ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ประตูสู่เมืองลับแล.! บุก "ถ้ำอาถรรพ์สุดลี้ลับ" เหตุใดยามค่ำคืนถึงมีเสียงดนตรีไทย  (อ่าน 1420 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ประตู..สู่เมืองลับแล.!! บุก "ถ้ำอาถรรพ์..สุดลี้ลับ" เหตุใด..ยามค่ำคืน ถึงมีเสียงดนตรีไทย และดวงไฟประหลาด.!!

เมื่อวันที่ ๖ ก.พ. ๖๑ ได้มีเรื่องราวสุดฮือฮากันอีกครั้งกับถ้ำลึกลับที่ถูกล่ำลือมาอย่างช้านานที่ จ.ระยอง โดยชาวบ้านในพื้นที่เชื่อว่าถ้ำนี้เป็นถ้ำอาถรรพ์ เพราะชาวบ้านในบริเวณต่างเคยได้ยินเสียงดนตรีไทยยามดึกจากถ้ำนี้ ทั้งยังเคยมีดวงไฟประหลาดอยู่ภายในอีกด้วย ซึ่งชาวบ้านยังเล่าว่า ไม่ใช่เพียงอดีต แต่ปัจจุบันก็ยังเห็นสิ่งเหล่านี้อยู่บ่อยครั้งอีกด้วย

ซึ่งทาง กำนันบุญสืบ แกล้วกล้า กำนันตำบลกระแสบน ได้พานักสำรวจเข้าไปหาความจริงบ่อยครั้ง ซึ่งบริเวณถ้ำอาถรรพ์นั้นเป็นป่าชุมชนของหมู่บ้าน เป็นเนินเขาที่สูงมาก ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ ๕๐๐ เมตร เมื่อเดินขึ้นไปถึงด้านบนจะพบหินขนาดใหญ่โตวางทับซ้อนกัน โดยที่ด้านล่างของหินทับซ้อนมีช่องว่างเหมือนปากถ้ำ โดยลึกเข้าไปในถ้ำประมาณ ๑ เมตร จะมีแผ่นหินปิดกั้นไว้จึงไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ที่น่าแปลกคือหินเหล่านี้เหมือนไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยที่ทางหน้าถ้ำ เหมือนมีคนเดินเข้าออกตลอด เพราะมีร่องรอยของทางเดินให้ได้เห็นตลอดทาง พอลองส่องเข้าไปหลังแผ่นหินนั้น ยังมองเห็นว่าสามารถเข้าไปได้อีกไกล แต่ด้วยความมืดสนิทจึงทำให้มองเห็นได้ไม่ลึกมาก โดยรอบจะพบเศษปูนพังเต็มไปหมดเนื่องจากบริเวณนี้เคยเป็นสำนักสงฆ์ร้างในอดีต




กำนันบุญสืบ ยังได้เล่าให้ทีมสำรวจฟังอีกว่า ถ้ำนี้มีอายุเป็นร้อยๆปีแล้ว แต่เดิมคนแก่ในหมู่บ้านจะมีเรื่องเล่าเหมือนกัน ถือเป็นเรื่องเล่าประจำหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ โดยเล่าว่าเมื่อก่อนนั้น ชาวบ้านเวลาจัดงานพิธีต่างๆ มักจะเดินเข้าไปในถ้ำเพื่อหยิบยืม ถ้วยชาม ออกมาร่วมพิธีงานบุญต่างๆของหมู่บ้าน แต่ก็ปรากฎว่า ชาวบ้านบางรายนำถ้วยชามออกไปใช้แล้วแต่ไม่ยอมนำมาส่งคืน และแตกหักเสียหาย ตั้งแต่นั้นปากถ้ำก็เริ่มปิดลงเอง โดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นเพราะ สิ่งศักดิ์ที่ดูแลทรัพย์สินภายในถ้ำไม่พอใจชาวบ้านที่ไม่ยอมรักษาของที่ยืมไปใช้ และไม่นำมาคืนจึงปิดปากถ้ำไม่ให้เข้าไปได้อีกเลย

เมื่อก่อนเคยมีพระสงฆ์มาขออาศัยอยู่ในถ้ำแห่งนี้ แต่อยู่ได้ไม่นานก็ผูกคอตายโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงถูกปล่อยให้รกร้าง เหลือเพียงเศษซากกุฏิที่พังตามกาลเวลา



โดย นายไพโรจน์ วงศ์ตรุษ อายุ 65 ปี ชาวบ้านในบริเวณยังเล่าให้ฟังต่ออีกว่า เมื่อก่อนตอนที่ตนยังเป็นเด็กๆ เคยเจอถ้วยชามดินเผาเต็มถ้ำไปหมดยังเคยหยิบมาเล่น แต่ตอนนั้นตนไม่รู้ว่าเป็นของเก่าโบราณ เล่นแล้วจึงไม่ได้เก็บก็ปล่อยทิ้งหายไปตามเวลา แต่สิ่งที่น่าแปลกใจและชาวบ้านเล่าเป็นเสียงเดียวกันว่าเคยเจอเหตุการแปลกประหลาดที่ถ้ำนี้นั่นก็คือ ได้ยินเสียงเครื่องดนตรีไทย โดยที่จะดังขึ้นในช่วงกลางดึกของทุกวันพระใหญ่ โดยจะมีชาวบ้านได้ยินกันเป็นประจำ นอกจากนี้ยังพบเห็นดวงไฟขนาดใหญ่ส่องแสงสว่างลอยอยู่เหนือปากถ้ำ ชาวบ้านต่างเชื่อว่าเป็นอาถรรพ์จากสิ่งศักดิ์ที่ปกปักษ์รักษาถ้ำแห่งนี้มาแสดงให้เห็นและได้ยิน

ชาวบ้านบางคนยังเชื่อว่าถ้ำแห่งนี้คือทางเข้าเมืองลับแลที่เป็นเรื่องเล่าพื้นบ้าน โดยปกติแล้วจะไม่มีชาวบ้านคนไหนมาที่ถ้ำแห่งนี้ เพราะ เชื่อเรื่องอาถรรพ์ของถ้ำนี้ จึงไม่มีใครกล้ามาแถวนี้อีกเลย

ซึ่ง นายบัญญัติ เศียรเขียว ปลัด อ.แกลง ระยอง ได้พาทีมขึ้นสำรวจถึงกับต้องตกใจเมื่อพบเจอพืชไม้หายากมากมายบริเวณถ้ำแห่งนี้ โดยสำหรับถ้ำแห่งนี้นับว่ามีความแปลกกว่าถ้ำทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด จึงอยากให้เกิดการอนุรักษ์ และผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป


อ้างอิงข้อมูลจาก - INN
เรียบเรียงโดยปิยะนัย เกตุทอง
http://news.tnews.co.th/contents/411675
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

doremon

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 171
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
น่าสนใจ ลี้ลับ
ว่าแต่ กำนัน นามสกุลเหมือน สมาชิก ท่านหนึ่ง ในเว็บ

 like1 thk56
บันทึกการเข้า