หัวข้อ: แข่งกันทำบุญ หรือ ทำบุญแข่งกัน ได้บุญหรือไม่ ? เริ่มหัวข้อโดย: เสริมสุข ที่ กันยายน 18, 2011, 11:38:23 am แข่งกันทำบุญ หรือ ทำบุญแข่งกัน ได้บุญหรือไม่ ?
พระพุทธเจ้า ทรงตรัสแสดงเรื่องการทำบุญแบบนี้อย่างไร ? ขอบคุณมากคะ :c017: หัวข้อ: Re: แข่งกันทำบุญ หรือ ทำบุญแข่งกัน ได้บุญหรือไม่ ? เริ่มหัวข้อโดย: sunee ที่ กันยายน 18, 2011, 11:43:57 am รู้สึกว่า ในสมัยครั้ง พุทธกาล ก็มีการแข่งทำบุญ ระหว่าง เศรษฐี กับ พระราชา นะคะ
ไม่แน่ใจ วานท่่านผู้รู้ สานต่อก็แล้วกันคะ :s_hi: :67: หัวข้อ: Re: แข่งกันทำบุญ หรือ ทำบุญแข่งกัน ได้บุญหรือไม่ ? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 18, 2011, 02:35:59 pm (http://www.thairath.co.th/media/highlight2009/oth/payor/top1_001_010153.jpg) ถ้านำเอาบุญกิริยาวัตถุ ๓ คือ ทาน ศีล ภาวนา มาเป็นบทตั้ง ผมขอนำเอา"ทาน"มาเป็นตัวอย่าง การทำทานแล้วจะไ้ด้บุญหรือไม่อย่างไรนั้น ไม่ได้อยู่ที่การแข่งขัน แต่อยู่ที่ปัจจัยต่างๆดังนี้ 1. องค์ของการทำทานที่ได้บุญมาก องค์ของการทำทาน หรือเรียกว่า ทานสมบัติ ในทางพระพุทธศาสนามุ่งสอนในเรื่องของการให้ เพื่อทำให้ใจของเราสะอาดบริสุทธิ์ ยิ่งมีความบริสุทธิ์สะอาดมาก ก็จะได้ผลคือบุญมาก โดยผู้ให้จะต้องทำให้ครบด้วยองค์ทั้ง 3 ที่เรียกว่าทานสมบัติ 3 ข้อ คือ 1.1. วัตถุบริสุทธิ์ 1.2. เจตนาบริสุทธิ์ - เจตนาก่อนที่จะทำทาน - เจตนาในขณะกำลังให้ - เจตนาหลังจากที่ให้ทานแล้ว 1.3. บุคคลบริสุทธิ์ 2. อาการของการให้ นอกจากองค์แห่งการให้ทานทั้ง 3 ประการดังกล่าวแล้ว ความคิดที่เป็นจิตเจตนาของผู้ให้ ซึ่งส่งผลไปสู่การกระทำทางกาย ที่เห็นได้จากกิริยาอาการที่แสดงออกมาในเวลาให้ทาน ก็มีความสำคัญมาก เช่นกัน เพราะนอกจากจะบ่งบอกถึงคุณภาพใจของผู้ให้แล้ว ยังมีผลกระทบต่ออานิสงส์ที่จะได้รับอีกด้วย 2.1. สัตบุรุษย่อมให้ทานด้วยศรัทธา 2.2. สัตบุรุษย่อมให้ทานด้วยความเคารพ 2.3. สัตบุรุษย่อมให้ทานตามกาล 2.4. สัตบุรุษย่อมให้ทานด้วยจิตอนุเคราะห์ 2.5. สัตบุรุษย่อมให้ทานโดยไม่กระทบตนเอง และผู้อื่น ดังนั้น เมื่อเราทำทาน นอกจากจะต้องทำให้ครบองค์ประกอบทั้ง 3 ประการ คือวัตถุบริสุทธิ์ เจตนาบริสุทธิ์ (ทั้งก่อนให้ กำลังให้ และหลังให้) และบุคคลบริสุทธิ์ (ทั้งผู้รับและผู้ให้) แล้ว ยังต้องทำด้วยความ ชาญฉลาด คือให้ตามแบบอย่างของสัตบุรุษด้วย ทานที่ให้จึงจะชื่อว่าได้บุญมาก 3.วิธีการทำทาน เงื่อนไขที่จะทำให้การทำทานแต่ละครั้งมีความสมบูรณ์พร้อม คือทำแล้วได้ผลบุญมาก จะมีองค์ประกอบสำคัญๆ อยู่หลายประการ เช่น ในเบื้องต้นต้องมีศรัทธา มีไทยธรรม และมีผู้รับทาน โดยเฉพาะที่เป็นทักขิไณยบุคคล ผู้เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ 3.1 ตั้งใจ 3.2 แสวงหาไทยธรรม (สิ่งของที่ควรให้ทาน) 3.3 ทำตนเองให้บริสุทธิ์ก่อนที่จะให้ทาน 3.4 ตั้งจิตอธิษฐาน 3.5 เมื่อทำทานเสร็จแล้ว 3.6 การทำทานในชีวิตประจำวัน - การทำบุญตักบาตร - การถวายสังฆทาน - การให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน (http://dou.us/images/%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A301.jpg) คัดย่อมาจากหนังสือ วิถีชาวพุทธ เรื่อง “การทำทานที่สมบูรณ์แบบ” ที่มา http://main.dou.us/view_content.php?s_id=385 (http://main.dou.us/view_content.php?s_id=385) ขอบคุณภาพจาก www.thairath.co.th (http://www.thairath.co.th),http://main.dou.us ส่วนเรื่องการแข่งขันการทำบุญในสมัยพุทธกาล เท่าที่นึกได้ในตอนนี้ น่าจะเป็นเรื่อง "บุพกรรมของพระสีวลี" ในสมัยของพระพุทธเจ้าพระนามว่า "วิปัสสี" เชิญคลิกอ่าน "อรรถกถาสีวลิเถราปทาน" ได้ที่ http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33.1&i=133 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33.1&i=133) ผมแนบไฟล์หนังสือ “การทำทานที่สมบูรณ์แบบ” มาให้ครับ เชิญดาวน์โหลด ;) :25: :49: :welcome: หัวข้อ: Re: แข่งกันทำบุญ หรือ ทำบุญแข่งกัน ได้บุญหรือไม่ ? เริ่มหัวข้อโดย: whuchi ที่ กันยายน 18, 2011, 02:52:46 pm อนุโมทนา ด้วยครับ เนื้อหา ค่อนข้างยาว ผมว่า ทะยอยลงเป็นตอน ๆ ให้ได้อ่านก็ได้ครับ
ผมชอบอ่านเช่นกันครับ :25: :c017: หัวข้อ: Re: แข่งกันทำบุญ หรือ ทำบุญแข่งกัน ได้บุญหรือไม่ ? เริ่มหัวข้อโดย: indy ที่ กันยายน 18, 2011, 07:10:01 pm แข่งทำบุญก็ได้บุญจริงๆครับ แต่อานิสงค์หรือกุศลที่จะได้ไม่เท่ากัน
เช่นอยากได้หน้าอยากเด่นดังก็ได้จริง แต่มันจะไปตัดกำลังบุญที่จะได้เพิ่มจากนั้น หัวข้อ: Re: แข่งกันทำบุญ หรือ ทำบุญแข่งกัน ได้บุญหรือไม่ ? เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กันยายน 19, 2011, 06:39:23 am แข่งกันทำบุญ หรือ ทำบุญแข่งกัน ได้บุญหรือไม่ ? "บุญล้างใจ" ทำบุญประดับจิต อย่าไปคิดหน่วงข้าวของ ทำบุญให้เพียงตรอง ไม่ของเราใช่ของตัว. ธรรมธวัช.! หัวข้อ: Re: แข่งกันทำบุญ หรือ ทำบุญแข่งกัน ได้บุญหรือไม่ ? เริ่มหัวข้อโดย: GodSider ที่ กันยายน 19, 2011, 08:44:05 am ส่วนตัวก็เห็นด้วยครับ แข่งกันสร้างกุศล ดีกว่าแข่งกันทำ อกุศล นะครับ
ส่วนการละ ปล่อยวาง นั้นเป็นเรื่อง ของบุคคลที่มีใจเป็นพระอริยะ ก็สุดแล้วแต่ท่านจะทำภาวนากันได้ ดังนั้น ทำเลย ถ้า ทำดี คิดดี พูดดี เป็นกุศล แข่งกันทำเข้าไปเถอะครับ โลกเราจะร่มเย็นครับ แต่ทำแล้วอย่า ให้คนอื่น และ ตัวเราเดือดร้อน นะครับ :25: :25: :25: |