ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พรหมทัณฑ์ เป็นอย่างไร  (อ่าน 9943 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
พรหมทัณฑ์ เป็นอย่างไร
« เมื่อ: เมษายน 21, 2010, 10:29:54 pm »
0

พรหมทัณฑ์ เป็นอย่างไร

พรหมทัณฑ์, โทษอย่างสูงของสงฆ์
โทษอย่างสูง คือ สงฆ์ตกลงกันลงโทษภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง โดย
ภิกษุทั้งหลาย  พร้อมใจกันไม่พูดด้วย  ไม่ว่ากล่าวตักเตือน  หรือ
สั่งสอนภิกษุรูปนั้น,  พระฉันนะซึ่งเป็นพระเจ้าพยศ   ถือตัวว่า
เป็นคนเก่าใกล้ชิดพระพุทธเจ้ามาก่อนใครอื่น  ใครว่าไม่ฟัง 
ภายหลังถูกสงฆ์ลงพรหมทัณฑ์ถึงกับเป็นลมล้มสลบหายพยศได้
 
# วินย. ๗/๖๒๔-๖๒๙; ที.ม. ๑๐/๑๔๑
--------------------------------------------------

[๖๒๔] ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์ได้กล่าวกะพระเถระทั้งหลายว่า ท่านเจ้าข้า เมื่อจวน
เสด็จปรินิพพาน พระผู้มีพระภาคตรัสกะข้าพเจ้าอย่างนี้ว่า ดูกร อานนท์ ถ้าเช่นนั้น เมื่อเราล่วง
ไปแล้ว สงฆ์จงลงพรหมทัณฑ์แก่ภิกษุฉันนะ

   พระเถระทั้งหลายกล่าวว่า ท่านอานนท์ ท่านทูลถามพระผู้มีพระภาคหรือ ว่า พระพุทธเจ้าข้า
ก็พรหมทัณฑ์เป็นอย่างไร 
 
   พระอานนท์ตอบว่า ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าทูลถามพระผู้มีพระภาคแล้วว่า  พรหมทัณฑ์เป็น
อย่างไร พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์  ภิกษุฉันนะพึงพูดตามปรารถนา
ภิกษุทั้งหลาย ไม่พึงว่ากล่าว ไม่พึงสั่งสอน ไม่  พึงพร่ำสอนภิกษุฉันนะ
   
   ท่านพระเถระทั้งหลายกล่าวว่า ท่านอานนท์ ถ้าเช่นนั้น ท่านนั้นแหละจง ลงพรหมทัณฑ์
แก่พระฉันนะ
 

   พระอานนท์ปรึกษาว่า ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะลงพรหมทัณฑ์แก่พระฉันนะ  ได้อย่างไร เพราะ
เธอดุร้าย หยาบคาย

   พระเถระทั้งหลายกล่าวว่า ท่านอานนท์ ถ้าเช่นนั้น ท่านจงไปกับภิกษุ  หลายๆ รูป ท่าน
พระอานนท์รับเถระบัญชาแล้วโดยสารเรือไป พร้อมกับภิกษุหมู่ใหญ่ประมาณ ๕๐๐ รูป ถึงเมือง
โกสัมพี ลงจากเรือแล้วได้นั่ง ณ โคนไม้  แห่งหนึ่งใกล้พระราชอุทยานของพระเจ้าอุเทน
ฯ 

            ลงพรหมทัณฑ์  
   [๖๒๗] ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์เข้าไปยังวัดโฆสิตาราม ครั้นแล้ว   นั่งบนอาสนะที่เขา
ปูลาดไว้ ท่านพระฉันนะเข้าไปหาท่านพระอานนท์อภิวาทแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ท่าน
พระอานนท์ได้กล่าวกะท่านพระฉันนะผู้นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งว่า ท่านฉันนะ สงฆ์ลงพรหมทัณฑ์
แก่ท่านแล้ว ฯ

   ฉ. ท่านพระอานนท์ ก็พรหมทัณฑ์เป็นอย่างไร
   อา. ท่านฉันนะ ท่านปรารถนาจะพูดคำใด พึงพูดคำนั้น ภิกษุทั้งหลาย   ไม่พึงว่ากล่าว
ไม่พึงตักเตือน ไม่พึงพร่ำสอนท่าน 
   ฉ. ท่านพระอานนท์ ด้วยเหตุเพียงที่ภิกษุทั้งหลายไม่ว่ากล่าว ไม่ตักเตือน ไม่พร่ำสอน
ข้าพเจ้านี้ เป็นอันสงฆ์กำจัดข้าพเจ้าแล้วมิใช่หรือ แล้วสลบล้มลง   ณ ที่นั้นเอง

 
   ต่อมา ท่านพระฉันนะ อึดอัด ระอา รังเกียจอยู่ด้วยพรหมทัณฑ์ จึงหลีกออกอยู่แต่
ผู้เดียว ไม่ประมาท มีเพียร มีตนส่งไปอยู่ ไม่นานเท่าไรนัก ได้ ทำให้แจ้งซึ่งคุณพิเศษอันยอดเยี่ยม
เป็นที่สุดพรหมจรรย์ ที่กุลบุตรทั้งหลายออก  จากเรือนบวชโดยชอบต้องประสงค์ ด้วยปัญญาอันยิ่ง
ด้วยตนเองในปัจจุบันนี้แหละ   เข้าถึงอยู่แล้ว ได้รู้ชัดแล้วว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว
กิจที่ควรทำ   ได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นอีกเพื่อความเป็นอย่างนี้ไม่มี
 
   ก็แล ท่านพระฉันนะได้เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่ง บรรดาพระอรหันต์  ทั้งหลาย ครั้นท่าน
พระฉันนะบรรลุพระอรหัตแล้ว เข้าไปหาท่านพระอานนท์แล้ว กล่าวว่า ท่านพระอานนท์ ขอท่าน
จงระงับพรหมทัณฑ์แก่ผมในบัดนี้เถิด
 
   ท่านพระอานนท์กล่าวว่า ท่านฉันนะ เมื่อใด ท่านทำให้แจ้งซึ่งพระอรหัต   แล้ว เมื่อนั้น
พรหมทัณฑ์ของท่านก็ระงับแล้ว ฯ


ที่มา พระไตรปิฎก    ฉบับธรรมทาน
พระวินัยปิฎก  เล่ม ๗  จุลวรรค ภาค ๒ 


บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

kittisak

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +42/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 653
  • พุทธัง อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: พรหมทัณฑ์ เป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 22, 2010, 05:18:10 am »
0
อ้างถึง
ก็แล ท่านพระฉันนะได้เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่ง บรรดาพระอรหันต์  ทั้งหลาย ครั้นท่าน
พระฉันนะบรรลุพระอรหัตแล้ว เข้าไปหาท่านพระอานนท์แล้ว กล่าวว่า ท่านพระอานนท์ ขอท่าน
จงระงับพรหมทัณฑ์แก่ผมในบัดนี้เถิด
 
   ท่านพระ อานนท์กล่าวว่า ท่านฉันนะ เมื่อใด ท่านทำให้แจ้งซึ่งพระอรหัต   แล้ว เมื่อนั้น
พรหมทัณฑ์ของท่านก็ระงับแล้ว ฯ

ข้อความตรงนี้ ผมอ่านก็แปลกใจอยู่ ตรงที่ว่า พระที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์ แล้วยังต้องแคร์โลก อีกหรือ ?
เพราะเมื่อเป็นพระอรหันต์แล้ว ก็ย่อมถึง วิชชา และ จรณะ ย่อมงดงาม ในความประพฤติ

แต่ผมมาลอง วิจารณด้วยความคิดแล้ว มองเห็นว่า การประกาศในท่ามกลางสงฆ์ ด้วยการลงพรหมทัณฑ์ นั้นเป็นการประกาศในหมู่สงฆ์ทั้งหมด

แต่ตอนที่ ยุตินั้นต้องเป็นพระอรหันต์ ซึ่งการนี้ ผมมองว่า ( ไม่ยุติธรรม ) เพราะคุณธรรมพระอรหันต์ ไม่ได้ง่าย ๆ หรือเมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์ นอกจากพระพุทธองค์แล้ว จะมีใครรับรองได้ว่าพระรูปนี้เป็นพระอรหันต์ หรือไม่ใช่พระอรหันต์ แม้จะเปรียบเทียบในโวหาร 4 นั้นก็ยังรับรองไม่ได้

แต่ผมมา วิจารณ์ตามความเป็นจริงต่อ

แล้วคณะสงฆ์ ประกาศลงพรหมทัณฑ์พระรูปนี้ แล้วคณะสงฆ์อื่น ต้องตอบรับด้วยไหม

ผมเห็นตัวอย่างในที่ใกล้ตัวผมเอง เช่นคณะนี้ ประกาศว่า รูปนี้ ไม่ควรช่วยเหลือ ไม่ควรคบค้าสมาคมด้วย

แต่อีกคณะกับต้อนรับดีมาก ๆ มีการเปลี่ยน คณะให้เห็นกัน เออย่างนี้ผมว่า การลงพรหมทัณฑ์สมัยนี้ ทำได้ยาก

 :25:
บันทึกการเข้า
ความสุขอันเกิดจากการแบ่งปัน ดีกว่าความทุกข์ที่มีแต่จะเอา