คือ อยากให้เพื่อนๆ ยอมรับในความสามารถคะ เพราะตอนนี้เพื่อนๆ ชอบนินทา ลับหลัง แม้แต่คนที่เราเคารพก็พูดถึงเราในทางเสียหาย คะ บางทีฟังแล้ว นึกแล้ว รู้สึกเครียดขึ้นมาทันทีคะ แต่ใช้ธรรมะ ดับอารมณ์คะ
บางครั้งก็อยากจะเรียก เพื่อน ๆ เหล่านั้น มานั่งคุยกัน อธิบายกันจะได้ไม่ต้องพูดกันอีก ในเรื่องของเรา หรือไม่ต้องพูดถึงเรา
บางครั้งเราก็เลย ถอนตัวจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่ร่วมกับเพื่อน ๆ ไปเลย
แท้ที่จริง ความทุกข์ที่ไม่สบายใจ ที่เพื่อน ๆ เราชอบพูด ถึงเราในทางเสียหาย นี้สำคัญคะตอนนี้
เพราะชีวิตโดยส่วนตัวไม่ได้ลำบาก นะคะ
ครอบครัวก็ดีคะ ทั้งลูก และ สามี ส่วนตัวก็เป็นคนเรียนเก่งคะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเบื้องต้น คะ
ช่วงแรกที่ผมอ่าน กระทู้ครั้งแรกยังไม่่ค่อยจะเข้าใจ พอคุณ รัชนี มาช่วย รีวิวเพิ่มเติม จึงพอนึกภาพคุณออกแล้วครับ
1.คุณเป็นคนที่มีความคิดว่า ตนเองเก่งเสมอ และ เก่งกว่าใคร ๆ ในกลุ่มเพื่อน
2.คุณคิดว่าคุณมีความสุข สมบูรณ์ มากกว่า ใคร ๆ
3.คุณคิดอยากจะแก้ปัญหา ด้วยการพูดคุย ทั้ง ๆ ที่เรื่องนั้น อาจจะจริง หรือ ไม่จริง แต่คุณคิดว่าไม่ใช่เป็นหนทางแก้ปัญหานะครับ
4.คุณเป็นคนที่แคร์คำพูด หรือ คิดไปเอง ก็ได้เหมือนที่คุณ ตาสว่าง ยกไว้ให้เข้าใจ
5.แต่ถึงอย่างไรคุณ ก็ยังมีความรู้สึก ผิดชอบ ชั่วดี อยู่ จึงมาขอคำปรึกษาในห้องนี้ รวมถึงเล่าแบ๊กกราวน์ประกอบเพื่อขอคำแนะนำ แต่ช่วงแรก ๆ ที่คุณตั้งปัญหานั้น ไม่มีใครตอบนอกจาก คุณ nathaponson เนื่องจากผมเองก็ยังไม่เข้าใจเหตุ
ขออภัยหากบทสรุปของผม ผิดพลาด ไปบ้าง หรือไม่โดนใจนะครับ
คำแนะนำสำหรับ เด็กวัด อย่างผม ก็น่าจะคล้ายคุณ ตาสว่าง นะครับ
1.อยากให้คุณ พิจารณา ตัวคุณก่อนว่า ตัวคุณเป็นอย่างไร ? สมมุติ คุณมีเพื่อน อยู่ 10 คน เพื่อน 9 คน ตำหนิคุณ ในเมื่อคุณเป็นคนฉลาด ก็ควรจะคิดได้ว่า เราเองนั้นดีจริง หรือไม่ ? บางครั้ง มานะทิฏฐิ ทำให้คนเสียได้นะครับ กระจกส่องเรา ก็คือคนข้างเคียงเรา ทราบว่าคุณ รัชนี ทำงานที่ ศิริราช ก็ต้องมีเพื่อน ซี้ กันบ้างนะครับ มองต่างมุมออกมา ค้นหาตัวเองก่อน ว่าเรามีอะไรที่ผิดอยู่หรือไม่ ? ก่อนที่จะไปกล่าวว่าคนอื่น
2.หากคุณมีคุณสมบัติที่ดี สิ่งที่คุณต้องทำก็คือการปล่อย วาง โลก ธรรม คือ คำสรรเสริญ หรือ นินทา ลงเพื่อบุญบารมีสั่งสมโดยส่วนรวม ผมมีเพื่อนผมคนหนึ่ง คนนี้ผมนับถือมากครับ เวลาเขาช่วยเหลือเช่นลูกน้องเขา เช่นกล่าวปกป้องลูกน้อง โดยเจ้านายตำหนิ หรือเวลาลูกน้องเดือดร้อน ก็ส่งเงินทองให้คนไปช่วยเหลือ โดยที่ตัวเขาไม่ได้แสดงตนเองให้ลูกน้องเขาทราบ แม้ลูกน้องคนนั้นด่าเขาลับหลัง เขาก็ยังช่วยเหลืออยู่เลยครับ ซึ่งผมเห็นและรู้มาด้วยตัวผมเอง นับถือมาก
ข้อนี้ที่อยากจะบอกคุณรัชนี ก็คือ เมื่อเราทำความดี สร้างกุศล ก็อย่าไปติดในกุศล หรือ ความดี หรืออย่าไปหลง ควรทำต่อไปครับ แต่ไม่ได้ทำให้ใครมาสรรเสริญ รู้ไหมครับคำสอนนี้ ผมได้อ่านทางเมลของพระอาจารย์ที่เคยฟังไว้และกล่าวเตือนให้ผม ไว้ว่า เวลาทำอะไรที่เป็นกุศล ก็ให้ทำต่อไป ไม่ต้องให้ใครมาเห็นใจ หรืออวยชัย เพราะเราเป็นผู้เห็นและอนุโมทนา กับตนเองได้ดีที่สุด
3.ผมอยากให้คุณเปิดใจครับ ว่าในโลกนี้ ไม่มีดีสมบูรณ์ ทุกเรื่องครับ ผมไม่เชื่อหรอกครับ คนเรามีดีเลว ปนกัน บางครั้งเราก็นิ่งดูดายในเรื่องที่ควรจะทำ บางครั้งเราก็ทำในเหตที่ไม่เป็นเรื่อง ผมเองก็บอกว่าผมเป็นคนเก่ง คุณจะเชื่อหรือครับ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดการลดทิฏฐิมานะ ยอมรับผู้ืือื่นบ้างครับในการอยู่สังคม ส่วนรวม ย่อมมีระดับความรู้ คุณธรรมต่างกัน อย่าไปมองว่าเขาแย่ กว่าเรา หรือเราดีกว่า เขา หรือเราเสมอเขาครับ ควรวางอารามณ์ในฐานะเพื่อนกัลยาณมิตร ด้วยกัน
ไม่ทราบว่าเพื่อนคุณรัชนี เป็นเพื่อนชาวธรรมหรือไม่ครับ หรือเป็นแค่เพื่อนที่ทำงาน
ในโลกนี้คนดี มีศีลหายาก ถ้าเจอแล้ว ก็อย่าให้เสียครับ เรื่องบางอย่างเราควรใช้หลักการว่า ไม่เป็นไร พอทนได้ ครับ คนเรามีได้เปรียบ เสียเปรียบ บางครั้งเราเสียเปรียบ บางครั้งเราได้เปรียบ ก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขครับ
ขออภัยหากคำแนะนำของผมไม่โดนใจนะครับ