พิมพ์

[raponsan]

ฮือฮา.! "พระสังกัจจายน์ใส่หมวก"...ที่อ่างทอง

ฮือฮา!พระสังกัจจายน์ใส่หมวกที่อ่างทอง เจ้าอาวาสวัดมหานามเผยเป็นพระสังกัจจายน์หลบแดดปางให้พร

28ก.ค.2556ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่วัดมหานาม หมู่ 4 ต.ไชยภูมิ อ.ไชโย จ.อ่างทอง  มีรูปปั้นพระสังกัจจายน์มีลักษณะแปลกคือที่เศียรพระมีหมวกครอบอยู่  ทั้งนี้ทางเจ้าอาวาสได้ชี้แจงว่าพระสังกัจจายน์หลบแดดปางให้พรโดยใช้ใบบัวคลุมศีรษะ 

ซึ่งเป็นพระที่ทางวัดปั้นไว้สำหรับให้ประชาชนที่มาท่องเที่ยวหรือกราบไหว้ปิดทองบูชา โดยประดิษฐานอยู่ด้านหน้าของพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นพระสังกัจจายน์ปางต่างๆอีก 3 องค์

http://www.youtube.com/watch?v=sQz4kVB_6KY

ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20130728/164449/ฮือฮา!พระสังกัจจายน์ใส่หมวกที่อ่างทอง.html#source_video

[raponsan]

ฮือฮาพระสังกัจจายน์ใส่หมวก

ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รับแจ้งว่า ที่วัดมหานาม ม.4 ต.ไชยภูมิ อ.ไชโย จ.อ่างทอง มีรูปปั้นพระสังกัจจายน์ที่แปลกแตกต่างจากที่อื่น จึงเดินทางไปพิสูจน์ เมื่อไปถึงพบพระสังกัจจายน์องค์ขนาดใหญ่สีทองตั้งตระหง่านอยู่ภายในวัด บริเวณด้านหน้าของพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่มีรูปปั้นพระสังกัจจายน์สีดำในปางต่างๆ อีก 3 องค์ ซึ่งมีอยู่ 1 องค์ซึ่งมีลักษณะแปลกไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นพระสังกัจจายน์ในลักษณะยืนตรง มือทั้งสองข้างตั้งและแบออก และที่โดดเด่นและแปลกคือบนเศียรสวมหมวกด้วย

พระครูวิสุทธิชัยคุณ หรือหลวงพ่อสะอาด เจ้าอาวาสวัดมหานาม และเจ้าคณะอำเภอไชโย เผย "ข่าวสด" ว่า ก่อนที่จะสร้างพระสังกัจจายน์ทั้งหมด ได้นิมิตฝันเห็นว่าได้นั่งกัมมัฏฐานพระสาวก ผู้มีร่างกายและผิวพรรณงดงามดุจทองคำได้มาปรากฏอยู่ต่อหน้า ทราบว่า พระสาวกองค์นั้นคือพระสังกัจจายน์อริยสาวก จึงได้คิดสร้างพระสังกัจจายน์ขนาดหน้าตักกว้าง 6 วา 1 ศอก 7 นิ้ว สูง 7 วา 1 ศอก 29 นิ้ว ขึ้นในวัด และสร้างพระสังกัจจายน์องค์จำลอง สำหรับให้ประชาชนได้ปิดทองบริเวณหน้าพระสังกัจจายน์องค์หญ่อีก 3 องค์ในปางต่างๆ กัน

"พระสังกัจจายน์ที่เห็นแปลกนี้ เป็นพระสังกัจจายน์หลบแดด ปางให้พร มีลักษณะเด่นคือยืนให้พร แต่ที่เศียรมีลักษณะเหมือนสวมหมวกอยู่ มีต้นแบบมาจากพระสังกัจจายน์องค์เล็ก ซึ่งมีผู้นำมาให้เช่าเมื่อปี 2516 โดยมีหลายปาง หนึ่งในนั้นเป็นปางหลบแดดดังกล่าวด้วย ซึ่งเห็นว่าแปลกดีจึงเช่าบูชาไว้ จนกระทั่งมาสร้างองค์ใหญ่จึงได้คิดให้ช่างปั้นตามแบบนี้ไว้ข้างหน้า ซึ่งตามแบบไม่ใช่พระสังกัจจายน์ใส่หมวก แต่จริงๆ แล้วหมวกที่เห็นนั่นคือใบบัว แต่ช่างปั้นจนกลายเป็นหมวกไปเสียได้ คงคิดว่าเป็นพระจีน" เจ้าคณะอำเภอไชโยกล่าว

 

พระครูวิสุทธิชัยคุณกล่าวว่า ที่มาของพระสังกัจจายน์ปางนี้ คือสมัยก่อนมีคนเห็นพระสังกัจจายน์เดินอยู่กลางแดด จึงวิ่งไปเอาใบบัวใส่น้ำมาถวายแก่พระสังกัจจายน์ เมื่อพระสังกัจจายน์รับไว้จึงได้ดื่มน้ำที่อยู่ในใบบัวไปส่วนหนึ่งนำมาประพรมให้กับผู้ที่นำน้ำมาถวาย เพื่อเป็นการให้พร หลังจากนั้นเทน้ำที่เหลือลง และนำใบบัวใบดังกล่าวมาครอบไว้บนหัวเพื่อบังแดด จึงเป็นที่มาของพระสังกัจจายน์หลบแดด ปางให้พร

ด้านนายบุญลือ จ้อยมี อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/1 ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ไชยภูมิ อ.ไชโย กล่าวว่า พระสังกัจจายน์ทั้งหมดนี้สร้างพร้อมกันเมื่อปี 2531 และเสร็จเมื่อปี 2534 โดยสร้างจากนิมิตของหลวงพ่อ ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จมีคนมากราบไหว้บูชาเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งคนไทยและคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งเมื่อมาเห็นก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เป็นพระสังกัจจายน์ที่แปลก แต่เชื่อกันว่าเมื่อมากราบไหว้พระสังกัจจายน์แล้วจะมีมหามงคลอุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรือง

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM05EazNPVE0wTlE9PQ==&subcatid=

[sompong]

ดูแล้ว เป็นใบบัว คือพระบัวเข็ม มากกว่า ครับ