สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ แห่งวัดสร้อยทอง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ไพรวัลย์ วรรณบุตร เพื่อทดสอบจิตใจของชาวโซเชียล โดยได้โพสต์ภาพโทรศัพท์มือถือ iPhone แพ็กอยู่ในกล่อง พร้อมข้อความระบุว่า "อาตมาไปเจอกล่องนี้มา อยากจะมอบให้โยมนะ ใครอยากได้ พิมพ์คำว่าสาธุ และกดแชร์ไว้ เดี๋ยวสุ่มให้เลย (รู้สึกดักแป๊ป)"

หลังจากข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปเพียง 1 วัน ปรากฏว่าชาวเน็ตต่างพากันเข้ามาพิมพ์คำว่า สาธุ ลงในช่องแสดงความคิดเห็น แม้ว่าจะมีบางส่วนเข้ามาเตือนว่า "โพสต์นี้แปลก ปกติท่านไม่โพสต์อะไรแบบนี้" และ "พระท่านกำลังดักกิเลสของพวกคุณอยู่" ก็ตาม ล่าสุดโพสต์นี้มีคนกดไลค์ให้ถึง 3,623 คน และแชร์ต่อไปอีก 670 ครั้ง

 :96: :96: :96: :96:

ต่อมา พระมหาไพรวัลย์ ได้โพสต์ข้อความอีกครั้ง พร้อมภาพโทรศัพท์มือถือ iPhone ในโพสต์ที่แล้ว และภาพกล่องโทรศัพท์มือถือที่เป็นกล่องเปล่า โดยข้อความส่วนหนึ่งระบุว่า "ไม่มีใครให้อะไรเราฟรีๆ หรือง่ายๆ หรอก ทุกอย่างล้วนต้องแลก หรือมีค่าตอบแทน‬ จากปรากฏการณ์ชวน Like ชวน Share ภาพกล่องโทรศัพท์เมื่อเช้านี้ ไม่น่าเชื่อว่า จะมีญาติโยมร่วมสนุกกันจำนวนมาก อาตมาไม่ได้โพสต์แกล้ง เพื่อหลอกให้มากดไลค์หรือกดแชร์ อาตมาได้กล่องโทรศัพท์มาจริงๆ แต่เป็นกล่องเปล่า แน่นอนว่าคงไม่มีใครใจดี วางกล่องโทรศัพท์พร้อมทั้งโทรศัพท์ให้คนอื่นหยิบไปใช้ง่ายๆ หรือตั้งใจจะแจกโทรศัพท์ราคาแพงให้คนอื่น เพียงเพราะต้องการแลกกับยอดไลค์หรือยอดแชร์..."


พระมหาไพรวัลย์ ระบุเพิ่มเติมว่า "อาตมาเห็นว่าถึงจะมีแค่กล่องเปล่า แต่ก็เป็นประโยชน์ ที่จะเอามาโพสต์ เพื่อทดสอบสติ และการใช้วิจารณญาณก่อนที่จะหลงเชื่อสิ่งต่างๆ เดี๋ยวนี้มีอะไรในลักษณะนี้มากเหลือเกิน ประเภทชวนกดไลค์ กดแชร์ แล้วจะแจกของ หรือกดไลค์ กดแชร์ แล้วจะมีโชคลาภร่ำรวยเงินทอง แล้วเราก็ไม่ตั้งคำถามกับมันเลย ไม่ตั้งคำถามกับรูปที่เรา "สาธุ" ไม่ตั้งคำถามกับรูปที่เราแชร์ ไม่ตั้งคำถามแม้กับคนที่หลอกให้เราทำ ความอยากไม่ใช่สิ่งเสียหาย ใครก็มีสิทธิ์อยากมีอยากได้ แต่เราต้องไม่ลืมนะว่า ความอยากถ้ามีมากเกินพอดี มันก็ให้โทษได้"

"ไม่มีใครให้อะไรเราฟรีๆ หรอกโยม เชื่ออาตมาสิ ทุกอย่างล้วนมีค่าตอบแทน บางทีถูกหลอกให้ไลค์ให้แชร์ฟรีๆ อย่างน่าเจ็บใจอีก ฉะนั้นช่วยดึงสติกันหน่อย ถ้าไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นคนที่หลอกได้ง่าย" พระมหาไพรวัลย์ โพสต์ทิ้งท้าย

 :25: :25: :25: :25:

ทั้งนี้ กิจกรรมชิงโชคด้วยวิธีไลค์และแชร์ เป็นกลยุทธ์การตลาดที่ปรากฏให้เห็นอย่างแพร่หลายตามแฟนเพจเฟซบุ๊กของแบรนด์สินค้าต่างๆ โดย ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นักวิชาการด้านสื่อมวลชน ได้ให้ความเห็นกับ สายตรวจโซเชียล ก่อนหน้านี้ว่า แคมเปญชิงโชคในโซเชียลมีเดีย ส่วนใหญ่มักเป็นการตลาดที่ได้ผลในระยะสั้น ซึ่งอาจเป็นเพียงการเรียกยอดไลค์หรือยอดผู้ติดตามเท่านั้น แต่หากผู้ประกอบการต้องการทำการตลาด ที่สามารถให้ผลระยะยาวบนสื่อสังคมออนไลน์ ควรจะนำเสนอข่าวสาร ข้อมูล และความรู้ ประกอบกัน จะช่วยสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้โซเชียลมีเดียได้มากขึ้น ส่วนประชาชนผู้ที่จะร่วมกิจกรรมชิงโชคแจกรางวัลหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ (https://www.facebook.com/PhramahaPaivan)
https://www.thairath.co.th/content/542762 (https://www.thairath.co.th/content/542762)

หลวงพี่เสี่ยง นะนี่ คนชาวเน็ต มีหลายแบบ

   นั่นต่อไป พระ ทั่วไป อาจจะลำบาก ขาดความน่าเชื่อถือ

 เหมือน ลงไปเล่นกับ เด็ก ๆ เล่นหัว ผู้ใหญ่ ได้

    สิ่งที่จะเกิดตามมา มันจะอันตรายแก่ พระด้วย กัน

   :58:

ว่างมาก

 :96: :character0029: :smiley_confused1:

ช่างหาเรื่อง เก่ง นะ
ธรรมดา ของ สัตว์โลก ย่อม มีกิเลส การไม่มี กิเลส จะเป็นเรื่องแปลก สิ

  อย่างน้อยก็รู้ว่า พระ ว่างมาก จน มีเวลาทำเรื่อง ไร้ สาระ

  :character0029: :character0029: :character0029:

ที่จริง เรื่องอย่างนี้ ไม่ต้องพิสูจน์ หรอก
 
   :021: :021: :021:

เรื่องอย่างนี้ ที่จริงไม่น่าจะต้องพิสูจน์ แต่ ควรพิสูจน์ เรื่องไม่คิดว่า จะมีดีกว่า

   สัญชาตญาณของคน มันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว

   ไร้สาระ จริง ๆ นะ หลวงพี่

  :s_laugh: :banghead:

ไร้ สาระ จริง นะคะ ท่าน
 พระที่ท่านทำงาน เน็ต ดี ๆ จะโดนแบน

   สิ่งที่ท่านทำ เรียกว่า การยั่วยุ  ซึ่งไม่ควรเป็นวิสัย ของ พระ
 ยิ่งใช้ในสื่อ ออนไลน์ ด้วยแล้ว ยิ่งไม่ควร

  ถ้าเป็นสายกรรมฐาน ที่นี่ คงต้องให้กลับไปทบทวน คำว่า

     สัมปชานมุสาวาท   

     ไม่ทำแม้เพียงเห็นเป็นเรื่องตลก

   สิ่งที่ได้กลับมาไม่คุ้ม เลย เพราะว่า มันก็รู้อยู่แล้วว่า คนจะต้องคลิ๊ก อยู่แล้ว แล้วประโยชน์จากการรู้คือ อะไร ไปหยุดคลิ๊ก ร่วมชิงโชค หรือ ผลก้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น คนที่คลิ๊ก เขาก็รู้อยู่แล้วว่า อาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ร่วมสนุก ไปด้วย  นี่เรียกว่า สัมปชานมุสาวาท

    >:(

   

อ่านดูแล้ว ไร้สาระ จริง ๆ พระท่าน อาจจะว่างมาก
และให้ความสำคัญ กับ คำว่า กด like ตามค่านิยม

 :bedtime2: :34:

พระอาจารย์ สวนกระแสในเฟค ไม่สนใจคำว่า like แต่สนใจการเข้ามาอ่าน

    :49: :49: :49:

     เป็นเรื่องธรรมดา.........เมื่อมีเหตุมันก็ต้องมีผล


           สร้างเหตุต้องได้ผล ครับ

กระจก เมื่อสะท้อนก็จะเห็นภาพ

   :49: