ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "สมภารส้อง" รับรู้เห็นเปิดบ่อนในวัด  (อ่าน 1230 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
"สมภารส้อง" รับรู้เห็นเปิดบ่อนในวัด
« เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2014, 10:39:52 am »
0


"สมภารส้อง" รับรู้เห็นเปิดบ่อนในวัด

รองผู้การเมืองคอน เผย ผบ.ตร.สนใจคดีบุกจับบ่อนพนันในวัด แถมถูกจับหน 2 ในรอบ 6 วัน ขณะ ผอ.สำนักพุทธฯ บุกวัดตรวจสอบพบเป็นที่พักสงฆ์โยนลูกคณะสงฆ์เชือด “สมภารส้อง” เจ้าสำนักอ้อมแอ้มยอมรับเปิดบ่อนในวัดจริงอ้างเป็นวิธีชาวบ้านหาเงินช่วยวัด ด้านเจ้าคณะตำบลระบุชัดผิดเต็มประตูเตรียมสั่งลาสิกขา

จากกรณีที่นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งกองกำลัง ฉก.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกระทรวงมหาดไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช บุกจับกุมบ่อนการพนันในศาลลาหอฉันท์ ได้ตัวผู้ต้องหา 11 ราย พร้อมของกลางจำนวนมาก โดยพระส้อง สุธรรมโม (อนงค์) เจ้าอาวาสอ้างว่าไม่รู้เห็น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 28 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น


 :96: :96: :96: :96: :96:

วันนี้ (1 พ.ย.) พ.ต.อ.ภูดิศ นรสิงห์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทาง ผบ.ตร.ได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยในการประชุมผ่านระบบ video conference ท่านได้สอบถามในเรื่องนี้และตนเป็นผู้รายงานเหตุการณ์เบื้องต้นให้ท่าน ผบ.ตร.ทราบว่ามีการจับกุมบ่อนการพนันในวัดดังกล่าวจริง ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับนายดาบสังกัด สภ.ชะอวด นายหนึ่งร่วมกับพระภิกษุระดับเจ้าอาวาสร่วมกันเปิดบ่อนการพนันดังกล่าวขึ้น ในประเด็นนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเป็นความจริงหรือไม่ โดยให้ทาง ผกก.สภ.ชะอวด ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนในเรื่องนี้และให้รายงานข้อเท็จจริงให้ทราบต่อไป

พ.ต.อ.ภูดิศ กล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงานเบื้องต้นหลังชุด ฉก.ของท่านผู้ว่าฯ เข้าจับกุมนั้น ทาง ผกก.ยืนยันว่าได้เข้มงวดกวดขันในการดูแลเรื่องการพนันในพื้นที่ตามนโยบายของ คสช.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเคร่งครัดมาตลอด และมีการจับกุมการพนันภายในวัดเดียวกันนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 22  ต.ค. 2557 ได้ผู้ต้องหาจำนวน  6 คนจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดกล้าเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเปิดบ่อนการพนันในวัด ซึ่งจะต้องรอผลสรุปในการสอบสวนของ ผกก.ชะอวดรายงานมายัง บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราชอีกครั้งหนึ่ง




รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าวอีกว่า ในส่วนของการดำเนินคดีก็ว่าไปตามระเบียบและขั้นตอนของกฎหมาย โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก็ดำเนินการส่งฟ้องศาลและศาลได้สั่งลงโทษปรับไปแล้ว แต่ในส่วนของเจ้าอาวาสซึ่งไม่ได้ถูกจับกุมในวันเกิดเหตุด้วย ทางตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่ หากมีพยานหลักฐานเพียงพอก็จะมีหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีไปตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเย็นวานนี้ (31 ต.ค.) นายคุณัญพงศ์ ทหารไทย ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังวัดสุรินทร์สังฆาวาส หรือวัด “ควนหนองหงส์” เพื่อเตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างสร้างความสะเทือนใจให้กับพุทธศาสนิกชนมาก ในฐานะที่สำนักพุทธฯมีหน้าที่ดูแลในเรื่องดังกล่าวก็จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมสงฆ์ทุกๆ เดือน ซึ่งการเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อเก็บข้อมูลที่เป็นความจริงและนำเสนอต่อคณะกรรมการสงฆ์ประจำจังหวัดต่อไป สำหรับมาตรการในการลงโทษ ยังไม่สามารถที่จะตัดสินได้ว่าผิดหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสงฆ์เป็นผู้พิจารณา ส่วนตัวแล้วมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควรอย่างยิ่ง ที่ปล่อยให้มีอบายมุขเข้ามาอยู่ในสถานที่ทำนุบำรุงศาสนา





ทางด้านพระส้อง กล่าวว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุตนออกจากวัดเพื่อไปเรี่ยไรกฐิน ภายหลังกลับมาก็พบว่ามีเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมชาวบ้านเล่นการพนันในวัดเรียบร้อยแล้ว โดยก่อนหน้านี้ตนทราบปัญหาจากชาวบ้านว่าขาดแคลนทรัพย์ในการจัดสร้างเสนาสนะจึงกำหนดจัดกิจกรรมทอดกฐิน แต่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดงานทอดกฐิน ซึ่งอาตมาพร้อมได้ยินชาวบ้านพูดกันว่าจะช่วยกันหาเงินเข้าวัดด้วยวิธีการเปิดบ่อนการพนันในวัด อาตมาจึงห้ามปรามแต่ก็ไม่เป็นผลเนื่องจากไม่สามารถทัดทานชาวบ้านได้ เพราะอาตมาเป็นเพียงพระธรรมดารูปหนึ่งเท่านั้น

“ตลอดระยะเวลาที่อาตมาทำหน้าที่หัวหน้าที่พักแห่งนี้ได้จัดทอดกฐินทุกปีเพื่อนำเงินมาสร้างอุโบสถ 2 ชั้น ซึ่งต้องใช้งบกว่า 10 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องหาเงินจำนวนมากมาช่วยสร้างอุโบสถให้เสร็จโดยเร็วที่สุด โดยมิได้คาดคิดว่าชาวบ้านจะช่วยกันหาเงินด้วยวิธีการดังกล่าว” พระส้อง กล่าว


 :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi:

ด้านพระครูสุจิตตรากร เจ้าอาวาสวัดขอนหาด ต.ขอนหาด อ.ชะอวด ในฐานะเจ้าคณะตำบลชะอวด–เชียรใหญ่ กล่าวว่า หลังจากที่ได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นก็ได้มีการพูดคุยกันภายในและพร้อมกับจะหามาตรการในการป้องกันมิให้เกิดขึ้นอีก เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเสื่อเสียต่อพุทธศาสนา เบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาชี้แจงว่าใครมีความผิดบ้างตรงส่วนไหน ส่วนทางคณะสงฆ์ก็จะดำเนินการตามวินัยสงฆ์หากพบว่ามีความผิดจริงอาจจะต้องให้  ลาสิกขาไว้ก่อน เนื่องจากท่านอ้างว่าวันเกิดเหตุไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด แต่ส่วนตัวมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิด เนื่องจากเราเป็นเจ้าของบ้านปล่อยให้มีการเล่นพนันเข้ามาอยู่ได้อย่างไร เปรียบดังเช่นคนมาถ่ายอุจจาระในบ้านเจ้าของบ้านก็ต้องรู้ว่าเป็นใครจะปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลยคงไม่ได้

สำหรับข้อกังวลและกังขาของชาวบ้านที่หวั่นเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานที่แห่งนี้ อาตมาต้องกราบเรียนว่าขึ้นอยู่กับทางคณะกรรมการสงฆ์ประจำจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณา ความจริงแล้วความผิดดังกล่าวถือว่าไม่ได้เป็นความผิดที่ร้ายแรงไม่มีผลต่อการยุบสถานที่แต่อย่างใด เพียงแต่มีผลเฉพาะบุคคลโดยเฉพาะหัวหน้าที่พักสงฆ์เท่านั้น หากมีการตรวจสอบว่าผิดจริงก็ต้องมีการลงโทษทางวินัยอย่างแน่นอนขึ้นอยู่กันการพิจารณาของทุกฝ่าย





ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นแค่ที่พักสงฆ์ ไม่ได้เป็นสำนักสงฆ์หรือวัด และมีการจัดตั้งขึ้นหลายสิบปีแล้ว โดยมีความพยายามที่จะบอกว่าเป็นวัด ทั้งการขึ้นป้ายในหลายๆ จุดก็จะระบุชัดเจนว่าวัดสุรินทร์สังฆาวาส และมีวงเล็บตามหลังว่า “วัดควนหนองหงส์” ซึ่งเข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.บ.คณะสงฆ์อย่างชัดเจน และมีผลต่อความเชื่อความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนอย่างชัดเจน ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปล่อยให้มีการยกฐานะที่พักสงฆ์ขึ้นเป็นวัดได้อย่างไร สำนักงานพระพุทธศาสนาจะต้องดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการให้ชัดเจนในเรื่องนี้ด้วย.

ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/regional/277910/_สมภารส้อง_+รับรู้เห็นเปิดบ่อนในวัด
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

keyspirit

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 68
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "สมภารส้อง" รับรู้เห็นเปิดบ่อนในวัด
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2014, 12:25:17 pm »
0
เรื่องเหตุอย่างนี้แหละ ที่จะทำให้การจัดตั้งสำนักสงฆ์ หรือ วัด นั้น ทำได้ยากขึ้น ใช่ไหมพี่น้อง
ที่สำคัญ ถ้าวัด หรือ สำนักสงฆ์ กระทำดำเนินการเยี่ยงนี้ แล้ว ส่งเสริมการพนัน จัดเป็นบ่อน
เท่ากับย่ำยี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 

   สำหรับโทษ ที่ให้ลาสิกขาบถนั้น ธรรมดามากไป ถ้าไม่มีการดำเนินคดี ต่อไป นี้ผิดมาก ตามกฏหมาย
คือการตั้งบ่อน เล่นการพนัน ถึงเป็นบุคคลธรรมดา ก็ต้องวิ่งหนี ตำรวจแล้ว ถูกจับขัง และปรับตามส่วน

  :49:
บันทึกการเข้า