แสดงกระทู้
|
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to. |
Messages - SAWWALUK
|
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7
|
162
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ธรรมะสาระวันนี้ "การเจริญมรณัสสติ อย่างพุทธ แบบ ปัญญาวิมุตติ"
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2012, 11:27:56 am
|
อ่านมาแล้ว ตั้งแต่ต้น จึงพอจะทราบได้ว่า พระอาจารย์ กำลังชี้ข้อบกพร่องของผู้เจริญ มรณัสสติ ให้ทราบว่าหลังจากได้เจริญ มรณัสสติแล้ว ควรทำอย่างไร เพราะการสำเร็จด้วย มรณัสติ นั้นมิใช่ธรรมเครื่องตรัสรู้ หากแต่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ในขณะนั้น ว่าควรจะปรารภความเพียร อย่างไร ทำอย่างไร ขอบคุณมากคะ จะทบทวนเพิ่มเติม คะ อย่างน้อยหัวข้อนี้ก็เป้น หนูคนหนึ่งที่ส่งเป็นคำถามไปที่พระอาจารย์สอบถามการเจริญ มรณัสติ สาธุ สาธุ สาธุ
|
|
|
174
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทำไม ผู้ปฏิบัติธรรมภาวนา ต้องหนี่หายกันไป หัวซุกหัวซุน
|
เมื่อ: มกราคม 14, 2012, 08:29:43 am
|
คือผู้ปฏิบัติ มีอะไร ที่ไม่สอดคล้องกับ คนทั่วไปคะ เช่น การกิน บางคนก็ทานมื้อเดียว ทานเจ ทานมังสะวิรัติ ประการแรกบางครั้งก็เป็นความวุ่นวายเหมือนกันคะ เคยไปกับเพื่อน เหล่านนี้ แล้วปรากฏว่า หาอาหารเจทานไม่ได้ เธอนั่งทานข้าวเปล่า วันนั้นสงสารมากเหมือนเราทำบาปกับเพื่อน เลยเวลาไปไหนมาไหน จึงไม่ชวน คะ การเดิน เพื่อนบางท่าน ติดเดินจงกรม บางครั้งไปนั่งรอ เพื่อติดต่อธุร เพื่อนเราก็ลุกไปเดินจงกรม ซะนี่ ติดนั่งสมาธิ การนั่งสมาธิ นี้จะเห็นมาก และ บ่อยมากคะ คือโดยส่วนตัว ชีวิตของนักปฏิบัติภาวนานั้น ไม่สอดคล้อง วิถึชีวิตทั่วไปคะ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจ ผู้ที่กำลังภาวนาและภาวนาอย่างจริงจัง จึงไม่สามารถอยู่ร่วมกับสังคม คนทั่วไปได้ึคะ
|
|
|
183
|
ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ความโง่ของคนโง่ : นั่งกัมมัฏฐานหาความโง่
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2011, 12:10:05 pm
|
ความโง่ของคนโง่ : นั่งกัมมัฏฐานหาความโง่
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี แสดง ณ วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๒๓
เคยได้ยินบางคนพูดเป็นเชิงเหยียดหยามดูถูกกัมมัฏฐานว่า “นั่งหลับตาภาวนาโง่อย่างกัมมัฏฐาน” พวกเราจงพากันทำกัมมัฏฐานให้โง่อย่างเขาว่าดูซิมันจะโง่จริงหรือเปล่า
ขั้นที่หนึ่ง นั่งหลับตาแล้วพิจารณา ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เอา ๕ อย่างนี้เสียก่อน ให้เป็นอสุภะของไม่งาม เมื่อจะพิจารณาให้เลือกเอาอันเดียว ไม่ต้องเอามากอย่าง เช่น เลือกผมก็พิจารณาแต่ผมอย่างเดียว พิจารณาจนให้เห็นชัดว่า ผมเป็นของปฏิกูลจริงๆ เบื่อหน่าย คลายเสียจากความรักใคร่ว่าผมเป็นของสวยงามจนเป็นเหตุให้เกิดความใคร่ นี่หายจากความโง่ขั้นหนึ่งละ
ขั้นที่สอง เห็นเป็นอสุภะทุกอวัยวะทั่วหมดทั้ง ตัวด้วยใจไม่ได้ลังเลแต่อย่างใด จะเห็นเปื่อยเน่าเฟะไปหมดไม่มีชิ้นดีแม้แต่นิดเดียว คราวนี้ไม่ใช่เพียง ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง แต่ทั้งหมดด้วยกันจะเป็นอสุภะทั้งนั้น แล้วอยากจะทอดทิ้งถ่ายเดียวถ้าสติคุมจิตไว้ไม่ได้ก็จะเสียคน ที่เรียกว่า วิปลาส(คำว่าวิปลาส นักปฏิบัติทั้งหลายกลัวนักกลัวหนา แต่หลงในกามไม่ยักกลัวเพราะคนส่วนมากรู้จักกันดี)
ขั้นที่สาม เมื่อสติคุมจิตให้อยู่ในที่เดียวแล้ว ก็จะพิจารณาทวนทบไปๆ มาๆ ว่า ที่เราพิจารณาเห็นเป็นอสุภะนั้นแท้จริงแล้วกายนี้มันก็ยังปกติตามเดิมนั้น เอง ที่เราเห็นเป็นอสุภะนั้น เพราะจิตเราเป็นสมาธิต่างหาก เมื่อจิตถอนออกมาจากสมาธิแล้ว มันก็เป็นอยู่อย่างเดิม
ใช่ อันนี้หรือเปล่าที่เรียกว่า นั่งหลับตาภาวนาโง่อย่างกัมมัฏฐานนั้น แท้จริงกัมมัฏฐานคือ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง มีอยู่ด้วยกันทุกๆคนมิใช่หรือ ผู้มาเพ่งพิจารณาให้เห็นอสุภะตามเป็นจริง ทำไมจึงเรียกว่าโง่ ผู้ไม่ได้เพ่งพิจารณาให้เห็นอสุภะตามเป็นจริงนั้นหรือเป็นผู้ฉลาด แปลกจริงหนอ ความเห็นของคนเรานี้ ผู้เห็นตามสภาพความเป็นจริงแทนที่จะเรียกว่าผู้ฉลาดกลับเห็นว่าโง่ไปได้ ผิดวิสัยของคนทั่วไปเสียแล้ว ยิ่งกว่านั้นพระบางองค์(ขอโทษ) เป็นถึงอุปัชฌาย์อาจารย์สอนกัมมัฏฐาน ๕ แก่ลูกศิษย์ ลูกศิษย์ได้แล้วไปถามเข้า เลยหาว่าโง่เข้าไปโน่นอีกผู้เห็นเช่นนี้มิเป็นการเหยียดหยามดูถูกเราพร้อม ทั้งต้นตระกูลของเราที่เป็นพระสงฆ์ (คือพระพุทธเจ้า)เสียหรือ เมื่อเหยียดหยามดูถูกเช่นนั้นได้แล้ว ความเป็นพระจะมีอะไรเหลืออยู่อีกเล่า เราผู้เป็นสงฆ์ฆราวาสญาติโยมเขาเคารพนับถือ ควรที่จะระวังสังวรถึงแม้จะพูดเล่นก็ไม่เป็นการสมควรโดยแท้
ความ โง่มันซ่อนเร้นอยู่ตาม ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง นี้แหละ ฉะนั้นจงค้นให้เห็นตัวมัน ถ้าค้นหาตัวความโง่เห็นแล้วจะอุทานว่า อ๋อ! มันเป็นอย่างนี้เอง ท่านจึงสอนให้พิจารณา เราทอดทิ้งมาเป็นเวลานาน มีแต่เห็นว่า ผมมันสวยงาม มันหงอกก็หายามาย้อมไว้ให้คนหลงว่าดำอยู่ ขนก็เช่นเดียวกัน มันรกรุงรังก็โกนให้คนอื่นเห็นว่าเกลี้ยงเกลาไม่มีขน เล็บมันไม่แดงก็เอาสีมาทาไว้ให้คนเข้าใจว่าเล็บแดง ฟันก็เอาทองมาหุ้มไว้ให้เหลืองอร่ามไปหมด หนังมันย่นหดหู่ก็ลอกให้มันเป็นหนังใหม่ลอกแล้วไม่กี่วันมันก็ย่นยู่หดหู่ อีก จะหลอกคนภายนอกไปอย่างไรก็หรอกไปเถิด แต่ในใจของตนย่อมรู้ดีว่าหลอกลวงคนอื่น เหมือนกับนายพรานดักนกมุ่งแต่จะเอาเขาฝ่ายเดียว ผีไม่ตายหลอกเขาไม่มีใครกลัวหรอก นอกจากเขาจะไม่กลัวแล้ว ท่านผู้มีปัญญายังจะต้องยิ้มขบขันเสียอีก
|
|
|
185
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การบรรลุธรรม แบบฉับพลัน คืออะไร ?
|
เมื่อ: ตุลาคม 20, 2011, 08:57:08 am
|
เมื่อวานอ่านคำถาม นี้แล้วคิดว่า ไม่มีผู้ใด ให้ความเห็นหรือ อ้างอิงพระสุตรได้ ไม่น่าเชื่อกับความพยายามและความสามารถของ คุณ nathaponson ที่มีความพยายามและหาำคำตอบมารวมให้ได้อ่าน กันอย่างเป็นที่เข้าใจ คะ ขอบคุณ และ อนุโมทนา แทนเพื่อน ๆ ในวันพระนี้ ด้วยคะ สาธุ อนุโมทนามิ
|
|
|
191
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ผลกระทบ กับน้ำท่วม นี้ กับอุตสาหกรรม มีอย่างต่อเนื่อง
|
เมื่อ: ตุลาคม 14, 2011, 09:49:00 am
|
ลองมองแง่ดี นะคะ
1. ทำให้คนรักการฝึกการว่าย น้ำ เด็ก ๆ สนุกสนาน กับน้ำที่มาท่วม กันอย่างไม่ต้องเป็นทุกข์
2. ทำให้เกิดมีไอเดีย เกี่ยวกับเรื่องการป้องกันน้ำ เช่น เสื้อขวดน้ำ เรือเส้นลวด เรือขวดน้ำ โต๊ะเป็นเรืือได้
3. เป็นการฝึกความพร้อม ก่อนอุบัติภัยครั้งใหญ่ คือ น้ำไม่มีลด ( อันนี้น้ำยังลดได้ )
4. ทำให้ผู้ประกอบการ รวย ๆ เช่น บริษัท บะหมีี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ทิชชู่ น้ำดื่ม ถุงผ้า พลาสิก พีวีซี โดยเฉพาะ เรือ พีวีซี ผลิตมาเท่าไหร่ ก็ขายหมด ไปบ้านคุณป้า เมื่อก่อนไม่เคยสนใจเรือ เมื่อต้นปีขาย 2500 บาท ไม่ได้ซื้อ พอตอนน้ำท่วม ขาย 6500 บาทเพียง ครึ่งปีขายมากกว่า 2 เท่า ( ไม่รวยจะไปไหน )
4. อุปกรณ์ ก่อสร้าง ขายดี อิฐบล๊อก ปูน ทราย หิน ขายดี โดยเฉพาะ ทราบ ขาดตลาดเลย
5. ห้างหลาย ห้าง รวย ๆ เพราะผู้บริจาคก็ไปซื้อจากห้างกันมาเป็น แพ๊ค ๆ
6. น้ำมัน แก็ส ขายดี เพราะ ไฟฟ้าไม่มีใช้ ก็ขายดีอีกเช่นกัน
7. ส่งเสริมอาชีพใหม่ คือ วินเรือรับจ้าง แทน มอร์เตอร์ไซค์รับจ้าง
8. มีอาชีพเสริม ค้าของเก่า คือ เก็บเศษไม้ เศษเหล็ก ที่ปลายทางน้ำขายกัน ไปยืนดูเขาเก็บเศษไม้บ้านได้ เป็นกอง ๆ ที่ประตูน้ำ มีการประมูลขายกันด้วย มีพ่อค้าไม้ มารับซื้อใส่รถกันไปหลายราย
9. และอีกอาชีพก็คือ อาชีพกางเต๊นซ์ เช่าเต๊นซ์ เพราะต้องเช่ากันเป็นเดือน ๆ
10. ถุงปุ๋ย ขายดี มาก ไปเดินหาซื้อ ไม่ทัน ที่จะซื้อได้ก็แพงเป็น 2 เท่า พอ ๆ กับถุงดำ
11. หนังสื่อพิมพ์ขายดี สื่อ ทีวี มีงานทำ
12. ได้พบ ดารา คนดัง บ่อย ๆ ไปเยี่ยมถึงบ้าน ได้ชิมอาหารฝีมือ ดาราบ้าง คนดังบ้าง
13. ได้เปลี่ยนความจำเจ จากบ้าน ไป นอนที่อื่นบ้าง เช่น ข้างถนน ศูนย์ประชุม เป็นต้น
14. ทำให้ พนักงาน ที่ชอบบ่นว่าทั้งชีวิตไม่ได้หยุดงานเลย มีแต่ โอที บังคับเป็นต้น ได้หยุดงานกันเป็นเืดือน ๆ
15. รัฐบาลจะมีเหตุผล ชะลอ เรื่องการปรับอัตราเงินเดือนแล้วนะ และ มีเรื่องเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนในช่วงนี้
16. จะทำให้ประชาชนได้สนิท ชิดเชื้อ กับหน่วยงาน รัฐบาล และรู้จัก ผู้นำชุมชนกัน
17. ได้ทดสอบประสิทธิภาพของรถยนต์ ว่าทนน้ำหรือไม่ อาชีพที่จะขายดี อีกอาชีพคือ ช่างซ่อม ต่างๆ เช่น ช่างแอร์ ช่างยนต์ ช่างเชื่อม ช่างอิิเลค ช่างไม้ ช่างปูน เป็นต้น
พิจารณาให้ดี ก็มีเงินสะพัด ไม่ว่าเป็นเงินบริจาค เงินช่วยเหลือ เงินกองทุนต่าง ๆ คิดดูสิคะ ว่าเกิดระบบการเงินที่กระจัดกระจายไปในประเทศกันมากมายเพียงใด ถ้ามองในแง่ดี ก็ช่วยเหลือ เศรษฐกิจ ไปด้วยกัน
ลองคิด ไปเล่น ๆ ก็ประมาณนี้ นะคะ
คิดแล้ว จะได้ คลายเครียด
|
|
|
192
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / การกล่าววาจา ยุแยง ตะแคงรั่ว ผิดศีล มุสา หรือไม่คะ
|
เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 12:51:53 pm
|
เมื่อในกลุ่มได้วิจารณ์ เรื่องการกล่าวคำยุแยง ตะแคงรั่ว อันนี้จัดเป็นมุสาวาท หรือไม่คะ ทั้ง ๆ ที่เรื่อง ยุ ก็เป็นเรื่องจริง เช่น พี่เก่งจริง ทำงานเก่ง ไอเดียดี ( จริง ๆ ) อีกคนเก่งสู้ พี่ไม่ได้ ไม่น่าจะได้ตำแหน่งนี้ นะคะ แสดงว่าเขาต้องประจบเจ้านาย ( ประจบจริง ๆ ) พี่น่าจะต้องทำอะไรสักอย่างนะคะ เป็นคำยุ แต่กล่าวคำจริง เจตนา ก็เพื่อให้พี่แก ฮึดสู้ กับเขาบ้าง การกล่าวอย่างนี้ จัดเป็น มุสาวาท หรือไม่คะ เพราะบางคนกล่าวว่า การกล่าวอย่างนี้เป็น มุสาวาท คะ
|
|
|
195
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / คนทุกคน แพ้กระจก
|
เมื่อ: กันยายน 18, 2011, 10:48:30 am
|
คนทุกคน แพ้กระจก ตกอยู่ภายใต้ กระจก ต้องส่อง ต้องดู ต้องยิ้มให้กระจก เพราะ จิตยังติด รูปลักษณ์ตัวเรา ไม่ต้องคนหรอก แม้แต่ สัตว์มันยังพอใจในร่างกาย จะทำให้จิตเป็นอิสระ หมดทุกข์ สอนมัน หน้าตาสวยหล่อวันนี้ อีกวินาที ไหม้ไฟ ก็หมดแล้ว ถ้าใจนักบวชยังติดเพียงแค่นี้ จะหมดทุกข์ได้อย่างไร คิ้วยังละไม่ได้? จากคุณ : ART_TRA_MAN ขอบคุณภาพจาก http://winyou.asia
|
|
|
199
|
ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / การรู้อริยสัจสี่ ทำให้มีตาสมบูรณ์
|
เมื่อ: กันยายน 07, 2011, 10:20:08 am
|
การรู้อริยสัจสี่ ทำให้มีตาสมบูรณ์
ภิกษุ ท. ! บุคคล ๓ จำพวกนี้มีอยู่ หาได้อยู่ในโลก. สามจำพวกอย่างไรเล่า ? สาม จำพวกคือ คนตาบอด(อนฺโธ), คนมีตาข้างเดียว(เอกจกฺขุ), คนมีตาสองข้าง (ทฺวิจกฺขุ). ภิกษุ ท. ! คนตาบอดเป็นอย่างไรเล่า ? คือคนบางคนในโลกนี้ ไม่มีตาที่เป็นเหตุให้ได้โภค ทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น นี้อย่างหนึ่ง ; และไม่มีตาที่เป็นเหตุให้รู้ ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล - ธรรมมีโทษและไม่มีโทษ - ธรรมเลวและธรรมประณีต - ธรรมฝ่ายดำ และธรรมฝ่ายขาว นี้อีกอย่างหนึ่ง. ภิกษุทั้งหลาย ! นี้แล คนตาบอด (ทั้งสองข้าง).
ภิกษุ ท. ! มีคนตาข้างเดียวเป็นอย่างไรเล่า ? คือคนบางคนในโลกนี้ มีตาที่เป็นเหตุให้ได้ โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น นี้อย่างหนึ่ง ; แต่ไม่มีตาที่เป็นเหตุให้รู้ ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล - ธรรมมีโทษและไม่มีโทษ - ธรรมเลวและธรรมประณีต - ธรรมฝ่ายดำและ ธรรมฝ่ายขาว นี้อีกอย่างหนึ่ง. ภิกษุทั้งหลาย ! นี้แล คนมีตาข้างเดียว.
ภิกษุ ท. ! คนมีตาสองข้างเป็นอย่างไรเล่า ? คือคนบางคนในโลกนี้ มีตาที่เป็นเหตุให้ได้โภค ทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น นี้อย่างหนึ่ง; และมีตาที่เป็นเหตุให้รู้ธรรม ที่เป็นกุศลและอกุศล - ธรรมมีโทษและไม่มีโทษ - ธรรมเลวและธรรมประณีต - ธรรมฝ่ายดำและ ธรรมฝ่ายขาว นี้อีกอย่างหนึ่ง. ภิกษุ ท ! นี้แล คนมีตาสองข้าง.
ภิกษุ ท. ! ภิกษุมีตาสมบูรณ์ (จกฺขุมา) เป็นอย่างไรเล่า ? คือภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตาม ความเป็นจริงว่า “นี้ความทุกข์, นี้เหตุให้เกิดแห่งทุกข์, นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์, นี้ทางดำเนิน ให้ถึงความดับ ไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้.ภิกษุ ท. ! นี้แลภิกษุมีตาสมบูรณ์.
ติก. อํ. ๒๐/๑๖๒, ๑๔๗/๔๖๘, ๔๕๙
|
|
|
|