พวกบังบดที่ถ้ำแสงจันทร์
BY: NOOKFUFU2
เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ตลกๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2552 ขณะเดินทางไปที่ถ้ำแสงจันทร์ จ.ชัยภูมิถ้าอ่านเรื่องพบหลวงปู่เทพโลกอุดรมาแล้วจะเข้าใจง่ายขึ้น คือว่าที่ถ้ำแสงจันทร์นี้ เป็นปล่องถ้ำกลางภูเขาไปเก่าที่อยู่บนยอดเขา การเดินทางกว่าจะมาถึงได้ต้องเดินขึ้นลงเขากว่า 7 กิโลเมตร ผ่านเขา 4 ลูก และแน่นอนว่าข้างบนนี้ไม่มีน้ำ ต้องแบกน้ำขึ้นไปดื่มเองด้วย เรื่องห้องน้ำยิ่งไม่ต้องพูดถึง บอกได้คำเดียวว่าต้องเอากระดาษทิชชู่ไปด้วยเยอะๆ พกมีดพร้าด้ามยาวไปด้วยสักเล่มไว้สำหรับใช้แซะดินขุดหลุมวางกับดักกลางป่า อุอุเรื่องขำๆนี้ก็มีอยู่ว่า ตอนมาถึงถ้ำแสงจันทร์ได้ไม่นานเราเกิดปวดท้องหนักกระทันหัน ยืมมีดพวกลูกหามไปขุดหลุม กระดาษทิชชู่อีกม้วนใหญ่ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่นั่งปลดทุกข์กลางป่าเขาลำเนาไพร เดินหาทำเล เอามันกลางปล่องภูเขาไฟนี่แหละบรรยากาศสุดยอด
ก่อนวางระเบิดในป่าแม่ชีก็สอนว่า ให้ขอขมาเจ้าที่เจ้าป่าเจ้าเขาก่อน เราก็ทำตามคำสั่งเรียบร้อย หาทำเลได้ก็เอามีดขุดๆหลุมลึกมาก กะว่าหลุมลึกนี้คงสามารถรองรับปริมาณระเบิดได้หลายกิโลกรัม ขุดยังกะจะเอาไว้ปักเสาบ้าน มองซ้ายมองขวาโอเคปลอดคน อยู่ในท่าเตรียมเรียบร้อย มีเสียง "เฮ้ย!" ดังลั่น เป็นเสียงผู้ชายดังมาก ตอนนั้นคิดในใจ ใครว่ะขัดจังหวะหรือว่าพวกลูกหาบผู้ชายจะเดินหาฝืนกันอยู่แถวนี้ ไม่ได้ๆย้ายหลุมดีกว่า เดี๋ยวมันเดินมาเห็นเข้า เสียบรรยากาศหมดนั่งเด็ดดอกไม้หมดย้ายอีกไปมุมใหม่ ขุดหลุมใหม่ คราวนี้หลุมไม่ลึก เริ่มอั้นไม่ไหวขุดมันเร็วๆนี่แหละ มองซ้ายมองขวาอีกโอเคปลอดคน มีเสียง "เฮ้ย!" ดังมาอีก คิดในใจไอ้บ้าที่ไหนว่ะ ตรงไหนมันก็ไม่ให้หรือว่ามันจะแอบดู ชะโงกหน้ามองหาก็ไม่เห็นใครสักคน หรือว่ามันจะแกล้งหลบ? คราวนี้ย้ายหลุมอีก เอามันซอกหินใหญ่นี่เลย แอบดูได้ให้มันรู้ไป
หลุมที่สามเหมือนเดิม ขุดเรียบร้อยอยู่ในท่าเตรียมพร้อม มันตะโกนมาอีกแล้วดัง "เฮ้ย!" เสียงผู้ชายดังใกล้มาก เอาว่ะแม่งอั้นไม่ไหวแล้ว จะกี่เฮ้ยก็ให้มันร้องไป อึมันตรงนี้เลยเสร็จธุรเรียบร้อยเดินหงุดหงิดกลับไปถามแม่ชีนิ่ม แม่ๆตอนนี้พวกลูกหาบอยู่ที่ไหนกันหมด แม่ชีก็บอกเดินออกนอกถ้ำกันหมดแล้วไปหาฝืนตรงโน้น แม่ชีนิ่มชี้ไปอีกฝั่งไกลๆ อยู่คนละทวีปกันเลย คราวนี้เริ่มสงสัยแล้วไอ้ที่มันมาตะโกน เฮ้ย! ตั้งสามรอบใกล้ๆน่ะมันใคร ยิ่งเป็นคนดวงดีไปไหนก็เจอดีหมด
วันแรกผ่านไป วันที่สองที่ยังมีเสียง "เฮ้ย!" ดังมาอยู่ ช่วงหลังๆ ดูเหมือนเจ้าของเสียงจะเริ่มขี้เกียจแกล้งแล้วละมั้ง ถ้าปวดหนักเมื่อไหร เดินเข้าป่าขุดหลุมแรก ถ้ามีเสียง "เฮ้ย!" มาละก็ เราวางระเบิดมันตรงนั้นเลย ตอนนั้นรู้แล้วนี่ว่าไม่ใช่คนแน่ แล้วตลอด 3 วัน 3 คืน ก็โดนอยู่คนเดียวคนอื่นเขาไม่มีใครโดน ท่าทางเราจะดวงดีอยู่คนเดียวจริงๆจนคืนวันสุดท้ายพรุ่งนี้จะเป็นวันกลับ.. คืนนั้นทุกคนนอนชมแสงจันทร์กันเล่น ชมไปชมมาดันหลบกันหมด ทั้งพระทั้งแม่ชีหลับเรียบร้อย เรานั่งหัวโด่อยู่คนเดียวสุดท้ายก็ล้มตัวนอนเล่นได้ยินเสียงคนเดินมาใกล้ๆ ไม่ได้สังเกตอะไร คิดว่าพวกลูกหาบคงลุกไปปลดทุกข์ในป่าแล้วเดินกลับมา
เสียงเดินมาหยุดอยู่บนหัวนอน นั่งลงคุยกันเป็นเสียงของผู้ชายสองคน คุยกันบนหัวเรานี่แหละ เลยหัวนอนเราไปจะเป็นที่นอนของพระ คิดว่าคงเป็นพระสงฆ์นั่งคุยกัน มีพระสององค์นอนตรงนั้นพอดี ท่านคงตื่นมานั่งคุยกัน แต่ภาษาที่คุยมันแปลกๆ พยายามจะฟังว่าคุยเป็นภาษาอะไรแต่ฟังไม่รู้เรื่อง สำเนียงคล้ายๆภาษาอีสานแต่มันไม่ใช่ ปกติเราฟังภาษาอีสานรู้เรื่องแต่พูดไม่เป็น เหมือนเขานั่งจับเข่าคุยกัน ดันคุยกันบนหัวนอนเราด้วย แต่เท่าที่รู้สึกเหมือนอารมณ์คนกำลังเซ็งๆเบื่อๆคุยไปเรื่อย คุยกันเสียงดัง แหงนหน้ามองขึ้นมาก็ไม่เห็นอะไรได้ยินแต่เสียง คิดว่าพระทั้งสององค์คงล้มตัวนอนคุยกัน เพราะเห็นท่านนอนเหยียดเท้าทั้งคู่ เราก็นอนฟังเพลินจนหลับไป
ตอนเช้าตื่นมารอให้พระทำวัตรเช้าเสร็จ เราเดินมาถามท่านว่าเมื่อตอนดึกคุยภาษาอะไรกัน แปลกดีไม่เคยได้ยินจะว่าภาษาอีสานก็ไม่ใช่คุยกันตั้งนานจนดึกดื่น ปกติเราเป็นคนนอนดึกมาก ถ้าอยู่บ้า่นใช้คอมทีตี 2 ตี 3 ถึงจะนอน แต่นี่นอนฟังจนหลับไปเลย พระท่านก็มองหน้ากัน บอกว่าหลับตั้งแต่หัวค่ำแล้วโยม เอาแล้วไง ว่าแล้วเชียวภาษาแบบนั้นมันแปลกเกินไป ไม่ใช่ภาษาของคนท้องถิ่นนี้แน่แม่ชีนั่งอยู่ใกล้ๆได้ยินเราถามพระ แม่ชีเลยบอกว่าคงเป็นพวกบังบดคุยกันละมั้ง แต่ปกติพวกนี้ไม่มาคุยให้ใครได้ยินหรอก เราก็คิดว่าคงเป็นแบบนั้น พวกบังบดกับพวกลับแลก็พวกเดียวกัน คิดว่าชาวบังบดสองคนนี้คงมาช่วยคุ้มครองดูแลความปลอดภัยให้คณะบุญ แม่ชีนิ่มยังบอกอีกว่าเทือกเขาหมดนี้เป็นถิ่นของหลวงปู่เทพโลกอุดร พวกบังบดทั้งหมดขึ้นตรงกับท่าน เคารพท่านมาก
นึกถึง่เสียงคุยกันเมื่อคืนที่เราฟัง ประมาณเหมือนพวกเหงาๆเซ็งๆ เข้าใจว่าชาวบัดบงสองคนนี้คงนานๆจะเจอคนแปลกหน้าให้ได้หยอกเล่นซะที ส่วนใหญ่คนที่บุกป่าฝ่าดงมาถึงที่นี่ มักเป็นพวกปฏิบัติธรรมกับพระสงฆ์ เรากลับไปคงจะเหงาไม่มีใครให้หยอกเล่นไปพักใหญ่ ก็เล่นมาคุยกรอกหูบนหัวเราตั้งแต่หัวค่ำยันดึกดื่นไม่ยอมไปไหน ตั้งใจว่าจะมาเยี่ยมพวกนี้อีก แต่คราวหน้าคงไม่ขึ้นไปถึงกลางปล่องภูเขาไฟนี้แน่ จะนอนพักแค่ในถ้ำวัวแดงหรือตามตีนเขาแทน ที่มา http://nookfufu2.exteen.com/20100624/entry-2