สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: เท่ากับผลรวม ที่ ตุลาคม 10, 2011, 10:20:30 am



หัวข้อ: เราเป็น พุทธะ ขอท่านจงฟังธรรม จากเรา
เริ่มหัวข้อโดย: เท่ากับผลรวม ที่ ตุลาคม 10, 2011, 10:20:30 am
เราเป็น พุทธะ ขอท่านจงธรรม จากเรา
เราเป็น พุทธะ ขอท่านจงธรรม จากเรา
เราเป็น พุทธะ ขอท่านจงธรรม จากเรา

    เมื่อพระพุทธเจ้า ตรัสแล้ว กับบุคคลที่จะแสดงธรรมหลังตรัสรู้เป็นครั้งแรก .......( ใคร เอ่ย )
ผู้นั้น กับสะบัดหน้าหนี แถมแลบลิ้นให้อีก .......

  เนื้อเืรื่องผมไม่ค่อยจะแม่น เรื่องชื่อ เลยหาเรื่องไม่พบ วานท่านผู้รู้ ที่ทราบโพสต์ส่วนนี้ให้เพื่อนสมาชิกได้อ่านกันด้วยนะครับ

 


 ที่นี้ถ้ามาพิจารณา กับพวกเราบ้าง เวลาเข้าใจหลักธรรม เห็นหลักธรรม พยายามนำธรรมะไปให้กับคนข้างเคียงด้วยความปรารถนาดี แล้ว กับได้รับการดูหมิ่นบ้าง เขาไม่เชื่อถือบ้าง อันนี้ควรจะระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้ากัน บ้างใช่หรือไม่ครับ เพราะว่าพระองค์ มีบารมีมากกว่าเราอีก ยังประสปปัญหาอย่างนี้เลยนะครับ

  :25: :25: :25:


  ดังนั้นเวลาเพื่อน ๆ ออกไปช่วยเหลือ ทำหน้าที่กัน บางคนก็ได้รับการต้อนรับ บางคนก็ได้รับการดูหมิ่น ก็ขออย่าได้โมโห โกรธา กันเลยนะครับ สานต่อบารมีธรรม ของเราต่อไปเถิดนะครับ

   :25: :25: :25:


หัวข้อ: Re: เราเป็น พุทธะ ขอท่านจงฟังธรรม จากเรา
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 10, 2011, 06:15:20 pm

(http://www.rmutphysics.com/charud/scibook/buddhist1/buddhist1pic/52.jpg)

     เมื่อตัดสินพระทัยจะเผยแพร่สิ่งที่ตรัสรู้ จึงเดินทางออกจากที่ตรัสรู้เพื่อไปยังป่าอิสิปตนมฤทายวัน เพื่อโปรดปัญจวัคคีย์ผู้ที่เคยดูแลพระองค์มาอาศัยอยู่ ในระหว่างทางได้พบกับอาชีวกผู้หนึ่งชื่ออุปกะ ได้เข้ามาถามพระองค์ว่า ใครเป็นศาสดา ใครเป็นผู้มอบรมธรรมให้กับท่านมา ท่านจงช่วยแสดงธรรมโปรดเราด้วย

     พระองค์ได้ตรัสว่า เราเป็นสยัมภู เป็นผู้ตรัสรู้ได้ด้วยตนเอง เท่านั้นเองอาชีวกผู้นี้ถึงกับตะลึง และก็กล่าวคำไม่ศรัทธาออกมาว่า เชิญพ่อรู้ไปคนเดียวเถอะ เป็นไปไม่ได้… คนที่ไม่มีครูบาอาจารย์และในที่สุดถึงกับแสดงอาการสั่นศีรษะและถ่มน้ำลายแลบลิ้น แล้วเดินหลีกพระพุทธองค์ไป


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
http://www.rmutphysics.com/charud/scibook/buddhist1/index/indexpic52.htm (http://www.rmutphysics.com/charud/scibook/buddhist1/index/indexpic52.htm)


หัวข้อ: Re: เราเป็น พุทธะ ขอท่านจงฟังธรรม จากเรา
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 10, 2011, 06:40:52 pm

(http://3.bp.blogspot.com/-QlDdHiWshXw/TY9LPrRTtwI/AAAAAAAAAjQ/zTtbpUlu2y0/s1600/14Bimbisara1.jpg)

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์

๖. ปาสราสิสูตร
ทรงรำพึงถึงปฐมเทศนา

             [๓๒๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจึงคิดดังนี้ว่า เราจะพึงแสดงธรรมเป็นครั้งแรกแก่ใครหนอ ใครจักทราบชัดธรรมนี้ได้โดยเร็ว. เราจึงคิดดังนี้ว่า อาฬารดาบส กาลามโคตรนี้แล เป็นบัณฑิต ฉลาด มีปัญญา มีกิเลสดุจธุลีในดวงตาน้อยมานาน ถ้าไฉน เราพึงแสดงธรรมเป็นครั้งแรกแก่เธอ เธอจักทราบชัดธรรมนี้ได้โดยเร็ว.

              ครั้งนั้น เทวดาตนหนึ่งเข้ามาหาเราแล้วทูลดังนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อาฬารดาบส กาลามโคตร ตายไปแล้วได้ ๗ วัน. อนึ่ง เราก็เกิดญาณทัสสนะว่า อาฬารดาบส กาลามโคตร ตายไปแล้วได้ ๗ วัน. เราจึงคิดดังนี้ว่าอาฬารดาบส กาลามโคตร เป็นผู้เสื่อมจากคุณอันยิ่งใหญ่เสียแล้วหนอ เพราะถ้าเธอพึงได้สดับธรรมนี้ไซร้ ก็จะพึงทราบชัดได้โดยเร็ว.


(http://www.rmutphysics.com/charud/scibook/buddhist1/buddhist1pic/34.jpg)

              เราจึงคิดดังนี้ว่า เราจะพึงแสดงธรรมเป็นครั้งแรกแก่ใครหนอ ใครจักทราบชัดธรรมนี้ได้โดยเร็ว. เราจึงคิดดังนี้ว่า อุททกดาบส รามบุตรนี้แลเป็นบัณฑิต ฉลาด มีปัญญา มีกิเลสดุจธุลีในดวงตาน้อยมานาน ถ้าไฉน เราพึงแสดงธรรมเป็นครั้งแรกแก่เธอ เธอจักทราบชัดธรรมนี้ได้โดยเร็ว.
              ครั้งนั้น เทวดาตนหนึ่งเข้ามาหาเราแล้วทูลว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญอุททกดาบส รามบุตร ได้ตายไปเสียแล้วเมื่อเย็นวานนี้.

              อนึ่ง เราก็เกิดญาณทัสสนะว่า อุททกดาบส รามบุตร ได้ตายไปเสียแล้วเมื่อเย็นวานนี้. เราจึงคิดดังนี้ว่าอุททกดาบส รามบุตร เป็นผู้เสื่อมจากคุณอันยิ่งใหญ่เสียแล้วหนอ เพราะถ้าเธอพึงได้สดับธรรมนี้ไซร้ ก็พึงทราบชัดได้โดยเร็ว. เราจึงคิดดังนี้ว่า เราจะพึงแสดงธรรมเป็นครั้งแรกแก่ใครหนอใครจักทราบชัดธรรมนี้โดยเร็ว.

              เราจึงคิดดังนี้ว่า ภิกษุปัญจวัคคีย์ได้อุปัฏฐากเรา ผู้กำลังบำเพ็ญเพียรอยู่ เป็นผู้มีอุปการะแก่เรามากนัก ถ้าไฉน เราพึงแสดงธรรมเป็นครั้งแรกแก่พวกเธอ. เราจึงคิดดังนี้ว่า บัดนี้ ภิกษุปัญจวัคคีย์อยู่ที่ไหนหนอ. เราก็รู้ได้ว่า ภิกษุปัญจวัคคีย์อยู่ในป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เขตพระนครพาราณสี ด้วยทิพยจักษุที่บริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์. ครั้นเราอยู่ที่ตำบลอุรุเวลาพอสมควรแล้ว จึงได้ออกจาริกไปเมืองพาราณสี.


(http://www.rmutphysics.com/charud/scibook/buddhist1/buddhist1pic/53.jpg)

             [๓๒๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อาชีวกชื่ออุปกะได้เห็นเราผู้กำลังเดินทางไกลที่ระหว่างแม่น้ำคยาและต้นมหาโพธิ จึงถามเราว่า ดูกรอาวุโส อินทรีย์ของท่านผ่องใสนัก ฉวีวรรณของท่านบริสุทธิ์ ผุดผ่อง ท่านได้บรรพชาเฉพาะใคร ใครเป็นศาสดาของท่าน หรือท่านชอบใจธรรมของใคร.
             เมื่ออุปกะอาชีวกถามอย่างนี้ เราจึงได้กล่าวคาถาตอบว่า

             เราเป็นผู้ครอบงำธรรมทั้งปวง รู้แจ้งธรรมทั้งปวง อันตัณหาให้ติดไม่ได้ในธรรมทั้งปวง ละเว้นธรรมทั้งปวง พ้น (น้อมใจ) ไปในธรรมเป็นที่สิ้นตัณหา
             เพราะรู้ยิ่งด้วยตนเองเราจะพึงแสดงใครเล่าว่า เป็นอาจารย์ อาจารย์ของเราไม่มีผู้ที่ดีเหมือนเราไม่มี ผู้ที่เทียมเสมอเราไม่มี ในโลกทั้งเทวโลก
             เพราะเราเป็นพระอรหันต์ เป็นศาสดาผู้ยอดเยี่ยม เป็นสัมมาสัมพุทธองค์เอก เป็นผู้เย็นดับกิเลสได้แล้ว เราจะไปบุรีของชาวกาสีเพื่อแสดงธรรมจักร โดยหมายจะบันลือกลองอมฤตธรรม ในโลกที่มืดมน.
                         
             อุปกะอาชีวกถามเราว่า เหตุใด ท่านจึงปฏิญาณว่า เป็นอรหันต์อนันตะชินะ?
             เราจึงกล่าวคาถาตอบว่า
                      ผู้ที่ถึงอาสวักขัยเช่นเรา ย่อมเป็นผู้มีนามว่า ชินะเพราะบาปธรรมทั้งหลายเราได้ชนะแล้ว
             ฉะนั้น เราจึงมีนามว่า ชินะ.
             เมื่อเรากล่าวตอบอย่างนี้ อุปกะอาชีวกนั้นได้กล่าวว่า พึงเป็นเช่นนั้นหรือท่าน สั่นศีรษะ แล้วหลีกทางไป.

อ้าางอิง
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒  บรรทัดที่ ๕๓๘๔ - ๕๗๖๒.  หน้าที่  ๒๑๙ - ๒๓๓.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=12&A=5384&Z=5762&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=12&A=5384&Z=5762&pagebreak=0)
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=12&i=312 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=12&i=312)
ขอบคุณภาพจาก http://3.bp.blogspot.com (http://3.bp.blogspot.com),www.rmutphysics.com


หัวข้อ: Re: เราเป็น พุทธะ ขอท่านจงฟังธรรม จากเรา
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 10, 2011, 06:45:01 pm

(http://www.84000.org/tipitaka/picture/p34.jpg)
เสด็จพระพุทธดำเนินไปโปรดเบญจวัคคีย์ พบอุปกาชีวกในระหว่างทาง

   ในสัปดาห์ที่  ๖  ถึงที่  ๘   เป็นระเวลาที่พระพุทธเจ้าเสด็จแปรสถานที่ประทับไปมาที่ระหว่าง
ต้นศรีมหาโพธิ์กับต้นอชปาลนิโครธหื่อต้นไทร  จนถึงวันขึ้น  ๑๔  ค่ำ เดือน  ๘  ในสัปดาห์ที่  ๘  นับแต่ตรัส
รู้มา  พระพุทธเจ้าจึงเสด็จออกจากบริเวณสถานที่ตรัสรู้   เพื่อเสด็จไปยังป่าอิสิปตนมฤคทายวัน  หรือที่ทุกวัน
นี้เรียกว่าสารนาถ  ซึ่งอยู่ในเขตแดนเมืองพาราณสี  เวลาที่กล่าวนี้พวกเบญจวัคคีย์ที่เคยตามเสด็จออกบวชและ
อยู่เฝ้าอุปัฏฐากได้พากันผละหนีพระพุทธเจ้ามาอยู่ที่นี่

   ระหว่างทาง คือ  เมื่อเสด็จถึงแม่น้ำคยาอันเป็นที่สุดเขตตำบลของสถานที่ตรัสรู้  พระพุทธเจ้า
ได้ทรงพบอาชีวกผู้หนึ่งนามว่า  'อุปกะ'  เดินสวนทางมา  อาชีวกคือนักบวชนอกาสนาพุทธนิกายหนึ่งในสมัย
พระพุทธเจ้า

   ตอนที่เดินยังไม่เข้าใกล้และได้เห็นพระพุทธเจ้านั้น    อาชีวกผู้นี้ได้เห็นพระรัศมีที่แผ่ซ่านออก
จากพระวรกายพระพุทธเจ้ามากระทบเข้าที่หน้าตนก่อน  พระรัศมีนั้น  สมัยนั้นเรียกว่า 'ฉัพพรรณรังสี'  คือ 
พระรัศมี  ๖  ประการที่ซ่านออกจากพระวรกายของพระพุทธเจ้า  ได้แก่

        ๑.   นีละ   สีเขียวเหมือนดอกอัญชัน
        ๒.   ปีตะ   สีเหลืองเหมือนหรดาลทอง
        ๓.   โลหิตะ   สีแดงเหมือนแสงตะวันอ่อน
        ๔.   โอทาตะ   สีขาวเหมือนแผ่นเงิน
        ๕.   มัญเชฐะ   สีแสดเหมือนดอกหงอนไก่
        ๖.   ประภัสสระ   สีเลื่อมพรายเหมือนแก้วผลึก

   มาถึงสมัยสร้างพระพุทธรูปฉัพพรรณรังสีนี้เรียกกันว่า  'ประภามณฑล'  คือ  พระรัศมีที่พุ่ง
ขึ้นจากเบื้องพระเศียรที่เป็นรูปกลมรีขึ้นข้างบนนั่นเอง

   พอพระพุทธเจ้าเสด็จเข้ามาใกล้   อาชีวกจึงได้เห็นที่มาของรัศมี  พอเห็นก็เกิดความสนใจจึง
เข้าไปทูลถามพระพุทธเจ้าว่า  ใครเป็นพระศาสดาของพระพุทธเจ้า  พอพระพุทธเจ้าตรัสว่า  พระองค์ไม่มี
ศาสดาผู้เป็นครูสอน   พระพุทธองค์เป็นสยัมภู  คือ  ผู้ตรัสรู้ธรรมด้วยพระองค์เอง  อาชีวกได้ฟังแล้วแสดง
อาการสองอย่างคือสั่นศีรษะและแลบลิ้น  แล้วเดินหลีกพระพุทธเจ้าไป


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก http://www.84000.org/tipitaka/picture/f34.html (http://www.84000.org/tipitaka/picture/f34.html)


หัวข้อ: Re: เราเป็น พุทธะ ขอท่านจงฟังธรรม จากเรา
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 10, 2011, 08:03:42 pm

 ที่นี้ถ้ามาพิจารณา กับพวกเราบ้าง เวลาเข้าใจหลักธรรม เห็นหลักธรรม พยายามนำธรรมะไปให้กับคนข้างเคียงด้วยความปรารถนาดี แล้ว กับได้รับการดูหมิ่นบ้าง เขาไม่เชื่อถือบ้าง อันนี้ควรจะระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้ากัน บ้างใช่หรือไม่ครับ เพราะว่าพระองค์ มีบารมีมากกว่าเราอีก ยังประสปปัญหาอย่างนี้เลยนะครับ

  :25: :25: :25:


  ดังนั้นเวลาเพื่อน ๆ ออกไปช่วยเหลือ ทำหน้าที่กัน บางคนก็ได้รับการต้อนรับ บางคนก็ได้รับการดูหมิ่น ก็ขออย่าได้โมโห โกรธา กันเลยนะครับ สานต่อบารมีธรรม ของเราต่อไปเถิดนะครับ

   :25: :25: :25:

    ในเมื่อนิพพานก็ดำรงอยู่ ทางไปนิพพานก็ดำรงอยู่ เราผู้ชักชวนก็ดำรงอยู่
    แต่ก็สาวกของเราอันเราโอวาทสั่งสอนอยู่อย่างนี้
    บางพวกเพียงส่วนน้อย ยินดีนิพพานอันมีความสำเร็จล่วง ส่วนบางพวกก็ไม่ยินดี
   
    ดูกรพราหมณ์ ในเรื่องนี้ เราจะทำอย่างไรได้ ตถาคตเป็นแต่ผู้บอกหนทางให้ฯ


อ้างอิง
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖
มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
๗. คณกโมคคัลลานสูตร (๑๐๗)
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔  บรรทัดที่ ๑๕๗๑ - ๑๗๓๔.  หน้าที่  ๖๗ - ๗๓.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=14&A=1571&Z=1734&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=14&A=1571&Z=1734&pagebreak=0)
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=14&i=93 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=14&i=93)


    พระพุทธองค์เอง ก็ยังตรัสว่า พระองค์เป็นเพียงผู้บอกทาง ไม่สามารถพาทุกคนไปนิพพานได้ทั้งหมด
ลองย้อนมามองตัวเราเอง เราเป็นใครกัน? ที่แน่ๆ เราไม่ใช่ผู้บอกทางแน่นอน

     :49: :25: ;)


   ลิงค์แนะนำ
   "นิพพานมีอยู่_ คนสอนก็มีอยู่_ ไฉนบางคนบรรลุ_ บางคนไม่บรรลุ"
   http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=4658.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=4658.0)




หัวข้อ: Re: เราเป็น พุทธะ ขอท่านจงฟังธรรม จากเรา
เริ่มหัวข้อโดย: sakol ที่ ตุลาคม 10, 2011, 08:13:38 pm
พระสูตรนี้ อ่านแล้วทำให้เห็นว่า แม้ผู้ที่ได้พบพระพุทธเจ้า แล้วไม่เชื่อ ( คือ ให้เครดิต ) ต่อพระพุทธเจ้า
ก็ย่อมไม่เชื่อ และสนใจ ซึ่งก็เป็นธรรมดาของคนที่ ไม่เชือไม่เคารพ

  นี่ขนาดพระพุทธเจ้า นะครับ

  :08:


หัวข้อ: Re: เราเป็น พุทธะ ขอท่านจงฟังธรรม จากเรา
เริ่มหัวข้อโดย: nongmai-new ที่ ตุลาคม 10, 2011, 08:33:09 pm
อนุโมทนา ด้วยครับ ผู้ไม่เชื่อถือ พระพุทธเจ้าก็มีเช่นกันนะครับ
มีโอกาสได้ฟังธรรมเป็นคนแรก แล้วเสียโอกาสไปเลย

  อันนี้ บุญมี แต่กรรมบัง ใช่หรือไม่ครับ ?


 :coffee2:

 


หัวข้อ: Re: เราเป็น พุทธะ ขอท่านจงฟังธรรม จากเรา
เริ่มหัวข้อโดย: เจมส์บอนด์ ที่ ตุลาคม 11, 2011, 05:47:49 pm
ได้ความรู้มาก ๆ ครับ สมัยนี้ การฟังธรรม ต้องอาศัยความศรัทธา จริง ๆ นะครับ
บางครั้ง ผมไปวัด พระ่ท่านก็พยายาม ยัดความรู้ให้ครับ บางทีก็น่าเบื่อมาก ๆ ครับ
นั่งพูดเป็น ชั่วโมง ๆ เลยก็มีครับ

  คือผู้แสดงธรรม ก็น่าจะดููกาละเทศะด้วยครับ

  :s_hi: :coffee2:


หัวข้อ: Re: เราเป็น พุทธะ ขอท่านจงฟังธรรม จากเรา
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2012, 01:40:55 am

     อีกกระทู้หนึ่ง แนะนำให้อ่าน
    ได้ยินหลายคน อยากพ้นจากวัฏฏะสงสาร แล้ว วัฏฏะสงสารนี้น่ากลัวอย่างไรครับ
    http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5062.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5062.0)

     :25: