ปรากฏการณ์อัศจรรย์.!! พระจีนอายุ ๑๐๖ ปี หลังปลงสังขาร เถ้ากระดูก กลายเป็นพระธาตุ หลากสีสัน ทำเอาเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจยืนตะลึง บุญตาจริงๆ
เรื่องราวของ "พระธาตุ" นับเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่งที่ชาวพุทธ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเมื่อพระศาสดา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จสู่ปรินิพานไปแล้วนั้น พระอัฐิของท่านได้กลายเป็น "พระธาตุ" อย่างน่าอัศจรรย์ราวกับว่า ท่านได้มอบสิ่งนี้ไว้ให้แก่สาธุชนผู้ศรัทธาได้เคารพเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งนอกเหนือจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว พระเถระเจ้าหลายๆ ท่าน เมื่อละสังขาร และปลงร่างสังขารไปแล้วนั้น เถ้ากระดูกของท่านได้ปรากฎเป็นพระธาตุได้ให้เห็นเช่นกัน เรื่องราวดังกล่าวไม่ได้ปรากฎแค่ประเทศไทยเพียงประเทศเดียว หากแต่ปรากฎในประเทศที่นับถือศาสนาพุทธประเทศอื่นๆด้วย
โดยทางเพจคลังพุทธศาสนา ได้เผยแพร่ภาพ ของพระธาตุของพระเถระ จากทางประเทศจีนให้ได้ชมกัน นับเป็นบุญตาจริงๆ
" พระธาตุของพระเถระเปิ่นฮ่วน (本焕长老) แห่งนิกายฉาน สายหลินจี้ (ญี่ปุ่นเรียกว่าเซนรินไซ) รุ่นที่ ๔๔ แห่งวัดหงฝ่า มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ท่านมรณภาพเมื่อปี ๒๕๕๕ สิริรวมอายุได้ ๑๐๖ ปี หลังจากปลงร่างสังขารของท่านแล้ว ปรากฎพระธาตุหลากสีสันจำนวนมาก อันเป็นลักษณะพระธาตุของผู้ปฏิบัติธรรมฝ่ายมหายาน ซึ่งแต่โบราณมักปรากฎธาตุลักษณะสีสันเหมือนลูกปัด แก้วหลากสี หรือโลหะ ดังจะเห็นได้จากการขุดค้นสถูปโบราณในจีนและเกาหลี มักพบพระธาตุลักษณะเดียวกันนี้อยู่บ่อยครั้ง"พระเถระเปิ่นฮ่วน (本焕长老) แห่งนิกายฉาน สายหลินจี้ รุ่นที่ 44 แห่งวัดหงฝ่า
ธาตุลักษณะสีสันเหมือนลูกปัด แก้วหลากสี
หลายคนอาจสงสัยว่า พระธาตุ นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เรื่องนี้ หลวงพ่อพุธ มีคำตอบ ดังนี้..
ถาม : อัฐิของพระที่มรณภาพแล้วกลายเป็นพระธาตุขึ้นมานั้นเพราะเหตุใด?
หลวงพ่อพุธ : อัฐิของพระที่มรณภาพแล้วกลายเป็นพระธาตุขึ้นมานั้นจะต้องเป็นอัฐิของพระ อริยบุคคลตั้งแต่ขั้นพระโสดาบันขึ้นไป ทีนี้มีปัญหาว่า ทำไมกระดูกคนที่ตายไปแล้ว แม้จะเก็บไว้สักพันปีหมื่นปีก็ยังเป็นกระดูกอยู่อย่างเดิม ไม่แปรสภาพเป็นอย่างอื่น นอกจากจะผุพังไปเป็นดินเป็นหญ้าไปเท่านั้น แต่กระดูกของพระอริยบุคคลนี้ ทำไมกลายเป็นพระธาตุขึ้นมาได้ อันนี้เป็นปัญหาที่น่าสงสัย ถ้าหากเราจะไปนึกถึงหลักการปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องมหาสติปัฏฐาน กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เฉพาะกายานุปัสสนาสติปัฏฐานนี้ เราตั้งกายของเราเป็นฐานที่ตั้งของสติ เป็นฐานที่รู้ของจิต เพื่อเป็นการฝึกฝนอบรมสติให้มีประสิทธิภาพขึ้นจนกลายเป็นมหาสติ
ทีนี้ โดยทางปฏิบัติแล้ว พระผู้ที่ปฏิบัติท่านเพ่งอาการ ๓๒ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เป็นต้น เป็นเครื่องรู้ของจิต เป็นเครื่องระลึกของสติ ในเมื่อกายคืออาการ ๓๒ ถูกเพ่งบ่อยเข้า จิตเกิดมีสมาธิแล้ว ย่อมเกิดนิมิตให้เห็นในกายทั่วไป ส่วนมากสิ่งที่ปรากฏให้รู้เห็นอยู่นานที่สุดก็คือกระดูก มีโครงกระดูกเป็นต้น ในบางครั้ง ในเมื่อจิตวิ่งเข้ามาดูกายแล้วก็มาสงบสว่างในกาย จิตจะมองทะลุกายออกมา มีลักษณะดูเหมือนคล้ายๆ กับแก้วโปร่ง มีความใสเหมือนกับแก้วโปร่ง
เพราะฉะนั้น กระดูกของพระอริยบุคคลถูกจิตที่บริสุทธิ์สะอาดเพ่งเป็นวิหารธรรมอยู่บ่อยๆ ด้วยอิทธิพลของจิตนั้นจะสามารถทำให้กระดูกของท่านเมื่อท่านมรณภาพไปแล้วกลาย เป็นพระธาตุขึ้นมาได้สำหรับทฤษฎีในทางอื่นนั้นไม่สามารถที่จะนำมาประกอบกับปัญหานี้ได้ แต่ถ้าจะพิจารณาตามประสบการณ์ที่เคยผ่านมาแล้ว รู้สึกว่า จิตเมื่อเพ่งดูโครงกระดูกจะรู้สึกว่า โครงกระดูกนั้นมีความใสเหมือนแก้ว เพราะในขณะนั้นจิตสงบ สว่างแล้ว เกิดนิมิตขึ้นมาพอมองเห็นได้ ข้อเปรียบเทียบก็คือว่า ขณะที่ว่าพระอริยบุคคลที่ท่านเพ่งดูอาการ ๓๒ คือร่างกายของท่าน จนจิตเกิดเป็นสมาธิ รู้จริงเห็นจริงภายในกาย แล้วมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างมีความใสสะอาด สว่างไสวไปหมดภายในกาย
เมื่อท่านมรณภาพไปแล้ว กระดูกก็กลายเป็นพระธาตุขึ้นมาได้ อันนี้ก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่น่าสงสัยเท่าไรนัก แต่สำหรับนักเรียนมนต์ไสยศาสตร์เพียงเล็กๆ น้อยๆ เพียงแต่คาถาอาคมแล้วไปเสกน้ำมันไปทา แล้วก็เป่าในขณะที่คนขาหักแขนหัก ก็ยังมีประสิทธิภาพพอที่จะต่อกันได้ เพราะด้วยอำนาจแห่งพลังมนต์และพลังจิต
ฉะนั้น จิตของท่านผู้บำเพ็ญสมาธิภาวนานี้ ไม่ต้องกล่าวถึงเลยว่าจะมีประสิทธิภาพซึ่งสามารถทำให้กระดูกกลายเป็นพระธาตุ ขึ้นมาได้
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : คลังพระพุทธศาสนา
เรียบเรียงโดยจินต์จุฑา เจนสระคู : สำนักข่าวทีนิวส์
http://www.tnews.co.th/contents/363473