ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: “คำขอบคุณ” ให้คุณกว่าที่คิด  (อ่าน 258 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
“คำขอบคุณ” ให้คุณกว่าที่คิด
« เมื่อ: มกราคม 23, 2024, 06:41:46 am »
0
.



“คำขอบคุณ” ให้คุณกว่าที่คิด

การใช้ชีวิตในทุกวันนี้ของเราดูจะเป็นการมุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว มองไปยังเป้าหมายอนาคต ใช้ชีวิตอยู่กับเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง จนบางครั้งเราเองก็มองแต่ข้างหน้า มองแต่เพียง “ตัวเอง”จนลืมที่จะมองข้างหลัง มองสิ่งที่อยู่ข้าง ๆ มองที่ผู้อื่นหรือสิ่งอื่น

นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้นึกขอบคุณใครสักคนอย่างล้นใจ ขอบคุณอย่างซาบซึ้ง ขอบคุณแบบที่ไม่ใช่เพียงแค่การเอ่ยว่าขอบคุณตามมารยาทสังคม

หากเป็นการเอ่ยคำว่าขอบคุณที่มาจากใจที่น้อมระลึกขึ้นมาได้ว่าคน ๆ นั้น หรือสิ่งนั้นช่างมีส่วนที่ทำคุณต่อเรา ซาบซึ้งในใจว่าการที่มีตัวเราในทุกวันนี้ เพราะมีคนที่เกื้อกูลเรา มีธรรมชาติที่เกื้อหนุน มีประสบการณ์ที่ผ่านมาที่เราได้เรียนรู้และเติบโต

ความรู้สึกขอบคุณอย่างลึกซึ้งดังกล่าวเป็นสิ่งที่นักจิตวิทยาเรียกว่า ความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณ (Gratitude) เป็นความรู้สึกที่ยินดี ซาบซึ้ง เป็นความรู้สึกที่งดงามที่เรามีต่อผู้อื่น หรือแม้ต่อสิ่งที่ไม่ใช่บุคคล เช่น ธรรมชาติ ประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตของเรา

นักจิตวิทยาในกลุ่มจิตวิทยาเชิงบวกได้มีการศึกษาเรื่องความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณนี้ไว้มากมาย จนสามารถกล่าวได้ว่าการขอบคุณอย่างลึกซึ้งเช่นนี้มีผลทางบวกต่อตัวเรามากกว่าที่เราอาจจะเคยนึกถึง โดยผู้นำในการศึกษาเรื่องความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณคือนักจิตวิทยาชาวอเมริกันชื่อ Robert Emmons ได้กล่าวว่า ความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณว่ามีสองสิ่งร่วมอยู่

@@@@@@@

สิ่งแรก คือ ความรู้สึกว่าความดีงามในโลกนี้มีอยู่จริง ๆ และเรามั่นใจได้จากสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้รับ
สิ่งที่สอง คือ การที่เราเห็นได้ว่าความดีงามที่มันเกิดขึ้นนั้น เกิดมาจากแหล่งนอกตัวเรา เรามองเห็นการมีส่วนของผู้อื่นที่เข้ามามีต่อเรา

ความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณนี้มีผลทางบวกไม่ใช่เพียงแต่กับคนที่เราเอ่ยคำว่าขอบคุณต่อเขา แล้วเขาจะรู้สึกว่าเราเห็นค่าเขาเท่านั้น หากนักจิตวิทยาได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณ และพบถึงผลทางบวกของความความบุคคล และต่อสัมพันธภาพ เช่น งานวิจัยของ Emmons และ McCullough ในปี ค.ศ. 2003 ได้พบว่าความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณมีส่วนช่วยเพิ่มสุขภาวะ

งานวิจัยของ Gordon, Impett, Kogan, Oveis, และ Keltner ในปี ค.ศ. 2012 พบว่าความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณเป็นความรู้สึกที่ช่วยเสริมสร้างสัมพันธภาพที่มีดีขึ้น เนื่องจากเราได้ตระหนักว่าเราได้รับความช่วยเหลือและกำลังใจจากคนเหล่านั้นอย่างไรบ้าง และยังส่งผลสืบเนื่องถึงการรับรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปได้รับการเห็นถึงคุณค่าอีกด้วย

เมื่อเรารู้ถึง “คุณ”ของการขอบคุณว่ามีทั้งต่อเรา และต่อผู้อื่นแล้ว ดังนั้น วันนี้เราน่าจะเริ่มมองสิ่งต่าง ๆ ผู้คนรอบตัวเราอย่างเห็นใน “คุณ” ที่เขามีต่อเรา ใน “ค่า” ที่เขามีสำหรับเรากันเถิดนะคะ

@@@@@@@

ผู้เขียนขอนำเสนอวิธีง่าย ๆ 2 วิธีที่สามารถนำมาใช้ได้กับตัวเองหรือจะใช้ฝึกให้ลูกหลานของเราก็ได้

วิธีแรกเป็นวิธีในการพัฒนาความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณ ที่นักวิจัยมักใช้ในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณ คือ การเขียนบันทึกถึงความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณ โดยเป็นการเขียนถึง 5 สิ่งที่เรารู้สึกขอบคุณในแต่ละสัปดาห์ การทำเช่นนี้จะทำให้เราพัฒนาการคิดที่มองสิ่งต่างๆ อย่างยินดี และลดความคิดที่มองสิ่งต่างๆอย่างไม่ยินดีค่ะ

อีกวิธีที่อยากจะนำเสนอคือวิธีที่ผู้เขียนเองเห็นว่าง่ายและใช้ได้เป็นประจำ คือ การทบทวนก่อนนอนว่าวันที่กำลังจะผ่านไปวันนี้ เรามีอะไรที่เรารู้สึกขอบคุณบ้าง ลองนึกทบทวนนะคะ ถ้าเราทำเช่นนี้สม่ำเสมอทุกคืนก็จะเป็นการค่อย ๆ ฝึกตัวเราเองให้มองสิ่งต่าง ๆ ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณได้ค่ะ

…ขอบคุณพ่อแม่ที่เลี้ยงดูฟูมฟักจนเติบโต
…ขอบคุณสามีที่เอื้ออาทรเปิดโอกาสให้ทำในสิ่งที่รัก
…ขอบคุณลูกที่เกิดมาเป็นลูกแม่ให้แม่รู้จักกับความรักที่แสนยิ่งใหญ่
…ขอบคุณครูที่สั่งสอนจนมีวิชา
…ขอบคุณเพื่อนที่อยู่เคียงข้างฝ่าฟันอุปสรรค
…ขอบคุณโอกาสในการเขียนบทความทำให้ผู้เขียนมีโอกาสทบทวนถึงความรู้สึกดี ๆ เช่นนี้
…ขอบคุณผู้อ่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ





Thank to :-
URL : https://www.psy.chula.ac.th/th/feature-articles/gratitude-and-swb
บทความโดย : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐสุดา เต้พันธ์ คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ,18 Aug 2017
ภาพจาก : https://www.pexels.com/search/gratitude/

รายการอ้างอิง :-
- Bono, G., Emmons, R. A., & McCullough, M. E. (2004). Gratitude in practice and the practice of gratitude. Positive psychology in practice, 464-481.
- Emmons, R. A., & McCullough, M. E. (2003). Counting blessings versus burdens: an experimental investigation of gratitude and subjective well-being in daily life. Journal of personality and social psychology, 84(2), 377.
- Froh, J. J., Sefick, W. J., & Emmons, R. A. (2008). Counting blessings in early adolescents: An experimental study of gratitude and subjective well-being. Journal of school psychology, 46(2), 213-233.
- Gordon, A. M., Impett, E. A., Kogan, A., Oveis, C., & Keltner, D. (2012). To have and to hold: gratitude promotes relationship maintenance in intimate bonds. Journal of personality and social psychology, 103(2), 257.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ