ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สถานการณ์ น้ำท่วมอยุธยา  (อ่าน 5032 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นาตยา

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 136
  • ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่านที่เป็นกัลยาณมิตร
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
สถานการณ์ น้ำท่วมอยุธยา
« เมื่อ: ตุลาคม 25, 2010, 12:04:08 pm »
0






พระนครศรีอยุธยาอ่วม น้ำท่วมหนัก 33 โรงเรียน ผอ.สั่งปิดแล้วโรงเรียน 7 แห่ง ระบุ มีบางโรงเรียนน้ำท่วมซ้ำซากติดต่อกัน 3 ปี ด้าน "คุณหญิงกษมา" เต้นชงของบกลางปี 52 จำวน 363 ล้านบาท เพื่อซ่อมแซมอาคารเรียนทรุดโทรมน้ำกัดเซาะ และช่วยเหลือนักเรียนที่ได้รับผลกระทบหนัก ด้านเขื่อนป่าสักยังไม่พ้นวิกฤตน้ำท่วมอยุธยา(6พ.ย.) นางปาลิดา กุลรุงโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) พระนครศรีอยุธยา เขต 2 เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานในพื้นที่สพท.พระนครศรีอยุธยาเขต 2 มีน้ำเหนือไหลผ่านมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้โรงเรียนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม 33 โรง จาก 208 โรงตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีโรงเรียนที่ได้รับความเดือดร้อนต้องปิดการเรียนการสอนไป 5 โรง ทั้งนี้ ในระหว่างนี้ทางโรงเรียนได้แก้ปัญหาด้วยการมอบการบ้านให้นักเรียนไปทำที่ บ้าน และเมื่อเปิดการเรียนการสอนได้แล้วจะมีการสอดชดเชยในวันเสาร์ อย่างไรก็ตาม ความเสียหายนั้นจะทราบได้เมื่อน้ำลดแล้ว“โรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมนั้นส่วนใหญ่ จะเป้นโรงเรียนในพื้นที่ราบลุ่ม และทุกปีจะมีน้ำท่วมโรงเรียนอยู่แล้ว โดยปีนี้เป็นครั้งที่สามและมีปริมาณน้ำมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา”นางปาลิดา กล่าวด้านนายธำรง แก้วเล็ก ผอ.สพท.พระนครศรีอยุธยา เขต 1 กล่าวว่า ในส่วนของสพท.เขต 1 นั้น มีโรงเรียนได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม 7 โรง จากโรงเรียนทั้งหมด 212 โรง และขณะนี้ทางโรงเรียนขอปิดการเรียนการสอนแล้ว 2 โรง คือ โรงเรียนวัดกลางปากกราง ขอปิดเป็นเวลา 10 วัน และโรงเรียนวัดตาลเอน ขอปิดเป็นเวลา 5 วันโดยทั้ง 2 โรงจะ เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย.เป็นต้นไป ส่วนอีก 5 โรงนั้น เนื่องจากน้ำท่วมบริเวณชั้นล่างของอาคารเรียนแต่ชั้นสองยังสามารถใช้สอน หนังสือได้คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เสนอของบกลางปี 2552 จำนวน 363 ล้านบาท เพื่อนำมาซ่อมแซมอาคารเรียนที่เสียหายจากน้ำท่วมและช่วยเหลือนักเรียนที่ได้ รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมใหญ่ช่วงเดือน กันยายน 2551 พบว่ามีโรงเรียนที่ประสบภัยน้ำท่วม อยู่ในพื้นที่ 47 จังหวัด ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)ถึง 135 สพท.นายอุกฤต ถาวรไกรกุล หัวหน้าโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะแถมลุ่มน้ำป่าสัก ทำให้ระดับน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนมีจำนวนมาก แต่ขณะนี้ระดับฝนตกเริ่มลดลงมาบางแล้ว ทำให้น้ำที่ไหลเข้าสู่เขื่อนป่าสักเริ่มลดลง โดยในวันนี้ทางเขื่อนป่าสัก ต้องมีการปรับการระบายน้ำใหม่อย่างไรก็ตาม ในวันนี้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา จะมีน้ำก้อนใหญ่จากจังหวัดนครสวรรค์ ที่จะลงมาสู่เขื่อนเจ้าพระยาจำนวนมาก และหากทางเขื่อนป่าสักระบายน้ำออกจากเขื่อนจำนวนมาก ก็จะทำให้ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบ จึงทำให้ทางเขื่อนป่าสัก ตัดสินใจที่จะลดปริมาณการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนป่าสัก เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบระหว่างน้ำป่าสักและน้ำเจ้าพระยานายอุกฤต กล่าวต่อไปว่า สำหรับการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักในวันนี้ จะระบายน้ำออกจากเขื่อนอยู่ที่ประมาณ 450-500 ลูกบาตรเมตรต่อวินาที หรือวันละ40 ล้านลูกบาตรเมตรต่อวัน ซึ่งลดจากเมื่อวาน ซึ่งระบายน้ำอยู่ที่ 650 ลูกบาตรเมตร หรือวันละ 65 ล้านลูกบาตรเมตรต่อวัน ทำให้เขื่อนป่าสัก จะต้องมีการแบกรับน้ำที่สูงเกินการเก็บกักอยู่บ้าง เพื่อลดปัญหาไม่ให้น้ำทั้ง 2 ก้อนมาชนกันจนมีน้ำท่วมสูงขณะที่ระดับน้ำในเขื่อนป่าสักขณะนี้ก็เก็บอยู่ใน อ่างของเขื่อนป่าสักนั้นสูงกว่า 960ล้านลูกบาตรเมตรแล้ว ส่วนระรับนี่ไหลเข้าเขื่อนป่าสักในขณะนี้อยู่ที่ 500-600 ลูกบาตรเมตรต่อวินาทีหรือ 50-60ล้านลูกบาตรเมตรต่อวัน ซึ่งก็จะไม่มีปัญหากับตัวเขื่อนในช่วงระยะสั่นๆ เพราะหลังน้ำก้อนใหญ่ผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแล้วทางเขื่อนป่าสักก็สามารถระบาย น้ำออกจากเขื่อนได้ตามปกติสถานการณ์ก็จะคลีคลายลง

ขอบคุณที่มาแหล่งข่าว
http://news.buddyjob.com/world/show_news-10862-2.html

http://raiwan.com/2006/10/07/761/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 25, 2010, 12:07:15 pm โดย นาตยา »
บันทึกการเข้า

นาตยา

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 136
  • ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่านที่เป็นกัลยาณมิตร
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สถานการณ์ น้ำท่วมอยุธยา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2010, 12:05:04 pm »
0


นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณี ปัญหาเรื่องปลิง ซึ่งมักจะพบในช่วงที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยทั่วไปปลิงมักจะอาศัยอยู่ในน้ำนิ่ง ตามแหล่งหนองน้ำ ลำธารทั่วๆ ไปอยู่แล้ว แต่พอมีน้ำท่วมปลิงก็จะไหลไปตามน้ำท่วมได้ โดยปลิงเป็นสัตว์ดูดเลือด ดังนั้นจึงขอเตือนประชาชน โดยเฉพาะเด็กๆ ไม่ควรลงเล่นน้ำท่วม เพราะอาจถูกปลิงไชเข้าตามอวัยวะต่างๆ ได้ เช่น รูทวารหนัก ช่องคลอด รูปัสสาวะ ในการป้องกันปลิงที่มากับน้ำท่วม หากเป็นไปได้ขอให้ประชาชนเดินทางโดยเรือ แต่หากไม่มีเรือและจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ โดยเฉพาะจุดที่มีน้ำท่วมสูงระดับเอวขึ้นไป ขอให้แต่งตัวให้มิดชิด ควรใส่กางเกงใน สวมกางเกงขายาว และสวมถุงพลาสติกหุ้มเท้าและหุ้มปลายขากางเกงทั้ง 2 ข้าง แล้วรัดด้วยเชือกหรือยาง เพื่อป้องกันไม่ให้ปลิงเข้าไปในกางเกงได้ โดยขณะที่ปลิงกัดหรือดูดเลือด จะปล่อยสารออกมา 2 ชนิด ได้แก่ สารฮีสตามีน (Histamine) ช่วยกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว และสารฮีรูดีน (Hirudin) มีคุณสมบัติต้านทานการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดไม่แข็งตัวและเสียเลือดเรื่อยๆ มีการศึกษาทางห้องปฏิบัติการพบว่า พวกปลิงสามารถอดอาหารได้นานถึง 5 เดือน และหากปลิงไชเข้าไปในลำไส้ใหญ่ และทะลุลำไส้ จะทำให้ช่องท้องอักเสบ แต่พบได้น้อยมาก นอกจากนี้ มีรายงานว่าปลิงเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ และทำให้เกิดเป็นก้อนนิ่วขึ้นได้ภายหลังด้วย

      ทั้งนี้ ปลิงมี 2 ชนิด คือ ปลิงควาย และปลิงเข็ม โดยปลิงเข็มนั้นจะเข้าทางตา รูจมูก หรือปากได้ จากการดื่มน้ำหรือล้างหน้าในลำธารที่มีปลิงอยู่ ปลิงจะเข้าสู่หลอดคอ หลอดอาหารหรือที่หลอดลมได้อย่างรวดเร็ว อาการที่ปรากฏ คือ มีเลือดกำเดาออก ไอหรืออาเจียนเป็นเลือด ทำให้เสียเลือดมาก ถ้าหากปลิงอยู่ในโพรงจมูกอาจทำให้ปวดศีรษะเป็นเวลานาน ถ้าอยู่ในกล่องเสียงจะทำให้ไอเป็นเลือด หายใจไม่ออก นอกจากนี้ปลิงยังอาจเข้าไปทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือท่อปัสสาวะของคนที่ลงอาบน้ำในลำธารได้ ในช่วงที่น้ำท่วมในปี 2549 มีรายงานพบผู้ชาย 1 ราย ถูกปลิงไชเข้าทวารหนักขณะเดินลุยน้ำท่วม ที่มีน้ำสูงระดับอก แพทย์ได้ช่วยเหลือคีบปลิงออกได้ทัน
ที่มา
http://www.rd1677.com/branch.php?id=62266
บันทึกการเข้า

นาตยา

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 136
  • ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่านที่เป็นกัลยาณมิตร
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สถานการณ์ น้ำท่วมอยุธยา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2010, 12:08:29 pm »
0
!
บันทึกการเข้า

นาตยา

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 136
  • ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่านที่เป็นกัลยาณมิตร
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อ 17 ต.ค. นายวิทิต ปิ่นนิกร นายอำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายชโลม โปลิตานนท์ นายกเทศมนตรี ต.ท่าเรือ ระดมหน่วยกู้ภัยและเจ้าหน้าที่หน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาล ให้การช่วยเหลือประชาชนในตลาด อ.ท่าเรือ ซึ่งถูกน้ำท่วมเข้าบ้านเรือนตั้งแต่ช่วงเวลา 04.30 น. วันเดียวกัน โดยระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักได้เอ่อสูงขึ้นจนท่วมถนนหน้าที่ทำการเทศบาลและ อำเภอ ล้นเข้าไปจากริมแม่น้ำระยะทางเกือบ 100 เมตร ทำให้ท่วมเข้าบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในตัวตลาด ที่ส่วนใหญ่เป็นร้านค้า ได้รับความเสียหายกว่า 200 หลังคาเรือน เจ้าหนาที่หน่วยงานป้องกันและหน่วยกู้ภัยต้องช่วยกันขนสิ่งของเครื่องใช้ออก จากบ้านไปไว้ยังถนน ในขณะที่หลายบ้านขนของออกไปอยู่บ้านญาติที่นอกเมือง เนื่องจากเกรงว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอีก นอกจากนี้ หน่วยกู้ภัยยังต้องเร่งให้การช่วยเหลือสุนัขจรจัดจำนวนกว่า 20 ตัวที่ติดอยู่บริเวณใต้ถุนอาคารและบ้านเรือนริมแม่น้ำ เกรงว่าจะถูกน้ำพัด โดยน้ำมีความลึก 2.50 ม.-3 เมตร โดยต้องใช้เรือขนสุนัขอย่างทุลักทุเล ส่วนประชาชนที่บ้านถูกน้ำท่วมต้องลอยคอนำสิ่งของออกจากบ้านกันอลหม่าน

ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเตรียมตัวป้องกันไม่ทัน ทั้งนี้ เนื่องจากทางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้มีการระบายน้ำมากกว่า 800 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้น้ำท่วมตลาดภายใน 8 ช.ม. ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งให้ประชาชนริมแม่น้ำได้ขนข้าวของขึ้นที่สูง โดยคาดว่าน้ำจะสูงขึ้นอีก 1-1.50 ม.ในวันสองวันนี้ แล้วจะลดลง

นายชโลม เปิดเผยว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยขนของ ส่วนการป้องกันนั้นไม่สามารถที่จะป้องกันได้ เนื่องจากน้ำมีปริมาณมาก โดยเขื่อนพระราม 6 ระบายน้ำมากกว่า 800 ลบ.ม.เช่นกัน ตนได้เตรียมทำสะพานไม้เชื่อมในจุดสำคัญหากถูกน้ำท่วมในพื้นที่

ด้าน เขื่อนพระรามหก ซึ่งเป็นเขื่อนเก่าแก่แห่งแรกของประเทศไทย ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ ซึ่งรับน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้มีการเปิดประตูระบายน้ำทั้งหมด 6 บานในระดับที่สูงที่สุด เนื่องจากน้ำเหนือเขื่อนมีปริมาณสูงกว่า 10 เมตร ทำให้ปริมาณน้ำไหลสู้ท้ายเขื่อนมาก ขณะเดียวกัน จนท.ก็ประสบปัญหาเนื่องจากระหว่างที่น้ำไหลมา ปรากฏว่ามีต้นไม้สักขนาดความสูงไม่น้อยกว่าต้นละ 10 เมตร จำนวนนับร้อยต้นลอยมากับน้ำแล้วกระแทกเข้ากับบานประตูระบายน้ำของเขื่อนพระ รามหกทำให้มีต้นไม้ไปปิดช่องทางน้ำสองประตู จนท.ชลประทานต้องช่วยกันนำไม้ขึ้นมา และปรากฏว่าเมื่อนำหมายขึ้นมาพบว่าส่วนใหญ่เป็นไม้สัก ซึ่งมีลักษณะของการตัดและมีตราประทับป่าไม้ด้วย โดยมีรถบรรทุกมาขนไปโดยไม่ทราบว่าขนไปที่ใด

ที่มา
http://www.isnhotnews.com/2010/10/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%98%E0%B8%A2%E0%B8%B2-%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94/
บันทึกการเข้า

tcarisa

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 524
  • ก้าวน้อย แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สถานการณ์ น้ำท่วมอยุธยา
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2010, 06:39:16 pm »
0
ดู ๆ แล้ว ภาคกลางจะเดือดร้อน กว่าทุกภาค โดยเฉพาะชาว อยุธยา นั้นต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้ำเป็นเดือน ๆ

ในขณะที่อื่น ๆ  ก็ใช้เวลา 10 - 15 วัน ที่สำคัญ เรือกสวน ไร่ นา ที่เสียหาย คนที่หาเช้ากินค่ำ การซ่อมแซมบ้าน

ทั้งหมดไม่ใช่เรื่อง ที่จะแก้ปัญหาได้ง่าย ๆ 

 :03: :03: :03:
บันทึกการเข้า
เราเป็นหน่ออ่อน ที่รอการเติบโต
จึงขอสั่งสมบารมีธรรม เพื่อพระนิพพาน