ก็ถือว่า เป็น โปรโมชั่น ส่งท้าย เพื่อ ให้ผู้ สืบทอด ต่อไป

 

 
ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ

  นับว่า เป็นฟ้าหญิง ในใจ ของกระผม คนหนึ่ง เลยครับ

 

แน่นอน แน่นอน ขออนุญาต ได้ จัดไป หลวงปู่

 

มีทางช่วยหรือไม่ ?

 

 

อนุโมทนา สาธุ ครับ แต่ รูปแบบโปสเตอร์ ไม่เข้ากับบรรยากาศ ของ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เลยนะครับ
 

รวมข้อความสั้น จากหนังสือ เพียงหยดหนึ่งแห่งพระธรรม บันทึกการภาวนาของธัมมะวังโส
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=15517.0


ใช่ แบบนี้ หรือ ป่าวครับ

 

กาล เวลา เป็น เครื่อง พิสูจน์ ธรรม คำนี้ ชัดเจน นะครับ

 

นี่แหละ เป็นแนวโน้ม ที่จะนำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมไป อย่างรวดเร็ว หลักการและวิธีการ เป็นแบบมหายาน พระต้องทำนา ปลูกผัก ทำกสิกรรม เพื่อดำรงชีวิตเอง

 

เคยคิดจะไปร่วม เข้า คอร์ส เข้า สักครั้ง เขาอยู่ที่ราชบุรี นะครับ ถ้าจำไม่ผิด

 เป็น สายธิเบต ......

 

กรรม เป็น พระ บวช เข้า เป็น สงฆ์ แต่ ยัง หวัง รวย รวย รวย

  ลูกศิษย์ ตถาคต ปัจจุบัน ทำไม เป็นกันอย่างนี้ กัน มาก เนาะ

  พระดี มีไหม ?

  ทำไม ไม่ได้ยินข่าว เลย ?

  ก็เพราะข่าว ไม่มีเรื่อง ดี ไง ครับ

 

 เป็นศรัทธา ของ ผู้จัดทำ จัดสร้าง แสดงถึง ความเคารพ และการเจริญของ พระพุทธศาสนา ในประเทศไทย และ ทำให้นึกถึง เมือง อโยธยา ที่มีพระพุทธรูปทองคำหลายวัด แต่ ตอนแพ้ศึก พระพุทธรูปทองคำ ก็หายไป ถูกปล้นไป ยังบ้านเมืองก็มี ที่ถูกแปรเป็นทองก้อน ให้กับ พม่า ก็มีมาก ที่ถูกซ่อนใน พระอิฐ พระปูน ก็มี อย่างเช่น เมืองสระบุรี เห็นที่ซ่อนอยู่ในเนื้อปูน เลื่องชือ ก็คือ วัดพะเยาว์ หน้าตัก 27 นิ้ว ขนาดเท่าคนจริง นับว่ามาถูกค้นพบ กันโดยบังเอิญ ที่ถูกจังหวะ ในปัจจุบัน

   

 นี่เข้าทำนอง เรียกว่า น้ำแห้ง ตอผุด นะครับ

 

http://www.youtube.com/watch?v=LKtj2C7p_y4

 อันนี้เป็น อจ.มานิตต์ สุทธจิตต์ ปี 2553 ชราภาพมาก นะ

 นี่เป็นวารสาร ดักแด้แก้ดักดาน ที่ อจ.มานิตย์ สุทธจิตต์ อดีต อาจารย์ประจำภาควิชาสังคม เป็นผู้ดำเนินงาน สมัยนั้นพระอาจารย์เป็นสามเณร ท่านก็ได้เป็นผู้ร่วมจัดทำหนังสือ เล่มนี้ 3 ปี ผมเคยเห็นท่านนั่งพิมพ์ไขอยู่ที่ ศาลาพระพุทธยาจารย์ ใน วค.ลำปาง

 

 

เห็นควรจัดพิมพ์ครับ เพราะการจัดพิมพ์หนังสือเป็นธรรมทาน นั้นเป็นทานที่ปรากฏชัด ส่วนการแจก PDF นั้นเป็นผู้ไม่ประสงค์ออกนามครับ มองไม่เห็นรูปธรรม การพิมพ์หนังสือ ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าอ่าน เราต้องนึกถึงคนใกล้ตัวเรา ครอบครัวเรา ที่มีความปรารถนาในบุญ เลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ที่ ไม่รู้จักการใช้งาน อินเตอร์เน็ต ด้วยนะครับ ไม่ใช่มาแจกแต่ เพื่อพวกคนออนไลน์ ที่อาจจะไม่ใส่ใจในของฟรี เลยนะครับ และที่สำคัญ

   ถ้าพิมพ์เป็นหนังสือ เราถึงจะได้มีส่วนร่วมบุญกุศลธรรมทาน นะครับ ท่านจะสามารถทำบุญบริจาคเป็นเจ้าภาพกี่เล่มก็สามารถทำได้ แต่ถ้าแจกเป็น PDF ไป ก็ อาจจะเป็นหนี้สงฆ์นะครับ รับฟรี แจกฟรี เก็บลึก เก็บลืม นะครับ

    ดังนั้น ส่วนตัวไม่เห็นด้วยนะครับ กับการแจกเป็น PDF

     

ถ้าเป็นประเทศจีน ก็ไม่แปลก นะครับ เพราะว่า ที่นั่น เขา มีพรรคกระยาจก เป็นพรรคใหญ่ ที่มีประมุข ได้รับพระราชทาน ขันทองคำ คือ ถ้าขอต้องให้ ไม่ให้มีโทษ ซึ่งแม้ระบบ คอมมิวนิสต์ ของจีนเกิดขึ้นมาปกครองใหม่แล้ว บรรดา พรรคกระยาจก ก็มีการพัฒนา รูปแบบการขอทานของตนเอง มากกว่าเดิม แต่ พวกนี้ มีที่เป็นกองกำลังทหารพิเศษ ที่ช่วยเหลือ ในการปฏิรูปด้วย ดังนั้น บางครั้งทางรัฐบาลใหม่ ก็จึงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ บ้าง พวกเราอาจจะคิดว่า พรรคกระยาจกมีแต่เพียงใน นวนิยายจีน แต่ที่จริงแล้ว สัญญลักษณ์ เครื่องหมาย ลำดับ ผมเคยสืบค้นมาที มีจริง และ กระบวนวิทยายุทธ ก็มีอยู่จริง คือ เพลงมวยขอทาน หมัดเมายาจกซู เพลงมวยอรหันต์นิทรา เพลงไม้เท้าตีสุนัข หมัดมังกร 18 ท่า 

       

เรื่องนี้ผมเคยถามพระอาจารย์ทางเมล ครั้งหนึ่งครับ เห็นถูกรื้อขึ้นมาอีกครั้ง จะช่วยตอบบ้างนะครับ เห็นว่าไม่มีใครตอบ เรื่องนี้ เป็นความฝันของพระอาจารย์ ครับ แต่ความเป็นจริง ที่ทราบก็คือ

   เป็นภาพปรากฏใน นิมิต สมาธิ เนื่องด้วย หลังจากท่านกลับมาจากเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า พร้อมพระผู้ติดตาม กลับคำถามหลวงพ่อพระครู ที่ถามท่าน ๆ ก็เลย นั่งกรรมฐาน อธิษฐาน สุขสัญญา และ ลหุสัญญา อธิษฐานปฏิภาคนิมิต ให้ปรากฏภาพ สถานที่ ของครูอาจารย์ท่านสองรูป ที่จากกันมา 27 ปี ในสายสวนโมกข์ คือ พระอาจารย์วิรัช  และ พระอาจารย์ถวิล เป็นพระอาจารย์ของท่าน ตอนเป็นสาเณร ครั้งที่ท่านมาอยู่ประจำที่ศาลาพระพุทธาจารย์ วิทยาลัยครูลำปาง เพื่อมาอยู่เรียนการเผยแผ่ธรรม ด้วยอุปกรณ์การสอน คือการใช้โสตทัศนะศึกษาเผยแผ่พระธรรม  พระอาจารย์สองรูปนี้เป็นครูท่าน เหตุที่ผมพอทราบเรื่องนี้ เพราะผมอยู่ลำปางครับ จำท่านได้สมัยสามเณร และ ผมก็เคยมาเรียนกับท่าน ใน วค.นี้ ครับ

    หลังจากท่าน อธิษฐาน ภาพนิมิต ก็ปรากฏในสมาธิ ท่านจึงได้ชักชวน ผู้ติดตามทั้งสองรูป คือ พระเฉย พระนิพนธ์ ( ไม่ทราบถูกหรือไม่ ) ไปเพื่อไปพิสูจน์กันว่า จริงหรือ ไม่ เหตที่นำสองรูปนี้ไปเพื่อให้เป็นพยาน เวลาท่านไปหา ท่านกล่าว ทั้งสามรูปไม่มีใครรู้จักสถานที่นี้กันเลย แต่ ก็มีเหตุนำทางให้สะดวก มีการคิดว่าจะลงตรงไหนกัน เนื่องด้วยเดินทางถึงที่นั่น เป็นเวลา ตี 4  ผู้ติดตามก็เลยบอกให้พระอาจารย์ ตัดสินใจเอาเอง ท่านจึงลงก่อนที่หมาย ที่ตั้งใจไว้ ห่างกันประมาณ 30 กม. จากที่คิดว่าจะลงจริง

    พอทั้งสามรูป ลงรถไปแล้ว เนื่องด้วยเป็นเวลาตี สึ่ จึงไม่สามารถจะหาทิศทางไปที่ไหน ท่านจึงเดินเข้าไป บ้านงานศพ ที่อยู่ใกล้ เพื่อสอบถามญาติโยมแถวนั้น สุดท้าย ก็มีญาตโยมในงานศพ อาสาพาท่านไปที่วัดที่ท่านบอก ว่าใช่หรือไม่ เพราะหลายคนก็ไม่แน่ใจ จากสถานที่ลงไปที่วัดห่างกัน 15 กม. โยมที่ไปส่งนำรถเก๋งไปส่งถึงที่วัด เวลา ตี 5 ท่านเล่าให้ฟังว่า วัดเงียบกริ๊บเพราะไปถึง พระท่านก็ยังไม่ตื่น ต้องรอ 6 โมงเช้า จึงเดินออกไปถามญาติโยม แถวนั้นก็ทราบว่าใช่ แต่พระอาจารย์ วิรัช ย้ายไปอยู่วัดสุวรรณประสิทธิ์ ( ตามป้าย ) ท่านจึงคิดว่าจะเดินไปหา พระอาจารย์วิรัชที่นั่น ญาตโยม พอทราบกันก็สงสารท่าน เพราะวัดสุวรรณประสิทธิ์ ห่างจากวัดลุ่ม อีก 15 กม. จึงมีคนอาสาเอารถไปส่งท่าน เป็นที่สะดวก ด้วยบารมี

    เมื่อไปถึงท่านจึงได้เจอพระอาจารย์วิรัช ทั้งสองรูป ต่างก็ดีใจเพราะจากกันมาร่วม 20 กว่าปี ไม่เคยติดต่อกัน ด้วยความที่พระอาจารย์ วิรัช ต้องการลองกรรมฐาน พระอาจารย์ก็เลยบอกให้พระอาจารย์ ไปพักที่ สนส. คุ้งตะเคียน วังมัจฉา ที่พระอาจารย์ วิรัช ท่านไปขุดคลองเลี้ยงปลาที่นั่น ทราบ สนส. กับวัด ห่างกันถึง 25 กม. นับว่าไกลเพราะอยู่เกือบติดชายแดนพม่า ตามแผนที่สามารถเดินไปพม่าได้ ที่นั่นเป็นสวนยางพารา เป็นส่วนใหญ่ และสวนปาล์ม

     พระอาจารย์ ได้ทดสอบพระอาจารย์ เป็นเวลา สี่วัด พระอาจารย์ ท่านก็นำพระติดตามไปปฏิบัติ ธรรมกรรมฐาน พักผ่อนกันตามอัธยาศัยที่นั่น โดยมีพระลูกศิษย์ พระอาจารย์วิรัช เฝ้าสังเกตการณ์ คอยดู พฤติกรรม ว่า พระสามรูป อยู่กันสี่วันทำอะไร

     พอครบวันที่ สี่ พระอาจารย์ วิรัชก็มาเยี่ยมและก็สั่งว่า หากพระอาจารย์ต้องการกลับวันไหน ก็ให้ พระทั้งสองรูป บอกลูกหลายแถวนั้นให้เอารถไปส่งในจังหวัด ชุมพร ด้วย ซึ่งห่างอีก 68 กม.

     นับว่าเป็นการค้นพบพระอาจารย์วิรัช ด้วยการนั่งกรรมฐาน อธิษฐานภาพนิมิต คือ ปฏิภาคนิมิต ขึ้นที่หน้าผาก ผมก็พึ่งทราบวิธีการนี้ ครับ ใช้ได้ดีครับ ถึงแม้จะยังไม่เก่ง นะครับ

      ส่วนอีกรูปหนึ่ง คือ พระอาจารย์ถวิล นั้นท่านก็ได้ภาพ อยู่ที่ อุบลราชธานี ทั้่งชื่อวัด แต่ท่านไม่ได้ไป เนื่องด้วยท่านได้ นายอำเภอที่เมืองสุรินทร์ ไปสอบถามมาให้แล้ว พร้อมทั้งนำเบอร์โทรกลับมาให้ด้วย ท่านจึงไม่กระวีกระวาดไปหาเนื่องด้วย มีคนไปหาให้แล้วนั่นเอง

     ผมฟังในรายการนะครับ ผิดถูกอย่างไร ขออภัยพระอาจารย์ ตรงนี้ด้วยครับ

   

อนุโมทนา สาธุ ครับ อยากให้พระอาจารย์ แจกธรรมอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ครับ และ เมื่อบทความมีมากแล้วพอทำเป็นหนังสือ แจกจ่าย ก็จะดีครับ อยากเสนอให้ทำเป็นไฟล์ PDF แจกเป็น Ebook เปิดใน Tablet ได้นะครับ

 ขอบคุณมากครับ หากพระอาจารย์ และทีมงาน จะพิจารณา ข้อเสนอแนะนี้ไว้ครับ

 

คำกล่าว สั้น ในกระทู้นี้ ทำให้นึกถึง ภูมิปัญญา ของพระอาจารย์ อย่างกระจ่าง ถึงแม้หัวข้อนี้ มีหลักธรรมบางส่วนที่ได้ถูกลบไปหลายช่วง เนื่องจากพระอาจารย์ให้เหตุผลว่า ควรปิดไว้เฉพาะศิษย์ที่สืบทอดเท่านั้น ก็เป็นที่น่าเสียดาย ผมได้อ่านศึกษา ตามแล้ว จึงทราบว่า ความรู้ที่ผมมีตอนนี้ในเรื่องนี้ เหมือน หางอึ่งมากจริง ๆ ครับ

   แต่เรื่องนี้ถ้าจำไม่ผิดเคยฟังเสียงบรรยาย ไปครั้งหนึ่งแล้ว วันนั้นผมฟังแล้วปลีัืมปีติมากครับ เพราะเป็นเรื่องราวที่พระอาจารย์ บรรยายเรื่อง มหาบุรุษ พุทโธ ผู้ยิ่งใหญ่ ฟังแล้วขนลุก น้ำตาไหล เลยครับ วันนั้น ไม่ทราบไฟล์นี้ผมอยากขอไว้ฟังอีกได้หรือไม่ครับ เพราะพระอาจารย์ บรรยายเรื่อง พุทธวงศ์ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันได้ไพเราะมาก จริง ๆครับ ในวันนั้น

   

วันนี้ที่โรงเรียน เข้ากันไม่ได้ ทั้งหมด ครับ

 เป็นเช่นเดียวกัน ครับ

 คิดว่า ขณะนี้ น่าจะปกติ แล้ว เห็นประกาศใน Facebook
 

ขึ้นกรรมฐานใหญ่ ผ่านไป พี่น้องเราก็เพิ่มขึ้นแต่ไม่มาก นัก เหตุเพราะวันงานตรงกับวันสาร์ทจีน เสียนี่ ทำให้เพื่อน ๆ ที่แนะนำหลายท่านไม่ได้ไป เพราะไปไหว้บรรพบุรุษกัน

 

ช่วงนี้พระอาจารย์ อาจจะพิมพ์น้อย แต่ ไฟล์เสียง มากขึ้นนะครับ พี่น้อง สามารถเปิดรับฟัง ได้ตลอดรายการ ผมว่า ลองฟังกันบ้างก็ดีนะครับ

 

 

 

  ทางทีมงาน ประกาศ แก้ไข ทั้งเฟค และ เว็บ อย่างรวดเร็ว แสดงว่าใส่ใจ ในงานนี้จริง ๆ

 

ทราบว่าพระอาจารย์ จะสอน วิธีการเจริญภาวนา เมตตาอัปปมัญญาทิศผรณา ในช่วง 10.00 น. ผมมาเตรียมฟังแล้วครับ อย่างน้อยตอนนี้ได้ฟัง เรื่อง อุปสมานุสสติ ครั้งแรก

  ชอบใจครับ เพราะว่า ตั้งแต่ต้นพรรษามา เปิดเข้ามา ก็สามารถรับฟังเสียงพระอาจารย์ได้ทุกครั้ง ไม่เหมือนเมื่อก่อน ต้องลุ้นว่า จะได้ฟังใคร อยากให้ ทีมงาน มัชฌิมา สระบุรี พิจารณาเปิดอย่างนี้เรื่อยไป ครับ ผมว่า ดีกว่าเปิดอาจารย์ องค์ อื่น ๆ นะครับ

    ทีมงาน ทุกท่านครับ

 

ทุกวันนี้ คนเราเชื่อในสิ่งที่เห็น แต่ไม่เชื่อในส่ิงที่เป็นจริง ครับ

 โซเชียล เป็นเพียงสื่อเหมือน ภาษา อยู่ที่ผู้เจรจา จะทำอย่างไร ให้อีกคนนั้นเชื่อตาม ได้

   

ผมคิดว่า ถ้าเราไม่ใช่ ลูกบุญธรรม ลูกนอกคอก ลูกนอกสมรส ลูกติดท้องแม่ มาก่อนแต่ง เหล่านี้ ผมเชื่อว่า พ่อแม่ ทุกคน ก็น่าจะรักลูกเช่นกัน

  ยกเว้น พ่อแม่ ที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ คือ ประกอบบอาชีพทุจริต พวกนี้ไม่ค่อยรักลูกตัวเอง หรอกครับ เท่าที่เจอส่วนมากถ้าลูกไม่เป็นโจร ตาม ก็ต้องแยกทางจากพ่อแม่ ประเภทนี้

  ในภาคเหนือ พ่อแม่ ประเภทนี้มีมากนะครับ เพราะผมเห็นประจำ คนชาวนา ชาวเขา ชาวไร่ ยากจน ขายลูกสาวไปเป็นผู้หญิงหากิน ในเมืองหลวง นั้น ในราคา 4000 - 15000 บาท มีจำนวนมากครับ ขายขาด บางครั้งก็อดจะสงสารไม่ได้ เคยพาคณะตำรวจไปช่วย ลูกศิษย์ คนหนึ่ง แต่สุดท้ายช่วยได้ครั้งแรก ครั้งที่สองก็ถูกจับขายไปอีก

   น่าสงสารจริง กรรมของสัตว์โลก

   ชีวิตจริง ที่่ว่ากว่านิยาย ยังมีอีกมากในสังคมไทย ครับ

   

อย่าพึ่งตกใจ กันไป ครับ อันที่จริง จะบอกว่า PC หมดความสำคัญ หรือ ตาย นั้น เป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าตอบว่า PC อาจจะไม่เหมาะสมกับการใช้งาน ทั่วไป ของ คนทั่วไป ก็ตอบโจทย์นี้ชัดครับ ว่า PC ไม่เหมาะกับบุคคลทั่วไป

 เหตุที่บอกว่า PC ไม่จบ ก็เพราะว่า

  1.PC เป็นระบบ Server ของ บรรดา Tablet ทั้งหลาย ครับ
  2.การแก้โค๊ด ปรับปรุง โปรแกรม แล้ว Tablet ไม่ Work ผมลองแล้ว โปรแกรม ไม่ได้ ต้องพัฒนากันอีก นานกว่า 10 ปี ถึงจะทำได้
  3.โค๊ดโปรแกรมการเขียน นั้น เจาะจงไว้ที่ ระบบ CPU ขนาดใหญ่ ซึ่ง CPU ไม่ ซัพพอร์ต กับคำสั่งขนาดใหญ่ อย่างนี้ ดังนั้น จะให้ I7 ทำงานคิด เหมือน A8 teblet นั้นไม่ได้  เพราะ A8 ยังต้องพัฒนา กันอีกเป็น 10 ปี ถึงจะทำงานได้ เทียบเท่า I7 ซึ่งหมายความว่า ขนาดของ ซีพียูนั้น เป็นตัวระบุราคา Tablet ครับ
  4.อีกประการ คือ Teblet ที่มีหน่วยความจำน้อย ก็เพราะ CPU ไม่รองรับ ระบบ ที่ประมวลผลไว ผมใช้ Tablet ที่มีราคาหลักครึ่งหมื่น เปิดเว็บดูแต่ละครั้ง หงุดหงิด มาก โอกาสที่จะได้อ่านเว็บ น้อยกว่า ใช้กว่า เครื่อง PC ครับ เพราะโหลดนานมาก ในขณะที่ใช้ PC อ่านไปหลายหน้า โพสต์ไปหลายตอน แต่ Tablet ราคาเรื่อนหมื่น กับตอบสนอง ความต้องการ การใช้งานไม่ได้ เนื่อง ด้วย CPU ประมวผลช้ามาก
 
   ผมเคยนำมาเทียบ ประสิทธิภาพ ระหว่างการ Web ด้วย Tablet โดยใช้เครื่อง Cerleron 1 Gb netbook ที่ Ram 1 GB  กับ Tablet CPU A8 ที่ Ram 2 GB ผลปรากฏว่า PC กินขาดครับ ความเร็วในการโหลดเว็บ เสร็จก่อนหลาย Page ในขณะ ที่ Tablet ยังบอกต้องรอ หน้าเพจ พอเลื่อน ลง ขึ้น ก็ต้องรออีกนาน

   เห็น ชัด ๆ ว่า Tablet ปัจจุบัน ประสิทธิภาพ สู้ netbook ยังไม่ได้ ในราคาใกล้เคียงกัน  ดังนั้นถ้าต้องซื้อ Tablet ราคา 3 - 4 หมื่น แล้ว ผมว่า ผมยอมแบก Ultra book ดีกว่า ครับ


   ยังมีอีกหลายข้อ ที่ PC ยังไม่จบภายใน 10 ปีนี้ ครับ แต่คิดว่า แค่นี้ก็พอ

   ถ้าท่านไม่เชื่อ โปรดเข้าไปดูราคา PC ที่ เว็บ พันทิพกันเลยนะครับ จะเห็นว่า ราคา ไม่มีลงเท่าไหร่ ครับ อยู่กันที่  5000 -  15000 ก็นับว่าหรูแล้วนะครับ ในขณะที่ต้อง ซื้อ Tablet ในราคา 5000 - 15000 ก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการ การใช้งาน ได้เทียบเท่า PC

   
 

 ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

 ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ

 

ฟังเรื่องการฝึก กายคตาสติ แล้วตาสว่าง เลยครับ กับวิธีการภาวนา
และตอนนี้ ก็ยังได้รับฟัง เรื่อง อัปปมัญญา ยิ่งฟัง ยิ่งชอบครับ อยากให้พระอาจารย์พิจารณาเปิด ยาว ๆ เลยครับ เพราะผมทำงานไป ฟังไปได้ครับ

   

 

 

  ผมว่า ถ่ายทอดเนื้อหา ลงในเว็บไปเรื่อย ๆ ก็ดี นะครับ


 

 

  น่าติดตามมากครับ คิดว่า เป็นหนังสือ ที่น่าจะอ่านง่ายกว่า เล่มก่อนนะครับ

 

เว็บเข้าได้ยากมากครับ ตอนนี้ เปิดโหลด ช้ามาก
กังวลใจมากครับ เพราะผมเอง ก็ไม่เคยรอนานมาก กว่าจะได้เข้าสักเพจ

 วันนี้หลายรอบแล้ว นะครับ ส่วนตัวผมยังใช้ EDAGE คือ คอนเน็กด้วยมือถือ ความเร็ว 256 kb นะครับเมื่อก่อน เข้าอ่านแป๊บเดียว เดี๋ยวนี้ ต้องรอ หน้า ละ 1 นาที ขึ้น หรือ 5 นาที คือ อืดมาก จริง ๆ ครับ

 อยากให้ช่วยปรับปรุง ครับ เพราะเพื่อน ๆ หลายท่าน ก็บ่นกันอย่างนี้ จึงไม่ได้ มีโพสต์เพิ่มเิติมอย่างเมื่อก่อน ครับ

ขอให้ทีมงานพิจารณาด้วยนะครับ

 

 

  พระอาจารย์ยังมีธรรม แจก ทุกวันนะครับ

 

 

    ได้เห็นภาพแล้วก็รู้สึกปลื้มใจ ในน้ำใจ ศิษย์พี่ ศิษย์น้องทุกท่าน ขอรับ