พิมพ์

[raponsan]

แม่น้ำน้อยไหลเชี่ยว เซาะเขื่อนวัดอัมพวาพัง

แม่น้ำน้อยไหลแรงกัดเซาะเขื่อนวัดอัมพวาพัง ขณะที่ชาวบ้านกว่า 500หลังคาเรือนขนของหนีน้ำ ด้าน จ.ขอนแก่น ผู้ว่าฯสั่งการให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์น้ำสองฝั่งลำน้ำชีอย่างใกล้ชิด สั่งห้ามเล่นน้ำหาปลา"แก่งน้ำต้อน"อันตราย

เมื่อวันที่ 8ต.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม ใน จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มสูงอีกครั้งหลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นอีกระลอกส่งผลทำให้แม่น้ำน้อยซึ่งรับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น และไหลเชี่ยวแรงเข้าท่วม พื้นที่ ต.บางหัก บ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 500หลังคาเรือนชาวบ้านต้องขนของหนีน้ำ โดยเฉพาะที่หมู่ 8 ต.บางหัก อ.บางบาล มีกระแสน้ำไหลแรง ที่วัดอัมพวา  ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อย หมู่2 พบว่าเขื่อนปูนหน้าวัด ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนเขื่อนพังระยะทางยาวกว่า100 เมตร จมหายลงไปในแม่น้ำน้อย 

ด้านพระอธิการภิรมย์ ธัมมธีโรอายุ 40 ปี เจ้าอาวาสวัดอัมพวา กล่าวว่า เขื่อนหน้าวัดถูกกระแสน้ำที่ไหลแรงมากกัดเซาะจนแนวเขื่อนหน้าวัดพังทลาย หลังจากน้ำลดลงต้องหาทุนทรัพย์ดีดตัวโบสถ์ให้สูงขึ้นพ้นน้ำ ใช้งบประมาณกว่า3 ล้านบาท

ส่วนที่จ.ขอนแก่น นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์  ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  กล่าวว่า ได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำที่สะพานบ้านท่าฉาง ซึ่งเชื่อมระหว่าง ต.ท่านางแนว อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น กับ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นจุดที่มวลน้ำจาก จ.ชัยภูมิ ไหลมาในพื้นที่จ.ขอนแก่น ขณะนี้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้นำธงแดงไปปักไว้เป็นสัญลักษณ์ว่าน้ำเพิ่มสูงขึ้นมาก ให้ประชาชนตามสองฝั่งเตรียมพร้อมอพยพไปสู่ที่สูง และให้ทาง ปภ.และนายอำเภอพร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจัดเวรยามเฝ้าระวังตลอด 24ชั่วโมง และเร่งช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนอย่างเร่งด่วน เนื่องจากขณะนี้น้ำท่วมนาข้าวใน อ.แวงใหญ่และแวงน้อยประมาณ 3พันไร่

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันทำให้มีน้ำไหลเข้าในหนองน้ำสาธารณะ“แก่งน้ำต้อน” ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสาธารณะทั่วไปอยู่ในเขตพื้นที่หมู่3, 4,16,และ หมู่17 บ้านกุดกว้าง ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นแก้มลิงรองรับน้ำ โดยมีปริมาณน้ำเกินความจุของอ่างจนไหลล้นออกจากฝายน้ำล้น ทางเทศบาลตำบลเมืองเก่าจึงได้ติดป้ายประกาศเตือนเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยว"ห้ามเล่นน้ำ ห้ามหาปลา"บริเวณฝายน้ำล้น

ขณะที่จ.อุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านโนนแคน ต.ตบหู อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี น้ำซอมได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตร  นาข้าว ไร่มัน ยางพารา กว่า 200ไร่ได้รับความเสียหาย ซึ่งทางทหาร และผู้นำชุมชน ได้เร่งตรวจสอบความเสียหายพื้นที่ทางการเกษตรแล้ว

นายเดช สระแก้ว กำนันตำบลตบหู กล่าวว่าจากการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของพื้นที่ทางการเกษตรพบว่า มีนาข้าวได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมกว่า100 ไร่  มันสำปะหลังอีกกว่า 40  ไร่ และยางพารากว่า 70 ไร่สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้นตนได้รวบรวมข้อมูลความเสียให้กับทางอำเภอได้ทราบแล้ว


ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/regional/528991