ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: กฐินหลวง...ณ เมืองเซียงขวง สปป.ลาว (ชมภาพ)  (อ่าน 2221 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
เชียงขวางในสายหมอก


กฐินหลวง...ณ เมืองเซียงขวง สปป.ลาว
Delight Moment 68 / สุมิตรา จันทร์เงา

เซียงขวง ดินแดนวิมาน
หนาวกายสะท้าน หนาวสั่นสะเทือน
ภูจงเป็นวงแสงเดือน (..ซ้ำ..)
เมฆน้อยลอยเลื่อน ยามเมื่อคืนเดือนเพ็ญ


หมู่นางมักลอยวารี
ลอยกลางนที เปล่งราศีสวยเด่น
น้ำลิ่วไหลรินบ่เว้น(..ซ้ำ..)
ยามค่ำแลเห็น สาวเนื้อเย็นลงลอย...


...โอ..เซียงขวงนี่เอย
อ้ายนี่บ่เคยเห็นไผงามหยาดย้อย
เดี๋ยวนี้ธรรมชาติจอมดอย (..ซ้ำ..)
เซ้าค่ำนั่งคอย ภูจองวองงามตระการ


...ไหหิน มิ่งขวัญเซียงขวง
สายลมไหลล่วง ป่วงให้อ้ายสุดฝัน
ภูเวียงเป็นลอนก่ายกัน(..ซ้ำ..)
ให้อ้ายสุขสันต์กับความงามเซียงขวง...



อัปโหลดเมื่อ 7 ก.พ. 2012 โดย อ้อยใจ มาไลคำ


เสียงเพลง “เชียงขวางแดนงาม” ที่ประพันธ์เนื้อร้องทำนองโดย ส.บัวละพัน แว่วขึ้นในครุ่นคำนึง ระหว่างเราโยนตัวเอียงขวาซ้ายไปตามแรงเหวี่ยงของรถ บนเส้นทางล้านโค้งไต่ภูเขาระหว่างกรุงเวียงจันทน์-เมืองโพนสะหวัน แขวงเชียงขวาง สปป.ลาว

เป็นช่วงที่ชีพจรลงเท้าแถวเมืองลาวหลายครั้งหลายหนในปีเดียว ครั้งล่าสุดวันที่ 22-26 พฤศจิกายน ได้รับเชิญจากคุณพิษณุ จันทร์วิทัน เอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ ให้ไปร่วมงานกฐินหลวงกับสมาคมไทย-ลาวเพื่อมิตรภาพ ที่มี ดร.วีรพงษ์ รามางกูร เป็นนายกสมาคมฯ และคุณสุวิทย์ สิมะสกุล อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เป็นเลขาธิการสมาคมไทย-ลาว เพื่อมิตรภาพ ได้นำกฐินพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปถวายวัดสำคัญในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว)อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปัจจุบัน ปีนี้เป็นกฐินพระราชทาน ครั้งที่ 17 แล้ว จัดทอดถวาย ณ วัดสีพม เมืองคูน แขวงเชียงขวาง สปป.ลาว


ท่านทูตพิษณุ จันทร์วิทัน กับคณะสื่อมวลชนจากเมืองไทย

เป็นกฐินหลวงที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีเพราะมีผู้เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง นอกจากข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ สำนักพระราชวัง สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขตแล้ว ยังมีคณะแรลลี่โตโยต้าไฮลักซ์ ฯลฯ และชมรมไทยพวนแห่งประเทศไทยซึ่งมีบรรพบุรุษอยู่แถบถิ่นเมืองคูณ แขวงเชียงขวางนำการแสดงทางวัฒนธรรมไปเชื่อมประสานความสัมพันธ์ไทยพวนอย่างคึกคัก

ทางด้าน สปป.ลาวก็มีสมาคมลาว-ไทย เพื่อมิตรภาพ ที่มี ศ.ดร.บ่อแสงคำ วงดาลา เป็นประธานสมาคมและยังเป็น ร.ม.ต.กระทรวงแถลงข่าววัฒนธรรมและการท่องเที่ยวด้วย พร้อมหน้ากับคณะเอกอัครราชทูต สปป.ลาว ประจำประเทศไทย และชาวลาวที่แขวงเชียงขวางต่างมาร่วมต้อนรับกฐินพระราชทานครั้งนี้อย่างอบอุ่น
 
เรียกว่าเป็นงานใหญ่ในรอบปีของแขวงเชียงขวางเลยทีเดียว กลางคืนก่อนพิธีทอดกฐินมีการจัดงานสมโภชองค์พระกฐินที่สวนพูคำ โดยสมาคมไทย-ลาวฯจัดการแสดงของนักร้องไทย คือ โจนัส กับแคทลียา มารศรี ไปแจมกับนักร้องลาว สุดทะลิด กีตาร์ซ้าย เรียกเสียงกรี๊ดสะใจขาโจ๋ตลอดเวลา และมีชาวบ้านมาร่วมงานกันล้นทะลักแทบจะหมดทั้งแขวง

ระยะทางจากเมืองหลวงเวียงจันทน์ไปถึงเชียงขวางประมาณ 400 กิโลเมตรเท่านั้นเอง แต่เราต้องใช้เวลาเดินทางไม่น้อยกว่า 10 ชั่วโมงบนเส้นทางคดเคี้ยววกวนไต่ผ่านเทือกภูสลับซับซ้อน ดังนั้นเพื่อจะได้ไม่สะบักสะบอมมาก เราจึงแวะแรมคืนกลางทางริมน้ำซองที่เมืองวังเวียงหนึ่งคืน แล้วค่อยออกเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น


จุดชมวิวพูคูนสวยสุดใจระหว่างทางไปเชียงขวาง

แขวงเชียงขวางอยู่ตอนกลางค่อนไปทางเหนือของสปป.ลาว มีพื้นที่ทางทิศตะวันออกติดกับประเทศเวียดนามส่วนทิศตะวันตกนั้นติดกับแขวงหลวงพระบาง การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือทางเครื่องบิน ซึ่งมีเที่ยวบินจากเวียงจันทน์ทุกวัน แต่คณะของท่านทูตพิษณุประสงค์ที่จะได้เห็นสภาพความเป็นอยู่รายทางของชาวลาวตลอดจนวิวทิวทัศน์ระหว่างทางที่ร่ำลือว่ามีธรรมชาติสวยงามเหลือแสน คณะของเราก็เลยเดินทางโดยรถบัสเล็ก และได้นั่งโยกเยกกันอยู่บนรถอย่างสนุกสนาน
 
เราไปถึงวังเวียงบ่ายคล้อย มีเวลานิดหน่อยให้ได้เดินเที่ยวเล่นชมเมืองที่โอบล้อมรอบด้วยเทือกเขาน้อยใหญ่ มีลำน้ำซองใสสะอาดไหลพาดผ่านกลางเมือง มองเห็นสายน้ำทอดตัวยาวเหยียดขนาบไปกับบ้านเรือน มีหาดทรายชายน้ำตลอดแนวโดยมีเทือกเขาหินปูนเป็นฉากหลัง ทัศนียภาพอันงดงามตระการตาของเทือกเขาหินปูนสลับสล้างนี่เองทำให้วังเวียงได้ชื่อว่าเป็น “กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว”

ปัจจุบันแม้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติแวะเวียนไปเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสายแต่วิถีพื้นถิ่นของชาวบ้านยังดำรงอยู่ได้อย่างเรียบง่ายท่ามสายธารการเปลี่ยนแปลงที่ไหลบ่าราวกระแสน้ำหลาก


บรรยากาศเมืองวังเวียงยามเย็น


อากาศที่วังเวียงกำลังเย็นสบาย ไม่ถึงกับหนาวตามที่คาดการณ์เอาไว้ ส่วนที่เชียงขวางซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลขึ้นไปอีก(1,200 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล) อากาศเย็นกว่าเล็กน้อยเท่านั้นเอง ถือว่าปีนี้ความหนาวเย็นมาเยือนเมืองลาวอย่างล่ากว่าทุกครั้ง ...อุณหภูมิดาวโลกคงผิดเพี้ยนไปจากที่เคยเป็นจริงแน่แท้

ในพิธีทอดกฐินนั้น ทางสมาคมไทย-ลาวเพื่อมิตรภาพได้สร้างหอกลองสวยงามมากถวายแก่วัดสีพม รวมทั้งได้ถวายหลังคาโรงเรียนสงฆ์วัดสันติพาบ ทาสีอุโบสถวัดบ้านยวน ซึ่งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแผ่นดินสองฝั่งโขงว่าว่าเรามาจากรากเหง้าเดียวกัน

รวมแล้วได้เงินทำบุญกว่า 4.5 ล้านบาท เงินกีบอีก 120 ล้านกีบ (7 แสนบาทเศษ) เอาไปทำนุบำรุงศาสนสถานและอุดหนุนเรื่องการศึกษาของคณะสงฆ์ลาวได้อีกพอสมควร ที่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดคือ กฐินหลวงนั้นได้กลายเป็นสัญลักษณ์ความผูกพันเชื่อมั่นในมิตรไมตรีต่อกันระหว่างคน 2 ชาติ


การตั้งแถว ยืนสวัสดีผู้มาเยือนเป็นธรรมเนียมต้อนรับของชาวเมืองคูน

สาวๆชาวบ้านแต่งตัวสดใสมาต้อนรับกฐินหลวง

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของกฐินหลวงปี 2555 คือ กลุ่มไทยเบฟฯของเสี่ยเจริญ ศิริวัฒนภักดี ได้ส่งทีมโค้ชฟุตบอล นำโดยโค้ชใหญ่ระดับทีมชาติ “ชาญวิทย์ ผลชีวิน” ไปทำโครงการฝึกสอนฟุตบอลให้เยาวชนเชียงขวางด้วย มีการเข้าค่ายฝึกเทคนิคต่างๆ และมอบลูกฟุตบอลให้เยาวชนได้ใช้ฝึกซ้อมจำนวนมาก เป็นที่ขานรับด้วยเสียงชื่นชมและคงจะเป็นก้าวย่างการเริ่มต้นที่ดีของไทยเบฟฯที่จะทำกิจกรรมด้านสนับสนุนกีฬาให้แก่เยาวชนลาวอย่างต่อเนื่องทุกปีต่อไป
 
เมืองเชียงขวางนี้ ในสมัยโบราณรู้จักกันในชื่อ “เมืองพวน” ผู้ที่อาศัยอยู่แถบถิ่นนี้แต่เดิมรวมทั้งที่อพยพไปอยู่ที่อื่นจึงเรียกว่า ชาวไทพวน ดังนั้นชาวไทพวนในบ้านเราจึงมีบรรพบุรุษร่วมกับลาวพวนอยู่ที่เชียงขวางนี่เอง ซึ่งแต่เดิมเมืองเอกของแขวงคือเมืองคูน แต่ด้วยสภาพความเสียหายอย่างรุนแรงจากสงครามเวียดนาม จึงย้ายเมืองเอกมาเป็นเมืองโพนสะหวันในปัจจุบัน


ท่านทูตพิษณุ-ภริยา และคณะกินข้าวกล่องเป็นอาหารกลางวันง่ายๆระหว่างทางอันยาวไกล

ชีวิตที่ชาวลาวที่เมืองคูนและเมืองโพนสะหวันมิได้อยู่ในสภาพชนบทล้าหลังแต่อย่างใด โรงแรมที่พักทุกแห่งมีอินเทอร์เน็ตเครือข่าย 3G พร้อมไวไฟ บ้านเมืองสวยงาม สะอาดสะอ้านน่าอยู่ มีทั้งที่ปลูกแบบบ้านจัดสรรสมัยใหม่และบ้านไม้ใต้ถุนสูงพื้นถิ่นเดิมที่ยังคงเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมเอาไว้อย่างดี


เช้าวันที่ 25 พฤศจิกายนที่จะทอดกฐินมีพิธีทำบุญตักบาตรที่วัดสันติพาบ บ้านโพนสวรรค์ เมืองแปก เราได้เห็นศรัทธาอย่างแรงกล้าในพระพุทธศาสนาของชาวเมืองที่แห่แหนกันมาร่วมทำบุญอย่างล้นหลามแต่เช้าตรู่ เวลาใส่บาตรถวายพระชาวบ้านจะถอดรองเท้ากันทุกคน โดยไม่สนใจว่าพื้นที่เหยียบนั้นจะโรยกรวดหรือซีเมนต์ หรือแม้แต่เปียกแฉะด้วยโคลนตมก็ตามที


พระอุโบสถวัดสันติพาบ ที่ตั้งคบงันองค์กฐิน

คณะไทยพวนจากเมืองไทย นำนาฏศิลป์ไปเชื่อมความสัมพันธ์

คณะบุคคลสำคัญของไทยและลาวในงานกฐินหลวง

นอกจากอากาศดีเป็นที่เลื่องลือแล้ว แขวงเชียงขวางยังมี “ทุ่งไหหิน” เป็นโบราณสถานสำคัญด้วย ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งที่ดึงดูดคนจากทั่วโลกให้มาเที่ยวชม ไหหินที่ว่านี้เป็นภาชนะทำด้วยหินทรายรูปทรงคล้ายไห มีทั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ยักษ์ที่มีน้ำหนักมากถึง 6 ตันเลยทีเดียว

และที่น่าตื่นตลึงก็คือปริมาณไหหินนี้มีเป็นพันๆใบกระจายอยู่ตามทุ่งหลายแหล่ง ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังขุดค้นไม่แล้วเสร็จเพราะพื้นดินเชียงขวางสุดแสนจะอันตราย เนื่องจากเคยเป็นสมรภูมิสู้รบอย่างหนักระหว่างสงครามอินโดจีน เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สหรัฐอเมริกาเอาลูกระเบิดมาหย่อนทิ้งไว้เต็มเมือง และทุกวันนี้ก็ยังมีลูกระเบิดหลงเหลือฝังอยู่ตามพื้นดินที่พร้อมจะระเบิดตลอดเวลา


ทิวทัศน์สองข้างทางงดงามแบบนี้


เวลาเดินเที่ยวในเชียงขวางจึงต้องคอยสังเกตป้ายเตือนอันตรายลูกระเบิดให้ดี ซึ่งชาวลาวจะเรียกว่า “บอมบี” และเปลือกหรือฝักระเบิดที่ทิ้งลงมาจากเครื่องบิน บี 52 ที่ไม่ระเบิดแล้วนี่เองก็กลายมาเป็นอนุสรณ์แห่งความอัปยศของการเข่นฆ่ามนุษย์ด้วยกัน

ชาวบ้านจะเอาลูกระเบิดใหญ่ยักษ์ที่ยังหลงเหลือนี้มาตกแต่งร้านค้าบ้านเรือน บ้างก็ทำเสาบ้าน บ้างเอาไปทำรางข้าวหมู ทำเตาบาร์บีคิวย่างไก่ หรือแม้แต่ทำเรือก็มี

กฐินหลวงปีนี้นอกจากได้ทำบุญใหญ่กันแล้ว คณะผู้ร่วมทางยังสนุกกันจริงๆ


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1355480594&grpid=&catid=02&subcatid=0200
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 17, 2012, 10:09:23 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: กฐินหลวง...ณ เมืองเซียงขวง สปป.ลาว (ชมภาพ)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2012, 10:15:48 am »
0


หอกลองวัดสีพมที่งานทอดกฐินหลวงปีนี้จัดสร้างถวาย


นุ่งซิ่นเบี่ยงแพร ชุดสวยประจำชาติในงานบุญของคนลาว


ของใส่บาตร


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1355480594&grpid=&catid=02&subcatid=0200
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ