(๒๕) เทพบุตรและเทพกัญญา ต่างก็เลื่อมใส
มีใจยินดี พากันบูชาพระผู้องอาจกว่านรชน ด้วยดอกไม้ ๕ สี
(๒๖) เทวดาทั้งหลาย ได้เห็นพระศาสดาพระองค์นั้น
ต่างก็เลื่อมใส มีใจยินดี
พากันบูชาพระองค์ผู้องอาจกว่านรชน
ด้วยดอกไม้ ๕ สี แล้วเปล่งเสียงว่า
[๒๗] "โอ น่าอัศจรรย์ ขนพองสยองเกล้า (ปีติทั้ง 5 ย่อมเกิด)
ไม่เคยปรากฏในโลก ความอัศจรรย์
ขนพองสยองเกล้าเช่นนี้ ไม่เคยปรากฏ’
บรรดาเทพ เทวดา ทั้งหลาย ครั้นเห็นพระพุทธเจ้า เดินจงกรม ณ รัตนจงกรม อันเนรมิตด้วย พุทธพลัง แห่งพระสัพพัญญู ต่างนำออกมาอันเป็นทิพย์ อันมี ดอก มณฑารพ ปทุม และ ดอกปาริฉัตตกะ ส่วนเทวดา ที่ไม่สามารถนำดอกไม้ทั้งสามมาได้ จึงได้นำดอกไม้ 5 สี มาบูชา พระชินสีห์ ด้วยผลแห่งการบูชา ความปีิิติได้เกิดขึ้นแก่ท่านทั้งหลาย ด้วยอำนาจแห่งปีติ ทั้ง 5 ซึ่งมีรัศมี ( สี ) ทั้ง 5 ประการ ท่านทั้งหลายด้วยความตื้นตัน จึงกล่าววาจา โอ น่าอัศจรรย์ ขนพองสยองเกล้า ไม่เคยปรากฏในโลก นั่นเอง
ท่านทั้งหลาย การบูชาพระกรรมฐาน นิยมจัดตั้ง ถาดขันธ์ 5 ยึดถือตามนัยการบูชาพระพุทธเจ้า เพื่อเข้าถึงคุณธรรมอย่างน้อยขั้นต้น ก็คือ พระปีติด้วยแห่งพุทธะ ไม่ใช่ปีติ ทั่วไปอย่างในกองกรรมฐาน อื่น ๆ เพราะปีติในกองกรรมฐาน พุทธานุสสติ นั้น มีรัศมี และ ลักษณะ อันเป็นฉันทลักษณ์ คุณวิเศษในกองกรรมฐานนี้ด้วยอำนาจ พุทธพลัง ที่มีสืบมาแต่กาลนั้น ดังนั้น ปีติในกองกรรมฐานพุทธานุสสติ นี้ จึงเรียกปีติ ทุกองค์ นั้นเป็นกองกำเนิด ตามธาตุ มีลักษณะ นำก่อน มีรัศมี เป็นประการสอง ติดอยู่พร้อมสององค์ ประจำธาตุ ประจำฐาน แตกต่างจากปีิติในกองกรรมฐาน อื่น ๆ
อันว่า ถาดขันธ์ 5 ในครั้งครูปฐมอาจารย์ ไม่ธูป แต่ มีเทียน มีเครื่องหอม และดอกไม้ 5 สี ครั้นกรรมฐานรุ่งเริองมายัง แดนสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นเมืองแห่งกสิกรรรม จึงได้เพิ่มธูป เพิ่มข้าวตอก มาตั้งแต่นั้น ดังนั้น ถาดกรรมฐานขึ้นครู เป็นอามิสบูชา ประกอบ ด้วย ธูป ห้า ดอก เทียน 5 เล่ม ดอกไม้ 5 ชุด ข้าวตอก 5 กระทง รวมแต่งไว้ในถาดเดียวกัน บางครั้งจัดมาเป็นถาดกลม ถาดเหลี่ยม หรือ ถาดกระทงใบตอง พร้อมบายศรี ทั้งหมดนี้ก็เพียงส่วนหนึ่ง ที่บรรดาศิษย์ทั้งหลาย แสดงการเปิด ศรัทธา เพื่อที่จะตั้งใจมอบตัวถวายชีวิต แด่พระรัตนตรัย และกรรมฐาน กับครูผู้บอกกรรมฐาน เป็นบุญ เป็นบุญ เป็นบุญ เป็นกุศล เป็นศรัทธา เป็นพลัง เพื่อเข้าถึง พุทธพลัง แห่ง พระสัมมาอรหัง ผู้ประเสริฐ กว่านรชน
จงเปิด ศรัทธา ของท่าน บูชาตรงต่อ พระรัตนตรัย พระกรรมฐาน และ ครูผู้บอกกรรมฐาน เถิด เพราะประตูแห่ง อมตธรรม นั้นมิไดปิดแก่ผู้มี ศรัทธา
เจริญธรรม / เจริญพร