ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สมาธิชาวบ้าน : กิเลสมายาโลก  (อ่าน 1732 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
สมาธิชาวบ้าน : กิเลสมายาโลก
« เมื่อ: มีนาคม 24, 2014, 08:09:20 pm »
0


สมาธิชาวบ้าน : กิเลสมายาโลก

    ธรรมมะเป็นเรื่องของชีวิตประจำวัน เราปฏิบัติไปก็ไปรู้ในเรื่องของจิตใจเรา ธรรมะถ้าไปหาไกลตัวมันจะเป็นเรื่องนามธรรมที่ยากจะเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธรรมะที่แท้จริงแล้วเป็นเรื่องของจิตใจของเรากับเรื่องกิเลสภายในใจเรา เราไปรู้อะไรมากมายยังไม่เท่าการได้รู้กิเลสในใจเรา

    เราจะชนะกิเลส เราจะมีปัญญาธรรม ล้วนขึ้นกับคุณสมบัติของจิตที่เราฝึก คุณสมบัติของจิตที่ฝึกแล้ว จะมีคุณสมบัติอีกอย่างมาต่อต้านความรู้สึกที่เป็นกิเลส


    :96: :96: :96:

    ถ้าเรามีคุณสมบัติของจิตสูง มันก็ต่อสู้กับกิเลสภายในใจเราได้ ก็เกิดผลดี เพราะทำให้เรารู้ความจริงของจิตใจเรา เมื่อปฏิบัติแล้วก็ทำให้เกิดสติ เมื่อเกิดสติก็ทำให้เกิดปัญญา ปัญญานั้นก็เป็นปัญญาเท่าทันที่ทำให้เราที่อยู่บนโลก โลกเดิม ตัวเราตัวเดิม เรื่องราวเดิมๆ แต่พอปัญญาเปลี่ยนไปก็ทำให้เราเห็นโลกเปลี่ยนไป เมื่อเรายังไม่มีธรรมะ ดวงตายังไม่เห็นธรรม เราก็เห็นโลกไปตามกิเลสมายาโลก

    กิเลสมายาโลกเป็นอย่างไร เราก็เป็นไปอย่างนั้น แต่พอเราฝึกจิตแล้ว เราก็คนเดิม โลกก็ใบเดิม เรื่องก็เรื่องเดิมๆ แต่วิธีการความคิดที่เราเห็นโลกมันต่างออกไป ความคิดทางธรรมมันอยู่ตรงนี้ คนที่ไม่รู้ก็ไปวนอยู่กับเรื่องราวที่โลกมันสร้างขึ้นมา โลกสร้างอะไรขึ้น เราก็เต้นไปตามนั้น โลกมันก็ทำร้ายเราได้ แต่ถ้าเราเท่าทันต่อโลก โลกก็ทำร้ายเราไม่ได้





    เรื่องราวก็เป็นเรื่องราวเดิมๆ แต่ว่าเราคิดต่างกัน คิดด้านหนึ่งคิดไปเพื่อทุกข์ คิดด้านหนึ่งคิดไปเพื่อพ้นทุกข์ มีธรรมะก็คิดได้แบบหนึ่ง ไม่มีธรรมะก็คิดได้แบบหนึ่ง ถ้าเรามีปัญญาธรรมแล้ว บ้างครั้งเรื่องเดิมที่เป็นทุกข์ พอเรามีปัญญาธรรมเราก็คิดใหม่ เกิดความคิดใหม่ ก็จะเห็นได้ว่าไม่เป็นความทุกข์

    แต่ถ้าไม่มีปัญญาจะเห็นได้ว่ามีความทุกข์มาก เพราะโลกมันสร้างขึ้นมาเพื่อให้จิตใจมนุษย์รองรับความทุกข์ จากความเปลี่ยนแปร ความผันแปรไปของโลก โลกไม่อยู่จีรัง โลกอยู่ไม่นิ่ง โลกก็เปลี่ยนแปรไปในทางที่ไม่พอใจในสิ่งที่เราไม่ชอบ ก็เกิดความทุกข์


     st12 st12 st12

    ถ้าเราเท่าทันละครโรงนี้แล้ว ถึงแม้จะมีความทุกข์บ้าง แต่มันก็เป็นความทุกข์ที่ไม่มาก เพราะว่าเรารู้ว่าละครโรงนี้ไม่มีอยู่จริง สิ่งต่างๆ ที่ประกอบเป็นละครโรงนี้ มันไร้สาระ เป็นมายาหมด ไม่เป็นความจริง ไม่มีของอะไรเป็นของของเราเลย เป็นของยืมมาจากละครโรงนี้มาใช้ทั้งนั้น

    เราหลงไปยึดมั่นถือมั่นเอาไว้ คิดว่าเป็นละครจริงๆ ของเราเมื่อไหร่ ความทุกข์ก็ตามมา ละครจบแล้วก็ต้องคืนของที่ยืมมาจากโรงละคร ตัวละครที่ไม่มีปัญญาธรรมก็ไปยึดไว้จึงเกิดทุกข์ กิเลสมายาโลกที่ว่ามา สามารถรู้ทันได้ด้วยการทำสมาธิ การทำสมาธินั้น เนื่องจากต้องการให้จิตหรือญาณรู้ที่ต่อต้านกิเลสภายในตัวเราทุกคนมันทำงาน ถ้าจิตมีความความสงบ มีวินัย มีความคิดที่ตั้งมั่นได้เร็ว ก็ทำให้ญาณรู้ตัวที่ว่ามาสามารถทำงานได้ และเมื่อไรที่ญาณรู้ทำงาน จิตมีความสงบแต่งว่องไวรู้ทันในกิเลสแล้ว เมื่อนั้นจิตก็หลุดพ้นจากกิเลสมายาโลกได้.


ที่มา http://www.thaipost.net/tabloid/230314/87889
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

KIDSADA

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 439
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาธิชาวบ้าน : กิเลสมายาโลก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 24, 2014, 10:27:31 pm »
0
 st11 st12
บันทึกการเข้า
เราชอบ ป่วนแก็งค์ อ๊บ อ๊บ

darksnowwow

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: สมาธิชาวบ้าน : กิเลสมายาโลก
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2014, 02:15:16 pm »
0
เห็นด้วยคะ
บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาธิชาวบ้าน : กิเลสมายาโลก
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2014, 08:35:58 am »
0
 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ