แสดงกระทู้
|
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to. |
Messages - vichai
|
หน้า: 1 [2] 3 4 5
|
48
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ยุคสมัย ที่คน หวงแหน กันมากที่สุด
|
เมื่อ: มีนาคม 08, 2013, 10:10:51 am
|
ยุคนี้ ผมว่าเป็น ยุคที่คนหวงแหน กันมากที่สุด นะครับ โดยเฉพาะ ความรู้ มักจะถูกเก็บ ไว้ ไม่ถ่ายทอด หรือ มี สงวนลิขสิทธิ์ หรือ ขึ้นลิขสิทธิ์ จนกระทั่งแม้แต่ เจ้าของจริง ๆ ก็นำมาใช้ไม่ได้ เช่น บทความธรรมะ ที่ ( พระรัตนตรัย ) เป็นเจ้าของ แต่ บรรดาพุทธบริษัท ไม่สามารถนำมาใช้งานได้ ต้องไปทำเรื่อง ไปขอผ่าน จาก ลิขสิทธิ์ จาก ผู้ที่นำมาแปรรูป
นึกไป ก็ตลกดี ครับ
เพื่อน ๆ มีความเห็นอย่างไร ครับ
|
|
|
51
|
เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / Re: การตัดสินใจ
|
เมื่อ: มีนาคม 07, 2013, 11:05:05 am
|
คุณ Pakorn ถ้ายังอ่านอยู่ ช่วยมาต่อเรื่องนี้ให้จบด้วยครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์แก่ ชนที่ยังอยู่ในโลกนี้อย่างมากนะครับ
โปรดมาต่อตอนที่ 2 ได้แล้วครับ
|
|
|
52
|
เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เชิญร่วมปฏิบัติธรรม 13-14-15 เมษายน 56และทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น.-19.00น.
|
เมื่อ: มีนาคม 05, 2013, 05:01:39 pm
|
เชิญร่วมปฏิบัติธรรม 13-14-15 เมษายน 56และทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น.- 19.00 น. ณ คณะ5 วัดราชสิทธาราม โทร.084-651-7023
ที่คณะ 5 และพระอุโบสถ วัดราชสิทธาราม (พลับ) ถนนอิสรภาพ ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ โทร.084-651-7023 กำหนดการ ปฏิบัติธรรมเดือน เมษายน 2556 วันเสาร์ที่ 13 เมษายน 2556 ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 5
เวลา 09.00 - 10.00 น. ลงทะเบียน รับทานอาหารเช้า ขึ้นกรรมฐาน นั่งกรรมฐาน เวลา 10.00 - 11.00 น. รับประทานอาหารเพล พักผ่อน เวลา 13.00 - 14.00 น. ฟังบรรยายธรรม –ตอบปัญหา เวลา 14.00 - 16.00 น. บังสุกุลให้แก่ญาติสนิทมิตรสหาย สรงน้ำพระสงฆ์ เวลา 16.00 - 17.00 น. ทำวัตรสวดมนต์ ในพระอุโบสถ อุทิศส่วนกุศล
วันอาทิตย์ ที่ 14 เมษายน ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5
เวลา 06.30 - 08.30 น. รับประทานอาหารเช้า ทำวัตรเช้าในพระอุโบสถ เวลา 09.30 - 11.00 น. นั่งกรรมฐานเดินจงกรม รับประทานอาหารเพล เวลา 13.00 – 14.00 น. ฟังธรรมบรรยาย เวลา 14.00 - 16.00 น. เจริญจิตภาวนา เดินจงกรม ทำธุระส่วนตัว เวลา 16.30 - 17.00 น. ทำวัตรเย็น ในพระอุโบสถ
วันจันทร์ที่ 15 เมษายน ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5
เวลา 06.30 - 08.30 น. ทำวัตร รับอาหารเช้า ทำวัตรเช้า เวลา 10.30 - 11.00 น. นั่งกรรมฐาน รับประทานกลางวัน พักผ่อน เวลา 13.00 – 14.00 น. ฟังธรรมบรรยาย ตอบ-ถามปัญหา เวลา 14.00 - 16.00 น. เจริญจิตภาวนา เดินจงกรม ทำธุระส่วนตัว เวลา 16.30 - 17.00 น. ทำวัตรเย็น ในพระอุโบสถ ที่มาประกาศ http://www.somdechsuk.org/node/297
|
|
|
53
|
เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ไม่ชอบ แล้วก็ไม่อยาก ร่วมด้วย จะชนะใจตนเองได้อย่างไร
|
เมื่อ: มีนาคม 01, 2013, 09:55:39 am
|
อาการ ที่ เกิด เรียกว่า อาการ ขุ่นเคือง ( ปฏิฆะ ) ถ้ามีบ่อยครั้งมาก ก็กลายเป็นความโกรธ และ ในที่สุด ก็กลายเป็น พยาบาท + ริษยา ทางที่ดี ผมว่า เปิดใจเราแล้ว อย่าทำอาการเช่นนี้ดีกว่า ครับ เหตุการณ์อย่างนี้ บางครั้งก็เกิดกับผู้ปฏิบัติธรรม ภาวนากันเป็นประจำเราท่าน มันมีอันหนึ่ง ก็คือ มานะทิฏฐิ ที่ไม่ยอม นี่แหละครับบางครั้งอาจจะทำให้เสียการใหญ่ไปเลยก็ได้นะครับ เคยได้ยินมาว่า มีบางท่าน บางคนยอมปรามาส ครูอาจารย์ เพื่อเอาชนะให้กับเพื่อนเลยครับ บางครั้งเหตุไม่ใช่ แต่เรื่องไม่ชอบ บางครั้ง หมู่ ที่ไป ก็ยังต้องอาศัยซึ่งกันและกัน ในการเป็นอยู่ นะครับจึงทำให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ วิธีการที่ดี ให้หยุด และ เปิดใจรับกัน ครับ ไม่กี่ปีเราก็ล้มหายตายจากกันไปแล้วครับ
|
|
|
60
|
เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://watpaphukon.org/# วัดป่าภูก้อน อุดรธานี
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2013, 12:00:35 pm
|
http://watpaphukon.org/# วัดป่าภูก้อน อุดรธานี วัดป่าภูก้อน ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ท้องที่บ้านนาคำ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี อันเป็นรอยต่อแผ่นดิน 3 จังหวัด คือ อุดรธานี เลย และหนองคาย กำเนิดขึ้นจากการดำริชอบของพุทธบริษัทสี่ ผู้ตระหนักถึงคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและป่าต้นน้ำลำธาร ซึ่งกำลังถูกทำลาย
โดยในปี พ.ศ. 2527 พระเดชพระคุณหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้เมตตาปรากฏในทิพยนิมิต สั่งให้ไปธุดงค์ทางภาคอีสานเป็นเวลา 10 วัน คุณปิยวรรณและคุณโอฬาร วีรวรรณ พร้อมคณะได้เดินทางมาธุดงค์แถบจังหวัดสกลนครและอุดรธานี เกิดความเลื่อมใสในปฏิปทาของพระป่า จึงได้เข้าช่วยเหลือท่านพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก สำนักสงฆ์บ้านนาคำน้อย ในการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจัดตั้งเป็นวัดป่านาคำน้อย และปลูกป่าทดแทนฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมกว่า 750 ไร่ อย่างถูกต้องตามระเบียบของกรมป่าไม้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติธรรมและอยู่อาศัยของพระสงฆ์ จากนั้นท่านพระอาจารย์อินทร์ถวายได้พาไปดูป่าภูก้อนที่กำลังถูกสัมปทานตีตราตัดไม้ คณะศรัทธาจึงได้ตัดสินใจสร้างวัด โดยกราบอาราธนาท่านพระอาจารย์ชาลี ถิรธัมโม (ปัจจุบันเป็นพระครูจิตตภาวนาญาณ) เป็นประธานและขวัญกำลังใจในการก่อสร้าง และได้ทำเรื่องขอใช้ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาตินายูง-น้ำโสม เพื่อสร้างวัดในเนื้อที่ 15 ไร่ จากกรมป่าไม้ จนได้รับอนุญาตเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2530 ต่อมาได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกรมการศาสนา จนได้รับอนุญาตให้สร้างวัดในวันที่ 3 กรกฎาคม 2530 และมีประกาศกระทรวงศึกษาธิการตั้งเป็น ‘วัดป่าภูก้อน’ ขึ้นในพระพุทธศาสนาเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2530
|
|
|
61
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / ทราบข่าวว่าพระอาจารย์ รับไปดูวัด ที่หนองคาย 72 ไร่
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2013, 11:40:48 am
|
อ่านมาจาก facebook น่าจะเป็นข่าวดี นะถ้าพระอาจารย์จะไปพัฒนาวัด เพื่อศูนย์ปฏิบัติธรรมภาคอิสาณ
ธัมมะวังโส ภิกษุ รับนิมนต์ไปดูวัด ตามคำนิมนต์ ของชาวบ้าน วัดนี้ชอบมากเรื่องสถานที่ วิเวก ต้นไม้ ธารน้ำ ประวัติและตำนาน คิดไว้ว่าจะดำเนินการปรับปรุงเป็นสวนปฏิบัติ ธรรม ภาคอิกสาณ วัดนี้อยู่ใน อำเภอโพนพิสัย ที่ชาวบ้านไปดู บั้งไฟพญานาค ที่หนองน้าข้างวัดมีบั้งไฟพญานาค ขึ้นจากนา จำนวนไม่มาก นับว่าเป็น สถานที่ ๆ ศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ และชาวบ้านก็เกรงกลัวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นี่ ดังนั้นสภาพป่า จึงไม่มีใครไปรุกล้ำ กล่าวว่า สภาพป่าที่นี่ เหมือนป่าคำชะโนด ( ยังไม่เคยไปป่าคำชะโนด ) มีการเล่าบอกว่า มีคนพลัดหลงไปในป่าคำชะโนดแล้ว มาโผล่ที่นี่ ซึ่งมีระยะทางห่างกัน เจ็ดสิบกว่ากิโลเมตร โดยส่วนตัวเห็นว่าที่นี่เหมาะสม กับการภาวนามาก และสัมผัสความวิเวก และ ความวังเวง แบบประหลาด ๆ ด้วย
มุมภาพนี้จะเห็นท้ายศาลามีต้นไม้ใหญ่ เป็นต้นตะเคียน 3 ลำ สูงมาก ใหญ่ขนาด 2 คนโอบ ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านมาบน และ ได้โชคลาภกันไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้านที่เข้ามาดูแล นี้เล่าว่า ได้โชคติดต่อ กันถึง 6 ครั้ง ปลดหนี้สินกันเลย
ดังนั้น ศิษย์ท่านใด ที่จะอาสาเข้าไปดูแล โปรดแจ้งกลับมาด้วยจะให้อยู่จำพรรษา ซึ่งตอนนี้มี ผู้อาสาปวารณาในการปรับปรุงสร้าง ถาวรวัตถุ กับอาจารย์ไว้แล้ว ด้วยทุนทรัพย์หลักล้าน มีตั้งแต่นายอำเภอ วิศวกร เศรษฐีชาวหนองคาย
|
|
|
75
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทำบุญแบบนี้ ได้ บุญ อย่างไร อยากให้ช่วยอธิบาย หน่อยครับ
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2013, 08:46:43 am
|
ทำบุญแบบนี้ ได้ บุญ อย่างไร อยากให้ช่วยอธิบาย หน่อยครับ
1.ทำบุญ กับพระที่ทุศีล ไม่ดี ได้บุญหรือ ไม่ บุญที่ได้ จัดระดับแล้วอยู่ระดับไหน ?
2.ทำบุญ กับพระที่มีศีล แต่ไม่ได้ภาวนา คืออยู่ไปวัน ๆ เรียน ทำงานศาสนา ได้บุญหรือ ไม่ บุญที่ได้ จัดระดับแล้วอยู่ระดับไหน ?
3.ทำบุญ กับพระที่ภาวนา แต่ไม่เป็นพระอริยะ ได้บุญหรือ ไม่ บุญที่ได้ จัดระดับแล้วอยู่ระดับไหน ?
4.ทำบุญ กับพระที่เป็นพระอริยะ บุคคลล ได้บุญมาน้อยประการใด 5.ทำบุญ ถวายสังฆทาน ได้บุญมากกว่า 4 ข้อที่ผ่านมาใช่หรือไม่ ?
1 ได้บุญน้อยที่สุึด 2 ได้บุญมากขึ้น 3 ได้บุญมากขึ้น 4 ได้บุญมากขึ้น 5 ได้บุญมากขึ้น แต่ระัดับบุญนั้นไม่รู้ว่าจะวัดได้อย่างไร
|
|
|
76
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ผลแห่งการมีศีล จาก นิทาน เรื่อง นี้ไม่รู้ว่า อยู่ในพระไตรปิฏกหรือไม่ ?
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2013, 08:39:16 am
|
[๒๓๑] ครั้งนั้นแล ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มีพระภาคได้ตรัส กะอนาถบิณฑิกคฤหบดีว่า ดูกรคฤหบดี ในกาลใดแล อริยสาวกสงบระงับภัย เวร ๕ ประการ และประกอบด้วย โสตาปัตติยังคะ ๑- ๔ ประการ ในกาลนั้น อริยสาวกนั้นหวังอยู่ พึงพยากรณ์ตนด้วยตนเองว่า เราเป็นผู้มีนรกสิ้นแล้ว มี กำเนิดสัตว์ดิรัจฉานสิ้นแล้ว มีเปรตวิสัยสิ้นแล้ว มีอบาย ทุคติและวินิบาตสิ้นแล้ว เราเป็นโสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า ฯ
อริยสาวกสงบระงับภัยเวร ๕ ประการเป็นไฉน ดูกรคฤหบดีบุคคลผู้ มักฆ่าสัตว์ย่อมประสบภัยเวรแม้ในปัจจุบัน แม้ในสัมปรายภพ และย่อมได้เสวย ทุกข์โทมนัสทางใจ เพราะปาณาติบาตเป็นปัจจัย อริยสาวกผู้งดเว้นจากปาณาติบาต ย่อมไม่ประสบภัยเวรแม้ในปัจจุบัน แม้ในสัมปรายภพ และไม่ได้เสวยทุกข โทมนัสทางใจ อริยสาวกผู้งดเว้นจากปาณาติบาต ย่อมสงบระงับภัยเวรนั้นด้วย ประการอย่างนี้ ดูกรคฤหบดี บุคคลผู้มักถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ให้ ฯลฯ ผู้มักประพฤติผิดในกาม ฯลฯ ผู้มักพูดเท็จ ฯลฯ ผู้มักดื่มน้ำเมาคือ สุราและ เมรัยอันเป็นฐานะแห่งความประมาท ย่อมประสบภัยเวรแม้ในปัจจุบัน แม้ใน สัมปรายภพ และย่อมเสวยทุกข์โทมนัสทางใจ เพราะดื่มน้ำเมา คือ สุราและ เมรัยอันเป็นฐานะแห่งความประมาทเป็นปัจจัย อริยสาวกผู้งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือสุราและเมรัยอันเป็นฐานะแห่งความประมาท ย่อมไม่ประสบภัยเวรแม้ใน ปัจจุบัน แม้ในสัมปรายภพ และย่อมไม่ได้เสวยทุกขโทมนัสทางใจ อริยสาวกผู้ งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นฐานะแห่งความประมาท ย่อม สงบระงับภัยเวรนั้นด้วยอาการอย่างนี้ อริยสาวกสงบระงับภัยเวร ๕ ประการนี้ ฯ
อริยสาวกเป็นผู้ประกอบด้วยโสตาปัตติยังคะ ๔ ประการเป็นไฉน ดูกร คฤหบดี อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหว @๖. องค์เป็นเครื่องบรรลุความเป็นพระโสดา ในพระพุทธเจ้าว่า แม้เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ... เป็นผู้เบิก บานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม ๑ ย่อมประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหว ในพระธรรมว่า พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคตรัสดีแล้ว ... อันวิญญูชนจะพึง รู้ได้เฉพาะตน ๑ ย่อมประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว ... เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ๑ ย่อมประกอบด้วยศีลอันพระอริยเจ้าพอใจ ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นไทย อันวิญญูชนสรรเสริญ อันตัณหาและทิฐิไม่ถูกต้อง เป็นไปเพื่อสมาธิ ๑ อริยสาวกเป็นผู้ประกอบด้วยโสตาปัตติยังคะ ๔ ประการนี้ ฯ
ดูกรคฤหบดี ในกาลใดแล อริยสาวกสงบระงับภัยเวร ๕ ประการนี้ และประกอบด้วยโสตาปัตติยังคะ ๔ ประการนี้ อริยสาวกนั้นหวังอยู่ พึง พยากรณ์ตนด้วยตนเองว่า เราเป็นผู้มีนรกสิ้นแล้ว มีกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานสิ้นแล้ว มีเปรตวิสัยสิ้นแล้ว มีอบาย มีทุคติ และวินิบาตสิ้นแล้ว เป็นโสดาบัน มีอัน ไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า ฯ ------------------------------------------------------------ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เวรสูตรที่ ๑ http://www.84000.org...3&A=8632&Z=8670
|
|
|
|