โห คุณ modtanoy  นี่เขาเรียกว่า กลยุธท์ ลักเรียน เลย นะครับ ไม่เชือ ไม่ศรัทธา แต่ ต้องการรู้ข้อมูล ทางวิชาด้วย เอาไปทำไมครับ ไม่เข้าใจ

     

ข้อความสำคัญ น่าจะอยู่ที่ เรื่องการเป็นพระอริยะบุคคล ด้วย มัชฌิมา แบบลำดับ นะครับ เท่าที่อ่านดู เหมือนจะมีขั้นตอน ชัดเจนในการเดินจิต ที่เรียกว่า ปฐมมรรค ปฐมผล นะครับ ถ้าส่วนนี้ ผมว่า สำคัญมาก ตวรจะได้เรียน ถ้าผมเข้าใจถูกต้อง
   

 

ว่าจะเข้าไปเหมือนกัน แก๊งค์กบ อยู่ใกล้ ๆ จะเข้าไปหรือไม่ ?

 เขาเร่ิ่มหลังเลิกงาน นะ

   

 

ข้อความขัดแย้ง นั่นแหละ คุณ Admax เลยไม่ได้มาตอบ หรือ อนุโมทนา ไงละ

 เหรอ จ๊ะ คิดว่า แบบนั้น หรือ จ๊ะ

  เดี๋ยวดู คุณ Admax มาตอบหน่อย ก็แล้วกัน

 

   ว่าอย่างไร จ๊ะ คุณ Admax เข้ามาอ่าแแล้ว นะ ผ่านไป หนึ่งอาทิตย์ แล้วไม่ตอบอะไร แสดงว่า ไม่เห็นด้วย ไงละจ๊ะ เพราะที่กล่าวมานั้น ไม่มีสาระตอบได้ตรงคำถาม

   

 คำตอบ มันก็มีอยู่ นะ

 http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=17613.msg58201#msg58201

 

 

 

เหมือนที่พระอาจารย์ พูดไว้ในรายการเมื่อวันก่อนเลยครับ ผมฟังท่านวิจารณ์ให้ฟัง กรณีนี้ ท่านบอกว่า สาเหตุเกิดจากคนในเอง ทำเอง ตอนแรกผมฟังว่า งง ๆ อยู่ ว่า พระอาจารย์ ท่านพูดเหมือนจะรู้ พอเฉลยวันนี้ออกมา ต้องยอมรับว่า ผมฟัง พระอาจารย์พูดไปวันก่อน ที่ผมถามไว้ .... สุดยอดจริง ๆ

   ตอนแรก ผมตั้งคำถามไปว่า เด็กมีความสามารถพิเศษ ใช่หรือ ไม่ ? ( ประมาณนี้ ท่านก็นัดไว้ว่า เดี่ยวจะตอบรายการสดเวลา 23.00 น. ไม่ผิดหวังจริง รายการสด หรือ อัดเสียงไว้ ก็ไม่ทราบ ประมาณ 30 นาที มีการวิจารณ์ เรื่องราวใน Forword สามเรื่องด้วยกัน

   

[ข้อสันนิษฐานภายหลังเชื่อว่าเกิดจากโลหะแปลกปลอมที่ไม่ใช่ทองคำปะปนอยู่กับทองคำปลียอด]

สรุป แล้ว ก็คือ การจัดสร้าง ไม่ใช้ทองคำตามปริมาณที่ถูกต้อง ทำไม ไม่ดูทางภาคเหนือ นะ ว่าของเขาไม่มีสนิมเลยนะ เพราะทางภาคเหนือใช้สัดส่วนที่ถูกต้อง คือ ไม่ยักยอก ไม่เบียดบัง
  นี่ยังของบอีก 30 ล้านเพื่อจัดการบูรณะ อีก .... จะเหมือนเดิมอีกไหม นี่

  ข้อสันนิษฐานภายหลังเชื่อว่าเกิดจากโลหะแปลกปลอมที่ไม่ใช่ทองคำปะปนอยู่กับทองคำปลียอด

 

 

ต่อไป ก็ สร้าง ( อีเป๋อ จิ้ม ) ด้วย สิ ครับ จะได้เข้า คู่ กัน
 มองเห็นแนวคิดสงฆ์ ภาคใต้ ทางไม่ดี เลย เมื่อก่อนมองสงฆ์ สายใต้ เป็นสงฆ์ มีปัญญา เพราะพระสายใต้ อย่างเจ้าคุณพุทธทาส นั้นท่าน ต่อต้านความงมงาย เข้าใจ ว่า พระสายใต้ เป็น พระที่มีปัญญา เชี่ยวชาญการสอน มีอุดมการณ์ แต่ เหตุการณ์นี้ มองออกมาแล้ว พระสายใต้ งมงายเยอะมาก แถมพวกอุตริ ก็เยอะอีก

  เฮ้อ ....

   

 

ขอบคุณภาพจาก http://i.ytimg.com/

ไม่มี ธุรกิจ อะไร จะอยู่ ได้ นาน ๆ หรอกโยม
 นอกจาก ธุรกิจ ที่เกี่ยวข้อง กับ ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ครับ

( สำนวน นี้ เป็น สำนวน ที่พระอาจารย์ เคย กล่าว กับ ผม ไว้ ครั้ง หนึ่ง ครับ )

 

ขอทราบวิธีการนำไปใช้ ด้วยครับ

 

 

 klang kittipong 4 เดือนที่ผ่านมา (แก้ไขแล้ว)
ตอนผมบวชผมเคยนั้งสมาธิได้2ชั่วโมง พระอาจารย์ถามทำไมนั่งได้นานเห็นอะไรในนั่น ผมบอกเห็นคล้ายๆสมุดเปิดไปทีละหน้า แต่ละหน้าสีสว่างไม่เหมือนกันเปิดไปเรือยๆ บางหน้าขาวบางหน้าสีนั่นสีนี้  พระอาจารย์ว่าลองนั่งดูลมหายใจ เข้าออกดู แล้วเวลาคิดอะไรได้ก็ดูความคิดแล้ววางมันลงตรงหน้านั่นละ นั่นละตอนนั่นผมรู่สึกโล่งที่สุดไม่เคยโล่งแบบนี้เลย ผมว่านี่ละคือปฐมญาณ ละแสงก็คงจะเป็นแบบธรรมกายเรารู้สึกสุขแต่เราไม่ได้วางอะไรเลย...... ผมมีเหตุต้องสึกออกมาเพราะมีสัญญากับผู้มีพระคุณ ที่ตัดไม่ได้ ถ้ามีบุญแก่ตัวมาคงบวชอิกครับ ..... ญาณคือกุญแจไปหาทางพ้นทุกข์ แต่ถ้าได้กุญแจแล้ว ทิ้งไว้สุดท้ายก่อนสิ้นลมไม่เปิดก็ไม่ถึง อยู่ดี ...... ละตอนที่ผมปฎิบัติหยุดตรงที่หน้าหนังสือที่มีสีๆ ก็คงเห็นเทวดา เห็นยัก แบบธรรมกายนั่นละแต่เป็นยักที่เราคิดขึ้นมาเพราะเรายังไม่วางความคิดของเราเลย .... การถึงญาณอริยสงค์เจ้า ว่าไว้ทุกองค์ ญาณคือความว่างเปล่า (ไม่มียัก ไม่มีเทวดา บนนั่น สังสรรค์บนนั่นไม่มี)

 

 

https://www.youtube.com/watch?v=DuJ3BMzTHzQ
   



Dearaear Heng 1 เดือนที่ผ่านมา
หลวงพ่อสดเลิกวิชชาธรรมกายจริงหรือ?

มาเข้าประเด็นกันตรงๆไม่ต้องอ้อมค้อมกับกรณีที่ทางวัดมหาธาตุได้กล่าวว่าหลวงพ่อสดได้เลิกสอนวิชชาธรรมกายแล้ว และบอกว่าวิชชาธรรมกายเป็นเพียงแค่สมถะเท่านั้น เรื่องที่บอกว่าวิชชาธรรมกายเป็นแค่สมถะเท่านั้นนั้นผมไม่ขอกล่าวในที่นี้แล้ว เพราะเคยลงข้อมูลให้อ่านกันไปแล้วว่าวิชชาธรรมกายเป็นทั้งสมถะและวิปัสสนา แต่เรื่องนี้ความจริงผมเคยได้ยินทางสายพองยุบพูดมาหลายสิบปีแล้ว... เอาล่ะ หลวงพ่อสดท่านเลิกสอนวิชชาธรรมกายจริงหรือ? วันนี้ว่ากันให้ชัดเลย จะยกตัวอย่างมาอ้างอิงและข้อมูลที่ผมจะประมวลผลจากข้อเท็จจริงขึ้นมาให้รับทราบ

สายวัดมหาธาตุหรือสายพองยุบ อันมีเจ้าคุณโชดกหรือพระธรรมธีรราชมหามุนี รวมถึงศิษยานุศิษย์ได้มีการกล่าวอ้างจากรูปที่หลวงพ่อสดท่านได้เขียนไว้ให้ว่า ท่านเลิกสอนวิชชาธรรมกายแล้วความว่า


“ ให้สำนักวิปัสสนา ในการที่ฉันได้เข้าปฏิบัติวิปัสสนาตามแบบวัดมหาธาตุสอนอยู่ในปัจจุบันนี้แล้ว ยืนยันได้ว่าการปฏิบัติแบบนี้ ถูกต้องร่องรอยในมหาสติปัฏฐานสูตรทุกประการ ลงชื่อ พระภาวนาโกศล วัดปากน้ำ ธนบุรี ๒๐ เมษายน ๒๔๙๘ ”

ข้อความนี้ถูกนำมากล่าวอ้างและได้มีหนังสือจากทางวัดมหาธาตุเอง เป็นหนังสือชื่อ “คำถาม-คำตอบ เรื่องวิปัสสนากรรมฐาน” โดยพระมหาโชดกเป็นผู้เขียนขึ้น เล่าถึงเรื่องราวบางส่วนที่ได้ไปสอนวิปัสสนากรรมฐานแก่หลวงพ่อสด โดยสรุปความว่า หลวงพ่อสดท่านยอมรับว่าท่านติดอยู่กับสมถะคือธรรมกายนี้ และถึงขนาดกล่าวว่าตัวเองเป็นขี้ข้าเค้ามานาน มาได้เจอของจริงจากท่านเจ้าคุณโชดก... แล้วได้ภาวนาว่าเห็นหนอๆ ธรรมกายที่มีก็ดับวูบไป... ศิษย์ของท่านเจ้าคุณโชดกท่านหนึ่ง นั่นก็คือ..... ท่านได้กล่าวไว้ในหนังสือมักกะลีผลไว้ว่า หลวงพ่อสดถึงกับก้มกราบท่านเจ้าคุณอุดมวิชชาญาณ(ซึ่งก็คือท่านเจ้าคุณโชดก)ผู้มีพรรษาอ่อนกว่า และกล่าวว่าตัวท่าน(หลวงพ่อสด)บรรลุญาณ16 แล้ว ท่านไม่ติดในธรรมกายแล้ว...

มาดูบทวิเคราะห์ข้อมูลกัน ไม่ได้กล่าวว่าร้ายฝ่ายทางวัดมหาธาตุแต่เราก็ต้องว่ากันตามข้อเท็จจริง เพื่อให้ผู้ไม่ทราบความจริงได้เข้าใจตรงตามความเป็นจริง

หลวงพ่อสดเขียนข้อความรับรองใต้รูปให้วัดมหาธาตุ ลงวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๔๙๘ หลังจากฝึกวิปัสสนากรรมฐานกับท่านเจ้าคุณโชดกเสร็จ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่ท่านเจ้าคุณโชดกกล่าวในหนังสือเป็นเรื่องจริงว่าหลวงพ่อสดท่านฝึกวิปัสสนาจนสำเร็จญาณ16 บรรลุแล้ว และยอมรับว่าธรรมกายไม่ใช่วิปัสสนา(ซึ่งการบอกว่าวิชชาธรรมกายไม่ใช่วิปัสสนาเป็นเพียงแค่นิมิตติดในรูปไม่ใช่ของจริง ให้ละเสียนั้น เป็นเสียงของท่านเจ้าคุณโชดกได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนสามารถหาฟังได้) หลวงพ่อสดท่านเป็นคนจริง ในสมัยตอนที่ท่านนั่งปฏิบัติภาวนาแล้วตั้งจิตอธิษฐานจะไม่ยอมลุกออกจากที่ หากไม่บรรลุธรรมนั้น ถือเป็นคุณธรรมอันสูงส่ง ยอมตายเพื่อขอให้ได้เข้าถึงธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นหากท่านรู้แล้วว่าธรรมกายไม่ใช่ของจริง เป็นเพียงนิมิตหลอกอย่างที่ท่านเจ้าคุณโชดกกล่าว และท่านมาบรรลุธรรมจากท่านเจ้าคุณโชดกจริง หลวงพ่อสดท่านย่อมไม่สอนวิชชาธรรมกายต่อแน่นอน เพราะโดยนิสัยท่าน หากรู้ว่าสิ่งใดผิดย่อมจะไม่กระทำต่อ ตามคุณธรรมที่ท่านมีในใจ ยิ่งเรื่องธรรมะด้วยแล้วท่านจะระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง.....


แต่เราลองมาดูกัณฑ์เทศน์ที่ ๖๓ เรื่องทานวัตถุ-ฉากหลัง ซึ่งหลวงพ่อสดท่านเทศน์ไว้เมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๔๙๙ ซึ่งเป็นการเทศน์หลังจากที่ท่านได้เขียนข้อความรับรองให้วัดมหาธาตุหรือหลังจากที่ท่านเจ้าคุณโชดกได้กล่าวไว้ว่าท่านเลิกธรรมกายไปแล้วเป็นเวลาเกือบ 1 ปี มีความบางส่วนโดยย่อว่า

“.....นี่วิชชาวัดปากน้ำมีอยู่แล้วเวลานี้ มีวิชชาตรวจฉากหลังเรานี่ คือธรรมกายปรากฏอยู่แล้ว เขากำลังตรวจอยู่แล้ว เขากำลังทำกันอยู่แล้ว นี่แหละของจริง พระเณรไม่รู้จักของจริงละก็ อย่าโกงตัวเอง อย่าดูถูกตัวเอง ให้อุตส่าห์พยายามตรวจฉากหลังของตัวให้สุดให้ได้ ถ้าไม่สุดฉากหลังตัวก็เป็นบ่าวเป็นทาสเขาอยู่นั่น ไม่ต้องสงสัย เมื่อรู้เมื่อเข้าใจดังนี้แล้ว ตัวก็จะได้บรรลุผลที่ยิ่งใหญ่ไพศาลหาประมาณมิได้ พระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งไปพบท่านเข้า ถ้าเราไปได้สุดท่านก็จะยิ้มในพระทัยว่า เออ ไอ้นี่มันลูกผู้ชายจริง เออ ไอ้นี่เป็นคนมีปัญญา....” (หนังสือรวมพระธรรมเทศนา พระมงคลเทพมุนี(สด จันทสโร),2555,หน้า810)

ต่อมาโอวาทที่หลวงพ่อสดท่านแสดงในวันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อสด วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๔๙๘ ซึ่งก็เป็นการให้โอวาทหลังจากการบันทึกข้อความให้วัดมหาธาตุอีกเช่นเดียวกัน โดยมีระยะเวลาผ่านมาเกือบ 6 เดือน ความว่า “...ผู้เทศน์เกิดวันศุกร์ ปีวอก บวชมา 50 พรรษา ค้นคว้าธรรมะเรื่อยมา... ดวงธรรมที่ทำให้เป็นพุทธรัตนะ ผู้เทศน์รู้จักเกือบ 50 ปี โดยค้นคว้าทางปฏิบัติ ดีที่สุดคือ พระพุทธเจ้า ชั่วที่สุดคือ มาร ผู้เทศน์มารู้ตัวเมื่อบวชแล้วว่า ต้นธาตุใช้ให้มาจุติมาเกิดเพื่อปราบมาร ถ้ามารไม่แพ้ ผู้เทศน์ยอมตายอยู่ที่วัดปากน้ำ...ผู้เทศน์ปล่อยชีวิต(ยอมถวายชีวิตแด่พระพุทธเจ้า)ถึง 2 คราว จึงได้พบ ธรรมกาย ชายหญิงผู้ปฏิบัติธรรมถึงธรรมกายโคตรภู เท่ากับได้บวชข้างใน เป็นหญิงบวชข้างใน เป็นชายบวชทั้งข้างในข้างนอกเป็น 2 ชั้น...”(จากหนังสือธรรมกาย หน้า ธ-ป,โรงพิมพ์ไทยพณิชยการสีลม,กันยายน 2499)

และอีกโอวาทหนึ่งที่หลวงพ่อสดแสดงแก่พระภิกษุสามเณรในพระอุโบสถ วันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๔๙๘ แสดงไว้หลังเกิดเรื่องเช่นกัน ความโดยย่อที่ยังบ่งบอกว่าท่านยังสอนวิชชาธรรมกายอยู่ว่า ....เมื่อเห็นด้วยตาธรรมกายว่ากายมนุษย์ กายมนุษย์ละเอียดเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แล้วก็ อะไรเล่าเป็นแก่นสาร... เมื่อไปเห็นเหตุที่เกิดแล้ว มันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องมีดับ ที่ว่าเกิดแล้วไม่มีดับเลยน่ะเป็นอันไม่มี มีดับ ดับเป็นนิโรธ...นี่เห็นด้วยตาธรรมกาย รู้ชัดด้วยญาณของธรรมกาย ถ้าว่าถูกส่วนเข้าถึงขนาดเช่นนี้ละก็ ธรรมกายโคตรภูจะกลับเป็นโสดา...(หลวงพ่อสดแสดงแก่พระภิกษุสามเณรในพระอุโบสถหลังทำวัตรแล้ว จากหนังสือหนังสือรวมพระธรรมเทศนา พระมงคลเทพมุนี(สด จันทสโร),2555,หน้า888)


พระธรรมเทศนาที่หลวงพ่อสดท่านเทศน์ไว้โดยมีการบันทึกเสียงเก็บไว้ แล้วจึงนำมาพิมพ์เผยแพร่เป็นหนังสือต่อๆกันมาในปัจจุบัน จากพระธรรมเทศนาของหลวงพ่อสดดังที่ได้กล่าวมาทั้งหมด จึงเป็นคำสอนที่มีความน่าเชื่อถือว่าเป็นคำพูดของท่านจริง ที่ยังคงสอนเรื่องวิชชาธรรมกายตามปกติเหมือนเดิมประหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่างจากที่ท่านเจ้าคุณโชดกได้กล่าวเอาไว้ เอา...แล้วมันไม่ขัดกันหรือกับประเด็นที่ทางท่านเจ้าคุณโชดกกล่าวว่าธรรมกายของหลวงพ่อสดดับไปเพราะเป็นเพียงนิมิต แล้วก็ได้บรรลุธรรมของจริงจากวัดมหาธาตุแล้ว แถมยังบอกว่าตัวท่านเองเป็นขี้ข้ามานานแล้ว... แน่นอนว่ามันขัดกันแน่ๆ เพราะหลวงพ่อสดท่านยังสอนเรื่องวิชชาธรรมกายไปจนวาระสุดท้ายของท่านถึงปี 2502 ลูกศิษย์ลูกหาสมัยนั้นรู้ดี เพราะฉะนั้นเรื่องว่าท่านเลิกวิชชาธรรมกายแล้ว ไม่สอนวิชชาธรรมกายแล้วนั้น จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และไม่ปรากฏหลักฐานว่าท่านเปลี่ยนแนวไปสอนแบบพองยุบที่ใดเลย

ดังนั้นท่านผู้เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำทั้งหลาย ประเด็นนี้น่าจะชัดเจนพอสมควรแล้วว่าความจริงควรจะเป็นเช่นไร นิสัยคนจริงอย่างหลวงพ่อวัดปากน้ำคงไม่กระทำการสอนต่อไปหากสิ่งที่ทำอยู่ไม่ใช่ของจริง แล้วท่านจะเอาตัวรอดคนเดียวโดยการทิ้งลูกศิษย์ลูกหาให้ยึดติดกับสิ่งที่เป็นนิมิตหลอกๆดังที่ท่านเจ้าคุณโชดกกล่าวต่อไปอย่างนั้นหรือ ไม่ต้องเป็นหลวงพ่อสดหรือหลวงพ่อวัดปากน้ำดอก เอาแค่คุณธรรมในตัวเราเองนี่แหละว่าหากเราบรรลุธรรมเจอของจริงแล้ว เราจะไม่สอนคนที่ให้ข้าวให้น้ำเราให้รู้แจ้งเห็นจริงตามเราเหรอ ข้อนี้จึงขอให้มั่นใจในตัวหลวงพ่อสดว่าท่านสอนวิชชาธรรมกายต่อแน่นอนหลังจากเกิดข้อพิพาทขึ้น และท่านก็ยืนยันจนบั้นปลายชีวิตของท่านว่าวิชชาธรรมกายคือของจริง เป็นทางสายกลางเอกายนมรรคมุ่งตรงต่อพระนิพพานอย่างแน่แท้ ส่วนท่านใด รูปใด ว่าอย่างไรต่อวิชชาธรรมกาย ท่านผู้มีปัญญาทั้งหลายควรฟังแล้วตรองเอาเองว่าใช่หรือไม่ ก็ในเมื่อของจริง ก็ต้องคู่ควรกับคนจริงเท่านั้น..

เรื่องนี้อ่านให้ ดี ก็ซึ้งนะครับ
 ยิ่งมองเห็นยุคนี้ แม้แต่พระสงฆ์ ก็ยังวุ่นวายเรื่องเหล่านี้กันอยู่เลยนะครับ

 

 

 

 

ไม่ทราบว่า ขณะนี้ ทีมงาน ดำเนินการ ไปถึงขั้นไหนแล้วครับ
แบบแปลนจริง ออกมาหรือยัง
ที่ดิน อยู่ตรงไหน
กองทุน สนับสนุน เป็นอย่างไร
ออกอนุโมทนา บัตรได้หรือไม่ ?

   

ติดตามครับ พยายามทำความเข้าใจ ให้ มาก ด้วยครับ


 
 

ส่วนตัว ผมชอบ ที่พระอาจารย์ ท่าน ถ้าจะจัดตอบคำถาม ด้วย วีดีโอ นะครับ เพราะมันได้สาระ และ เสียงในตัว ไม่ต้องอ่าน ตามแล้ว แต่ ขอ้เสีย อาจจะคนเข้าชมเว็บน้อยลงเพราะ ไปดูกันที่ youtube กันหมด เหมือนที่ไปข่าวสารในเฟคบุ๊ค กันนะครับ

   วิธีการตอบกระทู้ ในบอร์ด ด้วยการตอบตามหัวข้อ ก็มีข้อดีนะครับ อย่างน้อย ขอ้ความเสียง น่าจะเร็วกว่าพิมพ์ แต่การพิมพ์ ก็มีดี เหมือนกัน แต่ เมื่อเร็วอย่างหนึ่งไปช้อย่างหนึ่ง ก็ควรจะต้องปรับเรื่องการอัพโหลด ผม ว่า เสนอทางทีมงาน เพิ่ม ASDL เป็น FTTX นะครับ ค่า อัพโหลด อยู่ที่ 1 GB นะครับ น่าจะเร็วกว่าสองเท่านะครับ

 

 

  ทีมงาน มัชฌิมา ทุกท่าน ครับ
 ที่ทุ่มเท แรงกาย และ แรงใจ ตลอดแรง ทรัพย์ เพื่อ ผดุง พระกรรมฐาน

  ขอให้ก้าวปัญหา อุปสรรค โดยไว ครับ

 

ตอนถูกจับ ทำไม ไม่ยับยั้ง ไว้ ตอนนั้น ถ้าเข้าใจขั้นตอน ๆ นั้น
อันนี้ไปรื้อทางรอด ทางกฏหมาย มาหรือไง ?
   คือไม่ได้ศึกษา กฏหมาย มาก่อนใช่หรือไม่ ?

 เพราะถ้ารู้ว่าไม่ผิด ปล่อยให้เขาจับคนไปทำไม ?
  ต้องยับยั้ง ได้ในขณะนั้น เพราะคดีอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย

   
 

นี่ไงละ ผลของการ สร้าง ไม่ทำหน้าที่ พระ เอาแต่ จะสร้างนั้่น สร้างนี่ สุดท้าย มันก็ต้องลงเอย แบบนี้ ผมจำได้ว่า ที่เว็บเคยโพสต์ เรื่องพระตัดต้นตะเคียน ข้างรั้ว แล้ว พระผูกคอตาย เพราะคนที่มาตัดให้ ถูกจองจำอยู่ในคุก 8 ปี ไม่มีอุทธรณ์ นะครับ ....

   นี่ก็เป็นตัวอย่าง อีกเช่นกัน การตัดไม้ ของพระสงฆ์ ผมไม่ได้เห็นครั้งแรก ผมเห็นหลายครั้ง บางทีก็เป็นต้นสัก ตัดเสร็จก็เลื่อย เป็นแผ่นกัน แต่ ถ้าไม่มีคนเอาเรื่อง ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีคนเอาเรื่อง ก็ถูกแจ๊คพ็อต กัน

   มีพระนักสู้ คุ้มครองต้นไม้ รู้สึกจะเป็นสายสวนโมกข ต่อสู้ป้องกันนายทุนทำลายป่า แต่ พระนั้นก็ตาย ถูกทำร้ายจากอิทธิพล จนเป็นคดี สะเทือนใจ มาแล้ว หลายปี

  เรื่องเหล่านี้ มองดี ๆ มันไม่ใช่หน้าที่ของพระ แต่ พระท่านก็มีขอบเขตน์ แต่ ละรูป แต่ละองค์

  ก็คงต้องดูกันต่อไป ครับ

   

ลุยกันไป ฝ่ายกฏหมาย ทั้งสองฝ่าย

  อย่าลืม ว่า กฏหมาย มันมีสองฝ่าย ทนาย ก็มี สองฝ่าย นะ
  ที่เหลือ อยู่ที่ ศาล จะเป็นฝ่ายกฏหมาย หรือ ฝ่ายภายใต้อำนาจ เท่านั้น

 สู้กันไป สิ่งที่รักษา ไว้คืออะไร ผลประโยชน์ การนี้คืออะไร ?

 สำหรับ วัดกัลยา ที่อยู่ฝั่งธนบุรี ถ้าไม่มีหลวงพ่อโต ก็ไม่น่าไป หรอกครับ พระอัธยาศัย ไม่ค่อยดี ผมเคยไปมา สี่ห้า ครั้ง แล้ว ( เอาแบบเหมารวมเลย ยิ่งการจราจร ขวางด้วยท่อน้ำกินพื้นที่ ถนน ด้วย มันแสดงถึงเรื่อง อิทธิพลทางการเงิน วัดทุกวันนี้ กลายเป็นวันหน้าเงิน ไม่ใช่ วัด ที่พึ่งทางใจ แล้ว ...

   พระ ก็ ลงเล่นการเมือง สกปรก ทั้งนอกใน ไปหมด จนลืมการปฏิบัติ ภาวนา เป้าหมายในการบวช เริงร่า ต่อการศึกษา แบบทางโลก สร้างอัตลักษณ์ ทางการมีตัว มีตน

    บางก็งมงาย มอมเมา คนให้หลง ติดอยู่ในวัตถุ... จนหาสาระแก่นสาร มิได้

   กรรม ของ ชาวพุทธในอนาคต ที่จะถึง ผม ว่า น่าจะมีเหตเลวร้าย ตามมาเร็ว ๆ นี้ แน่ นอน

   

ไปฟัง มาแล้ว กับการ ล้มล้าง สถาบัน พุทธศาสนา ออก จาก ระบบ ประเทศไทย ให้ อิสสระ เสรีภาพ แก่ ทุกคนในด้านการเลือก โดยตัด ช๊อย ศาสนาพุทธ ออกไปเป็นศาสนา ทางเลือก ทางเดียว ส่วนศาสนา อื่น ๆ คงระบบแบบเก่า

  ถ้าใคร เชื่อ ไอ้ เนี่ย ประเทศชาติ ไทย ที่เอกลักษณ์ วัฒนธรรม สอดคล้อง กับศาสนาพุทธ กันมาอย่างยาวนาน ก็ถึง กาลวิบัติ เป็นแน่แท้

  ไม่ได้ ตัดสิน เพราะอคติ  แต่ ผมว่า ถ้าแนวคิด อย่างนี้ ผลักดัน กันให้มากขึ้น แน่นอน ละมันต้องมีการสนับสนุนอย่างลับ ๆ กับศาสนาอื่น ๆ ด้วย ที่อยากให้ พุทธ หมด ไปจากเมืองไทย เร็ว ๆ

  ตอนนี้ คุณ รู้หรือ ป่าว การประโคม ข่าวพุทธ กันมากมาย ตอนนี้ เกิดจากฝีมือ ของ ใคร ศาสนาใด ที่ดันเรื่องนี้ ในขณะที่ศาสนา นั้น ๆ แอบไป สัมมนาปลุกระดม องค์กร และ ขยายพื้นที่ขอบเขต กันไป โดยอาศัย เสียงสะท้อนเรื่องศาสนาพุทธ ที่ครึกโครม เบี่ยงเบน ไป โดยที่ใคร ๆ ไม่รู้ตัว

    แถวบ้านผม มีคนศาสนา อื่น มากับ พุทธด้วยกัน มากว้านซื้อที่ดิน และ บอกว่า จะสร้าง หมู่บ้าน แต่ พอขายกันไป ไม่ใช่สร้างหมู่ บ้าน ขาย แต่ กลายเป็นสร้าง ศาสนสถาน ของ เขาขึ้นมา ผม ไม่ได้บอก ว่าศาสนาอะไร แต่ เรื่องนี้ เกิดขึ้นกันอย่างเงียบ ๆ และ ถูกขยาย โดยคนของรัฐ ซึ่งเป็น คนศาสนาเขา สนับสนุน ให้ทำอย่างนั้น

   การที่ได้ ไอ้ เ..ี้ ย นี่พูดแล้ว รู้สึก ว่า ถึงคราว ประเทศชาติ ล่มจมกันแล้ว ถ้ามันวิจารณ์ กันหนักขนาดนี้


  เศร้าใจ บ้านเมืองเรา คนที่ดี หลบไปอยุ่ป่า กันหมด ปล่อยให้ คนระยำ ปลุกปั่น ทุกวัน บรรดาสื่อสมัยนี้ ความเป็นกลาง หายไปหมด กลายเป็นว่า จะอยู่ ในการเมือง ของใคร ไปแล้ว

   
   

 สรุป ก็คือ ไสยศาสตร์

 ทำไม ศิษย์สวนโมกข์เก่า ทำไม อุตริทำเรื่องนี้

 นี่แหละ ที่เขาบอกว่า ลูกชาวบ้าน บังพระสงฆ์

 

 เฮ้ย เฮ้ย เมื่อไหร่ จะ โทร มาหา เสีย ที
 ไป ราวี กับพระ ทำไม มานี่ มาคุยกับข้าพเจ้า นี่
 ปัญญาอ่อนหรือป่าว ได้อ่าน ทุกตัวอักษรหรือไม่ นี่
 
 การสวดพระปริต ต่ออายุ มีในพระไตรปิฏก เป็นข้อแนะนำ ของพระพุทธเจ้า อย่างนี้ไม่งมงาย หรือ ?

 การสวดพระปริต ในสมัยนั้น ให้ผู้ที่รับการสวด อยู่ในวงล้อม ของพระสงฆ์ 7 ชั้น
 บรรดาพระสงฆ์ ที่ล้อม 7 ชั้น จะสวดบทพระปริต ไป เป็นเวลา 7 วัน หมุนเวียนเปลี่ยนกันไป โดยไม่หยุด ก็หมายถึงการสาธยาย พระปริต ทั้งหมด

  เฮ้ย เฮ้ย อย่างนี้ มันงมงาย ไหม นี่ กล้า ว่า พระพุทธเจ้า ไหม ? ว่า เป็น ไสยศาสตร์ หรือ พอเป็นการสั่งการของ พระพุทธเจ้า ก็กลาวเป็น พุทธศาสน์ ทันที

   หนอยแน่ อย่า แถ นะ มา มะ รอ อยู่ นะ รีบ โทร มา เลย


   
 

ก็ดี นะ จะได้ เลิก ล่าไก่ป่า กันบ้าง

  ยิ่งผมกำลัง สวดคาถา พญาไก่เถื่อน แล้วไม่อยากกินไก่เลย

   

ตั้งแต่ สะพาน สร้างเสร็จ ที่นี่กลายเป็นที่เจริญ ทางเศรษฐกิจ
เป็นเพราะอะไร ?

   ถ้าหากท่านคิดให้ดี น่าจะมีคำตอบ ในใจกันบ้างนะครับ

   

การไม่มี ภิกษุณี ก็ต่อ อายุพระพุทธศาสนา อยู่แล้ว ตอนนี้ ( ตอนนี้ไม่มี )
การที่มี อาจจะไม่ดี อย่างที่คิด ก็ได้

  การข่มขู่ สงฆ์ ที่เป็น ฝ่ายหญิงนั้น คุกคามได้ง่ายกว่า บางครั้ง ผู้หญิง ยอมเสีย การใหญ่ แต่ไม่ยอมเสียชื่อเสียง การที่จะออกมาเป็นช้างเท้าหน้า นั้น สำหรับผู้หญิง สมัยนี้ เป็นสิ่งที่ ต้องการของเธอกันอยู่แล้ว

  ที่สำคัญ ผมติดตามภิกษุณี จังหวัดนครปฐม มีหลายอย่าง ที่ดูแล้ว มันแปลก ๆ เช่นการนั่งตามลำดับ ภิกษุณี นั่งก่อนเป็นประธานในหมู่สงฆ์ ที่เป็นภิกษุ

   ภิกษุณี ไม่ไหว้ ปฏิสันถาร พระภิกษุ ที่ไปกับผม ( ไม่เห็นไหว้ สักองค์ ) อันนี้ถ้าดูตามวินัยแล้ว สตรีิ ที่เป็นภิกษุณี ในปัจจบุัน นั้น ต้องการเป็นใหญ่ ในหมู่ สงฆ์

  ลอง ถ้าเอากฏหมาย มาใช้กับสงฆ์ ไม่ใช้ วินัย เชื่อ เหอะ สักวัน คุณต้องได้มี การเรียกร้อง สังฆราชา หญิง แน่ ๆ เชื่อว่าต้องเป็นอย่างนั้น

   แม่ชี มโนราห์ ตอนนี้ใครปกครอง ออกมาแจ๋น ๆ แสดงฤทธิ์ แสดงเดช ผิดวินัยสงฆ์ ปาราชิก อวดอุตริมนุสสธรรม อย่าลืม เธอ ไม่ใช่แม่ชี ตอนนี้ เรียกตนเอง ว่า ภิกษุณี ใครเป็นผู้ปกครอง ทำไม ถึงไม่ดูแล

   การที่เรียกร้อง เรื่อง ราว เหล่า นี้ ระเบียบ จะใช้ กฏหมาย ใช้ไหม ไม่ใช่ วินัย ที่พระพุทธเจ้า บัญญัติ

   กรรมของ ชาวพุทธ ที่พุทธศาสนา จะอยู่ไม่ถึง 5000 ปี

   ( เมื่อก่อนผมก็ไม่ค่อยได้ คิดเรื่องนี้ แต่พอได้ฟัง เสียงธรรมในรายการ ที่นี่ จึงคิดตาม ถึงแม้ ไม่ได้กล่าวเรื่องนี้ เพียงแต่กล่าวพระสูตร ผมคนหนึ่ง ไม่ขอร่วมฝืนพรดำรัส ของพระพุทธเจ้า หรอกครับ ไม่อยากเวียนว่ายตายเกิด ตาม ปี ที่เราได้กระทำร่วมในการหย่อน อายุพระพุทธศาสนา ให้น้อยลง ครับ ฟังแล้วหนาว มีพระสูตรพูดถึงผลกรรมที่ได้รับ ดูอย่างพระอานนท์ ท่านไม่ได้บรรลุพระอรหันต์ ขณะพระพุทธเจ้า มีชีิวิตอยู่ก็เพราะด้วยวิบากนี้ อยากให้ท่านได้ ฟังเสียงธรรม ส่วนนี้จัง วันนั้น ได้ฟัง โดยบังเอิญ )

   ข้าพเจ้า ไม่ขอมีส่วนร่วม ในการส่งเสริม ให้ มีภิกษุณี
   ด้วย ปฏิญญา นี้ ขอบารมีธรรม ที่สมควรแก่ข้าพเจ้า ในการพิทักษ์ อายุ พระพุทธศาสนา ให้ข้าพเจ้า ได้สำเร็จ โดยเร็วพลัน เทอญ   

กระแส ฮิต มาถึง ที่นี่ ด้วย นะครับ

 เนื้อเรื่อง ถ้าดูเอาสนุก พอเป็น จริยธรรม ศีลธรรม แล้วละก็ นับว่าใช้ได้
 แต่มีหลายตอน ไม่ตรงกับพระไตรปิฏก เนื้อเรื่อง พระพุทธเจ้า จะออกไปทางพราหมณ์ และ ข้อความคำสอน ของพราหมณ์ จะมีมาก และ มากที่สุด  ในเรื่องนี้ เรียกว่า ยิงนก สอง ตัว ในธนูเดียว

   เหมือน ที่ท่านเจ้าของกระทู้ ได้ จั่ว ชื่อ กระทู้ ตามนั้น

   ต้องไปดูเบื้องหลัง เรื่องนี้ ด้วยกับการสร้าง ทีมที่สร้าง ไม่ใช่ พุทธมาก่อน

   ส่วนคุณปัญญา นั้น ความเข้าใจในพุทธ ก็ไม่ได้มีมาก แต่ ว่าเป็น เนื้อเรื่องที่เอามาสอดคล้อง ในประเทศ ในช่วงจังหวะนี้ ถึงแม้ว่า อ้าง เรื่อง บุญ แต่ก็ได้ เรท จากชาวพุทธ ไปสมควร ที่สำคัญ

   อาจจะทำให้ พุทธประวัติ ผิดเพี้ยน ได้ ถ้าเด็กจำช่วงที่ไม่ถูกหลาย ๆ ตอน ไว้

   ในเรื่องนี้ มีการวิจารณ์ ใน พันทิป อยู่พอสมควร

   แต่ภาพรวม ก็ 50 เปอร์เซ็นต์ อย่างน้อย ก็ถือว่า มีคนให้ความสำคัญ กับพุทธประวัติ พระพุทธเจ้า เช่นกัน

   

ในห้องกรรมฐาน นี้ พระอาจารย์ ตอบ แม้จะสั้น ในคำตอบ แต่ คำตอบ ๆ ชัดเจน แจ่มแจ้ง ครับ

 

แล้วแต่คนครับ สำหรับ ผม ก็ยังรักชอบกรรมฐาน สายนี้ อยู่ครับ
อย่างน้อย ปฏิบัติ ไม่ก้าวหน้า แต่ศรัทธา ใน สายกรรมฐาน นี้ ยังมีอยู่แน่นอน

 ส่วนใครว่า สอนลึก ยาก ก็ต่างจิต ต่างใจ กันครับ