ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สองอัครสาวก ซ้าย – ขวา ผู้ทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งศรัทธาผลิดอกออกผล  (อ่าน 768 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



สองอัครสาวก ซ้าย – ขวา ผู้ทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งศรัทธาผลิดอกออกผล

หากเปรียบพระพุทธเจ้าเป็นผู้ให้กำเนิดพระพุทธศาสนาขึ้นบนพื้นพิภพ เคยมีใครสงสัยบ้างหรือไม่ว่า บุคคลที่ทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งศรัทธาผลิดอกออกผลไปทั่วทุกแห่งหนนั้นเป็นใครกัน

เมื่อกล่าวถึงพุทธสาวก นามของพระโมคคัลลานะและพระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องซ้ายและเบื้องขวา คงจะผุดขึ้นมาในความคิดแรกของหลายคน เหตุเพราะท่านทั้งสองมีคุณูปการต่อพระศาสนาอย่างมหาศาล คุณความดีของท่านจึงประทับอยู่ในใจของชาวพุทธอยู่มิเสื่อมคลาย

พระโมคคัลลานะและพระสารีบุตรผูกพันเป็นกัลยาณมิตรมาตั้งแต่อดีตชาติ ท่านทั้งสองเคยตั้งจิตปรารถนาเป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายและเบื้องขวาของพระพุทธองค์อย่างแม่นมั่น เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนผ่านไปหลายกัปกัลป์ ในที่สุดจึงถึงคราวที่ความปรารถนาของสหายรักทั้งสองปรากฏเป็นความจริง


@@@@@@

ในพุทธสมัยของพระศาสดาองค์ปัจจุบัน เด็กชายโกลิตะ (โมคคัลลานะ) และเด็กชายอุปติสสะ (สารีบุตร) คบหาเป็นเพื่อนรักเฮไหนเฮนั่นด้วยกันมาโดยตลอด แต่ใช้ชีวิตตามประสาเด็กหนุ่มเจ้าสำราญอยู่ได้ไม่นาน ทั้งคู่ก็เบื่อหน่ายชีวิตที่ไร้แก่นสารเช่นนั้น แม้จะศึกษาวิชาทางโลกจนแจ่มแจ้ง แต่ก็หาได้พบแก่นสารของชีวิตดังที่ตั้งความหวังไว้ไม่

หนทางที่คล้ายจะมืดมนกลับปรากฏแสงขึ้นมาเรืองๆ เมื่อวันหนึ่งอุปติสสะได้พบกับพระอัสสชิ หนึ่งในปัญจวัคคีย์ นำพาให้เกลอรักทั้งสองมีโอกาสฟังธรรมจากพระโอษฐ์ของพระศาสดา จากนั้นอุปติสสะและโกลิตะก็ได้ห่มจีวรอุปสมบทพร้อมกันโดยมีพระพุทธเจ้าเป็นพระอุปัชฌาย์

@@@@@@

พระโมคคัลลานะนั้นบำเพ็ญเพียรเอาชนะความง่วงงุนอยู่เพียง 7 วันก็บรรลุอรหัตผล ส่วนพระสารีบุตรได้สดับพระเทศนาที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนหลานชายของตนเกี่ยวกับความไม่จีรังของสรรพสิ่ง จิตของพระสารีบุตรก็พ้นจากกิเลสเศร้าหมองทั้งปวง บรรลุเป็นพระอรหันต์ในที่สุด

พระสารีบุตรเป็นอัครสาวกที่มีปัญญามาก ท่านเทศนาธรรมได้ลึกซึ้งไม่ต่างจากพระพุทธองค์ จนมีผู้ยกย่องว่า ปัญญาของท่านนั้นเป็นรองก็แต่พระพุทธเจ้าเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงทรงแต่งตั้งพระสารีบุตรให้เป็นอัครสาวกเบื้องขวา

นอกจากนี้พระสารีบุตรยังโดดเด่นเรื่องความกตัญญูท่านปรนนิบัติพระมหาอัสสชิ ผู้นำดวงตาแห่งธรรมมาสู่ท่านอย่างเสมอต้นเสมอปลาย


@@@@@@

ส่วนพระโมคคัลลานะนั้น พระพุทธเจ้าทรงแต่งตั้งให้ท่านเป็นอัครสาวกเบื้องซ้าย เพราะท่านเป็นเลิศกว่าผู้อื่นด้านมีฤทธิ์มาก สามารถแสดงอิทธิปาฏิหาริย์จนบรรดานักบวชนอกศาสนาประจักษ์และถวายตัวเป็นศิษย์ในพุทธศาสนา การที่พระศาสนาแผ่ขยายได้กว้างไกล ส่วนหนึ่งก็ด้วยอิทธิฤทธิ์ของอัครสาวกเบื้องซ้ายรูปนี้

แม้อัครสาวกทั้งสองจะปรินิพพานก่อนพระศาสดา แต่ในช่วงชีวิตที่พระโมคคัลลานะและพระสารีบุตรถวายตัวรับใช้พระศาสนา ทั้งสองพระองค์มีบทบาทเป็นธรรมเสนาบดีคู่ใจของพระพุทธเจ้า ผนึกกำลังหว่านโปรยเมล็ดพันธุ์แห่งพุทธศาสนาให้เติบโตอย่างกว้างขวางและมั่นคง

นามของ “พระโมคคัลลานะ” และ “พระสารีบุตร” จึงมิเคยเลือนไปจากใจของศาสนิกชนชาวพุทธ แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านพ้นมาเนิ่นนานนับพันปี


เรื่อง อิสระพร บวรเกิด เคยตีพิมพในคอลัมน์  Dhamma tales นิตยสาร Secret
http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/29759.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ