บุคคลหาได้ยากในโลก ๒ จำพวก
[๓๖๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๒ จำพวกนี้หาได้ยากในโลก
๒ จำพวกเป็นไฉน คือ
- บุพพการีบุคคล ๑
- กตัญญูกตเวทีบุคคล ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลายบุคคล ๒ จำพวกนี้แลหาได้ยากในโลก ฯที่มา พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=20&A=2263&Z=2265&pagebreak=0 [๗๗] บุคคลหาได้ยากในโลก ๒ จำพวก เป็นไฉน
- บุพพการีบุคคล ๑
- กตัญญูกตเวทีบุคคล ๑
บุคคล ๒ จำพวกนี้ หาได้ยากในโลกนี้ที่มา พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๖ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๓ ธาตุกถา-ปุคคลบัญญัติปกรณ์
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka3/v.php?B=36&A=2940&Z=3224ผู้แสดงธรรม ชื่อว่า 'บุพพการี' ผู้ปฏิบัติธรรมชื่อว่า 'กตัญญูกตเวที'
อรรถกถาบุคคลผู้หาได้ยาก ๒ จำพวก
บทว่า "ทุลฺลภา" ได้แก่ มิใช่บุคคลที่หาได้โดยง่าย.
บทว่า "ปุพฺพการี" ได้แก่ ผู้กระทำอุปการะก่อนนั่นเทียว.
บทว่า "กตเวที" ได้แก่ ประกาศอุปการคุณที่บุคคลอื่นกระทำแล้ว คือ กระทำอุปการคุณให้ปรากฏ.
บัณฑิตพึงแสดงบุคคลทั้ง ๒ พวกนั้น ด้วยอาคาริยบุคคลและอนาคาริยบุคคล คือ คฤหัสถ์และบรรพชิต.
ก็บรรดาคฤหัสถ์ทั้งหลาย มารดาและบิดาชื่อว่า บุพพการี (ผู้กระทำอุปการะก่อน)
ส่วนบุตรและธิดาผู้ปฏิบัติมารดาบิดา และกระทำการอภิวาทเป็นต้นแก่บิดามารดา ชื่อว่ากตเวที (ผู้รู้อุปการคุณอันบุพพการีชนกระทำแล้ว)
สำหรับบรรพชิตทั้งหลาย อาจารย์และอุปัชฌาย์ชื่อว่า บุพพการี.
อันเตวาสิกและสัทธิวิหาริกทั้งหลาย(ลูกศิษย์และผู้อยู่ร่วม) ที่ปฏิบัติอาจารย์และอุปัชฌาย์ ชื่อว่ากตเวที เพื่อประกาศบุคคลทั้ง ๒ พวกนั้นให้แจ่มแจ้ง บัณฑิตพึงกล่าวถึงเรื่องของพระโสณเถระผู้เลี้ยงดูอุปัชฌาย์ เป็นต้น.
อีกนัยหนึ่ง บุคคลใด เมื่อผู้อื่นยังมิได้กระทำอุปการะเลย ไม่เพ่งเล็งถึงอุปการะที่ผู้อื่นกระทำในตน แล้วกระทำการอุปการะ ผู้นั้นก็ชื่อว่าบุพพการี เปรียบเหมือนบิดามารดาพวกหนึ่ง อาจารย์และอุปัชฌาย์พวกหนึ่ง
บุพพการี บุคคลนั้นชื่อว่าหาได้โดยยาก เพราะความที่สัตว์ทั้งหลายถูกตัณหาครอบงำไว้.
บุคคลใดรู้อุปการะที่ผู้อื่นกระทำในตน ประกาศอยู่ซึ่งอุปการะที่เป็นไปตามสมควรแก่อุปการะที่ผู้อื่นกระทำแล้ว ผู้นั้นชื่อว่ากตัญญูกตเวที เปรียบเหมือนบุคคลผู้ปฏิบัติชอบในมารดาและบิดา หรือในอาจารย์ และอุปัชฌาย์ทั้งหลาย.
กตัญญูกตเวทีบุคคลนั้น ชื่อว่าหาได้โดยยาก เพราะความที่สัตว์ทั้งหลายถูกอวิชชาครอบงำไว้.
อีกอย่างหนึ่ง บุคคลผู้เมตตารักใคร่ โดยไม่มีเหตุ ชื่อว่าบุพพการี.
บุคคลเมตตารักใคร่ โดยมีเหตุ ชื่อว่ากตัญญูกตเวที.
บุคคลผู้กระทำประโยชน์ โดยไม่เพ่งเล็งถึงเหตุเป็นต้นอย่างนี้ว่า "ผู้นี้จักกระทำอุปการะแก่เรา" ชื่อว่าบุพพการี.
บุคคลผู้กระทำประโยชน์ โดยเพ่งเล็งถึงสาเหตุเป็นต้นอย่างนี้ว่า "ผู้นี้จักกระทำอุปการะแก่เรา" ชื่อว่ากตัญญูกตเวที.
ผู้มืดมาสว่างไปข้างหน้า ชื่อว่า บุพพการี. ผู้สว่างมาสว่างไปข้างหน้า ชื่อว่า กตัญญูกตเวที.
ผู้แสดงธรรม ชื่อว่า บุพพการี. ผู้ปฏิบัติธรรมชื่อว่า กตัญญูกตเวที.
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ชื่อว่าบุพพการีในโลกนี้ พร้อมทั้งเทวโลก.
พระอริยสาวก ชื่อว่ากตัญญูกตเวที.
ส่วนในคัมภีร์อรรถกถาแห่งทุกนิบาต ท่านกล่าวคำไว้มีประมาณเท่านี้ว่า (ผู้กระทำอุปการะก่อน ชื่อว่าบุพพการี. ผู้รู้อุปการะที่ผู้อื่นกระทำแล้วกระทำตอบในภายหลัง ชื่อว่ากตเวที).
ที่มา อรรถกถา ปุคคลบัญญัติปกรณ์ บุคคลบัญญัติ ทุกนิทเทส
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=36.2&i=58อ่าน เนื้อความในพระไตรปิฎก
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=36&A=2940&Z=3224