ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: กรรมอะไรที่ทำให้ “องคุลีมาลต้องฆ่าคนถึง ๙๙๙ คน”  (อ่าน 5880 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
กรรมอะไรที่ทำให้ “องคุลีมาลต้องฆ่าคนถึง ๙๙๙ คน”
บุพกรรมขององคุลีมาล โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ


                        “หลวงพ่อคะ  หนูเคยอ่านเรื่องกฎของกรรมเรื่องหนึ่ง  คือ  นายแดงเป็นคนเนรคุณพ่อแม่และเคยทุบตีพ่อแม่  พอแกมีลูกออกมาลูกก็มีอาการเหมือนกับพ่อค่ะ  คงจะเป็นกฎของกรรมของนายแดง  แต่ หนูคิดว่าลูกของนายแดงจะต้องมีบาปเหมือนกันใช่ไหมคะ....”

                        ก็ไม่ใช่บาป

                        “แล้วกฎของ กรรมจะบันดาลให้เป็นอย่างไรคะ...”

                        นายแดงเป็นคนอกตัญญูไม่รู้คุณพ่อ แม่  ตีพ่อตีแม่ นายแดงก็เป็นคนมีจิตเลว  ฉะนั้นเด็กที่จะต้องมาเกิดด้วยก็ต้องเป็นเด็กเลว ๆ มาเกิด  คือว่าเด็กที่จะมาเกิดร่วมกันส่วนใหญ่จะต้อง มีศรัทธาเสมอกัน  มีจาคะเสมอกัน  มี ปัญญาเสมอกัน  มีศีลเสมอกัน  เสมอ กับพ่อแม่  จึงจะเข้าสู่ครรภ์ตระกูลนั้นได้

                        แต่ว่าไอ้กรรมที่เป็นอกุศลย่อมให้ ผลต่างวาระ  บางทีตอนเป็นเด็ก ๆ แกดี  ตอนโตอาจเลวไปชั่วขณะหนึ่งก็ได้

                        หมายความว่า  กรรม ที่เป็นอกุศลเดิมเข้ามาสิงจิตในช่วงกลางนะ  และใน ช่วงหนึ่งของชีวิต  เขาอาจจะมีดีในตอนปลายมือก็ได้  เพราะว่าตอนต้น ๆ พ่อเลวแม่เลว  แต่ เขาอาจมีดีอยู่  เป็นเพราะช่วงของกรรมเขาเกิดมาใน ช่วงนั้น  กรรมที่เป็นอกุศลมันให้ผลไปก่อน  แต่ว่ากรรมที่เป็นกุศลคือความดีมันอาจจะมาทีหลัง

องคุลีมาล

                        “อย่าง นั้น  พระองคุลีมาลที่ต้องเป็นโจรฆ่าคนเอานิ้วมือ  ก็คงเป็นกฎของกรรมใช่ไหมคะ......”
 

                        อันนี้ก็เป็นกฎของกรรม  คือถอยหลังจากชาตินี้ไปหนึ่งชาติ  ก่อน ที่จะเกิดมาเป็นคน  ท่านเกิดเป็นควายป่า  เป็นควายแต่ว่ามีความสามารถมาก  มี ความเก่งกล้ามาก  สัตว์ในป่าทุกประเภทไม่มีใครสู้ได้ เลย  มีความว่องไว  เขาก็แหลม คม  มีกำลังดีมาก  ปะทะกันก็ แพ้หมดทุกประเภท  สัตว์ในป่าทุกประเภทเห็นท่านเดินไป ก็ยอมซูฮก

                        ทีนี้แกก็นึกในใจว่า  อ้ายสัตว์ที่อยู่ในป่าทั้งหมดเป็นลูกน้องของเราทั้งหมด  แต่อ้ายสัตว์ชาวบ้านเขาเลี้ยงมันจะเก่งแค่ไหน  เลยออกมาก็ไล่ขวิดวัวควายช้างม้าเตลิดเปิดเปิงหมด  ออกมาทีไรก็ทำแบบนั้นทุกคราว  ชาว บ้านเขาก็รำคาญ  เขาก็โกรธอ้ายควายป่าตัวนี้  ออกมาทีไรทำควายเราตายเสียบ้าง   ทำ ให้ทุพพลภาพไปบ้าง  บางทีก็เพลียไปบ้าง ใช้งานไม่ได้ตั้งหลายวัน เพราะวิ่งหนี

                        วันหนึ่งคนหมู่บ้านแถวนั้นก็มาคิด กันว่า  อ้ายควายตัวนี้ในไม่ช้ามันก็มาอีก  ถ้ามาทีนี้จะต้องฆ่าให้ตาย  คน ทั้งหมดมันมีพันคนเศษ  ก็ทำคอกให้แน่นหนาไว้  แล้วก็ทำเป็นซองคล้าย ๆ โป๊ะ  รู้จัก โป๊ะไหม

                        “ไม่รู้จักค่ะ”

                        เหมือนอย่งกับโป๊ะปลาทำปากกว้าง ๆ ซองแคบ  ข้างในเขาทำแน่นหนา  ถ้า วิ่งเข้ามา  พอถึงซองแคบตัวก็จะติด  เข้า ถึงคอกไม่ได้  เขาก็เอาควายไปไว้ในนั้น

                        ทีนี้ควายป่าตัวนั้นก็ออกเบิ่ง หน้าเบิ่งหลังซิ  ควายอื่นเห็นก็วิ่งหนีหมด  อ้ายควายคอกไม่หนี  หนีไปไหนล่ะ ใช่ไหม  แกก็โมโห   อ้ายนี่ มันหยิ่งนี่ ไม่กลัว  กูต้องจัดการ  วิ่ง ไปวิ่งมา มองหาทางเข้า  อ้อ..ไอ้ทางปากช่องเข้าได้  พอถึงที่แคบ  ตัววิ่งมาแรง  กระแทกเข้าไปก็ติด ขยับตัวไม่ได้  เขา ก็เสียบไม้  กันออก

                        ทีนี้ก็เอาซิ  เข่า เข้าไป  ศอกเข้าไป  แต่วาคน พันคน ไม่ได้ทุบทั้งพันคนนะ   พวกผู้หญิงพวกผู้ชาย ไม่ได้ลงมือตีทั้งหมด  แต่ว่าพร้อมใจตีให้ตาย  พอตีลงไปแล้ว  ก่อนจะสิ้นใจตายแก ก็ลืมตาดู  ไอ้พวกนี้มันมาก  กู คนเดียว มึงรุมฆ่ากู  ถ้าชาติหน้ามีจริงก็ขอฆ่ามึง บ้าง  นี่เป็นเวรที่จองกันไว้

                        พอเกิดมาอีกชาติหนึ่ง  พ่อตั้งชื่อให้ว่า  อหิงสกกุมาร  แปลว่ากุมารผู้ไม่เบียดเบียน  พอ เกิดมาแล้ว สติปัญญาดี  จริยามรรยาทก็ดี  ความจริงท่านเป็นคนดีมาก  พอโต ขึ้นมาหน่อย  พ่อก็พามาเฝ้าประเจ้าปเสนทิโกศล


กรรมเก่า เข้ามาสนอง

                        ทีนี้เวลา ไปเรียนศิลปวิทยา  เพราะความดีของท่าน  เขาเรียนกัน 4 ปี ท่านเรียน 2 ปี จบหลักสูตรทั้งหมด  ทั้งฝ่ายบู๊ ฝ่ายบุ๋น  ทั้งเพลงอาวุธด้วย  เมื่อลูกศิษย์คนอื่น ๆ สู้ไม่ได้ อาจารย์ก็ให้เป็นครูสอนแทน  ทีนี้ไอ้เพื่อนที่ไปด้วย กันมันอิจฉา  มาด้วยกันเสือกมาเป็นครู  ตอนนี้กรรมเก่าเข้ามาสนอง  ก็หาทางจะฆ่า  เลยไปยุอาจารย์  บอกว่าอหิงสก กุมารมันคิดจะตั้งตัวเป็นอาจารย์เสียเอง  มันจะฆ่า ท่านอาจารย์

                        ไอ้ลมพายุมันพัดแล้วก็ไป  แต่ไอ้ลมปากคนมันพัดบ่อย ๆ ก็ชักไหวเหมือนกัน  ตอนหลังท่านอาจารย์ก็เชื่อ  ก็คิด ในใจว่า  ถ้าเราจะฆ่าเสียเองมันจะเสียชื่อ  ทางที่ดีให้คนอื่นเขาฆ่าดีกว่า

                        วันหนึ่งจึงเรียกอหิงสกกุมารเข้า ไปถามว่า  เวลานี้เจ้าเก่งมากทั้งวิชาฝ่ายบู๊ และฝ่ายบุ๋นทั้งหมด  แม้ในการรบก็เก่ง  แต่ทว่าวิชาของอาจารย์ยังมีอีกหน่อย เขาเรียกว่า วิษณุมนต์  ถ้าหากใครเรียนได้จะปราบได้ทั่วไตรภพ  มนุษย์ก็ปราบได้ เทวดาก็ปราบได้  พรหมก็ปราบ ได้  ทีนี้คนเป็นวัยรุ่นและก็เก่งอยู่แล้วก็อยากเก่ง ต่อไป  ก็อยากเรียน อาจารย์ก็เลยบอกว่า

                        คนอื่นเรียนไม่ได้แต่อย่างเธอนี่ เรียนได้แน่  จะให้ได้คนเดียว  แต่ ก่อนที่จะเรียนต้องยกครูเสียก่อน  แต่ว่าการยกครูนี่ ไม่ใช้ของ  แต่ต้องฆ่าคนให้ได้หนึ่งพันคน  ถ้าฆ่าคนได้หนี่งพันคนละก็  เธอ จึงจะเรียนได้  ท่านก็เลยตกลงยกครูโดยการไล่ฆ่าคน  ทีนี้คนที่แกจะฆ่าได้ง่าย ๆ ก็แค่ 2-3 คนแรกเท่านั้นแหละ  ตอนหลังเขารู้ข่าวว่าอีตาคนนี้ ไล่ฆ่าคน  ใครเขาฟังข่าวก็ไม่อยากจะเห็นแก  เห็นเข้าเขาจำรูปร่างได้เขาก็หนี  กว่า จะไล่ฆ่าได้ก็แย่
 

                        ทีนี้ฆ่าไปฆ่าไป   ลืมนับจำนวน  หนัก ๆ เข้าก็ลืม  ไม่รู้เท่าไร  ทีหลังก็เริ่มต้น ใหม่  ฆ่าได้หนึ่งคนตัดเอานิ้วไว้หนึ่งนิ้ว  ตอนนี้จึงมีนามว่า องคุลีมาลโจร  แปล ว่า โจรผู้ฆ่าคนเอานิ้วมือ  ฆ่าไปจนได้ 999 นิ้ว  นี่ถ้านับจริง ๆ มันเกิน 1,000  แล้วนะ  ใช่ไหม อีตอนที่ไม่ได้เอานิ้วไว้ไม่รู้เท่าไร   แต่ว่าคู่ ปรับยังมีอีกคนเดียว ถ้าได้อีกนิ้วเดียวก็ครบคู่ปรับพอดี  และ คู่ปรับที่จะต้องฆ่าก็คือแม่  แต่ความจริงท่านไม่ได้ ตั้งใจจะฆ่าแม่  แต่ว่ามันเหลืออีกนิ้วเดียว  แต่ละนิ้วก็หาได้ยาก    วันพรุ่ง นี้จะเข้าไปกรุงพาราณสี  จะเป็นใครก็ตามที  ถ้าเห็นต้องฆ่า

                        ทีนี้คืนนั้น   แม่ ได้ยินข่าวว่าลูกชายจะมาอยู่ใกล้  ก็ตั้งใจว่าพรุ่ง นี้เช้าจะไปเยี่ยมลูก  จะไปห้าม  ถ้า แม่ไปก็ถูกฆ่า เพราะว่าเป็นคู่ปรับเดิม  สมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรวจอุปนิสัยของสัตว์ตอนเช้ามืด  ทรง ทราบว่า ถ้าอหิงสกกุมารฆ่าแม่  จัดเป็นอนันตริยกรรม  มรรคผลจะไม่ได้เลย  ท่านทรงมีพระ มหากรุณาธิคุณ  ต้องการให้คนที่จะดีก็ขอให้ดีต่อไป ไม่ให้ความชั่วเข้ามาทับถม  ท่านจึงเสด็จไปก่อน  ไปก่อนแม่

                        อหิงสกกุมารเห็นพระพุทธเจ้านึกว่า หวานแล้ว  อีตานี่เดินนวยนาด สวย หล่อ ลีลาดีหม่ำสบายละ  แกก็วิ่งกวดเลย  พระ พุทธเจ้าทรงเดินเฉย ๆ  ท่านทำให้แผ่นดินสูง ๆ ต่ำ ๆ สูง ๆ แกก็วิ่งไม่ถนัด  แกเห็นแกก็กวดไม่ทัน  แกก็ร้องบอก  เอ้า...สมณะหยุดก่อน  พระพุทธเจ้าบอกตถาคตหยุดแล้ว  แล้ว ท่านก็เดินต่อไป  แกก็วิ่งไม่ทัน  พอ เหนื่อยเข้าก็ร้องบอก  ไง...สมณะทำไมพูดมุสาวาท  ท่านบอกว่าท่านหยุดแต่ท่านยังเดินอยู่

                        พระพุทธเจ้าก็ทรงหยุดหันมาบอกอหิ งสกกุมาร  ตถาคตหยุดจากบาปกรรมธรรมอันลามกมานานแล้ว นะ  เธอน่ะยังไม่หยุดอีกรึ  เพราะ กรรมที่เป็นกุศลเดิมให้ผลก็รู้สึกตัวทันที  วางดาบ  วางพวงนิ้วมือแล้วก็นุ่งผ้าให้เรียบร้อย  ทำผมให้เรียบ  วิ่งเข้าไปกราบพระพุทธเจ้า  ท่านก็ทรงให้โอวาทนิดหนึ่ง  ท่าน ก็ขอบวช  ท่านก็ให้บวช  บวช แล้วก็ได้เป็นอรหันต์

                        นี่เรื่องนี้บางคนสงสัยว่า  ทำไมองคุลีมาลฆ่าคนเหยง ๆ แต่ไปเป็นพระอรหันต์  ก็ท่านทำบุญไว้ดีน่ะซิ  แต่ไอ้บุญ ประเภทนี้เราก็ไม่อยากทำนะ


(จาก หนังสือธรรมสัญจร เล่มที่ 4)
ที่มาhttp://www.kaskaew.com/index.asp?contentID=10000004&title=%BA%D8%BE%A1%C3%C3%C1%A2%CD%A7%CD%A7%A4%D8%C5%D5%C1%D2%C5&getarticle=34&keyword=&catid=3


บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ