« เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2015, 09:23:00 pm »
0
พบพระพุทธบาท-พระนอน ในอุทยานฯตาพระยา จ.สระแก้ว
อุทยานฯตาพระยา จ.สระแก้ว ลาดตระเวนพระพุทธบาท-พระนอน ประสานกรมศิลปากรตรวจสอบ วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม 2558 เวลา 15:42 น. เมื่อวันที่ 19 ก.ค. นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายบุญเชิด เจริญสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาพระยา จ.สระแก้ว ว่า
ระหว่าง ร่วมลาดตระเวนกับเจ้าหน้าที่ทหารนั้น ได้พบเห็นรอยเท้าพระพุทธบาท 1 คู่ และพบองค์พระนอน จำนวน 1 องค์ บริเวณหลักเขตชายแดนไทย-กัมพูชา หลักเขตที่ 2748p0280245-utm 1571858 ซึ่งห่างจากฐานปฏิบัติการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 215 (ช่องบาระแนะ) ที่พิกัด 48p 0280266 e1571949 n ประมาณ 200 เมตร อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวอีกว่า จากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตาพระยา เจ้าหน้าที่ฐานปฏิบัติป้องกันรักษาป่าอ่างรัตนโกสินทร์ และเจ้าหน้าที่ฐานปฏิบัติตำรวจตระเวนชายแดนที่ 215 (ช่องบาระแนะ) ซึ่งได้มีการถ่ายรูป จับค่าพิกัด (wgs 84) และวัดขนาดความกว้างความยาวของรอยเท้าพระพุทธบาทคู่และองค์พระนอน เบื้องต้นนั้น พบว่า
1.รอยเท้าพระพุทธบาทคู่ พบบริเวณพิกัด 48p 0280587 e 1571798 n รอยเท้าแต่ละข้าง มีความยาวจากปลายเท้าถึงปลายนิ้ว ยาว 156 เซนติเมตร(ซม.) และมีความกว้างของรอยเท้า ระยะ 46 ซม. ซึ่งมีความกว้างและความยาวเท่ากัน
2.องค์พระนอนที่พบบริเวณพิกัด 48p 0280597 e 1571768 n มีความยาว 1.65 ม. ความสูง 40 ซม. บริเวณใกล้เคียงกับพระนอน พบหลักหินเล็ก จำนวน 2 หลัก สูงประมาณ 30 ซม. สลักเป็นภาษาเขมรซึ่งบริเวณที่พบเห็นดังกล่าวเป็นหน้าผาสูงบนเทือกเขาบรรทัด และเป็นพื้นที่ป่ารอยต่อระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา โดยจากการตรวจสอบข้อมูลและประวัติความเป็นมา ยังไม่พบข้อมูลทางประวัติศาสตร์และข้อมูลทางวิชาการ "เบื้องต้นนั้นเรายังไม่มีหลักฐานอะไรชี้ชัดว่าทั้งรอยพระพุทธบาท และองค์พระที่พบนั้นเป็นของจริงหรือไม่ อย่างไร แต่สังเกตเบื้องต้นแล้วสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นของเก่าจริง อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของเราประสานงานกับกรมศิลปากรเข้าไปตรวจสอบแล้ว"นายนิพนธ์ กล่าว
ด้านนายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ กล่าวว่า บริเวณที่เจ้าหน้าที่พบทั้งรอยพระพุทธบาทและองค์พระนั้น เดิมเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างอ่อนไหว และไม่ค่อยปลอดภัยมากนัก พบว่ามีการฝังระเบิดเอาไว้หลายจุด แต่ต่อมาเมื่อมีการเคลียพื้นที่จนปลอดภัยในระดับหนึ่งแล้ว ก็มีการเข้าไปพบโดยชาวบ้าน แต่ยังไม่มีการรายงานอย่างเป็นทางการ พื้นที่ที่พบนั้นอยู่ในแนวเดียวกับโราณสถานอื่นๆที่พบมาก่อนหน้านี้ เช่น ปราสาทเขาพระวิหาร ปราสาทเขาตาธม เป็นต้น อย่างไรก็ตามจะให้เจ้าหน้าที่ประสานไปยังกรมศิลปากรเพื่อตรวจสอบ.. นายเกษมสันต์ กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้น จากรายงานการสำรวจของนายศรีศักร วัลลิโภดม นักประวัติศาสตร์ เมื่อปี 2550 นั้น ผู้สร้างพระนอนดังกล่าวเป็นอดีตนายทหารเขมรแดง ส่วนชิ้นส่วนปราสาทที่อยู่ใกล้ๆ เช่น เสาประดับกรอบประตู บรรพแถลง ทหารเขมรแดงนำมาจากปราสาทบันทายฉมาร์ ที่ตั้งอยู่ต่ำลงไปจากช่องบาระแนะในเขตประเทศกัมพูชา อย่างไรก็ตามเรื่องรอยพระพุทธบาทคู่นี้แม้จะเป็นรอยใหม่ที่เพิ่งเจอ หรือเป็นรอยเก่าที่เคยเจอแล้วกลับมาเจอใหม่อีกครั้ง ก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดี โดยคาดว่าน่าจะมีอายุในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18-20.ขอบคุณภาพข่าวจาก :
http://www.dailynews.co.th/politics/335952