ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ต่อโลง..เตรียมตัวตายมุม 'พระที่เข้าใจโลกธรรม'  (อ่าน 3015 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ต่อโลง..เตรียมตัวตายมุม 'พระที่เข้าใจโลกธรรม'
ต่อโลงเตรียมตัวตายในมุมของ..."พระที่เข้าใจโลกธรรม" : เรื่อง / ภาพ โดยไตรเทพ ไกรงู

      "ตะกรุดคอหมา-เสือปืนแตก” ถือว่าเป็นวัตถุมงคลที่ขึ้นชื่อของพระครูปิยนนทคุณ หรือ หลวงปู่แย้ม ปิยวณฺโณ เจ้าอาวาสวัดตะเคียน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๕๙ ตรงกับวันพฤหัสบดีขึ้น ค่ำ เดือน ๖ ปีมะโรง ปัจจุบัน อายุได้ ๙๘ ปี วัตถุมงคลที่ขึ้นชื่อของท่าน คือ "ตะกรุดคอหมา-เสือปืนแตก”
 
       ด้วยวัยอันล่วงเลยและสังขารอันร่วงโรย พระครูสมุห์สงบ กิตติญาโณ หรือหลวงพี่สงบ พระเลขาหลวงปู่แย้ม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดตะเคียน จึงนำหลวงปู่แย้มรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ์ ทั้งนี้ เริ่มป่วยและเข้าออกโรงพยาบาลมาตั้งแต่ปลาย พ.ศ.๒๕๔๙ ท่านอายุมากแล้วต้องให้หมอดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะภูมิต้านทานโรคของท่านน้อยมาก ต้องป้องการการติดเชื้อทุกชนิด ท่านยังพูดได้และสื่อสารกับคนที่ไปเยี่ยมได้อยู่ โดยรวมแล้วสุขภาพของท่านเป็นไปตามสภาพอายุ
 
       อย่างไรก็ตามมีอยู่ช่วงหนึ่งที่หลวงปู่ไม่สบายหนัก คณะศิษย์และญาติต่างคิดและหาทุกวิถีทางเพื่อให้หลวงปู่หายป่วย บ้างก็เลือกทำบุญต่อชีวิต ปล่อยสัตว์ใหญ่ถวายหลวงปู่ รวมทั้งต่อโลงศพถวายหลวงปู่ โดยได้ไปปรึกษากัญญาติของท่าน ต่างก็เห็นดีด้วยเพราะเมื่อถึงเวลาที่หลวงปู่มรณภาพจริงๆ สามารถนำมาใช้ได้ทันที เพราะอย่างไรเสียหลวงปู่ก็ต้องได้ใช้
 
       "การทำโลงเตรียมไว้ให้หลวงปู่มุมหนึ่งอาจมองได้ว่าเป็นการแช่ง อาจจะทำให้อายุของท่านสั้นลงจริงๆ แต่อาตมาเป็นพระต้องคิดไว้ล่วงหน้าบ้าง ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อต่อโลงให้หลวงปู่แล้ว อาการของท่านดีขึ้นตามลำดับ ถึงขนาดที่ว่าท่านกลับมาจำวัดได้" หลวงพ่อสงบกล่าว พร้อมกับบอกด้วยว่า
 
       สิ่งมีชีวิตมั้งหลายในโลกไม่อาจหลีกพ้นความตาย แต่กลับมีผู้คนมากมายพยายามสรรหาวิธีการ "ต่ออายุไข" เพียงเพื่อให้ชีวิตพ้นจากความตายมานับแต่สมัยโบราณกาล ไม่ว่าจะเป็น การปล่อยปลา-ปล่อยเต่า, บูชาราหู, ลอดสัตว์มงคล หรือสิ่งมงคลต่างๆ นอนโลงศพ ฯลฯ พิธีกรรมต่างๆ เหล่านี้หลายคนเชื่อว่าสามารถ "แก้กรรม" ต่อชีวิตให้ยืนยาวได้

 



      ในส่วนของพิธีกรรมการนอนโลงศพสะเดาะเคราะห์ของวัดตะเคียน จะใช้เวลาแต่ละครั้งประมาณ ๕ นาที โดยพระสงฆ์ที่นิมนต์มาจำนวน ๔ รูป จะสวดบังสุกุลตายให้ผู้ที่นอนในโลงศพ จะหันหัวไปทิศตะวันตก และกลับหัวมาทิศตะวันออก พระจะสวดบังสุกุลเป็น พร้อมให้ศีล ให้พร ทั้งนี้ ทางวัดได้นำโลงศพใบเก่าไปทำพิธีฌาปนกิจตามประเพณี เพื่อให้สิ่งชั่วร้าย และสิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง ให้มอดไหม้ไปกับกองไฟ จากนั้นเปลี่ยนโลงศพใบใหม่มาใช้ทำพิธีให้ญาติโยมตลอดปี
 
      ทั้งนี้ หลวงพี่สงบ พูดไว้อย่างน่าคิดว่า "การนอนที่วัดตะเคียนจัดขึ้นนี้ หลายคนบอกว่า ทำพิธีไปแล้วชีวิตดีขึ้นอย่างประหลาด และประสบโชคดี มีชัยกันทั่วหน้าด้วย รวมทั้งมีคนจำนวนไม่น้อยที่เชื่อว่าการนอนโลงสะเดาะเคราะห์ เป็นการแก้เคล็ดต่ออายุ และช่วยให้พ้นเคราะห์ได้

      พิธีกรรมการนอนโลงดูผิวเผินอาจจะเป็นเรื่องของการสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา คติธรรมที่แฝงอยู่ในพิธีนอนโลง คือ เปรียบเสมือนการฝึกตายก่อนตายจริง เป็นการเตือนสติให้ระลึกว่าในที่สุดแล้วทุกคนก็หนีไม่พ้นความตาย จะจนติดดิน หรือรวยล้นฟ้าทุกคนต้องตายแน่ๆ การนึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก ถึงจะเรียกว่าคนมีสติ และสตินี่แหละเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการดำเนินชีวิต"
 
       สำหรับการเรียนรู้เพื่อเตรียมตัวตายนั้น หลวงพี่สงบ บอกว่า การได้ไปร่วมงานศพนั้นถือว่าเราเรียนรู้เรื่องความตายในเบื้องต้น ภาพของเจ้าภาพและญาติพี่น้องร้องไห้เสียใจกับการจากไป รวมทั้งการทำพิธีกรรมต่างๆ ไม่วันไหนวันใดจะช้าหรือเร็วเราต้องไปยืนอยู่จุดนั้นด้วยกันทั้งสิ้น แต่คนมักไม่สนใจเพราะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว ซึ่งแท้ที่จริงแล้วความตายกับการมีชีวิตอยู่เกือบจะเป็นเส้นเดียวกัน
 
       "การเรียนรู้เกี่ยวกับความตาย ทำให้เราปรับทัศนคติในการใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ฝึกฝนจิตให้ตั้งมั่นในความตระหนักรู้อยู่เสมอทุกลมหายใจ หากเราสามารถทำความเข้าใจและน้อมใจยอมรับความตายอย่างกล้าหาญ ว่าเป็นความจริงของชีวิต พร้อมกับการสร้างบรรยากาศของความสงบและปล่อยวางจากภาระที่คั่งค้างใจ เพื่อให้ความตายที่จะมาถึงไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอีกต่อไป แต่กลับเป็นโอกาสทองในการพัฒนาทางจิตวิญญาณให้คลายความยึดมั่นทั้งปวง และแน่วแน่สู่ความแจ่มชัดในธรรมะขั้นสูงต่อไป" หลวงพี่สงบกล่าวทิ้งท้าย


 


การเตรียมตัวของ"หลวงพ่อสะอาด"
 
      พระครูนิวิฐมณีวงศ์ หรือ หลวงพ่อสะอาด วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์ ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อกัน สายวิชาหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ไม่ว่างานพุทธาภิเษกที่ไหน แทบทุกครั้ง ต้องมีชื่อหลวงพ่อสะอาดตลอด วัตถุมงคลของท่าน ที่นิยมเช่าหาบูชากัน อาทิ มีดหมอ พระผงหลวงพ่ออู่ทอง ที่ท่านจัดสร้างขึ้น ตั่งแต่ พ.ศ.๒๕๐๙  เป็นรุ่นเดียว ที่มีผงพุทธคุณส่วนผสม ผงพุทธคุณของหลวงพ่อเดิม ผงพุทธคุณของหลวงพ่อกัน และผงพุทธคุณของพระเกจิอาจารย์อีกหลาย
 

      หลวงพ่อสะอาด ได้นำคณะศิษย์ร่วมสร้างอาคารผู้ป่วยสำหรับสงฆ์อาพาธให้กับโรงพยาบาลพยุหะคีรี พร้อมเครื่องมือแพทย์มูลค่าหลายล้านบาท บูรณะและสร้างวิหารบนเขาแก้ว สร้างพระปรางค์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าวัดพระปรางค์เหลือง เพื่อบูชาคุณครูบาอาจารย์ ตลอดจนช่วยเหลือ ประชาชนในยามทุกข์ยาก ประสบอุทกภัย อัคคีภัย และแจกทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ยากไร้เป็นประจำ
 
    แม้ว่าท่านมีสุขภาพแข็งแรงแต่ท่านก็ไม่ประมาทกับชีวิต หลวงพ่อสะอาด ความตายเป็นของคู่กันกับการมีชีวิตอยู่ จะไปกลัวมันทำไม ฉันเคยเกือบตายมาแล้ว ๓ ครั้ง จึงเตรียมพร้อมที่จะรับความตายอยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งสั่งเอาไว้ว่า หลังจากตาย สวดเสร็จก็ให้เผาเลย ฉันไม่อยากให้เก็บซากของฉันเอาไว้บูชาเหมือนวัดอื่นๆที่สำคัญยิ่งกว่าความตาย คือ ระหว่างที่มีชีวิตอยู่เราได้สร้างบุญกุศล อะไรไว้บ้าง ก่อนที่จะหมดลมเราต้องตั้งสติให้ได้ อย่าให้สติแตก หลักง่ายๆ คือ นับลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสิ้นลม
 
    ตอนนี้ฉันซื้อโลงศพไว้แล้ว เตรียมเงินไว้ถวายพระที่จะมาสวด โดยให้ถวายองค์ละ ๓๐๐ บาท ส่วนพระมาเทศน์ให้ถวาย ๓,๐๐๐ บาท งานของฉันน่าจะใช้เงินประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ บาท ฉันสร้างวัตถุมงคลเตรียมไว้แล้วล่ะวัตถุมงคลที่ฉันเตรียมไว้ถ้าออกมาแจกทั้ง ๗ คืน คงไม่หมด เหตุที่ฉันทำเพราะไม่อยากให้คนที่อยู่ข้างหลังเดือดร้อน ถ้าใครจะทำตามฉันบ้างมันน่าจะดี



ขอบคุณภาพและบทความจาก
www.komchadluek.net/detail/20120911/139766/ต่อโลงเตรียมตัวตายมุมพระที่เข้าใจโลกธรรม.html#.UFAgjqDvolh
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

teepung

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 52
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ต่อโลง..เตรียมตัวตายมุม 'พระที่เข้าใจโลกธรรม'
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 12, 2012, 01:48:25 pm »
0
อนุโมทนา กับหลวงปู่ที่ ท่านเจริญ มรณานุสสติ อย่างเป็นแบบอย่างแก่ชนทีอยู่ การเตรียมตัวตาย กับการใช้ชีวิตอยู่เพื่อรอวันตาย แตกต่างกันตรงไหน ผู้ที่เจริญ มรณัสสติ คงจะพอทราบดีครับ
 :c017: :25:
บันทึกการเข้า
ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ต่อโลง..เตรียมตัวตายมุม 'พระที่เข้าใจโลกธรรม'
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 13, 2012, 10:54:59 am »
0
มรณานุสสติ จัดเป็นกรรมฐาน ส่วนหนึ่งผลได้ อุปจาระสมาธิ และ ไม่ประมาท มีสติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 13, 2012, 06:37:17 pm โดย RDNpromote »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

teepung

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 52
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ต่อโลง..เตรียมตัวตายมุม 'พระที่เข้าใจโลกธรรม'
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 14, 2012, 12:25:08 am »
0
ไม่ทราบ วิธีการเจริญ มรณานุสสติ มีวิธีการในการปฏิบัติอย่างไร บ้างครับ หรือต้องทำอย่าง หลวงปู่ คือ ต่อโลงไว้เตรียมอย่างนี้ครับ จึงเรียกว่า เจริญความตายเป็นอารมณ์ อย่างนี้เป็นวิธีปฏิบัติ ที่มีในกรรมฐานหรือไม่ครับ และในครั้งพุทธกาล ได้กระทำอย่างนี้หรือไม่ครับ

  ขอบคุณ ครับ ถ้าได้ความรู้จากพี่ ๆ น้อง ๆ เพื่อน ๆ ช่วยกันแนะนำนะครับ จะได้ภาวนา และใช้ได้ถูกทางครับ

   :c017: :c017:
บันทึกการเข้า
ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า