ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ผลกรรมผู้หญิงแต่งกายไม่สำรวมเข้าวัด  (อ่าน 3001 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28499
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ผลกรรมผู้หญิงแต่งกายไม่สำรวมเข้าวัด

 
ภาพ : ไม่ทราบสถานที่

ภาพ : ป้ายเตือนบริเวณทางเข้าวัดหลวงพ่อโสธร

ภาพ : บริเวณทางเข้าศาลาเพื่อกราบพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก เจ้าอาวาสวัดสุนันทวนาราม จ.กาญจนบุรี

ผู้หญิงเข้าวัดแต่แต่งตัวไม่สำรวม
ผู้หญิงที่เข้าวัดแต่แต่งตัวไม่สำรวมอวดเนื้อหนังให้พระหวั่นไหวต่อไปจะได้รับผลกรรมอย่างไร...?


ขอบเขตของคำถามที่ว่า ‘แต่งกายไม่สำรวม’ เข้าวัดนั้น อาจทำให้เพ่งโทษคับแคบ ต้องค่อยๆ
มองให้คลุมข้อเท็จจริงตามลำดับครับ

โดย ความเป็นเพศหญิง มีธรรมชาติดึงดูดใจ หรือล่อตาอยู่ในตัวเองเดินๆไปถ้าเป็นที่สนใจได้ก็ถือว่ามีรูปสมบัติอันพึงมี สมเพศตนถ้าวันไหนแต่งองค์ทรงเครื่องได้ถึงขนาดชายหญิงมองเหลียวหลังกันทั่ว ทุกหัวระแหงก็จะยิ่งภาคภูมิเต็มอิ่มประมาณเดียวกับที่นักวิ่งเข้าเส้นชัยได้ เป็นคนแรกทีเดียว

ฉะนั้นผู้หญิงที่รูปร่างหน้าตาดีเกือบทุกคนจึงอดไม่ได้กับการอยากทดสอบเสน่ห์ของตนแล้ว
อะไรจะเป็นเครื่องทดสอบได้ดีไปกว่าผู้ประกาศตนว่าสละเรื่องทางเพศแล้วไม่สนใจเพศหญิงอีกแล้ว

สมัย นี้พระทั่วไปไม่ใช่เครื่องทดสอบที่น่าท้าทายอะไรนักเนื่องจากข่าวฉาวที่ ประดังเข้าหูเข้าตาผ่านหน้าหนังสือพิมพ์แทบไม่เว้นแต่ละวันทำให้ผู้หญิงยุค ใหม่มองพระไม่ต่างจากชายนุ่งกางเกงนอกวัดทั้งหลายหากทำให้สนใจได้ยังไม่ถือ ว่าแน่อะไรนัก เท่าที่ทราบจากคำให้การของสาวๆส่วนใหญ่จะรู้สึกสมเพชและนึกดูถูกพระที่ไม่ สำรวมเพ่งเล็งตนด้วยสายตากรุ้มกริ่มตั้งแต่แรกเห็นยิ่งกว่าสมเพชและดูถูก ผู้ชายทั่วไปมากเนื่องจากใส่เครื่องแบบที่ควรจะมีสง่าราศีเยี่ยงภิกษุผู้ อิ่มแล้วแต่กลับทำตัวกระจอกไม่ต่างจากนักโทษที่หิวโซ

แต่หากกลับเป็นตรงข้ามถ้าเป็นพระชื่อดัง ที่มีคนร่ำลือว่าเป็นผู้สงบ เป็นผู้สำรวมการทำให้
ท่านสนใจได้ นับว่าน่าภาคภูมิใจเป็นพิเศษระดับความอยากให้สนใจก็ต่างๆกันไปตามพื้นความคิดความอ่านของผู้หญิงแต่ละคนเท่า ที่ได้ทราบจากปากของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งตั้งใจสละโลกและเข้าประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ เธอยอมรับว่ารู้สึกผิดและละอายคือพออยู่ๆในวัดไปแล้วอดไม่ได้เห็นชายที่ เคร่งๆแล้วอยากลองเสียหน่อยว่าเขาจะทนเสน่ห์เธอไหวไหมในระดับของเธอ ก็จัดได้ว่ามีสติดีและยอมรับตามจริงมากพอที่จะเห็นแม้อาการตั้งใจเล็กๆน้อยๆ ของตน เช่นชม้ายตาหรือไม่มีอะไรเลยก็เดินด้วยความรู้สึกเป็นเป้าล่อความสนใจของผู้ เคร่งในธรรมธรรมดาผู้หญิงที่เคยถูกจับจ้องมามากจะสำเหนียกรู้ได้ว่ากำลังมี ผู้ชายสนใจตนอยู่หรือเปล่าและเป็นการแอบชำเลืองหรือเพ่งเล็งเขม็งเป็นความ สนใจด้วยความชื่นชมหรือเจืออยู่ด้วยราคะและราคะนั้นถึงขั้นหื่นกระหายหมดรูป หรือว่าเป็นเพียงความวาบหวามแบบอ่อนๆ


หาก ทำได้ครั้งหนึ่งก็นึกยินดี หรือนึกภูมิใจว่าตนแน่ยิ่งพระที่ขึ้นชื่อว่าปลอดกิเลสเท่าไร ยิ่งอยากทำให้สนใจตนมากขึ้นเท่านั้นแต่หากปลูกฝังจิตสำนึกในทางละอายเอาไว้ ก่อนก็จะรู้สึกผิดรุนแรงที่ทำเรื่องไม่งาม ไม่สมควร หรือบางคนยั่วให้สนใจสำเร็จเห็นพระทำตาหวานใส่ ก็พานเกลียดชัง พานสาปส่ง หมดความนับถือไปเลยไม่เหลือเกียรติให้ต้องเคารพกันอีก และไม่คิดหวนกลับไปทำบุญที่วัดนั้นตลอดชีวิตนี่นับเป็นความขัดแย้งในตัวเอง ที่น่าปวดหัว

ที่กล่าวมาคือหญิงผู้มี สำนึกในธรรมแล้วนะครับตั้งใจจะเดินบนเส้นทางสีขาวแน่นอนแล้วยังเจอเรื่อง มิติมืดภายในตนเล่นงานให้ย่ำแย่เข้าได้ แล้วผู้หญิงธรรมดาโดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่เกิดมาพร้อมกับการรับรู้ข่าวคาวๆ ฉาวๆของพระล่ะ?

เท่าที่ทราบแนวโน้ม ของสาวรุ่นใหม่จะไม่มีความรู้สึกเกี่ยวกับเครื่องแบบที่เหมาะหรือไม่เหมาะ กับเขตวัดถ้าเพิ่งเข้าวัดใหม่ๆหรือนานๆเข้าวัดทีจะนึกไม่ถึงว่าเสื้อยืดและ กางเกงรัดรูปที่‘แต่งกันเป็นปกติ’ นั้นอาจมีความยั่วตายวนใจ และรบกวนตบะของพระสงฆ์ได้ง่ายๆ

แต่จะ มีสาวอีกกลุ่มหนึ่ง ที่จงใจแต่งตัวหวือหวาขัดกับสถานที่ให้เป็นที่สนใจของคนอื่น ไม่ว่าจะพระเณรหรือฆราวาสด้วยกันเข้าหลักถ้าอยากเด่นต้องทำตัวให้ไม่มีใคร เหมือน เขาหลิ่วตาเราอย่าหลิ่วตามเขาแต่งขาวเราต้องแต่งดำ ผู้หญิงอื่นปกปิดเราต้องเปิดโปง

เอา เฉพาะเจตนาอันหนักแน่นข้อนี้นะครับถ้าแต่งตัวโป๊เพื่อล่อตาล่อใจเพศตรงข้าม ในวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งทำด้วยความภาคภูมิใจและไม่สำนึกผิดภายหลังหญิงนั้น ได้ชื่อว่าเพาะเชื้อแห่งความเป็นธิดาพญามารไว้ในตนแล้ว

การทำบุญสร้างความเป็นธิดาพญามารมีหลายระดับถ้าแจกแจงละเอียดยิบคงเป็นปึก ในที่นี้ขอแยกเป็นคร่าวๆให้เห็นภาพง่ายสุดคือ


๑) เมื่อถึงเวลาทำบุญ ก็ทำด้วยน้ำจิตเลื่อมใสของที่นำมาถวายเป็นการจัดหาของตนหรือตั้งใจร่วมสวด หรือฟังเทศนาธรรมด้วยอาการสำรวม ก็เป็นบุญที่มีกำลังมากหากเสน่ห์ที่นำมาโปรยในวัดมีกำลังอ่อน แค่ในระดับล่อตาล่อใจไม่ถึงขั้นรู้สึกว่าถ้าสึกพระได้ถือว่าเจ๋ง อย่างนี้มีวิบากเป็นกระแสดึงดูดใจแต่เจือด้วยปัญหาร้อนใจในการคบเพื่อนต่าง เพศ เพราะใครๆก็จ้องตาเป็นมันและมักเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ทางเพศเป็นหลักแต่ กว่าจะกอบโกยประโยชน์จากเนื้อหนังไปได้เต็มอิ่ม กว่าจะรู้สึกจืดชืดก็เนิ่นนานแรมปี

เมื่อ ตายไป กำลังของบุญอาจเป็นแรงฉุดขึ้นสวรรค์ถ้าจิตไม่ผูกพันกับการยั่วยวนคนในวัด ก็จะอยู่ในหมู่เทวดาที่เสวยบุญรื่นเริงเช้าค่ำตามปกติ แต่หากจิตผูกพันกับการยั่วยวนคนในวัดก็จะไปอยู่ในหมู่เทวดาฝ่ายมาร มีใจขวางผู้ปรารถนาความหลุดพ้นเห็นใครประพฤติพรหมจรรย์เก่งๆก็อาจทุรนทุราย อยากลองของเช่นลองมาเข้าฝันแสดงภาพงามวิจิตรล่อใจเสียหน่อย ดูซิว่าจะเผลอหลุดฟอร์มไหมพร่ำละเมอเพ้อพกถึงนางในฝันได้ไหม

๒) เมื่อถึงเวลาทำบุญ ใจก็ยังวอกแวกคอยสังเกตว่ามีใครมองตนไหม เมื่อร่วมสวดมนต์กับคนอื่นก็ไม่ตั้งใจเมื่อฟังเทศนาธรรมก็ฟุ้งซ่านเรื่องแฟน อย่างนี้เป็นบุญที่มีกำลังอ่อนและเจืออยู่ด้วยราคะ หากเสน่ห์ที่นำมาโปรยในวัดมีกำลังกล้าแข็งถึงขั้นเห็นว่าถ้าสึกพระได้นับ เป็นยอดหญิง อย่างนี้มีวิบากเป็นกระแสน่ารังเกียจไม่น่าเข้าใกล้ ไม่น่าจับต้อง ตัวไม่เหม็นแต่ก็เหมือนเหม็นอย่างไรบอกไม่ถูกผู้ชายเข้ามาด้วยความหน้ามืด สถานเดียวและมักเป็นประเภทที่เสพสมครั้งเดียวแล้วเบื่อทันทีอยากทิ้งขว้าง เหมือนกระดาษชำระที่ใช้แล้วทันที แทบไม่มีแก่ใจอยากแตะต้องต่อเว้นแต่รอให้หน้ามืดอีกทีคราวหลัง


เมื่อ ตายไปกำลังของบาปมักรั้งลงต่ำถึงอบายภูมิ อาจไปเป็นเปรตจำพวกอสูรยิ่งถ้าจิตผูกพันกับการยั่วยวนคนในวัด ก็จะอยู่ในเขตอสุรกายใจทรามชอบเข้าฝันพระหรือชายดีๆ แสดงเป็นแต่ภาพลามกจกเปรต ล่อให้คิดถึงกามารมณ์และมักเป็นกามารมณ์ที่ผิด หรือสถานเบาถ้ามีวาสนาได้กลับมาเป็นมนุษย์ก็อาจมีความต้องการทางเพศสูง อย่างที่เรียกกัน (แบบผิดความหมายเดิม)ว่าเป็นฮิสทีเรีย อยากมีอะไรกับผู้ชายไม่เลือกหน้า เป็นต้น

สิ่ง ที่ค่อนข้างแน่นอนคือถ้าผู้หญิงเข้าวัดโดยมีใจเจืออยู่ด้วยเรื่องทางเพศหรือ เรื่องเกี่ยวกับการดึงดูดใจชาย เกิดใหม่มักจะเป็นหญิงอีกและห่วงเรื่องความดึงดูดใจของตนเป็นที่หนึ่งจะ กระวนกระวายมากถ้ารู้สึกว่าตนเองขาดความดึงดูดใจ ไม่น่าชมได้เงินเดือนมามักถมลงไปกับเรื่องความสวยความงามเป็นหลัก


ทาง ที่ดีที่สุด ถ้าเริ่มเข้าวัดด้วยใจที่สะอาด ไม่มีเจตนาให้พระมาเพ่งพิศตนจะปลอดภัยที่สุดครับ การแต่งกายปกปิดมิดชิดก็เป็นการสะท้อนถึงเจตนาอันดีผมทราบว่าสุภาพสตรีหลาย ท่านมี‘ชุดปกติ’ รัดรูป ตอนเข้าวัดยากจะหา ‘ชุดปกปิด’ ได้เจอ อันนี้ขอแนะนำว่าหากทราบแน่ว่าต้องตามที่บ้านไปเข้าวัดประจำ ก็ควรหาซื้อ ‘ชุดพิเศษ’ มาเพื่อแสดงเจตนารมณ์อันดีในการเข้าวัดโดยเฉพาะครับ

ดังตฤณ
http://www.watthummuangna.com/board
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28499
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ผลกรรมผู้หญิงแต่งกายไม่สำรวมเข้าวัด
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 01, 2011, 10:21:57 am »
0
หมวด สอนเรื่องการแต่งตัว
เทศนาโดย...ท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี



1. ดูไม่ได้นะแต่งเนื้อแต่งตัวมานี่ อย่าเข้ามา เข้ามาแบบนี้ แบบศีลแบบธรรมมีทำไมไม่มาศึกษา เอามาทำไมพวกเปรตพวกผี พวกนรกอเวจี พวกส้วมพวกถาน แต่งจิ๊กโก๋จิ๊กเก๋มาอวดกัน กิเลสส้วมถานมันของวิเศษอะไร แต่งนี้แต่งแบบส้วมแบบถาน แบบสกปรกโสมม จิตใจมันเลวจิตใจมันต่ำทราม หาความดิบความดีมีวี่แววประจำใจไม่มีเลย กิริยาจึงดูไม่ได้เข้าใจไหมล่ะ มันเป็นอย่างนั้นนะเวลานี้

เพราะฉะนั้นเราจึงบอก อย่าเอามานะ อย่าเอาอะไรมาให้หลวงตาบัวกิน แต่งตัวแบบนี้มา จะเอามาอวดหลวงตาบัว กูจะฟาดใส่โคตรพ่อโคตรแม่มึง ใส่หน้าผากมันเข้าใจไหมล่ะ กูไม่กินกูไม่ตาย อดกูก็อดได้สบายเลย เคยอดเคยอิ่มมา ขอให้ธรรมชุ่มใจ อย่าได้อิ่มด้วยมูม ๆ มาม ๆ แบบส้วมแบบถานอย่างนี้เลย

พระพุทธเจ้าไม่ประสงค์อย่างยิ่งนะ ให้พากันจดจำทุกคน ดูไม่ได้นะเวลานี้ ยิ่งเลวเข้าทุกวัน ๆ เฉพาะวัดป่าบ้านตาดเห็นได้ชัดทีเดียว เขาก็เขียนติดไว้นั้นก็ยังมี เราไปอ่านดู ติดไว้นั้นก็ยังมี ความเลอะ เทอะ ๆ ของพวกเปรตพวกผีพวกส้วมพวกถาน มันไม่ได้มองดูนะ ดูหนังสือเขียนเพื่อความดีงามให้มัน มันไม่ดู มันดูแต่ของเลอะ ๆ เทอะ ๆ แต่งออกว่าโก๋เก๋อวดกัน

อวดอะไรประสาส้วมประสาถาน กิเลสตัณหากามกิเลสมันเป็นของดิบของดีอะไร มันเหมือนส้วมเหมือนถาน เอามาอวดอรรถอวดธรรมได้เหรอ นี่ละมันพาสัตว์ทั้งหลายให้จมอยู่ในนรกไม่มีวันฟื้นขึ้นมา เพราะส้วมเพราะถานนี้เองเป็นเครื่องหลอกลวง

มันชอบเท่าไรมันก็ยิ่งจมลงไป ๆ ถ้าเห็นภัยของสิ่งเหล่านี้แล้วจะฟื้นตัวขึ้นมา สะอาดสะอ้านขึ้นมา ทุกข์ทั้งหลายก็จะค่อยเบาลง ๆ ฟาดตัวเป็นต้นเหตุอันใหญ่หลวงขาดสะบั้นออกจากใจแล้วพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าไม่มีทุกข์เข้าใจไหม มีอันนี้เท่านั้นเป็นตัวทุกข์สำคัญที่ทำสัตว์โลกเดือดร้อนระส่ำระสายเต็ม

ทั่วโลกทั่วสงสาร มีแต่กิเลส กามกิเลสราคะตัณหาเท่านั้นเป็นตัวสำคัญมากทีเดียว มันห่วงอะไรหวงอะไรกันประสากระดูก เอาผ้าห่อไว้เฉย ๆ นี่นะ พอดูได้เท่านั้นเอามาอวดกันประสากระดูก อรรถธรรมที่เลิศเลอยิ่งกว่านี้มี ทำไมไม่ฟังเสียงบ้างวะ มันน่าทุเรศเหลือประมาณนะ

มันจวนจะตายแล้วได้เห็นผลประโยชน์ที่แนะนำสั่งสอนพอได้มีวี่แววบ้าง เราก็พอใจนะ อันนี้ยิ่งเลวร้ายลงไปทุกวัน ๆ มันก็โมโหละซิ พระนี้ไม่ใช่พระตายโมโหก็ได้ แต่ว่าโมโหมีกิเลสหรือไม่มีนั้นเป็นอีกอย่างหนึ่งนะ โมโหนี้เอาได้ทั้งนั้นละ ปั๊วะป๊ะซัดเลย พอตี ๆ แต่ข้าไม่โมโหแต่ข้าตีเด็กได้นะ ผู้ใหญ่พอเอาอาจจะเอาเหมือนกัน แต่เด็กนี้เอาเรื่อยละเข้าใจไหม พากันจำเอานะ โห มันเลอะเทอะลงทุกวัน ๆ นะเวลานี้

ศาสนาจะไม่มีเหลือในแดนประเทศไทยเราเลยนะ มันขนาดนั้นละ ดูใครก็ดูซิ ดูไปตั้งแต่ตัวเราหัวโล้น ๆ อีตาบัวนี้ไป ดูออกไป ๆ ตามวัดตามวาต่าง ๆ พระเณรทั่วแดนประเทศไทยเป็นยังไง หลักธรรมวินัยท่านสอนไว้ยังไง การปฏิบัติตัวปฏิบัติยังไง มันกีดมันขวางธรรมหรือมันล่องไปตามอรรถตามธรรม ทำไมมันไม่ดูบ้าง ดูบ้างมันจะได้รู้เห็นเหตุเห็นผลคนเรานะ

[เทศน์ ณ วัดป่าบ้านตาด วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๔๖ เรื่อง เห็นบุญเห็นคุณสถานที่]

2. นี่ละการแต่งเนื้อแต่งตัวคนไทยเราดูสวยงามมาก ดูแล้วชื่นตาชื่นใจ เป็นศีลเป็นธรรม ยิ้มแย้มแจ่มใสต่อกัน ไม่ได้เหมือนกิเลสพาแต่งเนื้อแต่งตัว ดูแล้วเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้กัน ของชาติไทยเราเป็นหลักเป็นเกณฑ์ต่อชาติตัวเองนะ อย่าไปเหลาะ ๆ แหละ ๆ คว้านู้นคว้านี้แล้วเข้ามาทำลายกฎระเบียบ หรือประเพณีอันดีงามของชาติไทยให้เสียไป ไม่สมควรอย่าง

บรรพบุรุษของเราไม่เห็นด้วย เพราะท่านแต่งมาเป็นระเบียบเรียบร้อยมาตลอด บรรพบุรุษ ของเรา ปู่ ย่า ตา ยาย พาปฏิบัติดำเนินตลอดการแต่งเนื้อแต่งตัวสวยงามน่าดู มองเห็นกันแล้วยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นฐานะที่ควรเคารพนับถือเป็นชั้น ๆ เพราะการแต่งเนื้อแต่งตัวสวยงามที่ควรเคารพยิ้มแย้มแจ่มใสต่อกัน

ไม่ได้เหมือนกิเลสที่พาให้แต่ง พาให้แต่งนี่เหมือนเปรตเหมือนผี ยิ่งเข้ามาในวัดด้วยแล้ว เราจะดูไม่ได้ ดีที่เราไม่เอาค้อนปาเอา มาในวัดป่าบ้านตาด มันดูไม่ได้จริง ๆ มันถือนี้เป็นมงคล มงคลอะไรมันจะมาเผาทั้งชาติบ้านเมืองให้ล่มจม ศาสนาก็จะไม่มีเหลือนะ ยิ่งหนาแน่นขึ้น ยิ่งหน้าด้านขึ้นนะคนไทยเรา การแต่งเนื้อแต่งตัว เลยจะไม่ได้อะไรติดเนื้อติดตัว มันจะปิดเฉพาะมันเท่านั้น นอกนั้นมันจะเปิดไว้หมดเลย นี้ยิ่งดูไม่ได้ ยิ่งเลวกว่าเปรตกว่าผี อย่าทำเมืองไทยเรา เรามีหัวใจ

เราเป็นลูกคนไทยขอให้ระลึกถึงชาติไทยเรา ปู่ ย่า ตา ยาย เราพาดำเนินยังไง อย่าระลึกถึงเรื่องฟืนเรื่องไฟที่จะมาเผาไหม้บ้านเมืองของเรา อย่าคิด อย่าพากันตำหนินะพี่น้องทั้งหลาย การแต่งเนื้อแต่งตัวตามกฎระเบียบของเมืองไทยเราไม่มีอะไรเสียหาย เราดูมาตลอดนะ เอามาเทียบมาเคียงทุกอย่างก็เพื่อชาติไทยของเรานั้นเอง การแต่งเนื้อแต่งตัว ประเพณีของคนไทยเต็มตัวแล้วสวยงามหมด คนเฒ่าคนแก่มองเห็นกัน เคารพกันยิ้มแย้มแจ่มใส

ไม่ได้เหมือนกิเลสตัณหาเป็นฟืนเป็นไฟ เข้าไปแล้วเป็นไฟต่อกันเลยไม่มีวัย กิเลสเข้าไปเป็นอย่างงั้น ทำให้จิตใจกำเริบเสิบสาน หาความเคารพกันไม่ได้นะ มีแต่ราคะตัณหา แต่สำหรับธรรมะนำมาเป็นขนบประเพณีอันดีงามนี้ เช่น การแต่งเนื้อแต่งตัว ไปที่ไหนสวยงามน่าดู เคารพกันได้อย่างสนิทใจ ยิ้มแย้มแจ่มใสต่อกัน ด้วยการแต่งเนื้อแต่งตัวนี่สำคัญมากนะ ขอให้พี่น้องทั้งหลายจำเอาไว้

[เทศน์ ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ วันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๔๖]
ที่มา : www.luangpee.net/forum/?topic=4303.0
ขอขอบคุณ http://board.palungjit.com/f8/ผลกรรมผู้หญิงแต่งกายไม่สำรวมเข้าวัด-189257.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ