สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2014, 11:19:42 am



หัวข้อ: สมาธิชาวบ้าน : ทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับจิต
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2014, 11:19:42 am

(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/t1/q71/1796501_584501521631306_77060123_n.jpg)

สมาธิชาวบ้าน : ทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับจิต

ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนเป็นสมมติบัญญัติที่จิตเราสร้างขึ้นมาทั้งสิ้น สมมติบัญญัติว่ามันคือเงิน สมมติบัญญัติว่ามันคือทอง สมมติบัญญัติว่ามันคือเพชรนิลจินดา สมมติบัญญัติว่ามันมีค่า มีราคา แต่แท้ที่จริงแล้วทุกอย่างขึ้นกับใจเราทั้งสิ้น อย่างบางคนวิ่งหาของวิเศษเพื่อมาสนองตอบต่อสิ่งต้องการของตนเอง แต่ยิ่งหาข้างนอกก็ยิ่งไม่เจอ เพราะว่าของดีนั้นอยู่ในตัวเราทุกคน นั่นคือจิตใจของเราเอง

จิตใจของเราเป็นของวิเศษที่สุด คิดที่จะให้ดีมันก็ดี คิดจะให้มันร้ายมันก็ร้าย ถ้าเราทำตัววิเศษดีแล้ว ไม่บกพร่องในความดี ตัวเรานั่นแหละที่วิเศษสุด บางคนไม่ได้ดูที่ใจของตนเอง แต่หวังพึ่งของวิเศษที่อยู่ข้างนอก ถ้าใจไม่คิดเปลี่ยน ต่อให้มีของวิเศษต่างๆ นานา อย่างการเปลี่ยนชื่อเป็นร้อยเป็นพันครั้ง ถ้าไม่เปลี่ยนที่จิต มันก็เป็นคนเดิมไม่มีวันเปลี่ยน

 :96: :96: :96:

เพราะสิ่งที่แสวงหานั้นไม่ว่าจะเป็นของวิเศษ วัตถุมงคล หรือการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนสีรถ เปลี่ยนเลขโทรศัพท์ มันก็อาจจะมีผลต่อชีวิตเราบ้าง แต่มันน้อยมากๆ น้อยกว่าการที่จะทำจิตให้เท่าทันต่อสิ่งที่มาส่งผลจิตและอารมณ์ แต่คนส่วนใหญ่ก็พยายามที่จะเอาส่วนน้อยนั้นมาขยายผลให้กลายเป็นเรื่องราวต่างๆ นานาให้ดูเหมือนว่ามีสิ่งนี้แล้ว ทำสิ่งนี้แล้ว เปลี่ยนชื่อแล้ว ชีวิตก็จะเปลี่ยนไปในพริบตา ซึ่งในความเป็นจริงนั้นไม่ใช่ จิตเท่านั้นที่เป็นตัวกำหนดชะตาชีวิต ซึ่งสิ่งนี้ล้วนเป็นเปลือกนอกทั้งสิ้น

ถ้าเรามีปัญญามากพอ เราจะเห็นได้เลยว่าทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับจิตทั้งนั้น ถ้าจิตคิดชั่วก็ไม่ต้องไปหาสิ่งวิเศษข้างนอกให้เสียเวลา มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่เอาของวิเศษมาตอบสนองต่อความชั่ว ความโลภ ความริษยาของเรา มันไม่ช่วยอะไรให้มันดีขึ้นมา มันต้องดีมาจากข้างในแล้วของข้างนอกจะมาเสริมได้เพียงเล็กน้อย

 :91: :91: :91:

ทุกวันนี้ มีสิ่งที่มีอำนาจมากเกินกว่าที่เราจะมองเห็นทำร้ายเราอยู่ สิ่งที่เราเห็นนั้นมันเป็นแค่ภาพลวงตาที่คอยสร้างภาพให้เราเห็น ทุกวันนี้เราไม่เคยเห็นความจริงเลย ทุกอย่างในโลกถูกแต่งเติมมาหมดแล้ว แม้แต่ภาพที่เราจะเห็น เราไม่เคยเห็นความจริง สิ่งที่เราเห็นผ่านการแต่งเติมมาแล้วทั้งสิ้น เขาต้องการให้เราคิดต่อสิ่งนั้นอย่างไร เขาก็ทำให้เราเห็นอย่างนั้น

อย่างเราดูทีวีดูหนังประเภทนี้ เราไม่เคยเห็นความจริงแต่อย่างใดเลย เพราะเขาอยากให้เรารู้สึกอย่างไร เป็นอย่างไร เขาก็ทำอย่างนั้นหยิบหน้ากากอันนั้นมาใส่ แล้วหน้ากากก็มีหลายอัน เราเห็นแต่หน้ากากของเขาแต่ตัวจริงๆ ของเขาเราก็เคยเห็นเลยว่าจริงๆ แล้วแก่นของมันคืออะไร เราก็เลยอยู่บนโลกที่เป็นมายาจริงๆ



(https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/t1/q71/1514596_585258228222302_1940084912_n.jpg)


แต่ถ้าปฏิบัติมาระยะหนึ่ง จะเริ่มที่จะเห็นว่าจริงๆ แล้วเขาใส่หน้ากากทั้งนั้น ถ้าเราเห็นตรงนี้ได้ แล้วเท่าทันมัน เราก็พ้นจากวังวนของมายา ปฏิบัติแล้วเห็นอีกมุมหนึ่งที่เราไม่เคยเห็นของมัน พอเห็นความจริงอวิชชาก็หมดไป จิตก็จะไม่หลงและไม่ทุกข์

ส่วนใหญ่ที่ทุกข์นั้นก็เพราะว่าไม่รู้ พอไม่รู้ก็เลยหลงเข้าใจผิด ก็เลยเกิดเป็นความทุกข์ ผู้ที่มาปฏิบัตินี่ก็เหมือนกัน คือมีบุญเก่ามาเสริมทุกคนอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราตั้งใจ เราเข้าใจมันด้วยการเปลี่ยนวิธีคิด แล้วเราก็ไม่ต้องลังเลสงสัย

 :49: :49: :49:

เมื่อเราแน่ใจแล้วว่าที่เรามาปฏิบัตินี่เพื่ออะไร เพราะอะไร เพราะท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เราแสวงหาคือการหลุดพ้นหรือนิพพาน เพราะว่าพระพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ต่างพูดเป็นสิ่งเดียวว่า การหลุดพ้น หรือนิพพาน เป็นบรมสุขที่ไม่มีสุขใดมาเปรียบ

การที่เรามาปฏิบัติ ถ้าเรามีศรัทธาแล้ว หมดความเคลือบแคลงสงสัยแล้ว ก็ให้มีศรัทธาที่หนักแน่นในการปฏิบัติ อย่างไปสงสัยว่าทำไมปฏิบัติดีแล้วไม่เห็นได้ดีสักที แต่คนที่ไม่เคยปฏิบัติสมาธิกลับได้ดี ร่ำรวย มีความสุขสบาย เพราะการคิดอย่างนั้นเป็นการคิดที่ยังตกอยู่ภายใต้สมมติบัญญัติโลก

พอจิตมุ่งสู่พระนิพพาน ปัญญาพระนิพพานต่างๆ ก็จะเกิด เพราะปัญญาพระนิพพานจะเกิดเฉพาะจิตที่มันเท่าทันแล้ว อย่างนี้เราจะรู้แค่ระดับหนึ่ง มีปัญญาทางโลกเข้ามาแทรกเป็นระยะๆ ความอยากมี อยากได้ อยากเป็น เข้ามาแทรก ก็จะดูหลงไปกับสิ่งต่างๆ ต่อเมื่อมันเท่าทันหมด มันจะเห็นว่าความสุขที่มันจะเกิดล้วนเป็นสมมติบัญญัติโลกทั้งสิ้น.


ที่มา http://www.thaipost.net/tabloid/020214/85406 (http://www.thaipost.net/tabloid/020214/85406)


หัวข้อ: Re: สมาธิชาวบ้าน : ทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับจิต
เริ่มหัวข้อโดย: Tumdee ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2014, 01:17:58 pm
 st11 st12 thk56


หัวข้อ: Re: สมาธิชาวบ้าน : ทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับจิต
เริ่มหัวข้อโดย: Admax ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2014, 03:26:41 pm
 st12 st12 st12


หัวข้อ: Re: สมาธิชาวบ้าน : ทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับจิต
เริ่มหัวข้อโดย: fan ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2014, 03:10:44 pm
 :25: :25:


หัวข้อ: Re: สมาธิชาวบ้าน : ทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับจิต
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2014, 10:55:18 am
http://www.youtube.com/watch?v=2HiqMfEEA7k#ws (http://www.youtube.com/watch?v=2HiqMfEEA7k#ws)

วันนี้ขอสนับสนุนให้ทุกคนทำดี และขอให้มีสติรู้เตือนตนเอง มีวิจารณญาณ รอบคอบประคองชีวิตอยู่อย่างไม่ประมาท หลากหลายท่านที่ผมมีโอกาสไปพบเสวนาธรรมด้วย สิ่งหนึ่งที่คลางแคลงใจว่าจะเชื่อดีไหมระวังไว้ก็ไม่เสียหาย คือ เภทภัย ที่มีการบอกย้ำกล่าวเตือนซึ่งท่านเหล่านั้นล้วนเป็นผู้ภาวนาทั้งสิ้น และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งที่สื่อถึงบุคคลที่ย้ำกล่าวเตือนเราเราท่านท่านให้ตื่นรู้ใส่ใจทำดี อย่าหลงภาพมายาชีวิตที่กลบเกลื่อนแต่งเติมจนเราปฏิเสธทุกเรื่องเคืองกับสิ่งนอกเหนือการพิสูจน์ปรามาสญาณวิถีธรรมผู้รู้มุนีสงฆ์กันอย่างโง่เขลาเป็นกิมิชาติกลืนกินมูตรคูถอวดดี ผมยังมีความปรารถนาพิจารณาเห็นว่าเพื่อนๆชาวเว็บฯใจยังมีศรัทธาเชื่อในธรรมในคำสั่งสอนของพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าหวังว่าธรรมยังคุ้มครองให้ดำรงสติตื่นรู้ระมัดระวังในตนถ้วนเสมอกันรอดพ้นอุปสรรคภยันตรายทั้งปวง ดำเนินชีพชนม์อยู่ด้วยความสวัสดีทุกท่านทุกคน.....ครับ!


หัวข้อ: Re: สมาธิชาวบ้าน : ทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับจิต
เริ่มหัวข้อโดย: fasai ที่ มีนาคม 06, 2014, 08:24:08 pm
แค่เห็นภาพ ประกอบก็ ซึ้งแล้ว ใจ เนื้อหา ยังไม่ได้อ่าน

แต่ก็อยากอ่านเนื้อหา ของท่านเจ้าของภาพ บ้างคะ เพราะในใจคิดอยู่เสมอว่า ต้องมีอะไร พิเศษ สอดแทรก ในนั้นแต่ทุกวันนี้ หลบไปฟัง บ่อยขึ้น แต่ติดตามเสียง เจ้าของภาพ ก็ยาก เปิดมาไม่ค่อยได้เจอ ต้องแล้วแต่วาสนา จริง ๆ

 :58: :49: st12 thk56