ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: คนไทยใช่กบเฒ่า? เถรวาท vs. ลัทธิอาจารย์ (6)  (อ่าน 1403 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


คนไทยใช่กบเฒ่า? เถรวาท vs. ลัทธิอาจารย์ (6)
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต ป.ธ.๙)

การศึกษาของชาติไทยปัจจุบันนี้เป็นการจัดตามระบบของตะวันตก แม้แต่การกำหนดเครื่องแบบนักเรียนนักศึกษาที่พูดว่าไปนั้น ก็สืบมาจากฝรั่งอย่างอังกฤษที่เราเคยเรียกว่าเป็นอารยประเทศ ที่เราอยากจะเป็นอย่างเขา เป็นของสมัยใหม่นี้เอง

คนที่คุณสุจิตต์พูดถึงว่าเป็นพวกวิถีเถรวาทอะไรนั้น ก็เป็นผู้เล่าเรียนจบมาจากเมืองนอก หรือโตมาในระบบของตะวันตก ไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำว่าเถรวาทคืออะไร หรืออะไรเป็นเถรวาท

ทีนี้ท่านที่เขียนบทความก็อาจจะบอกว่า เวลานี้เถรวาทไม่ได้คุมระบบการศึกษาทางการของรัฐไทยก็จริง แต่มีอิทธิพลอยู่ในวัฒนธรรมไทย จึงทำให้เป็นอย่างนี้ ก็จะต้องวิเคราะห์วิจัยกันต่อไปอีกว่า พุทธศาสนาเถรวาทมีอิทธิพลติดมาในวัฒนธรรมไทยในด้านไหน ส่วนไหน แค่ไหน และในวัฒนธรรมไทยตามคติ "ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว"

(เหมือนกับบอกว่า "อยู่นี่ดีแล้ว อย่าไปไหนเลย") นี้ มีอะไรอื่นอีกที่เป็นปัจจัยเป็นองค์ประกอบปรุงแต่งสำคัญ ทำไมคนไทยสมัยใหม่ ค่อนศตวรรษมานี้ ที่นิยมตามอย่างตะวันตกนักหนา จึงไม่ซึมซาบวัฒนธรรมฝรั่งตามคติ "บุกฝ่าขยายพรมแดน" (คติ "frontier"-"ที่นี่ยากไร้ ต้องรุกไปหาข้างหน้า") ถึงตอนนี้ก็จะกลายเป็นว่าต้องพูดกันยาวยืดเยื้อไป (แต่ถ้าคิดจะวิเคราะห์วิจัยศึกษากันจริงจังก็จะได้ประโยชน์มาก)

เรื่องนี้เรามองในแง่ดีก่อนว่า ท่านที่เขียนบทความนี้ทำงานในเรื่องของส่วนรวม คนที่ทำงานส่วนรวมเราก็มองไว้ก่อนว่าท่านมีเจตนาดีคำนึงถึงประโยชน์ต่อส่วนรวม


ในแง่นี้ก็คือ คุณสุจิตต์ก็คงหวังดีต่อการศึกษาของประเทศไทย อย่างในบทความนี้ท่านก็อยากจะให้การศึกษาของไทยเจริญก้าวหน้ารุ่งเรือง แต่ดูสภาพที่เป็นอยู่นี้แล้วท่านก็เป็นห่วง แล้วท่านก็อาจจะได้ยินได้ฟังเรื่องเถรวาทมาในแบบที่ว่าเมื่อกี้ ก็รู้สึกว่ามันขัดขวาง มันทำให้ประเทศไทยไม่เจริญ การศึกษามันเลยเป็นอย่างนี้ เพราะท่านเข้าใจว่าเถรวาทคือแค่ท่องจำ และที่เรียนกันอยู่นี้แค่ท่องจำก็เพราะเถรวาท ท่านคงรู้เข้าใจและคิดเห็นอย่างนี้ จึงได้เขียนออกมาอย่างนั้น

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เอาเป็นว่าในชั้นต้นเรามองในแง่ว่าท่านมีเจตนาดีที่มุ่งหวังความเจริญแก่ประเทศไทย แต่เจตนาดีอย่างเดียวยังไม่พอ จะต้องรู้ ต้องเข้าใจเรื่องที่ว่ากันนั้นให้ชัดเจนด้วย


แล้วที่ว่านี้เราจะพูดแต่ในด้านข้อมูลความรู้ เรื่องข้อเท็จจริง เรื่องของหลักฐานตามที่มันเป็น เราไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความเห็นของท่าน เช่นว่าท่านจะชอบหรือไม่ชอบใจ ท่านจะไม่เห็นด้วย ไม่เอาด้วยกับเถรวาทอย่างไรก็เป็นเรื่องของท่าน

เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจอยู่ ถ้าหากว่าท่านไปได้ยินได้ฟังเขาพูดมาว่า เถรวาทมีความหมายอย่างนี้ แล้วท่านก็ว่าไป เราฟังแล้วก็อย่ามัวไปโกรธ ไปขึ้งเคียด หรือไม่พอใจ อะไรที่เป็นความเห็นของท่านก็ให้ท่านว่าไป แต่ที่เป็นเรื่องของหลักฐานข้อเท็จจริง

ก็ต้องชี้แจงบอกแจ้งไปตามที่มันเป็น ให้ได้ความรู้ความเข้าใจ



ขอบคุณข้อมูล
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdOREExTURFMU5RPT0=&sectionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHdNUzB3TlE9PQ==
ขอบคุณภาพจาก http://www.watnyanaves.net/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ