หัวข้อ: ดวงตาเห็นธรรม คืออะไร ? เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ สิงหาคม 10, 2012, 08:41:13 am ตอบปัญหาจากเมล รวบรวมเป็นเรื่องเดียว ใครถามทำนองนี้ก็อ่านตรงนี้กันเลยนะจ๊ะ
ปุจฉา ดวงตาเห็นธรรมคืออะไร ? ธรรมจักษุ มีความสำคัญอย่างไร ? ใครควรจะได้มี ดวงตาเห็นธรรม ? ดวงตาเห็นธรรม เกิดขึ้นได้อย่างไร ? อย่างไรชื่อว่า ได้ดวงตาเห็นธรรม ? ปฏิบัติกรรมฐาน จะได้ดวงตาเห็นธรรมได้อย่างไร ? ดวงตาเห็นธรรม มีได้เพราะต้องฟังธรรมใช่หรือไม่ ? ได้ดวงตาเห็นธรรม แล้วบรรลุเป็นพระอรหันต์เลยหรือไม่ ? รู้ได้อย่างไรว่าได้ ดวงตาเห็นธรรม ? ธรรมจักษุ กับ ธรรมจักร ต่างกันอย่างไร ? นิมิต กับ ธรรมจักษุ ใช่อันเดียวกันหรือไม่ ? ปีติ จัดเป็นธรรมจักษุ หรือไม่ ? วิสัชชนา ก่อนที่จะได้ทำการอธิบาย ขอยกข้อความในพระไตรปิฏก ที่เกี่ยวกับธรรมจักษุขึ้นมาก่อน (http://www.madchima.net/images/707_card_12.jpg) เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสเวยยากรณ์นี้(๑)อยู่ ธรรมจักษุ(๒)อันปราศจากธุลีปราศจากมลทินได้เกิดแก่ท่านพระโกณฑัญญะว่า “สิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดาสิ่งนั้นทั้งปวง มีความดับไปเป็นธรรมดา” เป็นประโยคในพระสูตรที่ พระวินัยปิฎก มหาวรรค [๑.มหาขันธกะ] ๖.ปัญจวัคคิยกถา ==================================================== (๑) เวยยากรณ์ ในที่นี้หมายถึงพระสูตรที่ไม่มีคาถา ประกอบด้วยคำถามคำตอบ (สารตฺถ.ฏีกา ๓/๑๖/๒๒๐) เป็นองค์อันหนึ่งในนวังคสัตถุศาสน์ (วิ.อ.๑/๒๖) (๒) ธรรมจักษุ แปลว่า ดวงตาเห็นธรรม คือ โสดาปัตติมรรคญาณ (วิ.อ.๓/๕๖/๒๗) ==================================================== นิยามในพระสูตร ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสแสดงไว้หมายถึง ระดับของพระโสดาปัตติมรรค ดวงตาเห็นธรรมคืออะไร ? คือโสดาปัตติมรรคญาณ โสดาปัตติมรรคญาณ หมายถึง ความรู้แจ้งในเหตุวิถึทางแห่งพระนิพพานเบื้องต้น ธรรมจักษุ มีความสำคัญอย่างไร ? มีความสำคัญในเบื้องต้นของการเป็นพระอริยะบุคคลลำดับที่ ๑ และเป็นเครื่องชี้ชัดความไม่หวั่นไหวต่อ พระสัทธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นผู้เข้าสู่เส้นทางพ้นจากอบายภมิ ๔ ใครควรจะได้มี ดวงตาเห็นธรรม ? บุคคลที่เข้าใจและเห็นว่า “สิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งปวง มีความดับไปเป็นธรรมดา” ถ้าบุคคลใดเข้าใจและเห็นตามความเป็นจริงในเบื้องต้นอย่างนี้ บุคคลนั้นชื่อว่าได้มีดวงตาเห็นธรรม ดวงตาเห็นธรรม เกิดขึ้นได้อย่างไร ? ดวงตาเห็นธรรม เกิดขึ้นได้ ๓ ประการคือ ๑.สุตามยปัญญา เกิดได้จากฟัง ๒.จินตามยปัญญา เกิดได้จากการวิจัย พิจารณา ๓.ภาวนมยปัญญา เกิดได้จากการภาวนา จนเห็นแจ้งประจักษ์จริง อย่างไรชื่อว่า ได้ดวงตาเห็นธรรม ? เมื่อจิตรับทราบ รู้เห็นตามเป็นจริงว่า ขันธ์ทั้ง 5 นั้น ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวเป็นตน อันบุคคลไม่ควรเข้าไปยึดมั่นถือมั่น ด้วยอารมณ์ว่า นั่นเป็นเรา นั่นเป็นของเรา นั่นเป็นตัวเป็นตนของเรา อย่างนี้จิตย่อมคลายความยึดมั่นถือมั่นในเบื้องต้นว่า “สิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งปวง มีความดับไปเป็นธรรมดา” และมองเห็นวิธีการที่จะคลายจากความยึดมั่น ถือมั่นเหล่านั้นลงได้ ปฏิบัติกรรมฐาน จะได้ดวงตาเห็นธรรมได้อย่างไร ? การปฏิบัติกรรมฐาน คือการภาวนามยปัญญา ทำการประจักษ์แจ้งในกองกรรมฐาน ซึ่งในกรรมฐานนั้นต้องเป็นกรรมฐานในพระพุทธศาสนา ที่อนุเคราะห์โดยตรง คือ อนุสสติ ๑๐ อสุภะ ๑๐ อาหาเรปฏิกูลสัญญา ๑ พรหมวิหาร ๔ จตุธาตุววัตถาน ๔ เหล่านี้เป็นต้น เป็นกรรมฐาน ที่ประกอบด้วยวิปัสสนา โดยตรง ดังนั้นผู้ภาวนากรรมฐานซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติ ไมว่าจะเป็นกรรมฐานที่เป็นสมถะเป็นอารมณ์ หรือ มีวิปัสสนา เป็นอารมณ์ ทั้งหมดนั้นเป็นการภาวนา ผู้ปฏิบัติก็จะได้ดวงตาเห็นธรรม เกิดขึ้นไปเป็นลำดับจนเรียกว่า ดวงตาเห็นธรรม จะสมบูรณ์ ความสมบูรณ์ของผู้ภาวนานั้น เรียกว่า จรณะ ๑๕ ประการ ชัดเจนเด่นชัดเพิ่มขึ้นไปตามลำดับ ดวงตาเห็นธรรม มีได้เพราะต้องฟังธรรมใช่หรือไม่ ? ใช่ มีได้เพราะการฟังธรรม และพิจารณาตามธรรม และทำให้สมบูรณ์ด้วยการทำไว้ในใจโดยแยบคาย ได้ดวงตาเห็นธรรม แล้วบรรลุเป็นพระอรหันต์เลยหรือไม่ ? เบื้องต้นได้สำเร็จเป็น พระโสดาบัน เริ่มต้งแต่ พระโสดาปัตติมรรค มีบางท่านบางบุรุษบุคคล บรรลุธรรมไปตามลำดับได้อย่างไว จึงได้บรรลุเป็นพระอรหันต์โดยเร็ว รู้ได้อย่างไรว่าได้ ดวงตาเห็นธรรม ? รู้ได้ด้วยการตรวจสอบ สังโยชน์เบื้องต้น ๓ ประการดับแล้วโดยสิ้นเชิง คือ ๑.สักกายทิฏฐิ ความเห็นว่าเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา ดับลงแล้ว ๒.วิจิกิจฉา ความเคลือบแคลงสงสัย ในพระรัตนตรัย สิ้นสุดลงแล้ว ๓.สีลัพพตปรามาส การยึดถือระเบียบ แบบแผน วิธีการที่ไม่นำมาซึ่งกุศลสิ้นสุดลงแล้ว ธรรมจักษุ กับ ธรรมจักร ต่างกันอย่างไร ? คือการบรรลุธรรม ส่วนธรรมจักรนั้นเป็นวิธีการไปสู่ ความเป็นพระอริยะบุคคลในระดับต่อไป ที่เรียกว่า มรรคมีองค์ ๘ มีสัมมาทิฏฐิเป็นต้น มีสัมมาสมาธิเป็นที่สุด นิมิต กับ ธรรมจักษุ ใช่อันเดียวกันหรือไม่ ? คือที่หมายกำหนด ไม่ใช่เป็นอันเดียวกันกับธรรมจักษุ นิมิตภายใน นิมิตภายนอก จัดเป็นลักษณะ รูปร่าง สีสรร ธรรมจักษุ คือการเห็นธรรมอันเป็นภายใน ภายนอก คือความเกิดขึ้น และความเสื่อมไป ดังนั้นจึงเป็นคนละความหมาย ปีติ จัดเป็นธรรมจักษุ หรือไม่ ? ปีติ คือความอิ่มใจเป็นผลจากการเข้าถึงธรรมระดับหนึ่ง ปีติ เป็นผลเช่นเดียวกับธรรมจักษุ ปีติ เป็นส่วนหนึ่งของธรรมจักษุ เจริญธรรม / เจริญพร ;) หัวข้อ: Re: ดวงตาเห็นธรรม คืออะไร ? เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ สิงหาคม 10, 2012, 04:38:16 pm อนุโมทนา สาธุ คะ ขอบคุณพระอาจารย์ที่มาแจกธรรม ในวัน ธรรมสวนะคะ
:25: :25: :25: หัวข้อ: Re: ดวงตาเห็นธรรม คืออะไร ? เริ่มหัวข้อโดย: ฺBenten ที่ สิงหาคม 10, 2012, 04:45:56 pm สาธุ สาธุ สาธุ ธรรมอันท่านแสดงไว้ดีแล้วครับ
:25: :25: :25: หัวข้อ: Re: ดวงตาเห็นธรรม คืออะไร ? เริ่มหัวข้อโดย: ฺBenten ที่ สิงหาคม 10, 2012, 04:52:08 pm อ้างถึง ปีติ จัดเป็นธรรมจักษุ หรือไม่ ? แสดงให้เห็นว่า ปีติ ถ้าผู้ได้ปีติ ก็เท่ากับดวงตาเห็นธรรม ใช่หรือไม่ครับ อย่างนี้คนเข้าฌาน ก็คือได้ดวงตาเห็นธรรมแล้วเช่นกันใช่หรือไม่ครับ :25: :smiley_confused1: :c017: หัวข้อ: Re: ดวงตาเห็นธรรม คืออะไร ? เริ่มหัวข้อโดย: fasai ที่ สิงหาคม 10, 2012, 04:54:03 pm ธรรมจักษุ นี้ มีถึงระดับไหนของพระอริยะบุคคล คะ
ธรรมจักษุ นี้ถ้าได้แล้ว จะปิดไปหรือไม่คะ ขอบคุณพระอาจารย์ที่มาตอบปัญหาให้คะ :25: :25: :25: หัวข้อ: Re: ดวงตาเห็นธรรม คืออะไร ? เริ่มหัวข้อโดย: somchit ที่ สิงหาคม 10, 2012, 05:07:32 pm สาธุ อนุโมทนา ครับ นึกว่าจะไม่ได้อ่านข้อธรรมจากพระอาจารย์ในพรรษานี้แล้วนะครับ
:25: :25: :25: หัวข้อ: Re: ดวงตาเห็นธรรม คืออะไร ? เริ่มหัวข้อโดย: hiso ที่ สิงหาคม 10, 2012, 05:27:51 pm สาธุ ขอบุญจากการศึกษาธรรม จงมีผลให้ข้าพเจ้าได้ดวงตาเห็นธรรมด้วยเทอญ
ขอบคุณพระอาจารย์ที่มาแสดงธรรมในวันนี้คะ :25: :25: :c017: หัวข้อ: Re: ดวงตาเห็นธรรม คืออะไร ? เริ่มหัวข้อโดย: inlove ที่ สิงหาคม 10, 2012, 05:37:07 pm เกิดไม่ได้ฟัง ธรรม แล้ว มีความเป็นไปได้ที่ จะได้ดวงตาเห็นธรรม หรือไม่คะ
:smiley_confused1: หัวข้อ: Re: ดวงตาเห็นธรรม คืออะไร ? เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ สิงหาคม 11, 2012, 12:15:23 am อนุโมทนา สาธุ ครับ
:25: :25: :25: หัวข้อ: Re: ดวงตาเห็นธรรม คืออะไร ? เริ่มหัวข้อโดย: สมภพ ที่ สิงหาคม 16, 2012, 11:14:39 am ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ
ในที่นี้หมายถึงพระอริยบุคคลชั้นโสดาบันซึ่งมีชื่อว่า “ผู้ถึงพร้อมด้วยทัสสนะ” บ้าง “ผู้มาสู่พระสัทธรรม” บ้าง “ผู้ประกอบด้วยฌานของพระเสขะ” บ้าง “ผู้ประกอบด้วยวิชชาของพระเสขะ” บ้าง “ผู้เข้าถึงกระแสธรรม” บ้าง “ผู้มีปัญญาแทงตลอด” บ้าง “ผู้ยืนจรดประตูอมตะ” บ้าง (องฺ.เอกก.อ. ๑/๒๖๘/๔๐๒, องฺ.ฉกฺก.อ. ๓/๕๔/๑๓๓) |