หัวข้อ: แลหนัง แลคอน แล้วย้อนคิด เหมือนดั่งชีวิต เราทุกสิ่ง เริ่มหัวข้อโดย: komol ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2014, 03:47:52 am http://www.youtube.com/watch?v=dSApmBALuug#t=132 (http://www.youtube.com/watch?v=dSApmBALuug#t=132)
สุดสะเทือนใจ! เณรวันเฉลิมเปลื้องจีวร คลุมตัว 'ลำยอง' ที่ผ้าถุงหลุด ถึงจะเป็นฉาก สั้น ๆ ก็ มีข้อคิด คติ หลาย ประการ :bedtime2: :bedtime2: :bedtime2: หัวข้อ: Re: แลหนัง แลคอน แล้วย้อนคิด เหมือนดั่งชีวิต เราทุกสิ่ง เริ่มหัวข้อโดย: komol ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2014, 03:48:59 am (http://www.koratnet.com/file/2013/11/ef359__722890-topic-ix-0.jpg)
หัวข้อ: Re: แลหนัง แลคอน แล้วย้อนคิด เหมือนดั่งชีวิต เราทุกสิ่ง เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2014, 10:00:43 am (http://www.koratnet.com/file/2013/11/ef359__722890-topic-ix-0.jpg) ฉากนี้ประทับใจผมมากมากเลย ชาย,หญิงคู่หนึ่งจะดีจะเลวก็พระของเราปกป้องรักษาท่านไว้กันนะครับ ผมนั้นรักเคารพพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย มากมาก มีโอกาสพบเห็นผู้เฒ่าผู้แก่นั่งขอเป็นต้องสละให้แล้วคุณคุณคิดเหมือนผมบ้างหรือไม่ ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่สรรมาให้ได้ชม ผมมีโอกาสได้ดูฉากนี้น้ำซึมเลยขอบอก thk56 :73: thk56 :34: thk56 ??? หัวข้อ: ปุจฉา : เณรถูกต้องตัวผู้หญิงได้หรือไม่.? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2014, 10:33:00 am (http://www.dhammajak.net/board/files/_28_325.jpg) พระนางพิมพาทรงเศร้าโศกเสียพระทัย ด้วยเข้าพระทัยว่า พระนางถูกพระพุทธเจ้าทรงทอดทิ้ง ความเสียพระทัยมีมาก พระนางเสด็จดำเนินมาเองไม่ได้ ต้องจูงและประคองมา พอมาถึงที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ พระนางก็ล้มฟุบลง กลิ้งเกลือกพระเศียรลงเหนือพระบาทพระพุทธเจ้า แล้วพิลาปรำพันกันแสงแทบสิ้นสมปฤดี สิกขาบท ๑๐ ในขุททกปาฐะ [๒] ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการลักทรัพย์ ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากอพรหมจรรย์ ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากมุสาวาท ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการฟ้อน การขับ การประโคม และการดูการเล่นอันเป็นข้าศึก ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการลูบไล้ทัดทรงประดับดอกไม้และของหอม อันเป็นลักษณะแห่งการแต่งตัว ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนใหญ่ ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการรับทองและเงิน ฯ จบสิกขาบท ๑๐ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๑๓ - ๒๖. หน้าที่ ๑ - ๒. http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=13&Z=26&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=13&Z=26&pagebreak=0) ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=2 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=2) ภาพจาก http://www.dhammajak.net/ (http://www.dhammajak.net/) (http://i883.photobucket.com/albums/ac40/42tong/thita/buddha026.jpg) อรรถกถา ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ สิกขาบท ๑๐ บทว่า อพฺรหฺมจริยํ ได้แก่ ความประพฤติไม่ประเสริฐ. เจตนาเป็นเหตุละเมิดฐาน คือ การซ่องเสพอสัทธรรม เป็นไปทางกายทวาร โดยการซ่องเสพเมถุน คือ การสมสู่กันสองต่อสอง ชื่อว่า อพรหมจรรย์....ฯลฯ ส่วนอพรหมจรรย์ มีองค์ ๔ คือ ๑. อชฺฌาจริยวตฺถุ สิ่งที่พึงล่วงละเมิด ๒. เสวนจิตฺตํ จิตคิดจะเสพ ๓. ปโยคํ สมาปชฺชติ พยายามเข้าถึง ๔. สาทิยติ ยินดี ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=2 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=2) ภาพจาก http://i883.photobucket.com/ (http://i883.photobucket.com/) ans1 ans1 ans1 ศีลสิบของสามเณร ข้อสาม คือ อพรหมจรรย์ เป็นการห้ามเสพเมถุน องค์ประกอบของศีลข้อนี้ที่นำมาตัดสินมีสามข้อ คือ จิตที่คิดจะเสพ พยายามเข้าถึง และยินดี หากการกระทำใดๆไม่ประกอบดัวยข้อใดข้อหนึ่งแล้ว ไม่น่าจะเป็นการละเมิดศีล แต่อาจเป็นโลกวัชชะ(โลกติเตียน) สิ่งหนึ่งที่คนชอบเหมารวม ไม่ยอมแยกแยะ คือ พอเห็นคนห่มผ้าเหลืองแล้ว จะต้องคิดว่า คนนั้นจะถูกเนื้อต้องตัวผู้หญิงไม่ได้ ทั้งที่เณรถือศีลแค่สิบข้อเท่านั้น ไม่มีข้อไหนที่ระบุชัดเจนว่า ห้ามถูกตัวผู้หญิง :25: :25: :25: หัวข้อ: Re: แลหนัง แลคอน แล้วย้อนคิด เหมือนดั่งชีวิต เราทุกสิ่ง เริ่มหัวข้อโดย: rainmain ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2014, 10:02:26 pm st11 st12
หัวข้อ: Re: แลหนัง แลคอน แล้วย้อนคิด เหมือนดั่งชีวิต เราทุกสิ่ง เริ่มหัวข้อโดย: SRIYA ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2014, 12:49:10 am ชมแล้ว น้ำตาหยด เลยคะ
thk56 หัวข้อ: Re: แลหนัง แลคอน แล้วย้อนคิด เหมือนดั่งชีวิต เราทุกสิ่ง เริ่มหัวข้อโดย: nopporn ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2014, 08:43:05 am ปกติ ข้อยกเว้น มารดา บิดา บุตรี บุตร อยู่ มิใช่หรือ >?
เคยเห็นพระไป รพ. ก็เห็น พยาบาล จับแขน วัดความดัน บ้าง จับศรีษะ วัดความร้อน จับมือ จับเท้า ทำแผล เป็นต้น :c017: หัวข้อ: Re: แลหนัง แลคอน แล้วย้อนคิด เหมือนดั่งชีวิต เราทุกสิ่ง เริ่มหัวข้อโดย: nopporn ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2014, 08:44:04 am แต่ฉาก นี้ เรียก น้ำตา ได้ จริง ๆ เห็นแล้ว อดสงสาร และ สมเพท นิสัย คน รอบข้าง ไม่ได้ ถึงแม้จะเป็นละคร ก็เถอะ เรื่อง จริง ก็ยังมีให้เห็น อยู่ หลาย ครั้ง
:49: หัวข้อ: Re: แลหนัง แลคอน แล้วย้อนคิด เหมือนดั่งชีวิต เราทุกสิ่ง เริ่มหัวข้อโดย: nopporn ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2014, 09:16:27 am http://www.youtube.com/watch?v=Od8XmB3qLEw#ws (http://www.youtube.com/watch?v=Od8XmB3qLEw#ws)
วันเฉลิม ป๊าอย่าโกรธแม่เลยครับแม่เค้าไม่สบาย ทองเนื้อเก้า หัวข้อ: Re: แลหนัง แลคอน แล้วย้อนคิด เหมือนดั่งชีวิต เราทุกสิ่ง เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2014, 05:03:25 pm (http://www.koratnet.com/file/2013/11/ef359__722890-topic-ix-0.jpg) หากพิจารณาจากภาพและการแพร่ภาพของละครออกจะหมิ่นเหม่ต่อภาพลักษณ์ แต่ก็ไม่มีการตัดหรือคัดฉากนี้ทิ้ง ทั้งการท้วงติงโดยองค์กรที่ดูแลสื่อ,กลุ่ม,คณะ,บุคคล ใดใดไม่มากนัก กระแสมีบ้าง แต่ถ้าหากไม่มีฉากนี้ไว้แล้วหละก็ เสียดายแย่ เพราะสามารถเรียกน้ำตาดึงอารมณ์ให้คนดูมีส่วนร่วมได้ ที่เด่นคือมันสะท้อนถึงความเขลาของสังคมผู้คนที่หม่นไหม้อยู่กับการเหยี่ยบย่ำคนอื่นเพียงปัดสวะมูตรคูถในใจไปสู่ปากคร่าคุณค่าคนอื่นหารู้ดูเห็นใจตนของตนกันไม่เลย นี่แหละสังคมผู้คนที่เขลาป่วยอยู่เพราะขลาดธรรม ระยำ น่าหน่ายครับ |