานสสติด้วยใจทั้งกลางคืนและกลางวัน    ชื่อว่าไม่ประมาท    รวมความว่า    ท่านพราหมณ์    ...ไม่ประมาททั้งกลางคืนและกลางวัน
            คำว่า    นอบน้อมอยู่    ในคำว่า    นอบน้อมอยู่ตลอดราตรี    อธิบายว่า    อาตมภาพนอบน้อมอยู่    คือ    สักการะ    เคารพ    นับถือ    บูชาอยู่    ด้วยกาย    วาจา    ใจ    ปฏิบัติเอื้อประโยชน์    ปฏิบัติธรรมถูกต้องตามหลักธรรม    ได้แก่    ให้คืนและวันผ่านไป    ให้ล่วงไป(ด้วยการปฏิบัติ)    รวมความว่า    นอบน้อมอยู่ตลอดราตรี
            คำว่า    อาตมภาพเข้าใจความไม่อยู่ปราศจากพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นอธิบายว่า    อาตมภาพเมื่อเจริญด้วยพุทธานุสสตินั้น    ย่อมเข้าใจพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นว่า    มิได้อยู่ปราศจาก    ย่อมเข้าใจ  คือ    รู้ทราบ    รู้ทั่ว    รู้แจ่มแจ้ง    รู้เฉพาะ    แทงตลอดอย่างนี้ว่า    มิได้อยู่ปราศจากแล้ว    รวมความว่า    อาตมภาพเข้าใจความไม่อยู่ปราศจากพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น    ด้วยเหตุนั้น    พระปิงคิยเถระจึงกล่าวว่า


           
   ท่านพราหมณ์    อาตมภาพไม่ประมาท
ทั้งกลางคืนและกลางวัน    ย่อมเห็นพระโคดมพุทธเจ้า
พระองค์นั้นด้วยใจ    เหมือนเห็นด้วยตา
  อาตมภาพนอบน้อมพระองค์อยู่ตลอดราตรี
อาตมภาพเข้าใจความไม่อยู่ปราศจากพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น


59  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / เหตุแห่งสติ และที่ตั้งแห่งสติ อีกอย่างหนึ่ง 4 - 1 เมื่อ: กันยายน 06, 2011, 07:57:39 am
พระสุตตันตปิฏก  ขุททกนิกาย  มหานิทเทส  [อัฎฐกวรรค]  ๑.  กามสุตตนิทเทส

คำว่า    มีสติ    อธิบายว่า    มีสติด้วยเหตุ    ๔    อย่าง    คือ
  ๑.    ชื่อว่ามีสติ    เมื่อเจริญสติปัฏฐานพิจารณากายในกาย
  ๒.    ชื่อว่ามีสติ    เมื่อเจริญสติปัฏฐานพิจารณาเวทนาในเวทนาทั้งหลาย
  ๓.    ชื่อว่ามีสติ    เมื่อเจริญสติปัฏฐานพิจารณาจิตในจิต
  ๔.    ชื่อว่ามีสติ    เมื่อเจริญสติปัฏฐานพิจารณาธรรมในธรรมทั้งหลาย


60  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / อำนาจ ของ พระพุทธานุสสติ จากพระโอษฐ์ เมื่อ: กันยายน 05, 2011, 07:26:07 am

ขอบคุณภาพจาก  http://1.bp.blogspot.com

วันนี้วันพระ มาเจริญธรรม กันในวันพระ นะครับ

พระสุตตันตปิฎก  อังคุตตรนิกาย  ฉักกนิบาต  [๑.  ปฐมปัณณาสก์]
 ๑.  อาหุเนยยวรรค  ๑๐.  มหานามสูตร
 
 สมัยใด    อริยสาวกระลึกถึงตถาคต    สมัยนั้น    จิตของอริยสาวกนั้น ย่อมไม่ถูกราคะกลุ้มรุม    ไม่ถูกโทสะกลุ้มรุม    ไม่ถูกโมหะกลุ้มรุม สมัยนั้น    จิตของอริยสาวกนั้นย่อมปรารภตถาคตดำเนินไปตรงทีเดียว    มหานามะ    ก็อริยสาวกผู้มีจิตดำเนินไปตรงแล้ว    ย่อมได้ ความปลาบปลื้มอิงอรรถ    ย่อมได้ความปลาบปลื้มอิงธรรม    ย่อมได้ ปราโมทย์ที่ประกอบด้วยธรรม    เมื่อมีปราโมทย์    ย่อมเกิดปีติ    เมื่อใจ มีปีติกายย่อมสงบ    เธอมีกายสงบย่อมได้รับสุข    เมื่อมีสุขจิตย่อม ตั้งมั่น    มหานามะ    ตถาคตกล่าวว่า    อริยสาวกนี้เป็นผู้ถึงความสงบ อยู่ในหมู่สัตว์ผู้ถึงความไม่สงบ    เป็นผู้ไม่มีพยาบาทอยู่ในหมู่สัตว์ผู้มี พยาบาท    เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยกระแสธรรม    เจริญพุทธานุสสติอยู่

     
 :25: :25: :25:
61  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญร่วมทอดกฐินสามัคคี วัดแก่งขนุน 23 ต.ค.2554 เมื่อ: กันยายน 01, 2011, 06:27:23 pm

ขอเชิญร่วมทอดกฐินสามัคคี วัดแก่งขนุน 23 ต.ค.2554

62  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 'สมเด็จวัดปากน้ำ'ประธานปฏิบัติธรรม สำนักพุทธฯเฉลิมพระเกียรติวันแม่ เมื่อ: สิงหาคม 11, 2011, 07:52:48 am
สมเด็จวัดปากน้ำ'ประธานปฏิบัติธรรม สำนักพุทธฯเฉลิมพระเกียรติวันแม่



นายก นก แสนประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธมณฑล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ซึ่งได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่ง วันที่ 12 สิงหาคม 2554 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขอเชิญประชาชนร่วมปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ 10-14 สิงหาคม 2554 ณ พุทธมณฑล

ทั้งนี้ สำนักพุทธฯ ได้ให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้ ร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ กำหนดจัดกิจกรรม เริ่มวันพุธที่ 10 สิงหาคม 2554 ลงทะเบียนนักเรียนที่เข้าร่วมปฏิบัติธรรม ที่โดมสวนธรรม ส่วนฆราวาสลงทะเบียนปฏิบัติธรรม ที่โดมสวนสันติวัน วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2554 เวลา 14.00 น. พิธีเปิดการปฏิบัติธรรมเฉลิม พระเกียรติ ณ โดมสวนธรรม โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักพุทธฯ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2554 เวลา 07.30 น. พิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 80 รูป ณ บริเวณโดมสวนธรรม เวลา 18.39 น. พิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระ บรมราชินีนาถ ณ โดมสวนธรรม วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2554 เวลา 10.00 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ ทรงพระกรุณาโปรดให้นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักพุทธฯ เป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีมอบเกียรติบัตรโครงการ "หนึ่งใจ...ให้ธรรมะ"

โอกาส นี้ สำนักพุทธฯ ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์เพื่อความเป็นสิริมงคล ร่วมฟังบรรยายธรรม นั่งสมาธิ บำเพ็ญจิตตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศล ตลอดทั้ง 5 วัน โดยพร้อมเพรียงกัน ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานพุทธมณฑล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โทร. 0-2441-0902

ที่มาข่าวสด หน้า 31
63  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ธรรมและวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย เมื่อ: สิงหาคม 10, 2011, 06:39:15 am

โย โว อานนฺท มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต
 ปญฺญตฺโต โส โว มมจฺจเยน สตฺถา. (ที.ม.๑๐/๑๔๑/๑๗๘)

       แปลว่า : ดูกรอานนท์ ธรรมแลวินัยใด ที่เราได้แสดงแล้ว
 และบัญญัติแล้ว แก่เธอทั้งหลาย ธรรมและวินัยนั้น
จักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย ในเมื่อเราล่วงลับไป


พระพุทธเจ้า ตรัสแสดง ให้เคารพสองประการ เพื่อความสุขแก่หมู่ชน และ ความสุขแก่ตนเอง

 ความสุขแก่หมู่ชน จักมีได้ เพราะ พระวินัย ก็คือ ศีล ( การรักษา กาย วาจา ให้เรียบร้อย ไม่เบียดตนเอง และผู้อื่น ให้เดือดร้อน )
 
 ความสุขแ่่ก่ตน จักมีได้ เพราะ พระธรรม ก็คือ สมถวิปัสสนากรรมฐาน อันที่เป็นที่พึ่งแห่งจิต

 นี้ คือ พระศาสดา ของ ศาสนาพุทธ และ เป็นข้อยุติ

 การเคารพ ใน กฏ ระเบียบ ไหว้ กราบ ตามธรรมเนียม เป็นพระวินัย รวมถึงเคารพในสิทธิมนุษยชน อันเป็นวัฒนธรรม จริยธรรม อันดีงาม

 การเคารพ ใน ธรรม เป็นสิ่งสมควร ก็คือ การเรียน การศึกษา การพิจารณา การทำไว้ในใจโดยแยบคาย การฝึกฝนอบรม บ่มตนด้วยการภาวนา

 มาร่วมเจริญสติ ในยามเช้า ครับ

  :s_hi: :25: :25: :25:
64  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://bhavanatoday.org/ ภาวนาทูเดย์ ( วัดยานนาวา ) เมื่อ: สิงหาคม 02, 2011, 08:48:07 am



http://bhavanatoday.org/ 
ภาวนาทูเดย์ ( วัดยานนาวา )


สำนักงานสำนักปฏิบัติธรรมวัดยานนาวา
อาคารมหาเจษฏาบดินทร์ ชั้น 2
วัดยานนาวา
ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
เว็บไซต์:www.bhavanatoday.org
อีเมล์:contact@bhavanatoday.org
โทรศัพท์: 02 212 6567
โทรสาร: 02 212 6568


65  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.watyai.com วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เมื่อ: สิงหาคม 02, 2011, 08:28:53 am


http://www.watyai.com
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร



วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก เรียกกันทั่วไปว่าวัดใหญ่หรือวัดหลวงพ่อพระพุทธชินราช เป็นพระอารามหลวงมาแต่เดิมสร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย ต่อมาเมื่อ ปีพุทธศักราช ๒๔๕๘ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯให้ยกขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิด วรมหาวิหาร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๘ ปัจจุบันจึงมีชื่อเต็มว่า วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญยิ่งทั้งทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่านทางทิศตะวันออก ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงกล่าวถึงวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารไว้ว่า " เป็นวัดใหญ่และเป็นวัดที่สำคัญกว่าวัดอื่นในเมืองพิษณุโลก มีพระมหาธาตุอยู่กลางเห็นจะสร้างตั้งแต่สุโขทัยเป็นราชธานี หากแต่ซ่อมแซมมาหลายครั้งหลายสมัย"

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยตอนต้น แต่ในพงศาวดารเหนือกล่าวไว้ว่า

" ในราวพุทธศักราช ๑๙๐๐ พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก (พระมหาธรรมราชาลิไท) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ครองกรุงสุโขทัย ทรงมีศรัทธาเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังได้ทรงศึกษาพระไตรปิฎกและคัมภีร์ศาสนาอื่น ๆ จนช่ำชองแตกฉาน หาผู้ใดเสมอเหมือนได้ยาก พระองค์ได้ทรงสร้างวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ในฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน มีพระปรางค์อยู่กลาง มีพระวิหาร ๔ ทิศ มีพระระเบียง ๒ ชั้น และทรงรับสั่งให้ปั้นหุ่นหล่อพระพุทธรูปขึ้น ๓ องค์ เพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานในพระวิหารทั้ง ๓ หลัง"

นอกจากนี้วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ยังมีโบราณสถานและโบราณวัตถุล้ำค่าอีกมากมาย ดังที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ได้ทรงนิพนธ์ไว้ว่า " นมัสการพระพุทธชินราชแล้ว ดูธรรมมาสน์เทศน์ ธรรมาสน์สวด ดูเรือนแก้ว แลสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ ล้วนเป็นของดีอย่างเอก ไม่เคยพบไม่เคยเห็น"

การวางผังของวัด มีพระปรางค์เป็นองค์ประธานของวัด รอบองค์พระปรางค์มีระเบียงคตแลมีวิหารทิศ พระวิหารทางทิศตะวันออกเป็นที่ประดิษฐานพระอัฏฐารส ที่เรียกกันว่าวิหาร เก้าห้อง ปัจจุบันคงเหลือพระอัฏฐารส เสาและเนินพระวิหารบางส่วน พระวิหารทางด้านทิศตะวันตก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช พระวิหารทางด้านทิศเหนือ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินสีห์ พระวิหารด้านทิศใต้เป็นที่ประดิษฐานพระศรีศาสดา ซึ่งปัจจุบันพระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดาได้ถูกอันเชิญไปประดิษฐานที่วัด บวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ ทางวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารจึงได้สร้างองค์จำลองขึ้นแทน.
66  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / รวมปฏิบัติธรรม วันแม่ สำหรับ ผู้สนใจ ตั้งแต่ 1 - 14 ส.ค.54 ( มีหลายแห่ง ) เมื่อ: สิงหาคม 02, 2011, 08:20:26 am
กำหนดการเปิดรับสมัครปฏิบัติธรรม
โครงการวิถีพุทธ กิจกรรมปฏิบัติธรรมวันแม่แห่งชาติ ๑๒ - ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๔

 

วัดใหญ่ชัยมงคลจะเปิดรับสมัครประชาชน ทั่วไปเพื่อร่วมปฏิบัติธรรมตามแนวสติปัฏฐาน ๔ และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา

กำหนดเปิดรับสมัคร วันจันทร์ที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ จนกว่าจะเต็มจำนวน แต่ไม่เกินวันศุกร์ที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยจะเปิดรับสมัครช่องทางใดนั้นจะประกาศให้ทราบพร้อมกับการเปิดรับสมัครอีกครั้งหนึ่ง

 

ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๔





http://www.watyaichaimongkol.net/index.php?mo=14&newsid=279723
67  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เสถียรธรรมสถานขอเชิญทุกท่านร่วมปฏิบัติธรรมถือศีล ๘ ๑๑ – ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๔ เมื่อ: สิงหาคม 02, 2011, 08:15:59 am
เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๔

เสถียรธรรมสถานขอเชิญทุกท่านร่วมปฏิบัติธรรมถือศีล ๘

วันพฤหัสบดี ที่ ๑๑ – ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๔

วันศุกร์ ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๔

ช่วงเช้าทำบุญตักบาตรเวลา ๐๗.๓๐ น.

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เสถียรธรรมสถาน ๐๒-๕๑๙-๑๑๑๙








http://nitipatth.blogspot.com/2011/07/blog-post_1371.html
68  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.watparhkhaohintad.com วัดป่าเขาหินตัด ( สาขา ๕๕ วัดหนองป่าพง) เมื่อ: สิงหาคม 02, 2011, 08:12:29 am


http://www.watparhkhaohintad.com

วัดป่าเขาหินตัด ( สาขา ๕๕ วัดหนองป่าพง)
69  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / วันแม่แห่งชาติปีนี้ วัดป่าเขาหินตัด อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา 11-14 ส.ค.54 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2011, 08:09:54 am
วันแม่แห่งชาติปีนี้ วัดป่าเขาหินตัด ขอเชิญชวนญาติโยมพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมงานปฏิบัติธรรมวันแม่แห่งชาติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนม์พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ และเพื่อเป็นการสร้างทศบารมี อันมี ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมะบารมีเป็นต้น ในระหว่างวันพุธที่ 11 – วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ.2554

วันแม่แห่งชาติปีนี้ วัดป่าเขาหินตัด ขอเชิญชวนญาติโยมพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมงานปฏิบัติธรรมวันแม่แห่งชาติ เพื่อถวายเป็นพระราช

กุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนม์พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ และเพื่อเป็นการสร้างทศบารมี อันมี ทานบารมี ศีลบารมี

เนกขัมมะบารมีเป็นต้น ในระหว่างวันพุธที่ 11 – วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ.2554

 ณ วัดป่าเขาหินตัด ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พระครูบรรพตบุญโญภาส เจ้าอาวาสวัดป่าเขาหินตัด

 โทรศัพท์ 081-9670472 และ 081-6601172


70  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://watbangphan.org/ วัดบางพาน เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2011, 07:08:04 am


http://watbangphan.org/

วัดบางพาน



วัดบางพาน ตั้งอยู่ที่ หมู่6 ต .บางมัญ อ.เมือง จ. สิงห์บุรี( แบ่งตามเขตปกครองสงฆ์ จะขึ้นเป็นเขต อ. ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี) ได้จัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2531 โดยการบริจาคที่ดินจากญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา โดยมีหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโมให้ การอุปถัมถ์วัด  ปัจจุปันมีพระครูประจิตร ธรรมโชติ เป็นเจ้าอาวาส  ภายในวัดประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา และมีพระมหาธาตุเจดีย์ ซึ่งภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  และพระอรหันตธาตุ มากมายให้กราบไหว้บูชา มีพระสุวรรณนิธิไพศาลกุลเป็นพระประธานภายใน  มีโบสถ์ซึ่งตั้งอยู่บนพานยักษ์ แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย
71  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / ศูนย์ปฏิบัติธรรมสิริธรรมมุนี วัดศรีบุรีรตนาราม สระบุรี เมื่อ: มิถุนายน 17, 2011, 12:55:29 pm






ศูนย์ปฏิบัติธรรมสิริธรรมมุนี วัดศรีบุรีรตนาราม เป็นหนึ่งในสำนักปฏิบัติธรรมที่ มีชื่อเสียงประจำ จ.สระบุรี ตั้งอยู่ที่ ๖๔ ถนนเทศบาล ๔ ซอย ๑ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี พ.ศ.๒๕๔๒-พ.ศ. ๒๕๔๙ ได้ดำเนินการก่อสร้างเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมสิริธรรมมุนี ตามราชทินนามเดิมของเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ที่ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๓ ที่ พระสิริธรรมมุนี เป็นผู้อำนวยการสร้าง

 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสถานที่สำหรับศึกษาและปฏิบัติธรรม ของพระภิกษุสามเณร และเยาวชนนักเรียน นักศึกษา ตลอดถึงประชาชนซึ่งได้เปิดดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๙ - ปัจจุบัน โดยมี พระราชเมธากร (ทองย้อย โชติวโร ป.ธ.๕) เจ้าอาวาส เป็นประธานคณะกรรมการบริหารจัดการศูนย์ปฏิบัติธรรม และได้รับแต่งตั้งให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดสระบุรี แห่งที่ ๑ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่ ๑๔/๒๕๔๙

 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจมาปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากกุฏิที่พักตอนนี้รองรับผู้มาพักได้เพียงแค่ ๑๐๐-๑๕๐ คน ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรม เพราะสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้มักจะมีโรงเรียนหรือกลุ่มนักศึกษามาเข้าค่ายปฏิบัติธรรมเป็น ประจำ ทางสำนักจึงได้ดำเนินการขยายสถานที่ โดยกำลังก่อสร้างกุฏิเพิ่ม เพื่อให้รองรับเพิ่มอีก ๑๐๐-๑๒๐ คน และปรับภูมิทัศน์ ถนนทางเดิน ปลูกต้นไม้ ให้มีความร่มรื่นสะอาดปลอดภัย และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาปฏิบัติธรรม ทางสำนักยังมี อาคารศาลาปฏิบัติธรรมสิริธรรมมุนี ไว้เป็นอาคารปฏิบัติธรรมขนาดใหญ่ ไว้รองรับผู้มาปฏิบัติธรรมได้ถึง ๕๐๐ คน มีโรงครัว อาคารสำนักงาน และกุฏิรองรับพระอาคันตุกะ และพระเถระที่มาเยี่ยมเยือน

 ขณะเดียวกัน ยังก่อสร้างถนนและทางเท้าภายในสำนักเป็นถนนคอนกรีต เชื่อมโยงถึงทุกพื้นที่ใช้สอย มีไฟส่องสว่างยามค่ำคืน ตลอดเส้นทาง มีความสะอาดและร่มรื่นภายใต้ร่มไม้ซึ่งครอบคลุมทั่วบริเวณสำนักปฏิบัติธรรม ซึ่งใช้เป็นทางเดินจงกรม หรือเจริญภาวนาได้เป็นอยางดี

  ทางสำนักมีปรัชญาไว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติอยู่ ๓ ข้อ คือ ยิ้มง่าย ไหว้สวย รวยน้ำใจ ซึ่งมีความหมายแต่ละข้อดังนี้

 ยิ้มง่าย หมายถึง ความเป็นผู้มีจิตเมตตา ร่าเริงเบิกบาน การเข้าถึงสภาวะความเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
 ไหว้สวย หมายถึง ความเป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมาคารวะ ดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมไทยอันดีงาม
 รวยน้ำใจ หมายถึง ความเป็นผู้มีจิตใจสาธารณะ จิตอาสา ช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อ แบ่งปัน

 พระเมธากร บอกว่า ในการก่อตั้งสำนักปฏิบัติธรรมนั้น นี้ขึ้นมาเห็นพื้นที่บริเวณนี้ในตอนแรกรกและไม่ได้ใช้ จึงคิดมาหลายปีว่า จะทำให้เป็นประโยชน์ได้อย่างไร จึงเริ่มจากจัดการกับที่ก่อน โดยการถางหญ้า จากนั้นจึงคิดทำเป็นสำนักปฏิบัติธรรม เพราะเจริญง่าย คนเห็นแล้วศรัทธา และยังมีแนวคิดที่จะฟื้นฟูส่งเสริมคนทุกหมู่เหล่าให้มีจิตใจมาเข้าสู่พุทธศาสนา

 ในช่วงแรกของการเปิดสำนัก ได้มีคนทุกระดับชั้นเข้ามาปฏิบัติธรรมที่ นี่ ซึ่งส่วนใหญ่บอกว่า ชอบบรรยากาศในสำนักที่เงียบสงบ และร่มรื่น พลอยทำให้จิตใจสงบ และมีสมาธิไปด้วย จากการเข้ามาของคนที่มากขึ้น และผ่านการบอกต่อกันไป ทำให้สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้พัฒนามาจนถึงตอนนี้

 สิ่งที่คาดหวังจากผู้เข้ามาปฏิบัติธรรม พระเมธากรไม่ได้หวังอะไรไปมากกว่าการพบความสุขและสงบของผู้เข้ามาปฏิบัติธรรม เพราะการที่เห็นความสำเร็จของผู้ที่เข้ามาก็เป็นอานิสงส์ที่ทำให้ตนมีความสุขไปด้วย

  "การพัฒนาในอนาคต ต้องขึ้นอยู่กับปัจุบัน ณ ตอนนี้ เพราะหากไม่มีคนเข้าสำนักนี้ก็ไม่มีอนาคต การวางแผนต้องขึ้นอยู่กับผู้บริหารว่า จะจัดการอย่างไร ถึงจะชักจูงให้คนเข้ามาปฏิบัติธรรม  และหากสำนักนี้มีมาตฐานและเติบโตไปในทางที่ดี ทางราชการก็จะช่วยในด้านของงบให้มาพัฒนาต่อไปอีกด้วย นอกจากนี้ สำนักปฏิบัติธรรมสิริธรรมมุนียังได้รับการประกาศให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมดีเด่นประจำจังหวัดด้วย โดยประกาศเมื่อ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๓"  พระเมธากร กล่าว

 ผู้สนใจร่วมปฏิบัติธรรม สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.๐-๓๖๓๑-๗๐๔๘ หรือที่ "www.dhammamunee.com"

ภาพ อิสราพันธ์ อิสริยังกุล  คมชัดลึก

72  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://songsaraburi1.org/ สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เมื่อ: มิถุนายน 17, 2011, 12:49:21 pm


http://songsaraburi1.org/

http://www.songsaraburi1.org/

สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี


ติดตามข่าวสารพระสงฆ์ พระสังฆาธิการ การปฏิบัติภาวนาที่ป่าช้าตาลอยที่นี่ ครับ

 :25:
73  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอ เชิญร่วมบำเพ็ญกุศลศพพระครูสิริธรรมสุนทร (ทองแดง ปญฺญาปทีโป) 18 มิ.ย.54 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2011, 12:44:13 pm
ขอ เชิญร่วมบำเพ็ญกุศลศพพระครูสิริธรรมสุนทร (ทองแดง ปญฺญาปทีโป)

อดีตเจ้าอาวาสวัดวังยาง และอดีตเจ้าคณะอำเภอวังม่วง ณ ศาลาประชานาถ

วัดพระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี

วันที่ ๑๑ – ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔

(เริ่มพิธีเวลา ๑๘.๓๐ น.)

********************
กำหนดการและรายนามเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลศพ
วันเสาร์ที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔
คณะสงฆ์จังหวัดสระบุรี ,สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสระบุรี

วันอาทิตย์ที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔
คณะสงฆ์อำเภอพระพุทธบาท , มจร.รุ่น ๔ ห้องเรียนวัดพิกุลทอง คณะประธาน กกต. จังหวัดสระบุรี ประธานสภา อบจ. จังหวัดสระบุรี สจ.กฤษฏิชนม์ ช้างยอด

วันจันทร์ที่ ๑๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔
เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี, คณะสงฆ์อำเภอเมืองสระบุรี, วิหารแดง

วันอังคารที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔
คณะสงฆ์อำเภอหนองแค, ดอนพุด, คุณบุญเลิศ – คุณวันดี พุ่มพวง จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้บริหาร ครู และนักเรียนโรงเรียนวัดวังยาง

วันพุธที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี คณะสงฆ์อำเภอเฉลิมพระเกียรติ, หนองแซง พระราชรัตนรังษี พระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล ประธานสงฆ์ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ พร้อมคณะ

วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔
คณะสงฆ์อำเภอบ้านหมอ, เสาไห้, หนองโดน

วันศุกร์ที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔
คณะสงฆ์อำเภอแก่งคอย, มวกเหล็ก, วังม่วง คณะเจ้าหน้าที่อุทยานการศึกษาและปฏิบัติธรรมประชานาถ

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔
พระราชทานเพลิงศพ เวลา ๑๖.๐๐ น.

     

รายละเอียดงาน
http://songsaraburi1.org/
74  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ปัญหาของสำนักสงฆ์ ปฏิบัติธรรม ในพื้นที่ ป่า เมื่อ: มิถุนายน 07, 2011, 06:53:18 am
ชาวบ้านไม่พอใจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ไล่ที่พระ
วันที่ 21 มี.ค. 2554 )
ศิวดล ดวงจินดา สวท.จันทบุรี
 
ชาวบ้านไม่พอ ใจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ไล่ที่พระ เมื่อเวลา 11.00น. วันที่19 มีนาคม 2554
     ที่ผ่านมา ตัวแทนชาวบ้านหมู่ที่ 10 ต. ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี นำสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเช่น กุฏิ ศาลาปฏิบัติธรรม ภายในธุดงค์สถานปฏิบัติธรรมที่ตั้งอยู่เชิงเขาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอย ดาว หลังจากเจ้าหน้าที่เข้ามากดดันเร่งรัดการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ อย่างต่อเนื่อง จนชาวบ้านและพระสงฆ์อยู่กันไม่เป็นสุข โดยอ้างว่าสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ตกการสำรวจจากทางการ ทั้งที่รู้ว่า พระอาจารย์มนัส มนฺตชาโต(มันตะชาโต) เริ่มเข้ามาปฏิบัติธรรมประมาณ 24 ปีแล้ว แม้ว่าชาวบ้าน และพระภิกษุสงฆ์ นำโดยพระอาจารย์มนัส จะช่วยกันขนย้ายอย่างเร็วที่สุดแล้ว แต่สิ่งของจำนวนมาก มีข้อจำกัดเรื่องดินฟ้าอากาศ รวมถึงชาวบ้านต้องทำไร่ทำสวน และต้องคอยเฝ้าระวังช้างป่าที่จะเข้ามากัดกินผลผลิตในช่วงนี้ด้วย
     แต่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พยายามนำกำลังเข้ามากดดันตลอดและหลีกเลี่ยงที่จะพูด คุยกับเจ้าอาวาส นายบุญนาค พิมพ์ม่วง คณะกรรมการหมู่บ้าน ม.10 ต.ขุนซ่อง กล่าวว่า พื้นที่เล็กน้อยแห่งนี้พระภิกษุสงฆ์ได้ใช้พึ่งพาความสงบเงียบเพื่อปฏิบัติ ธรรมและโปรดธรรมญาติโยมมานาน ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน มีแต่ช่วยรักษาป่า เมื่อถูกสั่งให้รื้อถอนชาวบ้านและพระสงฆ์ก็พยายามขนย้ายสิ่งของออกมาให้เร็ว ที่สุดแล้ว แต่มีข้อจำกัดเรื่องกำลังคน สภาพอากาศที่มีฝนตกลงมาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังต้องเตรียมสถานที่ใหม่ที่อยู่ใกล้กันให้พร้อมก่อน เพราะหากไม่สร้างที่พักสงฆ์ หรือที่กันฝนกันแดดชั่วคราวไว้ก่อน ก็จะไม่มีที่เก็บของ และให้พระสงฆ์ได้อาศัยหลบแดดหลบฝน
      จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เอาเวลาว่างมาช่วยกันขนของบ้าง เพราะชาวบ้านต้องไปช่วยดูแลช้างป้องกันช้างป่าที่กำลังลงมากินผลผลิต และช่วยกันดูแลรักษาป่าด้วยเพราะที่ผ่านมาเกิด ไฟไหม้ป่าเจ้าหน้าที่ก็ไม่เคยไปช่วยดับไฟ นายแกด จอกทอง ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.ขุนซ่อง กล่าวว่า ตั้งแต่พระอาจารย์มนัส มาอยู่ที่นี่ญาติโยมก็ทำบุญปฏิบัติธรรมได้ง่าย ชาวบ้านอุ่นใจอยู่เย็นเป็นสุขเพราะมีที่พึ่งทางใจ นอกจากนี้หลวงพ่อก็ยังช่วยรักษาป่าให้อุดมสมบูรณ์มาตลอดสอนชาวบ้านไม่ให้ตัด ไม้ทำลายป่า เวลามีช้างลงมาก็นำชาวบ้านช่วยดูแล นำเงินไปซื้อสับปะรด และไปปลูกอ้อยปลูกกล้วยไว้ให้ช้างกินในป่า โดยเฉพาะช่วงนี้มีช้างป่าลงมามากถึง 50 – 60 ตัว ถ้าไม่ไปดูแล ช้างก็จะไปสร้างความเสียหายกับไร่ สวนของชาวบ้าน
      นายทองหยุด ว่องธัญญากรณ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายรักษาความสงบ กล่าวว่า สถานที่ปฏิบัติธรรมนี้ตั้งอยู่มานานแล้ว ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็รู้และไม่เคยมีปัญหากัน แต่ตอนนี้อยากจะให้ออกไปทันทีทันใจใน 24 ชั่วโมง ซึ่งไม่สามารถทำได้ แต่พยายามช่วยกันขนของอยู่ทุกวัน พื้นที่รองรับข้างนอกก็ต้องช่วยกันทำด้วย อย่างน้อยควรให้เวลาประมาณ 1 - 2 เดือน และยืนยันว่าไม่ได้ขัดขืน แต่จำเป็นต้องใช้เวลา ชาวบ้านบอกว่าสำหรับพระอาจารย์มนัสเข้ามาธุดงค์ปฏิบัติธรรมตามลำพังตั้งแต่ พ.ศ.2530 แล้ว มีชาวบ้านเข้ามาร่วมพัฒนาและปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงชาวบ้านก็ช่วยกันดูแลป่ามาตลอด เจ้าหน้าที่ก็ทราบดี แต่ถึงวันนี้กลับจะมาขับไล่ให้ออกไปภายใน 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ชาวบ้านยังบอกอีกว่าพื้นที่ในอำเภอแก่งหางแมว ต.ขุนซ่อง อดีตเป็นพื้นที่ของ ผกค. เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น จึงกังวลว่าชาวบ้านบางส่วนอาจจะออกมาต่อต้านเจ้าหน้าที่ จนทำให้เหตุการณ์บานปลายขึ้นมาเหมือนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้

ขอบคุณที่มา
http://region7.prd.go.th/ewt_news.php?nid=2128&filename=index
75  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.watnongmuang.com วัดหนองม่วง ราชบุรี เมื่อ: มิถุนายน 07, 2011, 06:28:04 am


http://www.watnongmuang.com   
วัดหนองม่วง ราชบุรี
76  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เจริญสติปัฏฐาน๔ ณ สวนป่าโพธิธรรม(ป่าธรรมชาติ) 3 วัน 24-26 มิ.ย. 54 เมื่อ: มิถุนายน 07, 2011, 06:23:42 am
รับสมัครเข้าอบรมปฏิบัติธรรมเจริญสติปัฏฐาน๔
ณ สวนป่าโพธิธรรม(ป่าธรรมชาติ) 3 วัน 24-26 มิ.ย. 54


--------------------------------------------------------------------------------


** ขอเชิญเหล่าพุทธบุตร พุทธบริษัท ทั่วสารทิศร่วมปฏิบัติธรรม เจริญสติปัฎฐาน ๔ <เเบบพองหนอ-ยุบหนอ> อย่างเข้มข้น ในป่าธรรมชาติอันสงบเงียบ อากาศบริสุทธิ์ ปราศจากผู้คน เพื่อเป็นอาจริยบูชาเเด่ครูบาอาจารย์ ในวาระครบรอง 1 ปี ทำบุญหลวงปู่ สำเริง สุทธิวาสี




ณ ป่าธรรมชาติ สวนป่าโพธิธรรม
ต. ดอนเเสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจบุรี



...... อาณาเขตบริเวณพื้นที่อยู่ติดเชิงเขา ส่วนใหญ่ปกคุมไปด้วยป่าธรรมชาติ เมกไม้นานาพันธุ์ เเละเทิกเขาหลายลูกใกล้สวนป่า โดยสถานที่สวนใหญ่เน้นเพื่อการอยู่อาศัยเเบบเรียบง่ายตามสภาวะเเวดล้อมอัน พึ่งอาศัยธ

รรมชาติ เพื่อจะได้รับบรรยากาศที่สดชื่นเเจ่มใสอันปกคุมไปด้วยระบบนิเวศที่เหมาะเเก่การเข้าร

ับการอบรมปฏิบัติธรรม พระกรรมฐาน อันยกเเบบอย่างตามสมัย พระพุทธกาล ที่มุ่งเน้นอยู่โดยสอดคล้องกับธรรมชาติ
....... โดยเฉพาะเป็นสถานที่อันไม่ห่างจาก กรุงเทพเเละปริมณฑลมากนักเหมาะเเก่การเดินทางเพื่อเข้าสู่ความสงบ เพื่อเป็นเเห่งพักกาย, ผ่อนคลายใจ, ปลูกจิตสำนึกเวิถีเเห่งสติ เสริมสร้างผักดันปัญญาภายในให้เกิดขึ้น ด้วยการปฏิบัติตนท่ามกลางธรรมชาติ
ดัง นั้นจึงขอเชิญชวนพุทธบริษัทร่วมทำจิตใจให้ผ่องใส, ระงับชั่งที่จะส่งผล, เเละเสริมสร้างจิตใจของเราให้ผ่องใสด้วยการเข้ารับการอบรมฝึกหัดปฏิบัติธรรม อย่างมีสติภาวนา เเละมีสมาธิภาวนา ตามกำลังกาล




โครงการปฏิบัติธรรมเจริญสติ ภาวนา รักษาใจ

กำหนดการ ตั่งเเต่

วันศุกร์ที่ 24- วันอาทิตย์ ที่ 26 (3 วัน) มิถุนายน 2554




ร่วมบูชาปฏิบัติธรรม เพื่อสร้างสติ เสริมสมาธิ ควบคุมใจ ให้สะอาด ผ่องใส
อันจะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง เเละครอบครัว ตลอดถึงเจ้ากรรมนายเวร ด้วยสมัครเข้ารับการปฏิบัติธรรม

ณ สวนป่าโพธิธรรม ต.ดอนเสลบ อ.ห้อยกระเจา จ.กาญจนบุรี (ติดอำเภอห้อยกระเจาเเค่ 1 กม.)



...... ด้วยการสมัครเข้ารับ การอบรม ปฏิบัติธรรมเเบบเข้ม. ปฏิบัติเเบบ 3 วัน 2 คืน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาเเด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันตสาวก เพื่อสร้างบารมีธรรม เพื่อฝึกการใช้สติ สมาธิ เจริญปัญญาวิปัสสนา

จึงขอเชิญผู้ใคร่ในการเข้าถึงพุทธธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยเข้าถึงด้วยการ

ปฏิบัติขัดเกลาจิตใจของตนเอง


....... ตามคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ตรัสไว้ ในวันจาตุรงคสันนิบาตร โดยย่อเป็นหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนาไว้ว่า +ละความชั่ว +ทำความดี +ทำจิตใจให้ผ่องใส เเค่นี้ เราก็สามารถรู้ตื่นเบิกบานใจเมื่อเข้าถึงพุทธธรรมได้ทุกเพศทุกวัย ด้วยผลบุญจากการเเสวงหาพระธรรมด้วยการปฏิบัติ ธรรมสร้างสติในกาย-เวทนา-จิต-ธรรม อย่างมีสติรู้ตัว ทั่วพร้อมอยู่ในกายเพื่อเพิ่มพูลสติให้ดำรงชีวิตอยู่อย่างไม่ประมาท




กำหนด การโครงการปฏิบัติธรรม เพื่อเป็นพุทธบูชาเเด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องในโครงการปฏิบัติธรรม เจริญสติ ภาวนา รักษาใจให้สะอาดผ่องใส



(ในวันศุกร์ ที่ 24-26 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2554 )
รับจำนวนจำกัด 50 ท่านเท่านั้น



(สามารถโทรศัพท์ลงชื่อจองล่วงหน้าถึง วันที่ 23 มิ.ย. 2554 ตั้งเเต่ เวลา 09.30-16.00 น.
โทร. 089-8994099)

หรือลงชื่อสมัคร บอกชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร เเละบอกว่าประสงค์จะขึ้นรถตู้ หรือนำรถมาส่วนตัวที่ อีเมล์
ทางศูนย์จะติดต่อ เเละยืนยันการสมัครอีกครั้ง

e-mail : lamphongdhamma@hotmail.com



ตารางกำหนดการปฎิบัติธรรมเจริญสติปัฏฐาน ๔ ภาวนา รักษาใจ)



ตั่งแต่วันที่ 24-26 มิ.ย. 2554 (3 วัน 2 คืน)



วันศุกร์ ที่ 24 มิ.ย. 2554

เวลา ๐๙.๐๐ น.- ๑๖.๐๐ น. ลงทะเบียนเข้าปฎิบัติธรรม, รับข้อปฎิบัติ
เวลา ๑๗.๓๐ น. สวดมนต์เเปลเย็น,
เวลา ๑๙.๓๐ น. สมาทานศีล 8 / สมาทานพระกรรมฐาน /สอนพระกรรมฐานเบื้องต้น
(สำหรับผู้เข้าอบรมพระกรรมฐานใหม่)
เวลา ๒๑.๐๐ น. พักผ่อน, อย่างมีสติ



วันเสาร์ ที่ 25 มิ.ย. 2554

เวลา ๐๓.๐๐ น. ตื่นนอน ชำระร่างกาย / เตรียมตัวทำวัตรเช้า
เวลา ๐๔.๐๐ - ๐๕.๐๐ น. สวดมนต์เช้าเเปล
เวล ๐๕.๐๐ - ๐๖.๐๐ น. ปฏิบัติธรรมเจริญสติ ภาวนา (ช่วงเช้า)
เวลา ๐๗.๓๐ น. รับประทานอาหารเช้า อย่างมีสติ
เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๑.๓๐ น. ปฏิบัติกรรมฐานเบื้องต้น (ช่วงสาย)
เวลา ๑๒.๐๐ น. (พักผ่อนตามอัธยาศัย อย่างมีสติ)
เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๕.๓๐ น. ปฏิบัติธรรม ภาวนา (ช่วงบ่าย)
เวลา ๑๖.๐๐ น. ฟังธรรมบรรยาย
เวลา ๑๗.๓๐ – ๑๘.๓๐ น. อาบน้ำ, ชำระร่างกาย, ทำกิจกรรมจิตอาสา (ดูเเลความสะอาดบริเวณศูนย์)
เวลา ๑๘.๓๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเย็นเเปล, ฟังบรรยายธรรมะ (แนวทางปฏิบัติ)
เวลา ๑๙.๓๐ – ๒๑.๐๐ น. ปฏิบัติธรรมเจริญสติ ภาวนา(ช่วงค่ำ)
เวลา ๒๑.๐๐ น. พักผ่อน (อย่างมีสติ)




วันอาทิตย์ ที่ 26 มิ.ย. 2554

เวลา ๐๓.๐๐ น. ตื่นนอน ชำระร่างกาย / เตรียมตัวทำวัตรเช้า
เวลา ๐๔.๐๐ - ๐๕.๐๐ น. สวดมนต์เช้าเเปล
เวล ๐๕.๐๐ - ๐๖.๐๐ น. ปฏิบัติธรรมเจริญสติ ภาวนา (ช่วงเช้า)
เวลา ๐๗.๐๐ น. ตักบาตรพระภิกษุ(อาหารเเห้ง)
เวลา ๐๗.๓๐ น. รับประทานอาหารเช้า อย่างมีสติ
เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๑.๓๐ น. ปฏิบัติกรรมฐานเบื้องต้น (ช่วงสาย)
เวลา ๑๒.๐๐ น. (พักผ่อนตามอัธยาศัย อย่างมีสติ)
เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. ปฏิบัติธรรม ภาวนา (ช่วงบ่าย)
เวลา ๑๕.๓๐ น. รับใบประกาศเกียรติบัตร (รุ่น 1) , พิธีขอขมา, ลาศีล, รับศีล,
เวลา ๑๖.๓๐ – ๑๗.๓๐ น. {กิจกรรมบวชต้นไม้ คนล่ะต้น {ช่วยทำความสะอาด บริเวณสวนป่าโพธิธรรม {กลับบ้าน





* ร่วมปฎิบัติธรรม เจริญสติ ภาวนา ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย (เพียงเเต่มีใจศรัทธา เเละปรารถณาที่จะปฎิบัติธรรม)*





อานิสงค์ของการปฏิบัติที่ได้จากการปฏิบัติธรรม

1. ทำให้ร่างกายสดชื่นเเจ่มใจ เบิกบาน เเข็งเเรงไม่ค่อยมีโรคภัย
(เพราะจิตใจดีงาม ร่างกายก็ผ่องใส เบิกบานร่างเริง คิดสิ่งใดก็มีความสุข)

2. รู้บาป รู้บุญ รู้คุณ รู้โทษ รู้สิ่งที่มีประโยชน์ เเละไม่มีประโยชน์
(ทำให้เกิดความเบื่อหนาน ในการดำเนินชีวิต ทำให้ดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท)
3. เป็นผู้ที่มีความกตัญญู รู้คุณ ต่อผู้มีพระคุณ จิตใจอ่อนโยน อ้อนน้อมถ่อมตน
(เชื่อฟังพ่อเเม่มากขึ้น เพราะได้รู้จักความทุกข์จากเวทนา)
4. รู้กฎเเห่งกรรมจากการกระทำของตัวเองได้ (รู้ว่าเคยกระทำกุศล เเละอกุศลใดมา)
5. รู้เเนวทางการเเก้ไขปัญหาชีวิต ในปัจจุบันได้
(ไม่เครียด ไม่ฆ่าตัวตาย หาหนทางดับความทุกข์ทางใจได้ เเก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้)
6. รู้มีสติรู้ตัว ก่อนคิดที่จะทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น (เป็นผลให้เกิดความผิดพลาดน้อยลง)
7. มีความจำเป็นเลิศ (เรียนหนังสือเก่งเพราะมีความจำเร็ว)
8. ต่ออายุให้ยาวนานขึ้น (เพราะกรรมจากการกระทำบาปไม่มาตัดรอน)
9. มีวิบากกรรมน้อยลง (สิ่งที่ทำให้ติดขัดความสำเร็จ)
14. สามารถเเก้กรรมจากการกระทำที่ไม่หนักมากได้
(เพราะ การปฏิบัติธรรมได้บุญและอานิสงส์เยาะ เมื่อเเผ่เมตตาออกไปเจ้ากรรมนายเวรก็ได้มาก และสัพสัตว์ ก็จะถึงมาก และถึงทุกที่เพราะจิตมีสมาธิสูงมาก)
15. สามารถเข้าถึงธรรมะขั้นสูงสุดได้ (เพราะเป็นการฝึกฝนโดยการทำลายต้นต่อของกิเลสโดยตรง)
16. เป็นบาทฐานในการเข้าถึงธรรมะในอนาคต
(เป็น การสร้างบารมีธรรมเฉกเช่นพระพุทธเจ้า เเละพระอริยบุคคลทั้งหลาย้พื่อใช้ต่อสู้กับพระยามารที่ฝังอยู่ในใจเรา รอเราชนะกิเลสอยู่ คือความโลภ ความโกรธ ความหลง)




คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม ดังนี้

1.เป็นผู้มีศรัทธาในการปฏิบัติธรรม
2.เป็นผู้ที่มีร่างกายสมบูรณ์เเข็งเเรง
3.เป็นผู้ไม่มีโรคร้ายเรง
4.เป็นผู้ไม่ติดอาญาเเผ่นดิน
5.เป็นผู้ว่าง่าย,สอนง่าย,กินง่าย,อยู่ง่าย,นอนง่าย ไม่เเข็งกระด้าง



การเตรียมตัวเบื้องต้น ดังนี้

1.นุ่งห่มด้วยชุดขาว (สำหรับเวลาปฏิบัติผู้หญิงใส่ผ้าถุง มีไสบเฉวียงบ่า) เวลาทำจิตอาสา หรือนอนอนุญาติให้ใส่กางเกงได้
2.เตรียมเครื่องใช้ส่วนตัวมาด้วย อาทิ เเปรงสีฟัน, ยาสีฟัน,ยาสระผม, สบู่ เละอื่นๆ
3.เตรียมไฟฉายสำหรับเวลากลางคืน
4.เตรียมผ้าคลุมของใช้ส่วนตัวเพื่อปกปิดความเรียบร้อย (ถ้ามี)
5.เตรียมรองเท้าเเตะสำหรับใส่ในบริเวณวัด
6.เครื่องอุปโภค เเละบริโภค (ถ้านำมาได้สำหรับตักบาตรพระภิกษุ..วันสุดท้าย)
7.ยาทาสำหรับกันยุง (ถ้ามี)
8.หากมีโรคประจำตัวควรติดยาหรือคนดูเเลมาด้วย
9.นำบัตรประจำตัวประชาชน เเละทะเบียนบ้าน (เเบบถ่ายสำเนา) อย่างละ 1 ชุด
10. สำหรับผู้เข้าอบรมครั้งเเรก ต้องนำรูปถ่าย ขนาด 1 นิ้ว ติดมาด้วย 1 รูป



กฏระเบียบเบี้องต้นในการปฏิบัติธรรม


1. ห้ามพกสิ่งของมีค่ามาก อาทิ ทอง, เพชร, เครื่องประดับต่างๆ เข้ามาอบรม
2. ห้ามสูบบุหรี่ หรือสิ่งเสพติด ตลอดการเข้รับการอบรม
3. ห้ามทะเลาะ หรือส่งเสียงดัง
4. ห้ามพกวิทยุ เข้ามาฟังระหว่างการอบรม
5. ห้ามทำรายป่าไม้ในศูนย์ กรณาช่วยกันรักษาต้นไม้
6. งดการหายหรือเสนอเเลกเปลี่ยนสินค่าในขณะเข้าอบรม
เป็นต้น เเละข้อกฎระเบียบอีกมากมาย ดูที่ป้ายประจำศูนย์




หมายเหตุ. กรุณาอย่านำของมีค่าติดตัวมาเข้ารับการอบรมด้วย

เพื่อความสันโดษ สงบเเละเพื่อไม่ให้เกิดความลำบากเมื่อยามหาย
(ปฏิบัติ ธรรมนำจิต เพื่อเเผ่คุณงามความดีสู่ครอบครัว,มิตร,สหาย เพื่อตอบพระคุณ เพื่อส่งจิตให้สูง เพื่อเชิดชูพระเกียรติคุณ เพื่อเเสวงหาความสุขล้ำ เพื่อน้อมนำ พุทธธรรม สู่กลางใจ) ถ้าหายทางสำนักไม่รับผิดชอบ



เเผนที่ การเดินทาง สวนป่าโพธิธรรม

การเดินทางจาก กรุงเทพ ระยะทาง 150 กม. ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชม. หรือ 2.30 น.
สวนป่าโพธิธรรม ((ห่างจาก ตัวอำเภอห้อยกระเจา เเค่ 1 กม.))



(((เส้นทางการเดินทางโดยรถส่วนตัว)))

โดยถนนหลักที่สามารถมาสวนป่าโพธิธรรมได้ คือ


ถ้าจาก กรุงเทพ (150 กมฺ) ขับรถ 2 ชม. :

สามารถขับรถมาเอง ได้ 2 เส้นทางหลัก คือ

มุ่งหน้าขับไปถนนเส้นสุพรรณบุรี ถึงเเยกตาม 2 เส้นทาง ดังนี้คือ



((เส้นที่ 1.))

ขี่ ไปทาง วัดไผ่โรงวัด เข้าอำเภอสองพี่น้อง ผ่านเเยกจรเข้ สู่อำเภออู่ทอง ก่อนเข้าตัวอำเภออู่ทองให้เลี้ยวซ้าย ไปทางป้ายบ่อพลอย ขี่จากสามเเยกอู่่ทองเข้าไป อำเภอ ห้อยกระเจา ประมาณไม่เกิน 20 กม. โดยจะผ่าน มหาลัยเวสเทิร์น ผ่านสามเเยก จนถึงเเยกที่ 3 ก่อนถึงตัวอำเภอห้อยกระเจา มีป้ายสวนป่าโพธิธรรม ให้เลี้ยวขวา ขับรถไปอีก 200 เมตร จะถึงทางเลี้ยวเข้า ด้านขวามือ ขี่เข้าไป 200 เมตร ก็ถึงศูนย์ปฏิบัติธรรม "สวนป่าโพธิธรรม"

<< ข้อจำ ให้ถามทางให้ถามทางว่า จะมุ่งหน้าไป อ.ห้อยกระเจา ก่อนถึง อำเภอบ่อพลอย จ.กาญจนบุรี>>

((เส้นที่ 2.))

ขี่ ไป ทางอำเภอบางเลน ผ่านเเยกจรเข้ สู่อำเภออู่ทอง ก่อนเข้าตัวอำเภออู่ทองให้เลี้ยวซ้าย ไปทางป้ายบ่อพลอย ขี่จากสามเเยกอู่่ทองเข้าไป อำเภอ ห้อยกระเจา ประมาณไม่เกิน 20 กม. โดยจะผ่าน มหาลัยเวสเทิร์น ผ่านสามเเยก จนถึงเเยกที่ 3 ก่อนถึงตัวอำเภอห้อยกระเจา มีป้ายสวนป่าโพธิธรรม ให้เลี้ยวขวา ขับรถไปอีก 200 เมตร จะถึงทางเลี้ยวเข้า ด้านขวามือ ขี่เข้าไป 200 เมตร ก็ถึงศูนย์ปฏิบัติธรรม "สวนป่าโพธิธรรม"

<< ข้อจำ ให้ถามทางให้ถามทางว่า จะมุ่งหน้าไป อ.ห้อยกระเจา ก่อนถึง อำเภอบ่อพลอย จ.กาญจนบุรี>>



หรือถ้าหากไม่สะดวกเดินทางมาโดยรถส่วนตัวก็สามารถติดต่อขึ้นรถตู้มาศูนย์ได้(ไป-กลับ)
(ติดต่อก่อนเริ่มโครงการ 2 วัน)



ศูนย์ประสานงานศูนย์สวนป่าโพธิธรรม
ติดต่อสอบถาม : 089-8994099

http://www.watnongmuang.com/board/index.php?s=c65c78c554e67e955b2591acbe9d3155&showtopic=235&pid=336&st=0&#entry336
77  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.watcharkmak.com วัดชานหมาก ระยอง เมื่อ: มิถุนายน 07, 2011, 06:19:34 am


http://www.watcharkmak.com
วัดชานหมาก ระยอง




วัดชากหมาก ตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง สถานที่ตั้ง เลขที่ ๓๘ บ้านชากหมาก หมู่ที่ ๒ เนื้อที่ตั้งวัด จำนวน ๒๑ ไร่ - งาน - วา ไม่มีผู้มอบกรรมสิทธิ์ที่ดินสร้างวัด

สถานภาพของวัดในปัจจุบัน
ได้รับอนุญาตให้สร้าง                   เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔
ได้รับอนุญาตตั้งเป็นวัด                เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๗
ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๖
เป็นอุทยานการศึกษา                  เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๘

มีเจ้าอาวาสปกครองตามลำดับ ดังนี้
๑. พระครูภาวนานุโยค         พ.ศ. ๒๔๖๗ ถึง พ.ศ. ๒๕๒๐
๒. พระครูดิษวงษานุรักษ์      พ.ศ. ๒๕๒๑ ถึง พ.ศ. ๒๕๓๖
๓. พระครูปลัดจ้อย รกฺขิโต   พ.ศ. ๒๕๓๖ ถึง พ.ศ. ๒๕๓๘
๔. พระครูสันติบุรพทิศ          พ.ศ. ๒๕๓๘ ถึง ปัจจุบัน
78  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เชิญร่วมปฏิับัติธรรม วัดชานหมาก ระยอง 16 - 20 มิ.ย.54 เมื่อ: มิถุนายน 07, 2011, 06:16:55 am
วัดชากหมากขอเชิญร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรม บวชเนกขัมมะ

ประจำเดือน มิถุนายน  พ.ศ. ๒๕๕๔

ระหว่างวันที่  ๑๖ - ๒๐  มิถุนายน  ๒๕๕๔

นำปฏิบัติธรรมโดย  พระครูสันติบุรพทิศ  เจ้าอาวาสวัดชากหมาก  เจ้าคณะตำบลสำนักท้อน

สนใจติดต่อสอบถาม พระธีรพิสิษฐ์  จนฺทสาโร   โทร. ๐๘-๙๒๔๙-๕๒๗๒

79  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.bethai.org/success.php โครงการ bethai พูดดี พูดไพเราะ มีสัมมาวาจา เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2011, 05:12:34 pm


http://www.bethai.org/success.php

โครงการ bethai พูดดี พูดไพเราะ มีสัมมาวาจา


80  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.watpamafai.org วัดป่ามะไฟ เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2011, 04:56:40 pm


http://www.watpamafai.org 

 วัดป่ามะไฟ


 :25:
หน้า: 1 [2] 3 4 5