อย่ามัวแต่รอให้ มันสำเร็จ หรือ มันหายป่วย หายเจ็บ สิ่งสำคัญต้องทำความเข้าใจว่า มันเป็นธรรมชาต ของ สรรพสิ่งที่มีชีวิต ย่อมมี ความทุกข์ ความสุข ความเป็นกลาง ๆประกอบไปด้วย เพราะ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ทั้ง 5 ประการนี้ เป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวเป็นตน เป็นเรา เป็นของเรา
ผู้ฝึกกรรมฐาน ในด้านสมาธิไม่ได้ ก็ต้องตั้งจิต พิจารณาความเป็นจริง เพียงประการเดียวเท่านั้น คือ พิจารณาใจ กำหนดดูใจ กำหนดใจให้มีสติ ตัวรู้ ว่าเป้นธรรมดา ไม่ควรพอใจ ไม่ควรไม่พอใจ ไม่ควรเห็นว่า กายคือเรือนนี้ ต้องสร้างและอยู่ ไม่ควรเห็นธรรมทั้งปวงว่าควรอาลัย แต่ควรเห็นว่า ไม่ควรอาลัย ถ้าทำอย่างนี้บ่อย ๆ นึกบ่อย ๆ ก็จะมีกำลังใน คุณธรรมของพระวิปัสสก ได้
สิ่งสำคัญ ต้องประคอง ตัวสติ รู้ อย่าประมาท นะ สำหรับคนที่ขี้เกียจ กระทำสมาธิสมังคี ( สัมมาสมาธิ ) มรรคองค์สุดท้าย คนปัจจุบัน จะขี้เกียจขยันแต่ สัมมาสติ เลยต้องอยู่ในสถานะ รอ ปลอบใจตนเอง ไม่เป็น สมุทเฉทปหานวิมุตติ สักที เพราะมัวแต่ต้องนึก อยู่ นั่นเอง
เจริญพร