ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่ถูกหวยแค่นี้ ต้องยิงด้วยรึ.? เมื่อ"หลวงปู่ฝั้น" เอ่ยกับชายผู้หนึ่ง  (อ่าน 1465 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ไม่ถูกหวยแค่นี้ ต้องยิงด้วยรึ.. เมื่อ "หลวงปู่ฝั้น" เอ่ยกับชายผู้หนึ่ง ได้ขอหวยแล้วไม่ถูก โมโหถอดเหรียญยิง..แต่ไม่ออก ตกใจรีบขอขมา..


หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร สกลนคร

มีเรื่องเล่ากันว่ามีชายคนหนึ่งห้อยเหรียญหลวงปู่ฝั้น วันหนึ่งก่อนหวยออกจึงเอาเหรียญมาขออธิษฐานให้ถูกหวย พอถึงวันหวยออก ปรากฏว่าไม่ถูกหวย โดนเจ้ามือกินเรียบ ด้วยความที่ไม่สมหวังเลยพาลโกรธ ถอดเหรียญออกจากคอแล้ววางบนตอไม้ แล้วชักปืนยิงทันที ปรากฏว่ายิงไม่ออก จึงรีบหยิบเหรียญขึ้นมาขอขมามือสั่น แล้วนำเอามาห้อยคอตามเดิม หลายวันต่อมาได้ไปกราบหลวงปู่ฝั้นที่วัด พอเห็นหลวงปู่ฝั้น ท่านก็ยิ้มๆ แล้วกล่าวทักขึ้นว่า

"ไม่ถูกหวยแค่นี้ ต้องยิงด้วยรึ.?"



หลวงปู่ฝั้น


ประวัติ
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๙ ปีกุน ตรงกับวันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๒ ที่บ้านม่วงไข่ ตำบลพรรณา อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร เป็นบุตรคนที่๕ ของเจ้าไชยกุมาร (เม้า) ในตระกูล "สุวรรณรงค์" อดีตเจ้าเมือง พรรณานิคม มารดาของท่านชื่อ นางนุ้ย พระอาจารย์ฝั้น ครั้งวัยเยาว์ มีความประพฤติเรียบร้อย นิสัยโอบอ้อมอารี ขยันหมั่นเพียร อดทนต่ออุปสรรค ช่วยเหลือกิจการงานของบิดา มารดา โดยไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก

การศึกษา
ท่านเข้าศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนวัดโพธิ์ชัย บ้านม่วงไข่ และเข้าไปศึกษาต่อกับพี่เขยที่เป็นปลัดขวา ที่อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ช่วงนั้นทีแรกท่านอยากรับราชการ แต่ต่อมาได้เห็นความเป็นอนิจจังของผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ จึงได้เปลี่ยนความตั้งใจ และได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดโพนทอง บ้านบะทอง ซึ่งเป็นวัดมหานิกาย ต่อจากนั้นใน พ.ศ. ๒๔๖๓ จึงได้ถวายตัวเป็นศิษย์ของ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และได้ขอญัตติเป็นธรรมยุตินิกาย เมื่อวันที่๒๑ พ.ค. ๒๔๖๘ ที่วัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์

อุปสมบท
ครั้น อายุได้ ๒๐ ปี ท่านได้อุปสมบท เป็นพระภิกษุ ณ วัดสิทธิบังคม ตำบลไร่ อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร โดยมีพระครูป้อง เป็นอุปัชฌาย์ และเป็นผู้สอน การเจริญกรรมฐาน ตลอดพรรษาแรก ออกพรรษาแล้ว ท่านกลับมาพำนัก ที่วัดโพนทอง ซึ่งมีพระครูสกลสมณกิจ เป็นเจ้าอาวาส และวิปัสสนาจารย์ นำพระภิกษุฝั้น อาจาโร ออกธุดงค์และเจริญภาวนา ในช่วงชีวิตบรรพชิตของหลวงปู่ ท่านได้ธุดงค์ยังสถานที่ต่างๆ เพื่อเผยแผ่พระธรรม คำสอน จนกระทั่งเป็นที่นับถือศรัทธาของญาติโยมจำนวนมาก และได้รับการได้รับการยกย่องเป็น "อริยสงฆ์" องค์หนึ่ง ท่านมีศิษย์ที่เป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหลายรูป เช่น หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ, สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร) เป็นต้น




มรณภาพ
๔ ม.ค. ๒๕๒๐ ณ วัดป่าอุดมสมพร ซึ่งถือเป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญของท่าน สิริรวมอายุได้ ๗๘ปี ๕๘ พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เสด็จฯ ไปทรงสรงน้ำศพ พระราชทานหีบทองประกอบศพ จนถึงวันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้เสด็จพระราชทานเพลิงศพเป็นการส่วนพระองค์ ในบริเวณที่พระราชทานเพลิงศพของพระอาจารย์ฝั้นได้มีการสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร สูง ๒๗.๙ เมตร ลักษณะเป็นเจดีย์ปลายแหลม ฐานกลม ขึ้นรูปด้วยกลีบบัวหุ้มฐานสามชั้น แต่ละกลีบบัวตกแต่งด้วยกระเบื้องเป็นรูปพระอาจารย์ต่างๆ ภายในเจดีย์มีรูปปั้นพระอาจารย์ฝั้นถือไม้เท้าขนาดเท่าองค์จริง มีตู้กระจกบรรจุเครื่องอัฐบริขารของท่าน




ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของรูป และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้
ที่มา : เฟซบุ้คคาถาครูพักลักจำ
Cr.SaRaN WiKi วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เพื่อเผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์
เรียบเรียงโดยศักดิ์ศรี บุญรังศรี : สำนักข่าวทีนิวส์
http://www.tnews.co.th/contents/350441
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 25, 2017, 09:27:31 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 like1ขออนุโมทนาสาธุ ครับ

เมื่อหลวงปู่ฝั้น จิตหลุด

ท่านบอกว่าเหมือนตกใต้ถุน

และลอยกลับขึ้นมา

ตกใจจึงลืมตาขึ้นดู หลังจิตหลุดเห็นพระอาจารย์มั่น

มองมาตาเขม็ง


........

ก่อนคืนที่จะบรรลุ

ท่านมากราบพระอาจารย์มั่น


พระอาจารย์มั่น  กล่าวกับ หลวงพ่อฝั้น

ว่าให้พักที่เดียวกับท่านคือที่นี่

และบอกแต่ว่าพักที่นี่ดีแน่นอน

หลวงพ่อฝั้น ไม่กล้าพักกับครูบาอาจารย์

จึงขอบริเวณราวป่า

เพราะไม่กล้าเทียบครูอยู่กับครู

เดี๋ยวจะเป็นมานะ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา