ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สำนักงานพุทธเพิ่งตื่น!! ตั้งเครือข่ายพระสงฆ์  (อ่าน 644 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28448
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


สำนักงานพุทธเพิ่งตื่น!! ตั้งเครือข่ายพระสงฆ์

การตั้งเครื่อข่ายพระสงฆ์คราวนี้หวังว่าจะเป็นบทบาทเชิงรุกของสำนักงานพุทธที่นำไปสู่ “ความมั่นคง” ให้พระพุทธ แต่ลำพังพระสงฆ์อย่างเดียว สถานการณ์ปัจจุบันเอาไม่อยู่ ต้องใช้กลุ่ม DNA พุทธแท้เข้าร่วมด้วย !!

ผมอ่านข่าว คุณพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธแห่งชาติ แถลงเรื่องที่ “สำนักงานพระพุทธ” จะร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จัดตั้ง “เครือข่ายพระสงฆ์” ทั่วประเทศแล้ว ขอชื่นชมด้วยใจจริงว่า “มาถูกทางแล้ว”

จากเดิมที่ “เช้าชาม เย็นชาม” คอยแต่ “เทกระโถน” ให้กับมหาเถรสมาคม และมัวแต่วิ่งรับใช้นายทำนองว่า “ได้ครับท่าน ดีครับนาย สบายครับผม เหมาะสมครับท่าน” ผลงานตลอด 14 ปีที่ก่อตั้งมาจึงถูกวิจารณ์ว่าไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนอกจากผลงาน “การจัดกิจกรรม”


 :96: :96: :96: :96:

ความจริงตอนนี้ หาก “สำนักงานพระพุทธ” จะทำงานเชิงรุก สามารถทำได้ไม่ยาก เพราะสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย นำโดยคณะ ดร.บรรจบ บรรณรุจิ, กรณ์ มีดี เดินสาย “ปลุกชาวพุทธ” ให้ตื่นเกือบครบทุกอณูของประเทศแล้ว และคนกลุ่มนี้เดินสายชี้แจง “ภัยพระพุทธศานา” ไม่ใช่เฉพาะในกลุ่มพระสงฆ์เท่านั้น ล้ำหน้ากว่าสิ่งที่ “สำนักงานพุทธ” คิดเยอะ

คนกลุ่มนี้เดินสายเข้าไปหาพวกอดีตนักบวชเก่าประเภท DNA พุทธแท้ที่จบมาจาก มจร มมร. และบรรดาเปรียญทั้งหลาย รวมทั้งไวยาวัจกรวัด ตอนนี้คาดว่ามีมวลชนในมือไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคนภายใต้ยุทธการ “กู้พุทธ พื้นชาติ ป้องราชันย์ พวกเราคือชาวพุทธ” หรือแม้ชูธงว่า “พระพุทธศาสนาอยู่ได้ ทุกสถาบันอยู่รอด” และที่สำคัญตอนนี้กลุ่มชาวพุทธหลายจังหวัด หลายหมู่บ้าน แสดงเจตจำนงค์ จัดตั้งจังหวัด จัดตั้งหมู่บ้านตนเองมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำจังหวัด มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำหมู่บ้าน

ผู้นำประเทศที่ฉลาด มีวิสัยทัศน์ มักใช้ “ศาสนา” เป็นเครื่องมือในการบริหารประเทศ บางประเทศใช้ “ศาสนา” มอมเมาประชาชนตัวเองด้วยซ้ำไป ผมเห็นตลอดระยะเวลา 2 -3 ปีมานี้ ความบาดหมางระหว่างศาสนจักรกับอาณาจักร “เริ่มปริห่าง” กันมาก ทั้งๆ ที่ศาสนานี้แหละเป็นกลไกสำคัญในการที่จะสร้างภาวะความเป็นผู้นำให้ประชาชนยอมรับหรือไม่ยอมรับ หรือแม้กระทั้งการสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นกับคนภายในชาติ

 :25: :25: :25:

เรื่องนี้การขับเคลื่อนหมู่บ้านศีล 5 ของ เจ้าพระคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นคำตอบได้ชัดเจนดีกว่าพวกอยู่ในสภาหินอ่อน วันๆ ใช้แต่ “วาทะกรรม” ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 ปีมานี้ยังไม่เห็นอะไรเป็นรูปธรรมเลยที่จะนำประชาชนภายในชาติไปสู่ความปรองดอง

การสร้างเครือข่ายพระสงฆ์และชาวพุทธ หากให้ดี คุณพนม ศรศิลป์ ลองเรียกทีมโฆษกใหม่ถอดด้ามทั้งประดับ โพธิกาญจนวัตร ทั้งบุญเชิด กิตติธรางกูร ซึ่งล้วนผ่านการศึกษามาจากมหาจุฬาฯ มีคอนเนคชั่นกับกลุ่มสมาพันธ์ชาวพุทธและคณะสงฆ์เป็นอย่างดี หารือกันว่าทำอย่างไร พระพุทธศาสนาจึงจะมั่นคง ทำอย่างไรการทำงานระหว่างศาสนจักรกับอาณาจักรจึงจะราบรื่น และทำอย่างไร “การสื่อสาร” และ “การชี้แจง” ปรากฎการณ์ต่างๆ ในหมู่คณะสงฆ์ให้ประชาชนเข้าใจ และรวมทั้งภัยคุกคามพระพุทธศาสนา


 ans1 ans1 ans1

ผมเชื่อว่า...การที่ “สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ” ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ภายใต่ร่มเงาของ “พระพรหมสิทธิ” เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ถูกที่ถูกทางแล้ว...!!

และถ้าจะให้ดีกว่านี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาเถรสมาคม จำต้องมี “วอร์รูม” ศูนย์ปฎิบัติการข่าวสาร มีทีมประชาสัมพันธ์คอยตอบโต้ คอยชี้แจง คอยทำความเข้าใจที่เข้มแข็ง ต้องประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้มากกว่านี้ และต้องเชื่อมโยงกับเครือข่ายกลุ่มชาวพุทธทุกกลุ่มเท่าที่จะเป็นไปได้

“การตั้งเครื่อข่ายพระสงฆ์” คราวนี้หวังว่าจะเป็นบทบาทเชิงรุกของสำนักงานพุทธที่นำไปสู่ “ความมั่นคง” ให้พระพุทธได้ไม่มากก็น้อย แต่อย่างที่บอกว่า...ลำพังพระสงฆ์อย่างเดียว สถานการณ์ปัจจุบัน “เอาไม่อยู่” สำนักงานพุทธศาสนาจำต้องใช้กลุ่มประเภทDNA พุทธแท้เข้าร่วมเป็นเครือข่ายด้วย

ที่สำคัญในจำนวน “พระสงฆ์ 3 แสนรูป” นี้ พูดตรงๆ ว่าจะมี “พระสงฆ์” สักกี่รูปที่จะอุทิศตนเพื่อปกป้อง “พระพุทธศาสนา” อย่างแท้จริง!!



คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย “เปรียญ10” : riwpaalueng@gmail.com
เครดิตภาพ โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5, สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ขอบคุณที่มา : http://www.dailynews.co.th/article/529480
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ