ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มงคลหมายเลข ๑ !! เผยชีวิต “เจ้าคุณนรรัตน์” เกี่ยวพันธ์กับเลข ๑ ตั้งแต่เกิด จนวัน  (อ่าน 1030 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28453
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



มงคลหมายเลข ๑ !! เผยชีวิต “เจ้าคุณนรรัตน์” เกี่ยวพันธ์กับเลข ๑ ตั้งแต่เกิด จนวันละสังขาร !! ถูกขนานนามว่า พระอริยเจ้าผู้เกิดมาเพื่อเป็นที่ ๑

อันพระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต (ธมมฺวิตกฺโกภิกขุ)หรือที่เราท่านทั้งหลายรู้จักกันเป็นอย่างดียิ่งในนามของท่าน  “เจ้าคุณนรรัตน์”แห่งวัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานครองค์นี้ ท่านเป็นอัจฉริยบุคคล ผู้หาได้ยากยิ่งในโลก ด้วยท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯนั้น ท่าน  “ถึงพร้อม”ด้วยองค์คุณอันเลิศ ประเสริฐถึงขีดสุด ด้วยลักษณะทุกสถาน อีกทั้งยังเป็นพระสงฆ์สาวกแห่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดา สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ อย่างยวดยิ่ง ยากที่จะหาใครมาเสมอเหมือนหรือแม้แต่เพียงใกล้เคียงได้

ปฏิปทาและวัตรปฏิบัติของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯนั้น มีความมั่นคงและเด็ดเดี่ยวเป็นยิ่งนัก ท่านเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนาที่เคร่งครัดต่อศีลาจารวัตรเป็นอย่างยิ่ง เป็นผู้สะอาด บริสุทธิ์ ทั้งกาย วาจา ใจ ทั้งภายใจและภายนอก ปราศจากมลทิลด่างพร้อยด้วยประการทั้งปวง เป็นพระสุปฏิปันโนผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติชอบ  และเป็นเนื้อนาบุญชั้นเลิศในโลก เป็นผู้ควรค่าแก่การเคารพนบไหว้ของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย จนเป็นที่เชื่อมั่นและยอมรับจากบรรดา  “ท่านผู้รู้”และ  “ผู้ทรงคุณ”ทั้งหลาย  อย่างสนิทใจว่า ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯองค์นี้  ท่านได้สำเร็จโลกุตรธรรมขั้นสูงสุด ถึงระดับ  “พระอรหันต์ขีณาสพ”แน่แท้แล้ว

 :96: :96: :96: :96:

เป็นการยากอย่างที่สุดแล้ว ที่จะหาพระภิกษุรูปใด ไม่ว่าจะเป็นในอดีต ปัจจุบัน  ไม่ว่าจะเป็นในพุทธจักรไทย หรือวงการสงฆ์ในนานประเทศ ที่จะประพฤติดี  ปฏิบัติชอบอย่างครบถ้วน ตามพระวินัยบัญญัติ อย่างเคร่งครัดเด็ดเดี่ยว และเสมอต้นเสมอปลายเทียบเท่ากับท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯได้

อาจที่จะกล่าวได้ว่า ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯนั้น ท่านเกิดมาเพื่อเป็น  “ที่หนึ่ง”โดยแท้ เพราะนับตั้งแต่แรกเกิดมา ท่านก็เป็นบุตรคน  “ที่หนึ่ง”คนแรก คนหัวปีของครอบครัว “จินตยานนท์” เมื่อโตขึ้นตอนจะจบชั้นมัธยม  ท่านก็สอบได้เป็น  “ที่ ๑” ของประเทศ  แม้ต่อมา เมื่อท่านเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนข้าราชการพลเรือน(จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) สาขารัฐประศาสนศาสตร์  ท่านก็จบเป็นบัณฑิตจุฬารุ่นที่ ๑  (รุ่นแรก) จบแล้วไม่จบเปล่า เพราะท่านก็ยังครองความเป็น  “อันดับหนึ่ง” ด้วยคะแนนสอบที่เป็น  “ที่หนึ่ง”ของรุ่นอีกต่างหากด้วย

 :25: :25: :25: :25:

ต่อมา เมื่อมีวาสนาได้สนองพระเดชพระคุณในล้นเกล้าฯรัชกาลที่ ๖  ด้วยผลการปฏิบัติงานดีเด่น ท่านจึงได้รับพระมหากรุณาฯแต่งตั้งเป็น  “พระยาพานทอง”คนแรกของประเทศไทยที่มีอายุน้อยที่สุด  คือได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น  “พระยานรรัตนราชมานิต” เมื่อมีอายุได้เพียง  ๒๕ ปี เมื่อปีพ.ศ.๒๔๖๕

ต่อมาอีก ๒ ปี  คือปีพ.ศ. ๒๔๖๗ ท่านก็ได้รับพระมหากรุณาฯให้เป็น  “องคมนตรี”คนแรกของประเทศไทยที่มีอายุน้อยที่สุดอีกตำแหน่งหนึ่ง เมื่อมีอายุได้เพียง ๒๗ ปีเท่านั้น และครั้นเมื่อรัชกาลที่ ๖ เสด็จสวรรคต และท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯได้อุปสมบทถวายพระราชกุศลแล้ว  แต่กิติศัพท์แห่งความเป็นยอดคนของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯก็เลื่องลือไปต้องพระเนตรพระกรรณแห่งล้นเกล้าฯรัชกาลที่ ๗  ถึงกับทรงแต่งตั้งให้ท่านเป็นองคมนตรีในพระองค์ซ้ำอีกวาระ เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๖๙ ทั้งๆที่ท่านยังครองผ้ากาสาวพัตร์อยู่เลยทีเดียว ทำให้ท่านกลายเป็น “ที่หนึ่ง”ในสองสถาน กล่าวคือ เป็น  “องคมนตรี  ๒ รัชกาล”คนแรกที่มีอายุน้อยที่สุดในประเทศไทย  และเป็น  “องคมนตรี”คนแรก ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯขณะที่ยังอยู่ใน  “สมณเพศ”อีกด้วย



และแม้เมื่อท่านได้บวชเป็นพระ  “ความเป็นที่หนึ่ง”ก็ยังหาได้ละจากองค์ท่านไม่ เพราะท่านเจ้าคุนรรัตน์ฯนั้น ก็ได้รับการยอมรับว่า เป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบและเคร่งครัดในพระธรรมวินัยเป็นเอก เป็นที่หนึ่งอย่างยากที่จะหาใครในยุคนี้หรือยุคไหนๆมาเทียบได้ ตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษา หรือคิดเป็นวัน ก็ได้กว่า ๑๕,๐๐๐  วันที่ท่านอุปสมบถเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา  ก็ปรากฏว่า ไม่มีวันใดเลยที่ท่านจะว่างเว้นการกรวดน้ำ อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตนั้น  ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯจะงดเว้นฉันภัตตาหาร ๑ วัน และนั่งกระทำสมาธิถวายพระราชกุศลตั้งแต่หัวค่ำจนรุ่งเช้ามิได้ขาดทุกปีไป อันนับเป็นยอดกตัญญูอย่างที่หนึ่ง อย่างที่ไม่เคยจะพบเห็นจากที่แห่งหนใดได้มาก่อนเลยตลอดชั่วชีวิตนี้ ที่สุด เมื่อท่านมรณภาพลง ท่านก็ยังคงเป็น”ที่หนึ่ง”อีกจนได้  ด้วยในตอนนั้น คุณละมูน มีนะนันท์เพิ่งสร้างศาลา”ละมูนนิรมิต”เสร็จพอดี  ศพของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯจึงได้เป็น”ศพที่หนึ่ง”ที่ได้นำมาบำเพ็ญกุศลที่ศาลาแห่งนี้จนได้อีกนั่นแล้ว

 st11 st11 st11

และเกี่ยวกับความเป็น”ที่หนึ่ง”นี้   ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯได้เคยปรารภเอาไว้เองเช่นกันว่า “โลกไม่นิยมคนแพ้  โลกชอบคนชนะ ฉะนั้น เมื่ออยู่ในโลก ต้องเป็นคนชนะ ต้องเป็นที่หนึ่ง  เหมือนนักมวย คนแพ้ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครสงสาร หรือในนิยาย คนที่เป็นพระเอกก็ต้องชนะ” และ “ชีวิตของคนเรา ถ้าทำอะไรให้เป็นที่หนึ่งแล้ว มักจะต้องดีเสมอ  เมื่อจะทำการงานหรือทำสิ่งใด ก็ต้องทำใจให้เป็นหนึ่ง มุ่งอยู่ในงานนั้นจนสำเร็จ  แม้การทำสมาธิ  ก็คือการทำใจให้เป็นหนึ่ง คือเป็นเอกัคคตานั่นเอง”

โดยเลข ๑ ในมีความหมายในทางพุทธศาสนา คือ "จิตนิพพาน"ของลูก ที่ไม่ยึดติดทั้ง ๓ โลก จิตของลูก ก็เป็นอิสระเสรีภาพ ไม่ต้องเป็นทาสของกิเลส-ตัณหา-อวิชชา พ้นเวียนว่ายตายเกิด



อ้างอิงข้อมูลจาก - www.phuttawong.net , th.wikipedia.org
เรียบเรียงโดยปิยะนัย เกตุทอง : สำนักข่าวทีนิวส์
http://www.tnews.co.th/contents/350345
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เจ้าคุณนร

เคยให้ลูกศิษย์

ไปเกี่ยวหญ้ามาให้ฉัน

ทดลองอยู่จนเป็นที่พอใจ

จึงรู้ว่ากินได้เหมือนควาย

ไม่ตาย

..........

ท่านเป็นมะเร็งกรามช้าง

ยาแก้ปวดแม้เพียงครึ่งเม็ด

ก็ไม่กินครับ

ใช้ตบะขันติ

........เอาโครงกระดูกทั้งร่างจากโรงพยาบาล

มาติดข้างฝา

นั่งกรรมฐานพิจาราณา


หัวกระโหลกผีลอยเต็มห้องเลย

หัวใหญ่เท่าห้องตาแดง
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา