ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ศาลฎีกา สั่งคืนเงินทั้งหมด ให้ “อดีตพระพรหมสิทธิ -พระพรหมดิลก”  (อ่าน 169 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28484
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



เฮ.!! ศาลฎีกา สั่งคืนเงินทั้งหมด ให้ “อดีตพระพรหมสิทธิ -พระพรหมดิลก” ระบุไม่ได้ “ทุจริต -ฟอกเงิน”

ศาลฎีกาสั่งคืนเงินทั้งหมดให้อดีตพระพรหมสิทธิ -พระพรหมดิลก  เนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าไม่ใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และไม่ใช่ทรัพย์สินที่ได้มาจากการฟอกเงิน

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา  09:00 น.  ศาลฎีกาได้นัดฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลฎีกา  โดยพิพากษาว่า 

สืบเนื่องจากคดีนี้ พนักงานอัยการในฐานะผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอให้ทรัพย์สินเงินฝากในบัญชีธนาคารของพระพรหมสิทธิตกเป็นของแผ่นดิน โดยมีมูลฐานมาจากการที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้อนุมัติจัดสรรงบประมาณ โครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรม สำหรับเด็กเยาวชนประชาชนและข้าราชการ ประจำปี 2559 และ โครงการศูนย์กลางการเผยแพร่กิจการพระพุทธศาสนา เพื่อความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ ประจำปี 2559 ให้กับวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

โดยการอนุมัติงบประมาณดังกล่าว เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทำโดยไม่เป็นไปตามระเบียบ และกฎหมาย และไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

พระพรหมสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านในฐานะ ผู้คัดค้านที่หนึ่งว่า เงินในบัญชีเงินฝากของพระพรหมสิทธิไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับงบประมาณทั้งสองโครงการ และไม่ใช่ทรัพย์สินที่ได้มาจากการฟอกเงิน ขอให้คืนเงินในบัญชีเงินฝากให้แก่พระพรหมสิทธิ

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ให้คืนเงินในบัญชีเงินฝาก ส่วนที่พระพรหมสิทธิมีอยู่ก่อน หรือได้มาก่อนที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะอนุมัติจัดสรรและโอนจ่ายเงินงบประมาณทั้งสองโครงการให้แก่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เนื่องจากเงินที่มีอยู่ ไม่ใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือได้มาจากการฟอกเงิน แต่มีคำสั่งให้เงินที่พระพรหมสิทธิได้มา ในภายหลังจากที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติอนุมัติจัดสรรงบประมาณทั้งสองโครงการให้กับวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ตกเป็นของแผ่นดิน




พระพรหมสิทธิได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น

ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับ หรือแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยมีคำพิพากษาให้คืนเงินทั้งหมดให้กับพระพรหมสิทธิ เนื่องจากศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้เงินที่มีอยู่ในบัญชีเงินฝากธนาคาร จะได้มาในระหว่างที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติอนุมัติจัดสรรและโอนจ่ายเงินงบประมาณทั้งสองโครงการให้ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหารก็ตาม

แต่จากหลักฐาน แหล่งที่มาของเงินจำนวนดังกล่าว มีที่มาของเงินจากเงินทำบุญเงินอุทิศให้ และ เป็นเงินบริจาคที่มีบุคคลมอบให้กับพระพรหมสิทธิ ในระหว่างที่เป็นพระภิกษุสงฆ์ โดยมีแหล่งที่มาของเงินเป็นเช็คเงินสด เช็คของขวัญ ตั๋วเงินปันผลจากกองทุนต่างๆ และดอกเบี้ย เป็นต้น ซึ่งไม่ใช่เงินที่ได้มาจากงบประมาณทั้งสองโครงการ ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือฟอกเงิน




พนักงานอัยการในฐานะผู้ร้องได้ยื่นฎีกาและขออนุญาตฎีกา ศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาตอนุญาตให้ฎีกา

ศาลฎีกาได้มีคำสั่ง ยืนตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์ โดยให้คืนเงินส่วนที่เหลือทั้งหมด ทุกบัญชีเงินฝากตามที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่ง ให้แก่พระพรหมสิทธิ เนื่องจากศาลฎีกาเห็นว่า แม้เงินในบัญชีเงินฝากของพระพรหมสิทธิ ในส่วนที่ได้มาในระหว่างที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติอนุมัติจัดสรรงบประมาณทั้งสองโครงการ ให้กับวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหารแล้วก็ตาม

แต่เงินจำนวนดังกล่าว มีการพิสูจน์แหล่งที่มาของเงินได้ทุกบัญชี อาทิเช่น เงินที่ได้รับมาจากวัดพุทธธาราม ลีดส์ประเทศอังกฤษ เป็นเงินที่พุทธศาสนิกชน อุทิศถวายให้กับวัดพุทธธาราม ลีดส์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งขณะนั้น พระพรหมสิทธิ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ มีภารกิจต้องดูแลวัดพุทธาราม ลีดส์ ประเทศอังกฤษด้วยเงินที่มีแหล่งที่มาจากเช็คเงินสด ทั้งระบุชื่อผู้มอบให้และไม่ระบุชื่อ และเช็คของขวัญ และตั๋วเงิน และเงินปันผลต่าง ๆ ตลอดจนดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร

และการที่พระพรหมสิทธิอุปสมบทเป็นพระภิกษุดำรงอยู่ในสมณศักดิ์สูง และมีตำแหน่งทางคณะสงฆ์ในระดับสูง เป็นเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ซึ่งเป็นพระอารามหลวง เป็นประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ อยู่ในตำแหน่งและฐานะอันเป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนทั่วไปจำนวนมาก ย่อมจะมีประชาชนทำบุญถวายเงินให้ เพื่อใช้ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ซึ่งไม่มีงบประมาณในการสนับสนุน ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา จึงต้องใช้เงินที่มีผู้ทำบุญถวายใช้ในการเผยแผ่พระพระพุทธศาสนา

หากไม่ได้รับการอุปถัมภ์สนับสนุนจากญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญหรือร่วมบริจาคเงินสมทบย่อมยากที่จะปฏิบัติศาสนกิจในต่างประเทศสืบจากสมเด็จพระพุฒาจารย์(เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) ต่อไปได้ โดยไม่ต้องสงสัย ซึ่งมีวัดในสาขาอยู่ถึง 18 วัด

การมีเงินในบัญชีจำนวนดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เงินในบัญชีเงินฝากของพระพรหมสิทธิทั้งหมด จึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และไม่ใช่ทรัพย์สินที่ได้มาจากการฟอกเงิน

ส่วนในกรณีเงินฝากในบัญชีของพระพรหมดิลก วัดสามพระยา ซึ่งถูกฟ้องอยู่ในสำนวนเดียวกัน ศาลก็มีคำสั่งให้คืนเงินทั้งหมด เช่นเดียวกัน




Thank to : https://thebuddh.com/?p=77648
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ